เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
สวัสดีค่ะชาวสมาชิกหมู่บ้าน 2 ภาษา
ต่อจากหัวข้อที่แล้ว " เริ่มต้นสอนลูกจากศูนย์ " หน่อยยังไม่ได้เล่าให้ฟังเรื่องอุปสรรค และปัญหาที่ได้พบเจอระหว่างการเดินทางค่ะ เลยขอเล่าซะหน่อยค่ะ หน่อยเชื่อว่าทุกคนคงจะมีปัญหาไม่มากก็น้อย บ้านเราไม่มีปัญหาเรื่องการต่อต้านจากญาติพี่น้องค่ะ ( เพราะบอกและอธิบายทุกคนก่อนแล้วค่ะ) เลยถือว่าฉลุยเรื่องนี้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า เราไม่กล้าพูดค่ะ กลัวคนอื่นได้ยิน กลัวจะพูดผิด หน่อยเริ่มสอนลูกตั้งแต่เค้าเกิด ช่วงขวบปีแรกๆจึงไม่ยากที่จะใช้ภาษาอังกฤษกับลูกค่ะ เพราะเราเริ่มจากการพูดเป็นคำๆก่อน แต่เราก็ฝึกพูดเป็นประโยคสั้นๆไปด้วยค่ะ ตอนนั้นคิดว่าพูดผิดก็คงไม่เป็นไร เพราะว่าเค้ายังเล็กมากและเราก็ยังพูดไม่ค่อยได้ ยังจำได้ว่าตอนที่พูดภาษาอังกฤษครั้งแรก รู้สึกแปลกๆ ขำตัวเองค่ะ พอเริ่มออกนอกบ้าน หน่อยก็ยังไม่กล้าพูดค่ะ (คลังคำศัพท์มีไม่มากพอค่ะ) แต่ก็คิดอีกว่า ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ แล้วจะไปเริ่มตอนไหน ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น เพราะฉะนั้น เดินหน้าลุยเต็มที่เลยค่ะ มีคนมองเป็นเรื่องปกติ แรกๆก็ยังมีอาการประหม่าอยู่ แต่พอเราทำไปเรื่อยๆจนกลายเป็นความเคยชิน อาการเหล่านั้นก็หายไป
สายตาคนที่มองส่วนใหญ่น่าจะเป็นแนวชื่นชมนะคะ มีบ้างบางส่วนที่คิดไม่ดี มองเหมือนประมาณว่าเรา มาตรฐานสูง อะไรประมาณนี้ค่ะ แต่หน่อยก็ไม่ได้สนใจนะคะ เป็นเรื่องขำๆไป ลูกเริ่มโตขึ้น เราก็ยิ่งต้องพัฒนาตัวเองให้ทันเค้า หน่อยเริ่มเกิดความกดดันเพราะเราไม่ได้คิดตรงนี้เอาไว้ก่อน ไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะรับกับสถานการณ์นี้ ความกดดันทำให้เราหยุดทุกอย่างไปชั่วขณะ หน่อยหยุดพักไป ประมาณ 3 เดือน แล้วก็กลับมาคิดได้ว่า เราเคยแพลนอะไรเอาไว้ เราตั้งใจมุ่งมั่นมากแค่ไหนตอนที่เราเริ่มทำ แล้วจะหยุดง่ายๆแค่นี้หรือ หน่อยเข้ามาเอากำลังใจในเวปนี้แล้ว อืม เริ่มกลับมามีแรงกำลังใจอีกครั้ง คราวนี้จึงเริ่มต้นใหม่แบบสบายๆ ไม่กดดันตัวเอง และบอกลูกว่าเราจะพูดภาษาอังกฤษกับลูก ลูกอยากตอบภาษาไทยก็ได้ แต่ถ้าลูกตอบเป็นภาษาอังกฤษแม่จะดีใจมาก เพราะหน่อยคิดว่า การที่ลูกได้พูดออกมาจากความรู้สึกที่เค้าอยากจะพูด ลูกจะมีความสุขมากกว่า คราวนี้เราก็เลยมีความสุขกับการใช้ภาษาที่ 2 ค่ะ อุปสรรคข้อที่ 2 ผ่านไปได้แล้ว
ปัญหาอีกอย่างที่หน่อยเคยคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาก็คือ ลูกพูด 2 ภาษาปนกัน แต่หน่อยก็คิดได้ว่าไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเด็ก 2 ภาษา เพราะลูกยังไม่แตกฉานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ก็ค่อยๆสอนกันไปค่ะ ลูกจะสามารเรียนรู้ได้เอง
ลูกโตขึ้น หน่อยก็เริ่มคิดอีกว่าภาษาอังกฤษในการ์ตูน หนังภาพยนตร์ ข่าว สารคดีสัตว์ มีความแตกต่างกัน หน่อยเลยให้ลูกได้ฟังภาษาอังกฤษหลายๆแบบ หน่อยจะให้เค้าได้ดูการ์ตูนอย่างที่เค้าชอบ พอหมดเวลาของเค้า เราก็จะบอกลูกว่า “ It’s time for my favorite channel” คือเป็นการให้เค้าได้ฟังข่าว สารคดี reality show ไปโดยปริยาย บางครั้งเค้าก็นั่งดูกับเรา บางที่ก็นั่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ แต่เสียงทีวีผ่านหูเค้าตลอดเวลาค่ะ การฟังเพลงก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาภาษาของลูกค่ะ บ้านเราฟังเพลงบ้างแต่ไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่ ช่วงระยะ 1 – 2 ปีที่แล้วเราเปิดเพลงฟังกันตลอดเวลาที่เดินทางไปไหน เป็นเพลงรวมฮิตของ eagle ปรากฏว่าลูกจับคำในเพลงได้แล้วถามเราว่าแปลว่าอะไร อืม ได้การบ้านทุกวัน ยากขึ้นเรื่อยๆ เราเลยปริ้นเนื้อเพลงมาอ่านด้วยกัน คืออ่านกับลูกเลย (เค้าเริ่มพัฒนาไปอีกขั้นจากการฟังเพลงค่ะ) รวมไปถึงการดูหนัง และการ์ตูน ที่บางคำเค้าไม่รู้ก็จะมาถามเรา นี่ก็เป็นแรงกระตุ้นให้เราต้องพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้นไปอีกค่ะ
ทุกวันนี้ ภาษาอังกฤษของลูกดีขึ้นแต่ก็ยังมีส่วนที่ต้องปรับปรุงแก้ไขอยู่อีกมาก หน่อยจะพยายามต่อไปค่ะ ขอให้มีกำลังใจนะคะ อย่าท้อค่ะเพื่อลูกอันเป็นที่รักของเรา
Comment
เก่งจังคะ คุณหน่อยเริ่มสอนจากกี่ขวบคะ ตอนนี้น้องฉัตร 2 เดือนกว่า จะเริ่มได้เลยไหมคะ จะเริ่มยังไงดีคะขอคำแนะนำหน่อยคะ ขอบคุณคะ /แม่โอ๋
ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวเพราะเราเองก้อไม่กล้าต่อหน้าคนเพราะสำเนียงไม่ถูกอายเค้าเลยไม่ได้เริ่ม คนโต 6ขวบแล้ว
สวัสดีค่ะ อ่านแล้วก็เพิ่มกำลังใจแต่ตอนนี้ลูกดิฉันยังไม่ยอมพูดสักภาษาค่ะ ขวบจะเจ็ดเดือนแล้ว ไม่เลือก พ่อ แม่ ฯลน แต่ให้ทำอะไร บอกอะไรรู้หมด แต่ไม่พูด เครียดจังค่ะ ตัวแม่ก็พยายามหาหนังซาวแทร็คบ้าง พูดคำศัพท์ใส่ทุกวัน แ่ต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะออกเสียงถูกรึเปล่า เพราะบางทีก็ไม่ว่างเข้าเน็ตค่ะ ลูกชอบให้พาออกนอกบ้าน อยากเที่ยว ก็เลยไม่ได้เปิดดูเท่าไหร่ แต่ก็จะพยายามต่อไปเช่นกันค่ะ :)
@ wewan สิ่งที่เราทำให้ลูกทุกวันนี้ เชื่อเถออะค่ะว่า เมื่อเทียบกับเด็กวัยเดียวกันที่ไม่ได้ทำเลย มีความแตกต่างกันอย่างมากค่ะ เพราะเพื่อนพันช์ที่ถึงแม้จะเรียนโรงเรียนสองภาษา แต่ก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ คืออยากบอกว่าที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้เรามาถูกทางแล้วค่ะ ส่วนความท้อ เราคงมีกันทุกคน เพราะเราไม่ได้เก่ง แต่อย่าหยุดนะคะ ถ้าหยุดก็เสียดายแย่เลยค่ะ :)
ชอบประโยคนี้ค่ะ "เมื่อไหร่ที่เริ่มท้อก็ให้คิดถึงวันที่เราเริ่มทำค่ะ คือถ้าเราหยุด ลูกก็จะไม่ได้อะไรเลย ตอนที่หน่อยหยุดไปแล้วกลับมาเริ่มใหม่ถึงแม้จะแค่ 3 เดือนแต่ลูกลืมหมดเลยค่ะ แม้กระทั่งประโยคง่ายๆ เค้าก็นึกไม่ออกและตอบเราไม่ได้ เลยรู้ว่า ต้องไม่หยุดค่ะ ทำต่อไปแล้วเราจะเห็นผลได้อย่างแน่นอนค่ะ สู้ๆ "
เพราะบางครั้งก็มีที่เริ่มแผ่วๆ ไปบ้าง ลูกโตขึ้นทุกวัน ภาษาก็ยากตาม ช่วงไหนที่แม่ไม่พูดภาษาอังกฤษกับลูก เขาก็จะเหมือนหายไปเลย คิดๆแล้วว่า ถ้าเราทิ้งไปเลย สิ่งที่ทำมา มันก็จะไม่เหลือ ได้บ้างดีกว่า ไม่ได้เลย สู้ๆ ค่ะ ^ - ^
หน่อยเริ่มให้พันช์ดูพวกข่าว สารคดี แล้วก็พวก reality show หลัง 5 ขวบค่ะ พอลูกดูแล้วเราก็ถามเค้าด้วยว่าเค้าเข้าใจมั้ย แล้วเข้าใจว่ายังไง ลูกตอบได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แตเค้าพยายามที่จะฟังและทำความเข้าใจ ลองดูนะคะ :)
นอกจากการ์ตูนและเพลงเด็กแล้ว คงต้องเพิ่มสารคดีหรือข่าวแบบอื่นๆอย่างคุณหน่อยบ้างแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยเพิ่มเติมสิ่งดีๆให้กันค่ะ
@ MOM-NARA ขอบคุณมากค่ะ คือหน่อยมีเวลาน่ะค่ะ เลยทำได้เต็มที่ ถ้่าปล่อยให้ช่วงเวลาที่มีค่านี้ผ่านไปเฉยๆ ก็น่าเสียดายแย่เลย ยังไงซะทำก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เป็นกำลังใจให้ค่ะ
@ Chetta Suwanchot เข้าใจเลยค่ะว่าเครียดยังไง เดี่ยวมันจะผ่านไปค่ะ อย่าเครียดจนทำให้ลูกเครียดไปด้วยนะคะ สิ่งที่สำคัญคือ ทำให้ลูกมีความสุขกับการใช้ภาษาที่ 2 ค่ะ ตอนที่หน่อยไม่รุู้ว่าจะตอบลูกยังไง หน่อยก็ใช้วิธีบอกลูกว่า เดี๋ยวแม่หาคำตอบให้ แล้วก็ต้องทำด้วยนะคะ บางวันการบ้านเยอะมากจนต้องจดไว้เลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
คุณหน่อยเก่งจังค่ะ ส่วนตัวปุ้ยหยุดยาวมาเป็นปี เลยค่ะ แต่สอนลูกท่องคำศัพท์ที่เป็นสัตว์เพียงอย่างเดียว เพราะเขาสนใจแค่นั้นค่ะ เวลาบอกอะไรเป็นภาษาอังกฤษ เขาจะเถียงหรือตอบกลับเป็นภาษาไทยตลอดเลยค่ะ สอนมาเป็นปี ไม่เคยได้ยินลูกพูดประโยคให้ฟังซักคำ แต่ถ้าเป็นชื่อสัตว์ละก็ได้เกือบหมด แต่แค่นี้ปุ้ยก็ดีใจแล้วค่ะ เพราะต้องบอกจริงๆ มารู้ว่าสัตว์ตัวนี้ชื่ออะไรเพราะลูกเหมือนกัน ได้สองเด้งค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้