เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ทฤษฎีของครูบิ๊กสอดคล้องกับทฤษฎีของมอนเตสซอรี่(นักจิตวิทยาเด็ก)

มาเรียมอนเตสซอรี่เชื่อว่าเด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อเขาได้เรียนรู้จากประสาทสัมผัสทั้งห้า  เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง  และเรียนรู้แบบธรรมชาติไม่ใช่การบังคับ  เด็ก ๆ ต้องการทำอะไรด้วยตนเอง เขาต้องการการยอมรับจากผู้ใหญ่  ผู้ใหญ่ไม่ควรยัดเยียดอะไรที่ยากเกิน เช่น โรงเรียนอนุบาลสมัยนี้มักเร่งเด็กให้อ่านออกเขียนได้  ซึ่งไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะเด็กวัยนี้ควรใช้การปลูกฝังให้รักการเรียนรู้ ไม่ใช่การบังคับเรียน ปลูกฝังให้เป็นคนดี รักการอ่านโดยนิทาน หรือใช้การสอนภาษาแบบธรรมชาติ ไม่มีผลหากเด็กอ่านออกเขียนได้ ไม่ได้แปลว่าเด็กเก่ง  เพราะเมื่ออยู่ชั้นที่สูงขึ้น ความสามรถจะลดลง  ไม่รักเรียน เบื่อ เพราะถูกบังคับให้เรียนตั้งแต่เด็ก  แต่ในทางตรงกันข้ามเด็กที่ถูกสอนและส่งเสริมพัฒนาการตามวัย  ใช้การปลูกฝัง เด็กพวกนี้จะคิดเป็น  รักการเรียนรู้  ฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองด้วยนะคะ  สงสารเด็กตัวน้อย ๆ เด็กจะมีความสุขมากหากเรารู้จักสอน โดยการนำเอาสิ่งที่เด็ก ๆ ชอบมาเป็นสื่อ  และเขาจะจดจำได้ดี 

Views: 1086

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by แหม่ม พลัตเต้ on October 18, 2011 at 12:43pm
สวัสดีค่ะ ชื่อแหม่มค่ะ มีลูกชื่อน้องไมค์.  แหม่มเห็นด้วยกับไอเดียการสอนเด็กของคุณครูค่ะ ได้อ่าน Comment ที่คุณครูตอบกลับให้นักศึกษาคนหนึ่งว่าคุณครูเคยทำวิจัยเกี่ยวกับการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านของเด็ก  ก็อยากจะขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เพราะน้องไมค์  เรียนในห้องเรียนได้เกรดดีมาก.. แต่ลูกไม่เคยอ่านหนังสือ แม้กระทั่งใกล้สอบด้วยตัวเองสักครั้ง  ทุกวันนี้พอใกล้สอบคุณแม่ก็เลยต้องนั่งประกบ หรือไม่ก็อ่านให้ลูกฟังแทน  ทุกวันที่ไปส่งที่โรงเรียนเลยต้องพูดทุกครั้งว่า "ให้ตั้งใจเรียนในชั่วโมงนะครับ" ซึ่งสอบถามจากครูที่โรงเรียน  ไมค์ก็ตั้งใจเรียนจริง ๆ ตามที่แม่คาดหวังเป็นอย่างดี แต่เรื่องการอ่าน... หนักใจจริง ๆ เลยค่ะ  ตั้งแต่เด็กแล้ว ไมค์ไม่ค่อยชอบฟังนิทาน  ทั้ง ๆ ที่แม่ก็พยายามซื้อหนังสือมา... แต่ไมค์ชอบที่สุดคือการค้นหาวิธีการประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุรอบ ๆ ตัวในอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีปัญหากับคุณยายประจำ  เพราะบ้านเลอะเทอะมาก...  ส่วนคุณแม่ก็สนับสนุนให้ทำเต็มที่  ตอนนี้ไมค์ 8 ขวบแล้ว  กลัวไมค์จะไม่ยอมอ่านหนังสือพอโตขึ้นอีกหน่อย  ไม่ทราบว่าคุณครูพอจะแนะนำบ้างได้ไหมค่ะ     ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
Comment by ธนวินท์ on August 22, 2011 at 8:59pm

การสอนต้องเน้นเด็กเป็นสำคัญค่ะ  สอนได้แต่สอนให้สนุกเด็กจะชอบและจดจำได้ดีกว่าที่เราบังคับเขาค่ะ    ลูกสาวน่ารักมาก ๆคุณแม่ก็สวยค่ะ

Comment by พลอยชมพู on August 8, 2011 at 7:59am

อ่านแล้วก็มานั่งนึกย้อนทบทวนความทรงจำว่าเราเองสอนลูกอ่านเขียนตั้งแต่เมื่อไหร่น้า....อึมน่าจะอายุ 3 ขวบ หัดเขียนกอไก่ ขอไข่ แบบเขียนไปเล่นไป ไม่ได้จริงจัง ให้เขาเขียนตอนอารมณ์ดีๆ ไม่ได้บังคับ แต่โชคดีที่ไปโรงเรียนอนุบาลที่เยอรมนีเขาไม่ได้สอนเขียนอ่าน ไปเล่นสารพัดกิจกรรม งานฝีมือเอ่ย วาดภาพเอ่ย ปั้นโน้นปั้นนี่ พาไปเดินลุยป่ากันบ้างสนุกกันใหญ่ พอกลับมาบ้านแม่เลยต้องคอยสอดแทรกเขียนอ่านไทยบ้างเท่าที่โอกาสจะอำนวย

 

ส่วนภาษาเยอรมัน(อยู่เยอรมนีตั้งแต่ปี1999-2010 เพิ่งย้ายกลับไทย) ตอน 3 ปีที่อยู่อนุบาล สอนให้เขียน-อ่านสอนเพียงเล็กน้อยมากๆ แค่เขียนชื่อ-นามสกุล ได้ประมาณนั้นเอง อ่านก็ออกเพียงบางคำ ส่วนใหญ่พ่อเขาจะคอยสอน สอนแบบดูจังหวะ ดูอารมณ์ของคนเรียน สอนแบบไม่ซีเรียส แต่พอขึ้นป.1เพียง 3 เดือน อ่าน-เขียนคล่องเลยค่ะ เหมือนลูกเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว พอเรื่องสอนวิชาการสมองเขารับได้เร็วมาก ยิ่งเรียนยิ่งชอบ ไม่เบื่อเลยค่ะ พอเริ่มอ่านหนังสือคล่องเขาก็เริ่มอ่านหนังสือเล่มใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น อายุ 8 ขวบ อ่านหนังสือเล่มหน้าๆ เป็นพันหน้าแบบไม่มีภาพได้แล้ว อ่านไปเขาจะจิตนาการไปอ่านแล้วเขาสนุก ทุกวันนี้เป็นเด็กรักการอ่านดีมากค่ะ

 

ทฤษฎีที่กล่าวไว้ของคุณครูชมพู่นั้นคิดว่าถูกต้อง แต่หากให้ดีคือ หลังจากลูกกลับถึงบ้านแล้วพ่อแม่ควรดูแลเรื่องการเรียนรู้ของลูกอีกครั้งในแต่ละวัน ว่าจะสามารถสอดแทรกการเขียน-อ่านเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ ได้อีกหรือไม่ ต้องดูผู้เรียนก่อนว่าเขาสนใจอยากเรียนมั้ย เพราะเด็กบางคนเขาพร้อมและอยากจะเรียนรู้เพิ่มจะได้มีโอกาสเรียนกับพ่อแม่วันละเล็กละน้อยมันก็ไม่เสียหายอะไร อย่างไรก็ดีตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ฝากความหวังไว้ที่ครูเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งฝากไว้กับตัวเอง(พ่อแม่)ค่ะ

 

ป.ล.คุณครูชมพู่คะ ดิฉันอยู่บางเสาธง ไม่ไกลกันเลยนะคะ ไว้มีโอกาสจะไปเยี่ยมค่ะ

Comment by ศุภราภรณ์ พืชทองหลาง on July 29, 2011 at 12:03am
เห็นด้วยค่ะ ตอนนี้ก็สอนลูกด้วยตัวเอง แต่ไม่ยัดเยียดค่ะ  ไม่อยากให้ลูกเครียด
Comment by จันสุดา หนูจีน on July 22, 2011 at 11:32pm

เห็นด้วยมากๆๆๆค่ะ

Comment by SallyDon on July 22, 2011 at 2:10pm

เคยอ่่านหนังสือของ ทันตแพทย์ สม สุจีรา เรื่องการพัฒนาสมองซีกซ้าย ซีกขวา  คิดว่าเป็นลักษณะการพัฒนาของสมองที่ถูกต้องที่เราควรใช้ในการพัฒนาเด็ก ชีวิตก็เหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ควรไปเร่งเด็กในวัยก่อนสิบขวบซึ่งสมองซีกซ้ายยังไม่พัฒนาเต็มที่ 

 

Comment by ธนวินท์ on July 22, 2011 at 12:14pm

เป็นเนอสเซอรี่เล็ก ๆนะคะ  อยู่ที่บางบ่อคะ สมุทรปราการ  ครูและเด็กที่นี่มีความสุขมาก ๆคะ

 

Comment by mama_tankhun on July 22, 2011 at 11:43am
คุณทรัพย์ุสุรีย์เปิดรร.แถวไหนคะ ออิิอิเผื่ออยู่ไกล้บ้าน บอมเองก้เห้นด้วยกับความคิดนี้คะ
Comment by ธนวินท์ on July 21, 2011 at 10:28am

เคยถามป้าว่าทำไมเราไม่สอนเด็ก ๆไปตามพัฒนาการ หรือสิ่งที่ถูกต้องตามวัย  ป้าบอกว่าถ้าเราสอนแบบนั้น ๆเอาเด็กมาปั้นแป้ง ฉีกกระดาษ  ปลูกต้นไม้ ทำกับข้าว  ตามหลักอนุบาลที่ถูกต้องผู้ปกครองส่วนมากก็ไม่เข้าใจ จะบ้าหรอส่งให้เรียนวัน ๆมานั่งเล่นโน้นเล่นนี่อยู่ได้ ไม่เห็นได้อะไรเลย ในขณะที่อีกโรงเรียนเด็กอ่านออกเขียนได้หมด ผู้ปกครองก็ไม่เอาลูกเขามาเรียนที่เราหรอกไปเข้าที่อื่นกันหมด ถ้าต้องเปลี่ยนจริง ๆรัฐบาลต้องจริงจังให้ทุกโรงเรียนเหมือนกันไม่เร่ง  แต่นี่มันมีข้อแตกต่าง ผู้ปกครองเขาก็ไม่เข้าใจการศึกษาปฐมวัยที่ถูกต้องคืออะไร โทษเขาก็ไม่ได้(ที่บ้านเปิดโรงเรียนอนุบาล)ด้วยความที่เราเพิ่งจบมาใหม่ ๆตอนนั้นไฟแรง ทะเลาะกับที่บ้านเรื่องนี้ประจำ  55 เขาก็เลยเปิดให้เราดูแลเองอีกที่หนึ่งเป็นเนอสเซอรี่ ปรากฎว่าอย่างที่ป้าบอกจริง ๆแต่เราก็ทำตามสิ่งที่ถูกต้องให้ความรู้ผู้ปกครองตั้งแต่ที่เขาเอาลูกมาสมัครบอกข้อแตกต่างที่เราไม่เหมือนที่อื่น  เพราะเราไม่เน้นอ่าน เขียน บ้างก็เข้าใจ  อาศัยมีเอารบที่ไหนก็ชวนผู้ปกครองไปนั่งฟังด้วย เขาจะได้บอกต่อ ๆกันไป  ที่นี่เราใกล้ชิด และสนิทกับผู้ปกครองมาก เหมือนครอบครัว  เราถึงขนาดไปเฝ้าไข้เด็กให้  พาไปหาหมอ  แนะนำโรงพยาบาล ทุกอย่างเหมือนครอบครัวเดียวกัน  ถึงเด็กที่นี่จะไม่มากมายแต่เด็กที่นี่ทุกคนก็มีคุณภาพ และมีความสุขมาก

Comment by worjung on July 20, 2011 at 2:25pm

ทุกอย่างเราคงต้องทำเองที่บ้านล่ะค่ะ อย่างที่คุณบิ๊กเคยบอก วันนึงเด็กๆจะอ่านหนังสือทันกันหมดแต่ความอยากอ่านของเด็กเป็นสิ่งสำคัญกว่าค่ะ การเรียนรู้จะเกิดได้ดีเมื่อเรามีความสุขเท่านั้นค่ะ ค่อยๆทำไปวันละนิดละหน่อยค่ะ

 

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service