เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
พูด-อ่าน-เขียนมีหลักการเดียวกัน
พูดงูๆปลาๆ พูดได้ไม่ยาก แต่จะพูดให้เหมือนเจ้าของภาษาืทั้งการใช้สำนวนและการใช้คำให้หลากหลายต้องพยายามครับ ส่วนการอ่านมีระดับความง่ายกว่าการเขียนแน่นอนเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วครับ เพราะเราเป็นผู้ตีความ เราไม่ได้เป็นผู้ถ่ายทอด คนไทยพูดภาษาไทยกันทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าถูกหลักอักขระ เช่นเดียวกับที่ คนไทยหลายคนก็เขียนภาษาไทยไม่มีความสละสลวย (อย่างเช่นผมเป็นต้นในบางครั้ง) แต่ที่เขียนได้ไม่ดี เพราะว่า...
ตัวอย่างน่ะครับ...ผมไม่ได้เป็นนักเขียน ดังนั้นผมจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องการใช้ภาษาเขียนเท่าไหร่นัก ผมจึงเลือกอ่านหนังสือ หรือฟังข่าว ฟังคำพูด เพื่อจับใจความเท่านั้น โดยมิได้มีการสังเกตการใช้ภาษาของบุคคลใดๆ คนไทยชอบบอกว่าเขียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยากมาก แต่ต้องอย่าลืมด้วยนะครับว่า เราเองจะสามารถเขียนภาษาไทยอย่างถูกต้องสละสลวยได้นั้น เพราะเรานั้นต้องเป็นคนที่สามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างสวยงามถูกต้องก่อน เช่นเดียวกันครับ เราเขียนได้เพราะเราพูดได้ เราเขียนภาษาให้ดีได้เพราะเราหมั่นศึกษาและเรียนรู้แต่ภาษาที่ดีๆเข้ามา
ดังนั้นผมจึงคิดว่าใครก็ตามถ้าจะเขียนภาษาใดๆ ไม่ว่าจะเป็นเชิงวิชาการ หรือทั่วไป หรือไปในแนวทางการ เหมือนจดหมายขอวีซ่า เป็นต้น จะต้องสามารถใช้ภาษานั้นๆได้อย่างคล่องแคล่วในเรื่องที่ๆผู้นั้นจะเขียน สำหรับคนที่ไปเรียนพิเศษสอนเขียนภาษาอังกฤษผมบอกได้เลยว่าสิ่งที่เรียนรู้จากห้องเรียนนั้นคือการจัดโครงสร้างประโยค เรียงลำดับความสำคัญของเนื้อหาเท่านั้น อาจารย์ผู้สอนอย่างมากก็ตรวจไวยากรณ์ให้ แต่อาจารย์ผู้สอนไม่สามารถเดินทางมาบอกผู้เรียนเป็นการส่วนตัวได้ตลอดเวลา ถ้าหากวันหนึ่งท่านผู้อ่านจะต้องเขียนจดหมายไปเรียนต่อต่างประเทศ โดยจะต้องเล่าประวัติการทำงาน ท่านผู้เขียนจะเขียนเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างไร...
สมมุติว่า....หากท่านผู้เขียนเป็นวิศวกร แล้วจะต้องอธิบายขั้นตอนการทำงานเป็นภาษาอังกฤษในจดหมาย และในขณะเดียวกันผู้เขียนใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเพียงแค่สื่อสารเท่านั้นเช่น ชอบกินอะไร ชอบทำอะไร ชอบไปไหน เรียนที่ไหนมา หรือจะเม้าท์เรื่องคนในออฟฟิศ แต่ท่านผู้เขียนไม่เคยใช้ภาษาอังกฤษในบริบทวิศวกรรมมาก่อน แล้วท่านผู้เขียนจะเขียนจดหมายเรียนต่อได้อย่างไร
ผมอยากให้ผู้อ่าน ทุกคนมองว่า ไม่ใช่ว่าการเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่ายหรือยาก แต่เป็นเรื่องที่เราต้องขยันหา เข้ามาใส่ตัวค่อยๆ สร้างสมเข้าไป จากประสบการณ์
และที่สำคัญ การกล่าวว่าพูดอังกฤษง่ายกว่าเขียนเป็นความเชื่อที่ผิด สำหรับผู้ที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองนะครับ เหตุผลนั้นง่ายๆครับ ถ้าคุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้จริง ไม่ใช่งูๆปลาๆ คุณก็ต้องสามารถถ่ายทอดคำพูดในภาษาอังกฤษของคุณเองลงไปเป็นตัวหนังสือได้ เช่นเดียวกัน
เว้นแต่จะเขียนเป็นจดหมายเชิงวิชาการ สมัครงาน เรียนต่อ ๆลๆ เหล่านี้ต้องอาศัยความสามารถทางภาษาในระดับสูง ซึ่งไม่ใช่เรื่องโชคหรือพรสวรรค์ คนที่เขียนได้ต้องอาศัยการเรียนรู้เช่นเดียวกัน เพื่อนผมโตมาจากสหรัฐอเมริกา ยังเคยแสดงความไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถเขียนจดหมายไปเรียนต่อได้ดีหรือไม่ ทั้งๆที่เขาเองพูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแรก
สิ่งหนึ่งที่ท่านผู้อ่านจะ ต้องกำจัดไปจากทัศนคตินะครับ คำว่า "เจ้าของภาษา" ไม่ได้หมายความว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของภาษาเองนั้นจะสามารถสื่อสารได้ หรือเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา
ที่ผมเน้น ให้ผู้อ่านเริ่มจากการเป็นเด็กนักเรียน Grade 1 นั้นเพราะผมต้องการให้ท่านผู้อ่านได้มีระบบการเรียนภาษาให้ใกล้เคียง ธรรมชาติมากที่สุด ถึงแม้ว่าตอนนี้ท่านผู้อ่านจะพูดอังกฤษได้ เหมือนเด็กฝรั่งแล้วก็ตาม ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านก็สามารถเขียนได้เหมือนเด็กฝรั่งเช่นเดียวกัน คิดดูในอนาคต พอท่านผู้อ่านเริ่มเรียนระบบภาษาที่ผมวางไว้จนเท่าระดับ Grade 10 หรือเทียบเท่านักเรียน ม 4 เรานั่นเอง ถึงตอนนั้นท่านผู้อ่านจะสามารถเขียนและพูดได้คล่องขึ้นแค่ไหน
© 2025 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้