ถึงเพื่อนๆทุกคน
เมื่อวันที่ 29 กค 2009 กุลได้ไปกทมเพื่อจะไปงานแต่งงานน้องชายคนที่สอง และไปพักที่โรงแรม Central ลาดพร้าว และ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น นั่นคือได้มีโจรเข้ามาในยามวิกาลในขณะที่ทุกคนยังหลับอยู่ (มีแม่ แพรวอายุสามขวบ น้องชายคนเล็กและกุล) ตื่นเช้ามาพบข้าวของหายไป ซึ่งแน่นอนส่วนใหญ่เป็นเครื่องเพชรของคุณแม่และเงินสด ซึ่งแม่เตรียมมาเพื่อจะใส่ไปงานแต่งก็เลยเยอะกว่าปกติ วันนั้นก็เลยเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ออกข่าวหนังสือพิมพ์ ไปแจ้งความที่โรงพักมีนักข่าวมาสัมภาษณ์เยอะแยะไปหมด เพื่อนๆบางคนอาจจะยังจำได้
ที่เขียนในวันนี้ก็อยากจะบอกให้รู้ว่าตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เรื่องราว ได้หายเงียบไปในกลีบเมฆ ไม่มีใครทำอะไรได้ ตำรวจจับใครไม่ได้ โรงแรมไม่รับผิดชอบอะไรเลยและมันน่าเจ็บใจเมื่อมารู้ตอนหลังว่า ชั้นที่พวกเราเข้าพักมีแค่ห้องเราห้องเดียวเท่านั้น เนื่องจากในวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันที่ 30 นั้นทางโรงแรมต้องทำการเปลี่ยนทีวีใหม่ในห้องพักทุกห้อง ถามว่าถ้าอย่างนั้นทำไมถึงให้พวกเราเข้าพักในชั้นนั้น และทำไมถึงมีคนรู้ ถ้าไม่ใช่พนักงานโรงแรม ร่องรอยการงัดแงะก็ไม่มี มันเหมือนกับใครมีกุญแจและสามารถเปิดไขเข้ามาได้อย่างสบายๆ และชั้นนั้นก็ไม่มีกล้องวงจรปิด แถมยังถูก Manager ของโรงแรมซึ่งเป็นชาวต่างชาติหาว่าสร้างเรื่อง มีเงินหรือ เครื่องเพชรอย่างที่บอกหรือไม่ก็ไม่รู้
ที่สำคัญคุณแม่เสียใจและฝังใจมาก เพราะเครื่องเพชรบางชิ้นไม่ได้เสียดายว่ามันแพง แต่มีคุณค่าทางจิตใจเพราะเป็นของเก่าเก็บ มาตั้งแต่สาวๆ ทำงานเก็บเงินเหน็ดเหนื่อยเพื่อหาซื้อมาใส่มากกว่า ล่าสุดไปเห็นรูปถ่ายงานแต่งงานของน้องชายคนที่สอง แทนที่จะภูมิใจหรือดีใจ กลับเป็นว่าแม่กลับคิดถึงเรื่องราวในคืนนั้น เราเองก็รู้สึกสะเทือนใจไม่แพ้กัน ตั้งแต่มีเรื่องกลับมาถึงหาดใหญ่เราก็พยายามทำทุกอย่าง ฟ้อง สคบ (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) มีการนัดไกล่เกลี่ยเอย จะตั้งทนายฟ้องเอยบริษัทประกันของ Central นัดคุยเอย แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ และไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนแพรว ก็ฝังใจมาตั้งแต่วันนั้นจนถึงทุกวันนี้ เราเองนึกว่าเค้ายังเด็กน่าจะลืม แต่จริงๆไม่ใช่เลย ทุกครั้งที่ต้องไปนอนที่อื่นเช่นพาไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปนอนบ้านคุณตาคุณยาย บางครั้งอยู่บ้านกันเองแค่สองคนแม่ลูก เนื่องจากคุณพ่อต้องไปกทม แพรวจะถามตลอดว่า มีโจรมั๊ย กลัวโจร ถ้ามันมาเราจะทำยังงัย
บางครั้งแค่วางแผนว่าจะพาไปเที่ยวแต่พอรู้ว่าจะต้องไปนอนโรงแรมก็จะถามก่อน เลยว่า โรงแรมนี้มีโจรมั๊ย เราเองต้องอธิบาย และ ปลอบกันอยู่นาน
ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ให้คุณพ่อของแพรวชวนแพรวเล่นต่อบล๊อค สร้างเมือง พราะคุณแม่จะไปล้างจาน กลับมาอีกทีเห็นคุณพ่อสร้างเมืองเสียสวยงามอยู่คนเดียว ในขณะที่แพรวนั่งทำอย่างอื่นอยู่ก็เลยถามไปว่า แพรวไม่ได้เล่นสร้างเมืองกับพ่อเหรอลูก แพรวบอกว่า ของแพรวสร้างเสร็จแล้ว อยู่นั่นงัยเราหันไปมองตามแพรวชี้ ก็เห็นบล๊อคต่อเป็นเหมือนที่กั้นสูงขึ้นมา แล้วมีตุ๊กตาคนอยู่ในนั้นสองสามคน ซึ่งสร้างห่างจากเมืองของพ่อแพรวออกมาไกลๆ ก็เลยถามว่ามันคืออะไรเหรอ เราได้ยินแล้วก็ตกใจแถมสะเทือนใจมากเพราะลูกเราตอบว่า สร้างบ้านโจรแต่ว่าขังเอาไว้ จะได้ออกมาไม่ได้ เราเข้าใจว่าลูกน่าจะหมายถึงคุก แต่เค้าเรียกไม่ถูกก็เลยเรียกไปอย่างนั้น นี่ขนาดเรื่องราวผ่านไปเกือบสามปีแล้ว ลูกเราน่าจะฝังใจเอามากๆ เพราะปกติแพรวเป็นเด็กร่าเริง เค้าน่าจะมีแต่เรื่องดีๆสมวัยเด็ก มากกกว่าการมาเจอเรื่องราวแบบนี้
เรารู้สึกเสียใจมากว่า ไม่น่าเลย ลูกไม่น่าอยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้นเลย เป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจไม่น้อยสำหรับเด็กอายุสามขวบ เพราะมันวุ่นวายมากๆ ใหนจะคนในโรงแรม ใหนจะตำรวจ
ที่เขียนมาในวันนี้เพราะรู้สึกอยากจะทำอะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็ได้เล่าเรื่องเหล่านี้ให้กับเพื่อนๆ เป็นอุทาหรณ์ เหตุการณ์หลายๆอย่างที่สะเทือนใจกับเด็ก มันเหมือนจะฝังใจเค้าไปไม่รู้จะนานแค่ใหน เราเองก็พยายามไม่พูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าแพรว และมักจะเฉไฉไปเรื่องอื่นทุกครั้งที่ลูกถามถึง และหวังว่าสักวันนึงเรื่องเหล่านี้จะเลือนหายไปจากความทรงจำของแพรว
จากแม่ที่รักลูกมาก
กุล
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้