ค่อนข้างกังวลมากเมื่อลูกต้องไปเนอสรี่ ตอนนั้นเค้าเพิ่งจะสองขวบครึ่ง เราใช้ภาษาไทยกับลูกตลอด มีบ้างที่สอนลูกด้วยคำศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่การออกเสียงก็ไม่ได้ตรงกับเจ้าของภาษาตัวจริง ดังนั้นค่อนข้างกังวลมากว่าลูกจะไม่เข้าใจครู ซึ่งเป็นคนอังกฤษ รวมทั้งลูกจะพูดกับเพื่อนที่เป็นเด็กอังกฤษ ไม่รู้เรื่อง
แต่การได้ไปพูดคุยกับครูและลองให้เค้าได้ไปลองเข้ากรุ๊ปที่เนอสรี่ ค่อนข้างหมดห่วง ลูกเราตื่นเต้นมาก สนุก อยากเล่น อยากเรียนรู้แม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ครูมีส่วนช่วยมากๆๆ เค้าเข้าใจธรรมชาติของเด็ก เป็นไปได้มากที่เราเลือกเนอสรี่ที่ดี แม้จะไกลจากบ้าน ก็ยอมเนื่องจากมีเนอสรี่ที่มีชื่อเสียง และลูกเราก็เป็นเด็กไทยคนเดียวในตอนนั้น (ตอนนี้มีน้องใหม่ชื่อน้องเอด้ามาเป็นเพื่อนด้วย) และที่สำคัญครูได้ให้ความมั่นใจกับเราอย่างมากว่า เด็กสามารถพัฒนาภาษาที่สองได้อย่างรวดเร็ว ในวัยเด็กเล็กนี้เค้าสามารถเข้าใจ และพูดในสำเนียงได้ไม่แตกต่างจากเจ้าของภาษา ซึ่งหลังจากที่ลองไปได้ไม่นานก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของลูกได้อย่างชัดเจน เวลาที่เล่นอยู่คนเดียวจะพูดกับของเล่นเป็นภาษาอังกฤษ เข้าใจคำถามง่ายๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ แปลภาษาไทยเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ แต่ลูกก็ยังใช้ภาษาไทยสับสนปนเปกับภาษาอังกฤษอยู่บ้าง ก็พยายามให้เค้าพูดให้ชัดเจนทั้งสองภาษา แต่ก็ไม่ได้บังคับขู่เข็ญเค้า ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพื่อให้เค้าไม่รู้สึกขัดเขินที่จะต้องพูดทั้งสองภาษา
ตอนนี้ลูกชายคนโตสี่ขวบครึ่ง พร้อมสำหรับการไปโรงเรียนแล้ว ก็เบาใจ
ส่วนหนึ่งทำให้เข้าใจว่า สิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็กมีผลอย่างมากกับการเรียนรู้เรื่องภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม การได้คลุกคลี ได้ยินอยู่บ่อยๆๆ หรือมีเพื่อนที่พูดในภาษานั้นๆ จะช่วยให้เค้าพัฒนาได้เร็วขึ้น พ่อแม่ก็มีส่วนช่วย แต่ถ้าเราไม่ได้เกิดและโตในประเทศที่เป็นเจ้าของภาษา ยังไงสำเนียงก็ไม่มีทางเหมือนเผลอๆๆลูกเราได้สำเนียงผิดๆๆ เพราะฉะนั้นโรงเรียนจะมีส่วนช่วยได้มากกว่าก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ การเรียนภาษาอังกฤษของเด็กไทยท่ามกลางเด็กต่างชาติ โดดเดี่ยวแต่อบอุ่นค่ะ จากการต้อนรับอย่างดีของครู และเพื่อนๆๆ
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้