ท้อกันบ้างไหม

[อุมมูอะฟาฟ]

สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

วันนี้น้องอะฟาฟและคุณแม่มาขอรายงานตัว ตอนนี้น้องอายุย่างเข้า 19 เดือนแล้วค่ะ เริ่มสอนน้องตอนอายุ หนึ่ง ขวบพอดี อ่านหนังสือของผู้ใหญ่บิ๊กแล้วเห็นด้วยก้บแนวคิดดังกล่าวแล้วเริ่มสอนน้องเลย คำแรกที่น้องพูดได้ คือ don't do that. ตอนนั้นดีใจมากค่ะ ส่วนพัฒนาการของน้องตอนนี้ก็เริ่มจะชอบร้องเพลง แต่ยังร้องได้ไม่เต็มประโยคหรอกน่ะค่ะ บางครั้ง แม่ก็เว้นวรรคให้ น้องก็จะรู้ว่าเนื้อหาของเพลงต้องเอาคำไหนมาใส่ แล้วตอนนี้ก้อเริ่มจะพูดตามเรา แล้วคุณแม่เองก้อจะพุดติดประจำ บางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะพูด หรือใช้คำถามเป็นภาษาอังกฤษอย่างไร ดังนั้นตอนนี้แม่เองเลยรู้สึกว่าน้องพร้อมเต็มทีค่ะที่จะเรียนรู้ แต่ตัวคุณแม่เองนี่แหล่ะค่ะที่มีปัญหา เราก็มีงานประจำ ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาเท่าไหร่นัก บางครั้งเลยรู้สึกท้อ

จากการสังเกตของแม่ น้องอะฟาฟเค้าจะอยู่กับพี่เลี้ยงเวลาแม่ไปทำงาน พี่เลี้ยงจะพูดภาษาไทยปนมลายู

ส่วนพ่อและตาของน้อง จะพุดกับน้องส่วนใหญ่เป็นภาษามลายูอย่างเดียว ส่วนแม่ก็ภาษาอังกฤษอย่างเดียว ผลปรากฏว่า

แต่ละวันน้องจะได้ภาษามลายูและภาษาไทยมากกว่าภาษาอังกฤษ และพูดภาษามลายูเป็นประโยคได้มากกว่าภาษาอังกฤษหลายประโยคเลยค่ะ คุณแม่เลยเสียดายเวลาที่ไม่ได้อยู่กับลูก บางครั้งก้อ อยากจะลาออกจากงานให้รู้เเล้วรุ้รอดไปเลย หุ หุ รักลุกมากกว่า ใครมีปัญหาแบบนี้ ช่วยแนะนำหน่อยน่ะค่ะ

[Suthawadee C.]

เริ่มทำมาแล้ว ดีกว่าไม่เริ่มอะไรเลยแน่นอน ถ้ายังต้องทำงานก็คงต้องทำต่อไป อย่าให้ภาษาอังกฤษมาเปลี่ยนความปกติของชีวิตค่ะ ให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจะดีกว่า โดยส่วนตัวพี่ว่าถ้าเราพยายามทำต่อ ซักวันน่าจะเห็นผล ช้าเร็วขึ้นกับความถี่ ใช้เวลาที่มีน้อยนิดให้เต็มที่ ถ้าไม่ไหวก็ให้การ์ตูนช่วยบ้าง โดยบอกให้คนเลื้ยงเปิดให้น้องดูวันละ ครึ่งชั่วโมง หรือทำ file เป็น MP3 เปิดให้ลูกฟังไประหว่างวัน คืออย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉย ๆ ค่ะ อย่างน้อยก็ช่วยเรื่องการฟังได้ แต่ต้องตกลงกับคนเลื้ยงดี ๆ ให้เค้าเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไร การดูและการฟัง ช่วยได้มากในความคิดของพี่ค่ะ

[อุมมูอะฟาฟ]

ขอบคุณสำหรับกำลังใจ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ

[วัชรินทร์ แฮดอินตอง]

เจอปัญหาเดียวกันเลยค่ะ แต่อยากให้สู้ต่อไปค่ะ สู้ สู้ เพื่อลูกของเรา ทำทุกวันอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะมีเวลาน้อย ได้น้อยดีกว่าไม่ได้เลย ก็หาความรู้จากเวปนี้ล่ะค่ะ มีผู้ใจบุญคอยแบ่งปันความรู้ให้ โดยไม่ต้องเสียตังค์ ที่สำคัญ เราว่าอย่าเปรียบเทียบลูกเรากับคนอื่น เพราะแต่ละครอบครัวต่างกัน ถ้าได้ตามเป้าหมายของเราก็ ok แล้ว เป็นกำลังใจให้ค่ะ