เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
ครึ้มอกครึ้มใจมาเล่าเรื่องของตัวเอง (แฉตัวเองป่าวหว่า) Background ของเราเล่าไปก่อนหน้านี้ ภาษาอังกฤษเรียกได้ว่าไม่เอาอ่าวเลยค่ะ ฟังออกน้อยมาก Grammar ไม่ได้ ยิ่งการพูดไม่ต้องพูดถึงทั้งอายด้วย พูดผิดๆ ถูกๆ ด้วย คงไม่ต่างจากที่หลายๆ ท่านเคยผ่านมา หรือกำลังรู้สึกอยู่ ลูกเป็นแรงบันดาลใจที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเค้า ก่อนหน้านี้ด้วยความที่สามีพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่ามากมาย เพราะเคยอยู่ต่างประเทศมาหลายปี เลยยกหน้าที่ให้ แต่รู้สึกไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังค่ะ ก็เลยนั่งคุยกันว่าจะทำอย่างไรดีเพื่อให้ไปเฉียดๆ เป้าหมาย ไม่ต้องถึงแค่เฉียดๆ ไปก็สบายใจแล้ว ตอนนั้นก็เลยเริ่มเปลี่ยนมาพูดภาษาอังกฤษกับลูกและสามี แรกๆ บอกได้เลยว่าอาย ยิ่งตอนสามีบอกพูดผิดนี่ก็ยิ่งอาย เรื่องสำเนียงไม่ต้องพูดถึงเลย สามีบอกว่าเธอพูดมา 1 ประโยค เธอออกเสียงถูกอยู่ไม่กี่คำ ... ฟังแล้วเหมือนจะท้อแต่สามีบอกว่าต้องพยายามเค้าเล่าให้ฟังว่าช่วงที่ไปอเมริกาใหม่ๆ ก็พูดไม่ได้ ไปลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษ ปัญหาแรกที่เจอคือพูดไม่ทัน สมองมันคิดว่าจะพูดอะไร แต่มันแปลเป็นประโยคไม่ทัน พอไม่ทันก็เลยเรื่องที่เค้าพูดกันไปแล้ว หมดสิทธิ์ สามีบอกว่าจะพูดให้ได้ดีต้องมีประโยคและคำศัพท์อยู่ในหัวเป็นทุนเดิม ซึ่งต้องค่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ วันนี้ได้ 5 พรุ่งนี้ อีก 5 ก็จะเป็น 10 เพิ่มไปเรื่อยๆ ค่ะ
เราเริ่มปรับตัวได้...ใน 2 เดือน ความอายลดลง ยังมีอายอยู่บ้าง เริ่มเห็นพัฒนาการของ(อาร์ท)ตัวแม่ จากเดิมไม่พูด เริ่มพูด และออกเสียงได้ถูกต้องมากขึ้น สามีเข้มเรื่องการออกเสียงมากๆ ผลดี คือ ลูกได้รับไปเต็มๆ เลยค่ะ ออกเสียงค่อนข้างชัดเจน
วิธีการพัฒนาตนเองของเรา เผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ บ้าง 1. ดู DVD ของลูกชาย Little Einsteins, Big Blue House, Backyardigan, Blue’s Clues คำศัพท์ในชีวิตประจำวัน ประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้มาจากตรงนี้เยอะเลยค่ะ วิธีการดู แรกๆ เปิด Subtitle ภาษาอังกฤษ เพื่อให้เข้าใจว่าเค้าพูดคำว่าอะไรออกมา เพราะประโยคนึงจะมีการรวบคำอยู่ อาจทำให้สับสนได้ว่าพูดอะไรกันแน่ 2. ฟัง Audio Book ในรถ ก็มีส่วนช่วย เราจะต้องใช้สมาธิมากในการฟังเนื่องจากไม่มีเนื้อเรื่องให้อ่านตาม ฝึกออกเสียงคำให้ชัดเจน โดยเลียนแบบจาก Dictionary ในคำที่ไม่แน่ใจอ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษของเด็ก นอกจากลูกได้ความรู้แล้ว แม่ก็ได้ด้วยค่ะ หากจะฝึกออกเสียงแนะนำ Dr.Seuss เลย อ่านยากมาก แรกๆ นี่ ลิ้นพันกันไปเลยทีเดียว หากใครสนใจอ่านหนังสือของเค้าต้องบอกว่าอย่าท้อค่ะ ค่อยๆ อ่านไปวันนึงจะอ่านได้ดีเอง 3. พูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากขึ้น เมื่อไม่รู้ว่าประโยคนี้ควรพูดอย่างไรให้หาคำตอบให้ตัวเอง แล้วใช้ให้ชิน เราจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น 4. You Tube สุดที่รัก ในเว็บจะมีนิทานเยอะมาก เราฟังแล้วจำมาออกเสียงตาม เลือกหนังสือเล่มที่เรามีมา Search หา เลือกที่สำเนียงฟังง่าย และเราชอบ แล้วก็ฝึกตาม ไม่แพง แต่อาจจะต้องรอโหลดซักนิด ภาพไม่ชัดซักหน่อย แต่ฟรีก็โอแล้ว :) 5. อ่านนิทานให้ลูกฟังมากขึ้น ตอนลูกเบบี๋ก็มีปัญหาว่าไม่นิ่ง ไม่ยอมฟังค่ะ แต่ก็ใช้เทคนิคต่างๆ จนเค้าเริ่มชอบ และกลายเป็นนิสัยที่รักการอ่าน ชอบฟังนิทาน อ่านให้ฟังในรถช่วงเช้าบางวัน แต่กิจวัตรเลยคือก่อนนอน จะต้องมีอย่างน้อย 4-5 เล่ม ถ้าเรื่องยาวๆ บางทีก็แค่เล่มเดียว นิทานในดวงใจของแม่และลูกก็เพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ แรกๆ อ่านไปเป็นคำๆ อ่านแล้วติดๆ ขัดๆ แต่ยิ่งอ่านมากขึ้นจะยิ่งดีขึ้นค่ะ แต่ต้องประกอบกับการมีต้นแบบที่ดี ต้นแบบของเราคือ Clip ชาวต่างชาติอ่านนิทานเรื่องนั้นๆ เราก็จะพยายามเลียนแบบเค้าค่ะ การเลียนแบบอย่างเดียวอาจไม่พอเราลองบันทึกเสียงตัวเองตอนอ่านนิทานดู แล้วมาจับสังเกตว่าเราควรปรับตรงไหน ก็เป็นจุดนึงที่ดีค่ะ คลิปนี้ถ่ายเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ กำลังอ่านนิทานให้ลูกลิงฟัง มาถึงวันนี้เราเองก็ต้องพัฒนาอีกมากค่ะ สามีให้กำลังใจเสมอ เค้าพูดว่าคนที่ก่อนหน้านี้ภาษาอังกฤษไม่กระดิก แล้วไม่ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศได้แค่นี้ก็ดีมากๆ แล้ว เราเองฟังแล้วก็รู้สึกดี แต่ที่สำคัญที่สุดเราต้องอย่าเปรียบเทียบตัวเองและลูกกับใคร คือทำเท่าที่คิดว่าทำได้ดีที่สุด พยายามหาทางเพิ่มพูนศักยภาพของตนเอง ทุกวันนี้ดีใจที่ความพยายามไม่สูญเปล่า ตัวเองมีความรู้เพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญสามารถบรรลุเป้าหมายที่วาดไว้ตอนต้นคือให้ลูกชายสามารถใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษา
ที่สองได้ดี เล่ามายาวค่ะ อยากให้พ่อแม่มีความพยายามอย่าคิดว่าเราทำไม่ได้ตั้งแต่ยังไม่ได้พยายาม แม้ว่าจะดูตลกในสายตาใคร แต่สุดท้ายแล้วเสียงหัวเราะจะกลายเป็นคำชมเชยค่ะ |
Comment
เมื่อวานเรียกสามีมาฟังน้องจุ้ยๆ พูด Eng สามีบอกฟังยาก เราเลยบอกว่า ก็แหงอ่ะ สำเนียงน้องเค้าเป๊ะขนาดนั้น ไม่ใช่สำเนียงไทยๆ ฐาชื่นชมคุณจูมากๆ เลย สำเนียงคุณจูดีจริงๆ นะ อยากรู้ before ว่าเป็นยังไง ตอนที่บอกว่าไม่ได้เรื่องเลย คุณจูพัฒนาตัวเองไปได้มากเลย บางที ฟังๆ สำเนียงสามีคุณจูยังสู้คุณจูไม่ได้เลยนะ อิอิ อย่าบอกนะ....
น้องจุ้ยๆ อ่าน Eng เก่งจัง เค้าใช้วิธีจำหรือว่าอ่านได้จริงๆ คะ อายุ แค่ 5.4 ขวบเอง ฐาเรียกลูกชายซึ่งอายุ 5.9 ขวบมาฟัง และบอกว่า เห็นไหมเพื่อนเค้าเก่งไหม อ่าน Eng ปร๋อเลย เค้าก็บอก เก่ง สงสัยต้องพัฒนาตัวแม่อีกเย๊อะ
© 2025 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.
Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้