การทำซ้ำซาก คือวิธีการกระตุ้นความสนใจของเด็กที่ดีที่สุด

[นุตรประวีณ์ ชวลิตชีวิน]

คุณแม่หลายคนคงได้อ่านหนังสือ "รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว" ซึ่งเป็นตำราการเลี้ยงลูกสำหรับคุณพ่อ-คุณแม่มือใหม่ไปแล้ว นุตรก็ไม่พลาดคะ อ่านแล้วก็ทึ่งว่า อะไรกันเด็กจะทำอะไรได้มากขนาดนั้นเชียวหรือ ต้องมาพิสูจน์กันหน่อย ก็ใช้ลูกชายสุดเลิฟนี่ล่ะคะมาเป็นหนูทดลอง

เริ่มจาก list ออกมาเลยว่าจะกระตุ้นด้านไหนบ้างในช่อวง 0-3 ปี โอ้ว ! แม่เจ้า งานเข้าล่ะสิ เด็กเล็กๆ นี่เค้าต้องกระตุ้นให้เรียนรู้ภาษาต่างชาติ คณิตศาสตร์และดนตรีให้ได้ไวที่สุด ไม่ควรเกินช่วง ปฐมวัยหรือประมาณ 6 ปี ไม่งั้น เมื่อสมองของเค้าเติบโตและจดจำแบบฟอร์มพื้นฐานในรูปแบบใดแบบหนึ่งแล้วนั้น พร้อมทั้งความเป็นตัวตนมากขึ้นจะทำให้การสอนภาษาอื่นๆ หรือคณิศาสตร์เป็นเรื่องที่ยากขึ้นและเห็นผลได้ไม่มากเท่าที่ควร

คุณแม่ทั้งหลายคงทราบดี เด็กเล็กๆนะคะนอกจากต้องดูแลเรื่องกิน นอน เอ็นเทอร์เทนให้อารมณ์ดี (เหนื่อยแค่ไหนแม่ก็ต้องหันมายิ้มกับลูก) โอยสาระพัดคะ นุตรอ่านหนังสือและเปิดให้เค้าดูภาพที่มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษกำกับ ตั้งแต่ 4 เดือนทุกวันหลังมื้ออาหาร เรียกว่าว่างก็จะหยิบมาตลอด เปิดเพลง classic ยิ้มกับเค้าทุกวัน แม่ฟังยังไงก็ไม่อินคะ เลยหลับด้วยเลย

ไม่น่าเชื่อคะสิ่งที่เราทำซ้ำๆกันทุกวันสร้างนิสัยและบุคคลิกที่เราต้องการให้ลูกเป็นได้คะ ตอนนี้ลูกชายของนุตร น้องเรย์ อายุ 2.8 ปี เป็นเด็กอารมณ์ดีคะยิ้มตลอด ร่าเริง เข้ากับเพื่อนๆ พี่ๆและคุณครูได้ดี กลายเป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือมากๆ อ่านได้เป็นชั่วโมงและจดจำได้เร็วและจำได้นานคะ รู้คำศัพท์หลายร้อยคำแล้วคะ ตอนนี้กระตุ้นให้เค้าพูดเป็นประโยคคะ หนังสือภาษาอังกฤษนุตรให้เค้าอ่านแค่ 1-3 เล่ม หลังจากทดสอบแล้วดูเหมือนจะจำได้แล้วก็ค่อยเปลี่ยนเล่มใหม่มาให้ ถ้าคุณหาซื้อหนังสืออภาษาอังกฤษราคาไม่แพงไม่ได้ นุตรแนะนำให้ดูที่ www.2lazyduck.com คะ เค้าขายหนังสือมือสองที่สภาพยังเหมือนใหม่เลยคะ ราคาก็ไม่แพง ส่วนใหญ่ราคาไม่เกิน 200 บาท

ในหนังสือเค้ายังบอกอีกว่า การทำอะไรซ้ำซากสำหรับเด็กเล็กจะมีผลในการสร้างเส้นสายสมองส่วนที่เป็น Hardwareอย่างถูกต้อง เด็กเล็กเค้าไม่รู้จักเบื่อหรอกคะ เราต้องฉวยโอกาสสอน ภาษาต่างชาติและคณิตศาสตร์เพื่อให้ลูกสร้างเส้นใยสมองที่ถูกต้อง โดยผ่านการกระทำที่อย่างซ้ำซาก รู้ไหมคะ เด็กอายุ 3 เดือนสามารถจดจำเพลงยากๆ ได้หากได้ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน ความรับรู้ของเด็กอ่นนี้น่าทึ่งมากทีเดียว ที่สำคัญการทำซ้ำซากยังเป็นการสร้างความสนใจขึ้นในตัวเด็กได้อีก

การสร้างความสนใจเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะความสนใจจะเป็นตัวสร้างความมุ่งมั้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความก้าวหน้าของมนุษย์ เมื่อเราอ่านให้เค้าฟังตั้งแต่เล็กๆ ประมาณ 2 ปี เค้าจะสนใจหนังสือภาพและตัวอักษรและประโยคบนหนังสือ เค้าจะเริ่มสะกดที่ละพยัญชนะ และพยายามจะอ่านออกมาเป็นคำ จนในที่สนเค้าจะเกิดความอยากอ่านขึ้นมาเอง ทั้งหมดนี้อยู่ที่ความพยายามและความอดทนของคุณแม่นะคะ สู่ต่อไปนะคะเพื่อลูกรัก

[นุตรประวีณ์ ชวลิตชีวิน]

ขอบคุณนะคะคุณแอ็บแบ้วตีนกา นุตรจะเล่าประสบการณ์การเลี้ยงลูกชายให้ฟังนะคะเผื่อจะเป็นประโยชน์และนำไปปรับใช้ได้นะคะ ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้น้องเรย์อายุ 3ปี กับ 10 วัน ความสามารถก็ตอบโต้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ตอบในลักษณะที่เป็นประโยคซึ่งมาจากความคิดและเป็นความเห็นของเค้าเองไม่ใช่การตอบแค่ Yes หรือ No เช่น เค้าจะตอบว่า Yes I have. I like it.,Look! That's one. It's longer. It's Your turn.I am 3 years. แต่ยังเป็นประโยคที่สั้นๆคะ เค้าเข้าใจว่าถามแบบนี้ต้องตอบว่าอะไร และเค้าก็สามารถตั้งคำถามแบบเดียวกันถามเราได้ด้วยคะ นุตรเริ่มสอนภาษาจีนตอนน้องอายุ 2.10 ปี ตอนนี้ท่องเลข 1-100 ภาษาจีนได้ตั้งแต่ยังไม่ 3 ปี ส่วน 1-100 ภาษาอังกฤษ ได้ตั้งแต่ 2.5 ปี กว่าจะมาถึงวขั้นนี้นุตรต้องสอนและพูดภาษาอังกฤษกับเค้าทุกวันตั้งแต่ 4 เดือนคะ แต่การสอนจะปรับเปลี่ยนตามวัยนะคะ ขั้นที่ 1 อายุ 4-12เดือน สร้างความคุ้นเคย โดยการเปิดหนังสือนิ่ม หนังสือเล่นน้ำแค่ 2 -3 เล่ม เปิดและอ่านคำศัพท์นั้นซ้ำๆ ทุกวันทุกเวลาที่นึกได้ เช่นคำศัพท์ในกลุ่มผลไม้ ยานพหนะ ที่มีคำศัพท์ไต้ภาพน่ะคะ ช่วงที่น้องเดือนที่ 6-7-8 จะเริ่มเห็นว่าเค้าคลานไปหยิบหนังสือมาให้เราอ่านอายุ 1ปี-1.6ปี เริ่มเล่น Flash card เล่นทีละ 5 คำง่ายๆสั้นๆ พอเค้าเริ่มสนุก เราก็เพิ่มเป็น 10-15-20 ดูอาการด้วยว่าเบื่อหรือเปล่า แต่ทุกครั้งจะย้ำที่คำศัพท์เดิมก่อนเริ่มสอนคำใหม่เพื่อทบทวนและเพื่อให้กำลังใจว่าเค้าตอบได้ในทุกคั้งที่เล่นคะ และต้องสร้างสีสันดดยการแย่งตอบ ทำท่างงว่าคำนั้นคืออะไร ให้พ่อแย่งเล่น เป็นต้น เรย์ เล่น Flashcard และจดจำคำศัท์ ประมาณ 250 คำในนั้นโดยใช้เวลาประมาณ 2 เดือนเท่านั้น แต่นุตรเล่นทุกวันนะคะ ชมเค้ามากๆและโอเว่อร์ด้วยคะ เค้าจะรู้สึกภูมิใจมากๆคะแล้วอยากจะเล่นต่อ พอคำศัพท์เค้ามีมากพอเราก็เริ่มสอยประโยคสั้นๆได้แล้วคะ เช่น Ray drink water เค้าจะเค้าใจได้ง่ายมากคะเพราะรู้คำศัพท์ทุกตัวในประโยคแล้วเพียงแค่ทำความเข้าใจว่ามาเรียงกันอย่างไรเท่านั้นเอง พอเค้าพูดได้เราก็เอาไปอวดญาติคะ พอคนชมเค้าเยอะเค้าจะยิ่งขยันคะทีนีเราก็สบายแล้วคะ หวังว่าคำแนะนำจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ

[แอ็บแบ้วตีนกา]

ขอบคุณมากค่ะคุณนุตร เนื้อหาดีมากค่ะ ทำให้เริ่มมีกำลังใจขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เริ่มลังเลว่า เอเราทำถูกหรือป่าวเนื่ย คือตอนนี้น้องอายุได้ขวบสิบเดือนน่ะ พอดีได้ไปอ่านหนังสือเรื่อง คณิตศาสตร์สอนง่ายก่อนอนุบาล แล้วเริ่มมีแรงบันดาลใจ คือทุกวันลูกต้องเรียน แฟลชคาร์ด เราก็ท่องสะกดคำภาษาอังกฤษไปให้เขาฟังทุกวัน พร้อมสอดคำภาษาจีนไปด้วย แบบแถมๆ เรียนเขียนเลข นับเลข ท่องa-z ให้วาดรูป เล่นแป้งโดว์ อ่านหนังสือ รู้สึกเครียดมากเลย บางวันก็ทำไม่สำเร็จ บางทีเขาก็ไม่มองในสิ่งที่เราสอน เราก็ยังสอนแบบไม่ดู ไม่รู้ไม่ชี้ ถือซะว่าทำมันทุกวัน จำไม่ได้ให้มันรู้ไป คุณนุตรคิดว่าอายุช่วงนี้ของเด็ก ควรจะเน้นอะไร สอนอะไรดีค๊ะ อยากได้คำแนะนำจัง เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำน่ะ ทำถูกหรือป่าว

[นุตรประวีณ์ ชวลิตชีวิน]

ขอบคุณนะคะสำหรับทุกความเห็น นุตรจะมาเล่าเรื่องราวที่นุตรได้ค้นคว้ามาแบ่งปันให้เพื่อนนะคะเพื่อให้ลูกหลานเราเป็นคนเก่งและอารมณ์ดีคะ ตั้งชื่อลูกน่ารักจังเลยคะ น้องป้อนรัก so sweet คะ

[namo mom]

ขอบคุณที่แบ่งปันข้อมูลดีค่ะ

[สุภัทรียา เลาะพึ่ง]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ คะ

[Suthawadee C.]

เห็นด้วยค่ะ เชื่อว่าลูกของคุณต้องเป็นเด็กที่ฉลาดมาก และเป็นเด็กที่โชคดีมาที่มีคุณแม่อย่างคุณนุตรค่ะ

[นุชจรี จันทร์มณี]

ชอบเนื้อหาค่ะ จะนำไปให้พ่อของน้องป้อนรักปฏิบัติตามมั่ง