เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
จาก1.1ขวบ ถึง 2.5 ขวบ เป็นเวลา 1 ปี กับ 4 เดือน ที่พยายามสร้างลูกให้เป็นเด็กสองภาษาโดยใช้วิธี OTOL บ้าง OPOL บ้าง ตามศักยภาพของพ่อกับแม่ที่มีทุนปัญญาเดิมน้อยนิด แต่กระนั้นก็เคยหอบกันไปเข้า workshop phonic 1 ครั้ง ตลอดเวลาในการสอนก็พยายามปิดบังไม่ให้คนรอบข้างรู้ว่าเราพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ (อายคนอื่นเขา กลัวเขาได้ยินอังกฤษสำเนียงอิสาน) เคยพาลูกไปเล่นสวนสาธารณะแล้วเคยเจอครอบครัวที่เขาพูดกับลูกวัยขวบครึ่งเป็นภาษาอังกฤษให้ได้ยิน รู้เลยทันที่ว่าบ้านนี้กำลังเดินตามแนวทางเด็กสองภาษา แต่ก็ไม่เอ่ยปากทักหรือถามไถ่กัน กลัวเขารู้ว่าเราก็กำลังสร้างเด็กสองภาษาเหมือนกัน แล้วคิดไปเองด้วยความที่กลัวเขาจะหันมาถามว่าเราเริ่มมานานหรือยัง? สอนลูกอย่างไร? พ่อแม่พูดภาษาอังกฤษได้ระดับไหน? ตอนนี้ได้ผลเป็นอย่างไร? น้องพูดได้แค่ไหนแล้ว? ไหนๆคุณลองพูดอังกฤษกับลูกคุณให้ฟังหน่อยสิ? ความกลัวนี้เกิดขึ้นอัตโนมัติ แค่คิดก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทั้งตัว งั้นไปดีกว่าไม่อยู่ใกล้แล้ว! ว่าแล้วก็พาลูกไปเล่นห่างๆเป็นส่วนตัวดีกว่าเพื่อจะได้พูดคุยกับลูกตามลำพังไม่ให้ใครได้ยิน 555 สมเพสตัวเองจัง
โดยปรกติถ้าอยู่ในที่สาธารณะก็พูดกับลูกแบบค่อยๆกระซิบกันกลัวชาวบ้านได้ยิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยไปเที่ยวโคราชแล้วเจอพ่อลูกคู่หนึ่งที่ร้านไอติมนมวัว เขาพูดกับลูกวัยประมาณ 2 ขวบ เป็นภาษาอังกฤษ ใช่แน่ๆ เจออีกแล้วครอบครัวนี้กำลังสร้างเด็กสองภาษาแน่ๆ แอบนึกชื่นชมในใจว่าคุณพ่อเค้าเก่ง และมั่นใจที่พูดกับลูกในที่สาธารณะ ย้อนกลับมาดูตัวเราซึ่งขณะนั้นยุติการพูดคุยกับลูกไปชั่วคราวเพราะความไม่มั่นใจกลัวเค้าได้ยินแล้วก็นั่งนิ่งๆมองเค้าพูดกับลูกเค้าตาปริบๆ แล้วก็ไม่เปิดเผยตัว ทั้งที่ในใจอยากจะเข้าไปทักว่า "พี่ครับพี่! พี่ก็กำลังสอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษาเหรอครับ แหม! เหมือนผมเลยครับ..." 555 สมเพสตัวเองจัง
ถึงวันนี้ดีขึ้นเยอะกว่าแต่ก่อน ความอายก็เริ่มน้อยลงบ้างแล้ว อาจเป็นเพราะเริ่มชินและด้านขึ้นแต่ก็ยังแก้ไม่หาย และตอนนี้ก็ยังไม่กล้าบอกได้เต็มปากซักเท่าไหร่ว่าทำได้สำเร็จ ถ้าเทียบกับลูกของพ่อแม่ท่านอื่นๆในหมู่บ้านเด็กที่วัยใกล้เคียงกันแล้วน้องเนลโลก็ถือว่าช้ากว่าลูกของหลายๆท่าน แต่ก็พูดได้ว่ามาถูกทางและพัฒนาการกำลังไปได้สวย เข้าใจคำสั่ง หยิบ วาง ส่งของ ขอร้อง เรียกร้อง ทำ หยุด ถามชื่อสิ่งของ ถึงแม้จะพูดเป็นประโยคยาวๆยังไม่ได้มาก ก็ถือว่า.อ่ะนะ..ok.
เมื่อมานั่งนึกๆดูแล้วรู้สึกว่าเราผิดพลาดไปหลายจุดที่ไม่สามารถย้อนกลับไปเริ่มใหม่ได้ แยกได้เป็นข้อๆดังนี้
1.ไม่ได้ฝึกทำsign (มาเริ่มฝึกเอาตอนอายุ 2.3 ขวบ ซึ่งถือว่าช้าไปนิด)
2.มีความถี่น้อยไป (มีเวลาอยู่บ้านค่อนข้างน้อย)
3.มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเด็กน้อยไป (หลายอย่างที่ลูกจำได้โดยที่ทำให้เรารู้สึกคาดไม่ถึง)
4.พ่อไม่มีความกล้าเอาซะเลย (เรียนราม 8 ปี กว่าจะผ่านอังกฤษได้เลือดกำเดาทะลัก)
5.สร้างสภาพแวดล้อมได้ไม่ดีนัก (ภาษาไทยแซงหน้าไปแล้ว พี่เลี้ยงimportมาจากเวียงจันท์อีกต่างหาก)
6.ความคาดหวังทำให้เครียดและกดดันตัวเอง (ขนาดในหนังสือบอกไว้ว่าให้สนุก ไม่ให้กดดัน แต่พอเวลาทำจริงๆมันห้ามความกดดันไม่ได้)
แต่ก็มีสิ่งที่ทำตามหนังสือแนะนำอย่างค่อนข้างเคร่งครัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้โครงการสร้างเด็กสองภาษาของครอบครัวเราไม่ล้มเลิกไปก็คือ
1.ไม่เปิดทีวี (ที่บ้านไม่ดูทีวีกันเลยแม้แต่ข่าวก็ไม่เปิดดู ดูแต่ Caillou กับvcdเพลงเด็กภาษาอังกฤษ)
2.เข้าเว็บหมู่บ้านเด็ก (เข้ามาเสพกำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นเหมือนเพื่อนและครูที่ไม่เคยพบเห็นหน้า)
3.ความเชื่อมั่นและความศรัทธาในแนวทางการเรียนรู้แบบธรรมชาติ (ค่อยๆทำไปทุกวัน ถึงจะน้อยไปบ้างแต่ก็ไม่หยุด)
4.และที่สำคัญความรักและความปรารถนาดีที่มีต่อลูก (ถึงมันจะกลายมาเป็นความคาดหวังจนทำให้รู้สึกกดดันและเครียดบ้างในบางครั้ง แต่สิ่งนี้ก็ทำให้เรายังทำต่อไปไม่ยอมหยุด)
16 เมษายน 2555 วันที่แสนทรมานเพราะเป็นวันแรกที่พ่อกับลูกต้องแยกกันอยู่คนละจังหวัด อุดร-เชียงราย จากนี้ไปสักระยะคงเจอกันเพียงอาทิตย์ละครั้ง ไม่รู้ว่าจะส่งผลให้ภาษาไทยแซงหน้าไปไกลขึ้นอีกเท่าไหร่ (รู้สึกกดดันอีกแล้ว)
"เนลโลครับ daddyคิดถึงผมกับmommyเหลือเกินครับลูก!"
Comment
เป็นกำลังใจครับ.......ผมเริ่มแรกๆ ตอนน้อง ประมาณ ๅ ขวบ ..ก็รู้สึกเหมือนกัน..ตอนนี้น้อง 3 ขวบ แล้ว......กลายเป็นควาภูมมิใจ
แทน....
สู้ๆค่ะ เก่งกว่าบ้านของปุ้ยเยอะแล้ว
เป็นกำลังใจนะคะ สู้ๆ ความตั้งใจเกินร้อยแบบนี้
ให้กำลังใจอีกคนค่ะ สู้ ๆ นะคะ ขอเป็นคนหนึ่งทีอยู่เคียงข้าง
สู้ๆ ค่ะ จะภาษาอะไร จะเรื่องอะไร ขอแค่เต็มที่กับมัน ก็ไม่มีใครสู้คุณแม่หนิก คุณพ่อเติ้ลได้หรอกค่ะ ที่สำคัญ ลูกคือผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ได้แค่นี้ตั้งแต่เท่านี้ ถือว่าเก่งแล้วค่ะ
ปล. เรื่องกดดัน ใครๆ ก็เป็นค่ะ อะไรที่ไม่รู้ ก็คงต้องยอมรับว่าไม่รู้ค่ะ เราจะได้พัฒนาตัวเองยิ่งๆ ขึ้นไป ตัวแม่วินนี่เองเป็นครูสอนภาษาอังกฤษก็จริง แต่ก็มีอะไรๆ ที่ไม่รู้เยอะแยะมากมาย พอคนมาถามเรื่องภาษาอังกฤษ อะไรที่เราไม่รู้ ก็รู้สึกกดดันตัวเองนะคะ แต่หลังที่เข้าใจโลกมากขึ้น อะไรที่ไม่รู้ ก็ยอมรับเลยว่าไม่รู้ และว่าจะหาคำตอบให้ เรื่องพวกนี้ทำให้เรารู้ว่า มันเป็นแค่ ego ของเราน่ะค่ะ ถ้าเรายอมรับมันได้ ว่า มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะไม่รู้ ที่เราจะไม่เก่ง เราก็จะกดดันตัวเองน้อยลง สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้
เป็นเหมือนกันเลย เวลาอยู่ในที่สาธารณะ ยังไงก็สู้ๆนะครับ
เริ่มตอน 2 ขวบกว่าไม่ช้าไปหรอกค่ะ น้องพลอยเริ่มตอน 4 ขวบ ถือว่าช้า ตอนนี้ก็พัฒนาการไปเรื่อย ๆ ตามศักยภาพของ
แม่และลูกคะ เพราะแม่ก็ความรู้น้อยเหมือนกัน
สู้ ๆค่ะเป็นกำลังใจให้เหมือนกันค่ะ เพราะความรู้สึกนี้ไม่ต่างกันเลยค่ะ สอนลูก2ภาษามาเกือบ 2 ปีแล้วแม่ยังพูดประโยคภาษาอังกฤษเดิมอยู่เลยค่ะ(แม่ไม่เก่งภาษาอังกฤษเหมือนกันค่ะ)ตอนนี้ลูกพูดภาษาไทยแซงหน้าไปแล้ว ตอนนี้ก็พยายามศึกษาเพิ่มอยู่ค่ะ
© 2025 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้