ประสบการณ์เครียด มือใหม่หัด time out (เมื่อทุกอย่างอยู่ในห้อง)

[แม่อ๋อ]

ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี่เองค่ะ

ทุกอย่างที่อยู่ในห้องนอน ได้แก่ กุญแจบ้าน กุญแจรถ อันนา และประตูที่อันนาล๊อคเอง!

 

อันนาเป็นเด็กจอมพลัง ชอบกระโดดเล่นบนที่นอน ถ้าได้นอน ก็จะยกขาขึ้นพร้อมกันสองข้าง แล้วทิ้งน้ำหนักลงมาที่เบาะ ปังๆๆ ถ้าแม่นอนใกล้ๆ หน้าแม่ก็จะเป็นเป้าหมายของอันนาทันที หลังจากส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ อันนาก็ตวัดเท้าเข้าหน้าแม่อย่างรวดเร็ว ถ้าเตะหน้าไม่ถนัด ก็จะเตะพุงหรือขาแม่แทน

 

ทุกครั้งที่เตะ แม่จะบอกว่า “If you kick me again, I'll leave you alone"

แล้วแทบทุกคืน แม่ก็จะได้ leave her alone สองครั้ง

อันนาเคยไปล๊อคลูกบิดประตูห้องนอนแล้วครั้งหนึ่ง แต่โชคดีที่ปิดประตูไม่สนิท จึงยังเปิดได้ทั้งๆ ที่ลูกบิดล๊อคอยู่

เคยคิดว่า ไม่เป็นไร เพราะยังไงเราก็เก็บกุญแจบ้าน (และกุญแจห้องนอนในพวงเดียวกัน) ไว้ชั้นล่างอยู่แล้ว ล๊อคยังไงก็ไขประตูเข้าไปได้

 

แต่วันนี้ไม่รู้เป็นไง แม่ล๊อคบ้านแล้วก็เอากุญแจบ้านและกุญแจรถขึ้นห้องนอนด้วย....

 

หลังจากจัดการ time out ครบเวลา 2 นาที (ตามอายุ และตามที่บอกอันนาไว้) ก็จะเปิดประตูเข้าไป ปรากฎว่า ประตูล๊อคจ้า พยายามบอกอันนาให้ Turn the knob ก็ได้ยินเสียงแกร่กๆๆ แต่ก็ไม่สำเร็จ อันนาก็ร้องไปเรื่อยๆ (ร้องตั้งแต่แม่ออกมาแล้ว เพราะง่วง) ก็เลยเดินลงมาเอากุญแจอย่างใจเย็น อ้าว เฮ้ย วันนี้ถือกุญแจไปข้างบนทำไมล่ะเนี่ย

ขึ้นไปหน้าห้องนอนอีกครั้ง วิชางัดแงะก็ไม่ได้เรียนมาซะด้วย พอเคาะประตู อันนาก็เคาะตอบกลับมา ก็เลยบอกให้ Turn the light on. ได้ยินเสียงเดินไปเปิดไฟ แล้วเสียงร้องก็เบาลงแล้ว

ระหว่างนี้ก็ให้ นศ. ชาวจีน ที่มาอยู่เป็นเพื่อนช่วงที่พ่ออันนาไม่อยู่คอยคุยไปพลางๆ น้องเค้าก็ทำหน้าที่สอนภาษาจีนได้ดีมากค่ะ ปลอบใจอันนาเป็นภาษาจีน! (มีภาษาอังกฤษอยู่บ้างจ้ะ Don't cry)

 

นึกขึ้นได้ว่ากุญแจอีกชุดอยู่ในรถ ซึ่งจอดไว้หน้าบ้าน แล้วก็มีกุญแจรถอีกชุดหนึ่งอยู่ชั้นล่าง

ก็เลยโทรหาเพื่อนบ้าน แม้จะเห็นบ้านปิดไฟแล้ว ก็ไม่ได้คิดจะเกรงใจแต่อย่างใด ฮ่าๆๆ

แต่พี่ท่านไม่รับสาย

ก็เลยโทรหายามแทน รอสักพัก อันนายังร้องอยู่

จนอันนาเงียบไป ก็เลยโทรไปเร่งยามอีกที บอกว่าลูกเสียงเงียบไปแล้วนะ เร็วๆ หน่อยค่ะ

 

สักพักก็มียามมาหน้าบ้านประมาณ 4 คน อ๋อก็ตะโกนบอกให้ช่วยเอากุญแจให้ที แล้วก็ปีนรั้วเข้ามาเลยค่ะ อ๋อก็งัดมุ้งลวด (สะกิดก็หลุดแล้ว พูดซะ) รับกุญแจ ขอบคุณยาม และก็วิ่งขึ้นชั้นบนเลยค่ะ

 

เปิดห้องเข้าไปเห็นอันนานั่งร้องอยู่หลังประตู มีน้ำตาเล็กน้อย แต่ตายังไม่แดง ก็อุ้มขึ้นมาปลอบใจ อธิบายให้เขาฟังว่า You locked the door, I couldn't open the door. และไม่ลืมผสมโรงว่า

 

 

Don't kick me again!!!

 

ไหนๆ ก็ร้องขนาดนี้แล้ว เอาให้คุ้มซะเลย

(จะได้ผลมั้ยน้อ)

ใครจะหัด time out ดูตัวอย่าง (ที่ไม่ดี) ไว้นะจ้ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

[Pat NZ]

ถ้าไม่หัดแต่เด็ก โตขึ้นจะลำบากค่ะ แพทไม่ได้ทำโทษหรือ time out แบบไม่มีเหตุผล และทุกครั้งที่ทำก็จะคุยกันให้เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงต้องทำ เราไม่ได้ทำไปเพราะอารมณ์โกรธ แต่ที่ทำเพราะลูกทำผิด ทำไม่ดี ถ้าแม่ไม่หัดลูกตอนนี้ ไม่ทำให้ลูกเข้าใจในสิ่งที่หนูทำตอนนี้ โตขึ้นไปหนูจะติดนิสัยที่ไม่ดีไป ส่งผลเสียให้กับหนูได้ในอนาคตนะค่ะ

คุณเอ๋ต้องคุยกับสามีให้เข้าใจค่ะว่าน้องทำอะไรบ้าง ที่สำคัญคือความเข้าใจระหว่างพ่อและแม่ ในการสั่งสอนอบรมลูก ถ้าพ่อไปทาง แม่ไปทาง ที่นี่ก็จะเข้าทางลูกเลย คนนึงโอ๋ คนนึงดุ อีกหน่อยพ่อกะแม่จะทะเลาะกันเพราะลูก (อันนี้เพื่อนรุ่นพี่เค้าเคยเตือนแพทมาค่ะ เราเลยต้องคอยคุยกับสามีให้เข้าใจตลอดเรื่องแนวทางการเลี้ยงลูก ต้องให้ไปในทางเดียวกันให้ได้ แม้กระทั้งเรื่องอาหารการกิน ขนมนมเนย เวลาหลับนอน การเล่น การดูทีวี ของเล่นลูก นิสัยของลูก การพูดการจา เรื่องโรงเรียน การคบเพื่อน ดีว่าคุณสายอมรับฟังอะไรง่ายหน่อย เลยจะหนักมาทางเราว่าเรามีแนวทางแบบไหน ซึ่งเราก็ไปเรียนรู้ เอาข้อมูลจากหลายทางมาศึกษาแล้วก็ปรับให้เข้ากับครอบครัวของเรานะค่ะ ที่สำคัญอีกอย่างคือพยายามอย่าเปรียบเทียบนะค่ะ)

[Anuporn Vitchayasut]

คุณแพท ไม่ทราบว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะทำโทษวิธีนี้ได้ค่ะ ตอนนี้น้องต๊อด 2 ขวบทำได้หรือยัง แล้วเวลาทำนี่ทำอย่างไรค่ะ คือพอเวลาเค้าดื้อปุ๊ป เราก็จับขังห้องเลยหรือป่าว นานแค่ไหนค่ะ ไม่ค่อยเข้าใจวิธี

[Pat]

ของแพทเริ่มตั่งแต่น้องพอรู้เรื่องเลยค่ะ ขวบกว่าๆ เพื่อนอีกท่านนึงแฟนเค้าเป็นคนนิวซีแลนด์ เค้าเริ่มตั่งแต่ลูกเค้ายังไม่ขวบเลย วิธีเริ่มไม่ใช่ว่าให้เข้าไป time out ในห้องเลยนะค่ะ แต่เริ่มโดยที่ถ้าเค้าดื้อ ทำผิด ไม่เชื่อฟัง บอกให้หยุดแล้วไม่หยุด ก็ให้เค้าไปยืนหรือนั่งสงบสติที่มุมห้อง ถ้าเด็กเล็กก็จะให้นั่งบนเก้าอี้ทานข้าวของเด็ก แล้วให้หันหน้าเข้ากำแพง ไม่ให้ใครคุยด้วย ไม่ต้องยุ่งกับใคร บางกรณีก็ใ้ห้ time out ในcar seat ในรถ(แต่ต้องไม่ร้อน) เริ่มจากนาที 2 นาทีก่อน ถ้ายังดื้อยังหยุดพยศไม่ได้ก็เพิ่มเวลาค่ะ แพทเริ่ม time out ลูกในห้องน้ำ(ห้องน้ำที่นี้พื้นไม่ลื่นนะค่ะ แล้วก็ไม่มีอ่างแบบที่มีน้ำเต็มสำหรับตักอาบ อันตรายค่ะ) ตอนที่ลูกเริ่มหัดเข้าห้องน้ำเองได้ เพราะจะมีกรณีที่ time out อยู่แล้วปวดเข้าห้องน้ำก็มีค่ะ คือหาเรื่องให้ได้หยุด time out

แพทให้โอกาสก่อนคือพอดื้อแล้ว เราพูดหรือดุให้หยุด ถ้าไม่หยุด ไม่ฟัง นับ 1 ไม่หยุดอีก 2 พอ 2 แล้วไม่หยุดก็ time out เลยค่ะ อย่าขู่เยอะจะไม่ได้ผล บางทีถ้าพี่แกล้งน้อง ถ้าเป็นครั้งแรกๆก็คุยก่อน ให้ขอโทษ แล้วสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ถ้าทำอีกก็จะโดนทำโทษนะ แล้วถ้าทำอีกก็เชิญๆผ time out ได้เลยค่ะตอนแรกๆลูกแพทก็ไม่กลัว ไม่คิดว่าที่ให้เค้า time out คือต้องการให้เค้าหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดี คิดว่าดีซะอีกได้เข้าไปนั่งเล่นในห้องคนเดียว จนตอนนอนไม่ยอมไปนอน(อันนี้คือฝึกให้นอนเองไม่ต้องให้แม่ไปนอนด้วย) เลยโดน time out ในห้องน้ำปิดไฟมืด เอาแค่นาทีกว่าๆ ร้องไห้ลั้นบ้าน ถ้ายังไม่ยอมหยุด ยอมเชื่อฟังก็เพิ่มเวลาไปเป็น 5 นาที 10 นาที ที่นี้หยุดเลยค่ะ แค่จะให้เข้าไป time out ก็ไม่เอาแล้ว และพอหลังๆมาการ time outก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่ เพราะพอดื้อ พูดแล้วไม่ฟังก็ นับเลย 1 2 หยุดเลย เป็นเด็กดีเชื่อฟังทันที

ของฝรั่งที่นี่เวลาออกไปนอกบ้านไปเดินในห้าง ก็มีนะค่ะที่ร้องโวยวายจะเอานู้นเอานี้ ไม่เชื่อฟังพ่อแม่เวลาพาไปซื้อของ ฝรั่งเค้าก็ให้ลูกเค้ายื่น time out หน้าร้านนั้นแหละค่ะ หันหน้าเข้ากำแพง แล้วเราก็ยืนดูอยู่ห่างๆ

การ time out โดยขังห้องจำเป็นต้องใช้ในกรณีที่เด็กยังไม่เข้าใจว่า ที่ time out คือการแบน การที่คุณทำตัวไม่น่ารักก็ไม่ต้องเล่นกับใคร จะไม่มีใครเล่นด้วย และก็จะไม่ได้ทำอะไรกับคนอื่นทั้งนั้น จนกว่าจะสำนึกในสิ่งที่ทำ แล้วก็ปรับปรุงตัวใหม่ เด็กที่อยู่นิ่งๆไม่ได้ ไม่ยอมที่จะหยุดยื่นอยู่กัุบที่ หรือในบ้านที่มีคนอยู่หลายคน แล้วเวลาที่เรา time out ลูกก็มักจะมีคนอื่นมาชวนลูกเราคุย หรือทำอะไรที่ทำให้เด็กไม่ได้คิดในสิ่งที่ตัวเองทำนะค่ะ

เวลาที่เรา time out ลูก อารมรณแม่ที่กำลังโกรธ โมโห กำลังเหนื่อยก็ได้พักด้วยเช่นกัน เหมือนต่างคนกำลังแรง แยกกันไปคนละที่ พอสงบกันได้แล้วค่อยเข้ามาคุยกัน และที่สำคัญมากๆเลยค่ะหลังจาก time out เสร็จต้องคุยกันให้เข้าใจว่าทำไมแม่ถึง time out ลูก และที่ทำไปเพราะรัก ต้องกอดลูก หอมลูก ให้ลูกรู้ว่าแม่รักแค่ไหนะค่ะ อ้ออีกประการนึงซึ่งแพทคิดว่าสำคัญมากคือ ใครเป็นคนสั่ง time out คนนั้นต้องเป็นคนไปเอาลูกออกจาก time out และคุยกับลูกเอง อย่าทำเป็นแบบ Good Cop, Bad Cop นะค่ะ

[Anuporn Vitchayasut]

ขอบคุณมากนะค่ะ คุณแพท เอ๋จะลองทำดู แต่ไม่แน่ใจว่าเค้าจะยอมยืนนิ่งๆ หันเข้ากำแพงหรือเปล่านี่สิ หรือถ้าจะขังห้องก็กลัวว่าโตขึ้นจะมีอะไรติดในใจหรือเปล่า แบบว่ากลัวการอยู่คนเดียว แล้วอีกอย่างถ้าขังห้องกลัวไม่อยู่ในสายตาเราแล้วเกิดเค้าเล่นอันตรายอะไรขึ้น สามีฆ่าเอาแน่ๆ เพราะรายนั้นเค้ายิ่งหวงลูกมากกกกกกก อิ อิ

[แม่น้องเรอิ-เลอา-ลูค]

เป็นเหมือนกันเลย ตอนนี้ลูกเริ่มล็อคประตูเป็น เลยต้องเก็บกุญแจไว้นอกห้อง แล้วสอนให้เค้ารู้จักเปิดเอง บอกเค้าด้วยว่า ถ้าอยู่คนเดียวห้ามล็อคประตู เพราะถ้าแม่เปิดเข้ามาไม่ได้ ลูกต้องอยู่คนเดียวในห้องนะ แต่เราก็จะคอยระวังด้วย

ส่วนเรื่อง time out พี่ก็ทำบ้างเหมือนกัน เวลาที่เค้าทำผิดจริงๆ แต่หลังทำก็จะเข้าไปกอดแล้วบอกเหตุผลที่ทำโทษเค้าให้เค้ารู้ว่าเราทำเพราะห่วงเค้าจริงๆ

[Danui]

อืมเหมือนลูกสาวเลยค่ะ
ชีเล่นล๊อคหลังบ้าน เปล่าเป็นลูกบิดนะ แต่เป็นประตูเหล็ก และกลอนตั้งดึงขึ้นแล้วพลักไปด้านข้างเพื่อล๊อค
นุ้ยซักผ้าอยู่หลังบ้านลานซักล้าง...
ได้ยินเสียงกลอนลงล๊อค เลยเอะใจ รีบเดินไปดู ปรากฏว่า ชีล๊อคแม่ไว้หลังบ้านซะแล้ว
ส่วนหน้าบ้านเราล๊อคเอง หน้าหลัง ตกใจมาก เพราะเราหุงข้าวอยู่ห้องครัว กลัวชีไปเล่นหม้อหุงข้าว
ทำไงดี สามีก็ไม่อยู่ บ้านเข้าไม่ได้ ลูกเริ่มร้องเพราะจะหาแม่....
แว๊ปแรกที่คิดคือ ทุบกระจกหน้าบ้าน แต่....เรื่องใหญ่แน่เลยถ้าทุ๊บกระจกหน้าบ้าน
เลยพูดกับแองเจิ้ลช้าๆ พยายามทำให้ชีรวมรวมสติและสอนให้เปิดล๊อคกลอน
โชคเข้าข้าง อันที่จริงพ่อเค้ามักจะสอนให้เปิดล๊อคทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นประตูห้องนอน ประตูรถ ประตูบ้าน แต่นะ ด้วยความที่ตอนนั้นชีร้องไห้ สตงสติไม่อยู่กับเืนื้อกับตัว
จะทำอะไรสมองก็อยู่ตาตุ่มคิดไม่ออก เราเลยต้องหลอกล่อให้ลูกใจเย็นๆ ส่วนเราก็ต้องใจเย็นด้วย ทั้งที่โมโหสุดฤทธิ์

ในที่สุด ลูกก็ทำได้ .... ตกใจหมดเลย

เด็กวัยนี้ คลาดสายตาไม่ได้เลย
ส่วนเรื่องไทมเอ้าท์ ไม่ค่อยทำกับลูกเลยค่ะ แค่เอ่ยบอกไทมเอ้า...ชีก็กลัวแล้ว...

เพราะไทม์เอ้าของแม่คือ ในห้องน้ำ......................^^