เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

อยากทราบว่าระหว่างการสอนให้ลูกหัดอ่านแบบ"จำคำ" กับสอนให้ลูกอ่านแบบ "โฟนิคส์" ควรเน้นแบบไหนค่ะ เพราะตอนลูกพูดยังไม่ได้ (ลูกสาวเริ่มพูดได้แบบมีความหมายตอน 1 ขวบ 4 เดือน) แม่ก็สอนให้ลูกหัดอ่านแบบ "จำคำ" หรือ whole word reading เพราะลูกยังไม่สามารถพูดได้เท่าไหร่ พูดได้ไม่ถึง 10 คำช่วงนั้น จึงไม่สามารถออกเสียง a-z ได้ทีละตัว  

เรื่องที่สงสัยมี 3 ประเด็นนะค่ะ 

1. พอตอนนี้ลูกโตมาลูกพูดได้ขึ้นเรื่อยๆ แม่ก็ยังเน้นสอนด้วยวิธีจำคำเหมือนเดิม เพราะเห็นว่าวิธีการง่ายดี ให้จำเป็นคำๆ ไม่ต้องมาสะกดหรือออกเสียงโฟนิคส์ทีละตัว ง่ายสำหรับแม่ที่ไม่ค่อยขยัน 555 แต่ทำไปทำมาก็สงสัยว่าตอนนี้ 1 ขวบ 11 เดือนควรเน้นสอนอ่านแบบ "โฟนิคส์" มากกว่าใช่มั้ยค่ะ เพราะจะได้สามารถอ่านคำที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ 

2. ย้อนไปสงสัยถึงอดีตว่าตั้งแต่ตอนลูกเริ่มอายุก่อนขวบ  จริงๆ จำเป็นหรือป่าวค่ะว่าควรจะสอนลูกแบบ"จำคำ" ก่อน หรือจริงๆ เราก็สอน "โฟนิคส์" ให้จำ a-z อย่างเดียวก็ได้ตั้งแต่ตอนลูกเริ่มอายุก่อนขวบ พอรอให้เค้าพูดได้ เค้าก็จะออกเสียงโฟนิคส์ของแต่ละตัวอักษรได้เลย (เหมือนกับที่พอเค้าจำคำอ่านและพูดได้ เค้าก็อ่านคำได้เลย) จากนั้นเราก็เริ่มสอนผสมคำต่อเลย 

3. สงสัยว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะสอนลูกตั้งแต่ก่อนขวบ ควรจะสอนแบบไหน (ถามเผื่อมีลูกเพิ่ม อิอิ) หรือสอนพร้อมกันทั้ง 2 วิธี เพราะถ้าตามหลักสอนให้อ่าน "whole word" ตามหนังสือของเกลน โดแมน จะไม่แนะนำให้สอน a-z

Posted by Ryder on เมษายน 12, 2012 at 11:33pm in ห้องสอนลูกอ่านหนังสือ

Views: 775

Replies to This Discussion

Reply by แม่แอ๋ว on เมษายน 13, 2012 at 9:21am

เรื่องการอ่านแบบจำคำกับโฟนิคส์นี้ พี่ขอตอบแบบอิงประสบการณ์ และอาศัยหลักการเล็กน้อยนะ อิอิ

จริงแล้วเรื่องการสอนอ่านนี่ แบบแรกเริ่มเดิมทีเลย จะสอนกันแบบโฟนิคส์ และสมัยก่อนจะสอนกันช่วงที่เด็กอายุได้หกขวบไปแล้ว ระบบโรงเรียนในอเมริกาในสมัยนั้น ก็ใช้วิธีการสอนโฟนิคส์ล้วน คือเด็กเรียน ABCs และเสียงของมัน และในที่สุดก็สอนผสมคำ ต่อมามีคนเริ่มคิดว่าการเรียนอ่านแบบโฟนิคส์นี่มันซ้ำซาก จำเจ น่าเบื่อต้องท่องจำมากมาย เด็กอ่านออกก็จริงแต่ไม่รู้ความหมายของคำนั้นๆอย่างลึกซึ้ง และในที่สุด ก็มีการนำเสนอวิธีการอ่านแบบ whole words เข้ามา ต่อมาการสอนแบบ whole word (sight reading) นี่ก็เริ่มเป็นที่นิยม และมีการสอนในโรงเรียนต่างๆเพิ่มมากขึ้น ปัญหาก็คือ ฝ่ายที่ชอบโฟนิคส์ก็หาว่าวิธีการสอนแบบการจำคำ อัตราการอ่านออกเขียนได้ตกต่ำ และเป็นสาเหตุของโรคไดเล็กเซีย ซึ่งก็คือความผิดปกติของสมองเกี่ยวกับการอ่านและการสะกดคำ และบางประเทศในยุโรปเช่น ฝรั่งเศสนี่ห้ามสอนการอ่านแบบ whole word 100% เลยล่ะ

อ่ะ เล่ามาถึงตอนนี้ เริ่มกังวลกันหรือยังว่า sight reading/whole word นี่จะทำร้ายลูกฉันหรือเปล่า ฮ่ะๆๆๆ

ข้อได้เปรียบของ whole words คือ วิธีนี้เด็กสามารถเรียนได้ตั้งแต่ยังเป็นทารกอยู่ และการสอนอ่านแบบการจำคำในวัยทารกนั้น เป็นการกระตุ้นเส้นใยสมองส่วนที่เกี่ยวกับการอ่านให้เติบโต และการที่ลูกเราได้มีโอกาศสัมผัสและคุ้นเคยกับรูปแบบภาษาเขียนตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กนั้น จะทำให้ลูกโตมาเป็นคนที่อ่านหนังสือคล่อง ในเด็กบางรายนั้น สามารถที่จะถอดรหัสคำได้เองโดยธรรมชาติ อย่างลูกสาวทั้งสองคนของ Dr. Titzer (ผู้สร้างดีวีดี Your Baby Can Read) ก็เป็นเด็กที่โตมากับการอ่านแบบจำคำล้วน และถอดรหัสคำได้เอง ผลที่ได้คือ ลูกสาวทั้งสองคนสอบได้เกรดเฉลี่ย 4.00 ตลอด และเรียนล้ำหน้าเพื่อนรุ่นเดียวกันไปเยอะ และเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยในวัย 15 ปี หรือไงนี่เเหละพี่ก็จำไม่ค่อยได้ นอกจากนี้ มีงานวิจัยหลายชิ้น ออกมายืนยันว่า เด็กที่อ่านหนังสือออกเร็ว จะได้เปรียบเพื่อนๆที่ยังอ่านหนังสือไม่ออก หรือไม่ได้รับการสอนให้อ่านหนังสือจากที่บ้าน

โฟนิคส์นั้น โดยทั่วไปแล้วเชื่อกันว่าจะยังสอนไม่ได้ จนกว่าเด็กจะเริ่มพูดจารู้เรื่อง ตามหลักคือ ประมาณสามสี่ขวบขึ้นไปแล้ว  แต่หลักการนี้ สำหรับพี่แล้ว ไม่เป็นเรื่องจริง เพราะว่าเจคอบสามารถจำเสียงอักษรทุกตัวได้ตั้งแต่อายุได้ขวบกว่าๆ และเริ่มผสมคำเป็นตอนสองขวบกว่า เพราะฉะนั้น พี่คิดว่า เด็กเรียนโฟนิคส์ได้ทันทีที่เด็กเริ่มเรียนเสียงเป็น หัวใจสำคัญของการสอนคือ ต้องไม่ทำเหมือนกับว่าเราสอน ต้องหาวิธีทำให้มันสนุก ถ้าลูกสนุก เขาก็จะเรียนอะไรๆได้ง่ายขึ้น

ต่อไปตอบคำถาม

1) พี่แนะนำให้เริ่มสอนได้เลยจ้ะ พี่คิดว่า การสอนเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งนั้น ได้ผลไม่ดีเท่ากับการสอนรวมกันทั้งสองอย่าง เพราะการสอนสองวิธี มันส่งเสริมกันนะ คำไหนยากๆ พี่จะสอนแบบจำคำ ส่วนคำไหนง่ายๆ พี่จะสอนแบบโฟนิคส์ พอพื้นฐานลูกเเน่นแล้ว ทีนี่ก็จะเริ่มสอนการผสมคำที่ยากขึ้น เช่นคำที่มีหลายพยางค์ คำควบกล้ำ เป็นต้น

2. การสอนเด็กอ่านหนังสือนั้น เด็กในวัยก่อนขวบ จะเรียนอ่านผ่านการจำคำได้ง่ายกว่าการเรียนแบบโฟนิคส์ เพราะว่าการอ่านแบบจำคำ เป็นการจำคำเป็นรูปภาพ เด็กเล็กมีข้อได้เปรียบตรงที่สมองซีกขวาเป็นเครื่องมือในการช่วยจำข้อมูล เพราะฉะนั้นวิธีการสอนอ่านที่ดีที่สุดคือการสอนอ่านแบบจำคำ พอโตมาหน่อย เริ่มเลียนเสียงเป็น เราก็เริ่มสอนอ่านแบบโฟนิคส์ อย่างที่พี่บอกคือ พี่เชื่อว่าวิธีการทั้งสองแบบมันส่งเสริมกันนะ จะได้ผลดีต้องสอนควบคู่กันไป

 

3. ตอบไปแล้วจ้ะ คือ whole word -sight reading การอ่านแบบจำเป็นคำจะดีที่สุดค่ะ โตมาก็ปรับมาเป็นโฟนิคส์นะ

ตอนนี้เจคอบเอง พี่เน้นโฟนิคส์มากกว่า เพราะเค้าก็สามขวบนะ แต่สิ่งที่พี่สังเกตุเห็นคือ เค้าจะคำคำใหม่ได้ไวมากๆ เพราะเค้าเรียนอ่านหนังสือผ่านการจำเป็นคำมาก่อน อย่างไปเจอคำไหนที่เค้าสะกดไม่ได้ แล้วขอให้พี่อ่านให้ฟัง พอพี่บอกไป เค้าก็จำได้เองนะ สมองเค้าคงได้รับการฝึกมาให้จำคำแบบนี้ด้วย แต่เรื่องสะกดคำเค้าก็ทำได้ ถ้าไปเจอคำไหนที่เค้าสะกดไม่ได้ พี่จะออกเสียงให้ฟังและให้เค้าผสมเอง เค้าก็ทำได้อีกเหมือนกันจ้ะ

นอกจากนี้ พี่ยังสังเกตุเห้นอีกว่า เค้าเข้าใจคำคล้องจองได้ดีด้วย ทั้งๆที่พี่ไม่ได้ตั้งใจสอน อย่างพี่ถามเค้าว่า What rhymes with CAR? เจคอบตอบ Mar, What rhymes with HAT, เค้าจะบอก CAT บางทีพี่แกล้งถาม What time with HONEY เค้าก็จะมั่วคำขึ้นมาเอง แต่ก็ยังคล้องจองกันอยู่เช่น Bunjy ฮ่าๆๆๆๆ

ยอกจากนั้น การสอนอ่านแบบโฟนิคส์ ยังช่วยให้ลูกเราสะกดคำเก่งด้วยนะ พี่เองไม่รู้หรอกว่าเจคอบสะกดคำเป็นหรือเปล่า แต่อย่างเราดูรูปด้วยกัน พี่ให้หารูปที่ขึ้นต้นด้วย S เค้าจะมองๆรูป แล้วทำเสียง sssssss sand, sssssss scooter, sssssss slide อะไรของเค้าไป ฮ่ะๆๆๆๆ ถ้าเด็กที่อ่านหนังสือไม่ออก ก็ไม่น่าจะรู้ว่า คำไหนขึ้นต้นว่าอะไร.....พี่แฮปปี้มากๆเลย และพอเห็นอย่างนี้แล้ว พี่ยิ่งมั่นใจเข้าไปอีกว่าการสอนลูกอ่านหนังสือในวัยเด็กเล็กนั้น ลูกได้ประโยชน์มหาศาลแน่นอน

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2025   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service