เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
สัปดาห์นี้มีหนังสือใหม่ 3 เรื่อง ที่อ่านให้ลูกชายฟังแล้วผลตอบรับดีมาก เลยอยากมาเล่าให้ฟังกันค่ะ
The True story of Three little pigs
โดย Jon Scieszka
3-8 ขวบ
อยู่ในรายการ 1001 Children's books you must read bfore you grow up (5 ขวบ+)
ไม่คาดคิดเลยว่าหนังสือที่ภาพประกอบดูโหดๆ และเรื่องราวซับซ้อนอย่างเล่มนี้จะกลายเป็นหนังสือเล่มโปรดของลูกชายวัย 3.5 ขวบ ถึงกับต้องเล่าให้ฟังทั้งตอนตื่นนอน และก่อนนอน วันละหลายรอบ ถ้าไม่อ่านให้เขาฟังเขาก็หยิบไปอ่านเอง พูดนั่นนี่ไปเรื่อย ...The True story of Three little pigs เล่าความจริงจากด้านหมาป่าให้ฟัง เรื่องของเรื่องก็คือ หมาป่ากลังทำเค้กวันเกิดให้คุณยาย แล้วน้ำตาลหมด จึงตั้งใจไปขอจากบ้านเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นลูกหมูนั่นเอง แต่บังเอิญว่าเป็นหวัดอยู่จึงจามแรงไป ทำให้บ้านพัง และเมื่อหมูตายแล้วจะทิ้งไปก็แย่... เพราะหมูก็คือ แฮม ชิ้นยักษ์ดีๆนี่เอง
สิ่งที่ทำให้เด็กๆชอบหนังสือเล่มนี้ ก็คือ รูปประกอบ ถึงแม้มันจะดูโหด แต่มันก็มีรายละเอียดที่ตลก เช่น แฮมเบอเกอร์ เด็กๆ สังเกตว่ามันมีสัตว์ต่างๆ ซ่อนอยู่นะ กบ กระต่าย หรือเขารู้จักชีส ก็จะชอบชี้ชีสให้ดู เป็นต้น
ภาพประกอบภาพนี้ก็ดีมาก เมื่อเราจะอธิบายว่า Granny คือใคร ก้อมีภาพอยู่ที่ผนัง จะอธิบายว่า Ran out of sugar หมายถึงน้ำตาลหมด ก็มีภาพหมาป่าเทถุงน้ำตาลเปล่าๆ ใส่แก้ว เด็กๆได้เชื่อมโยงวลีนี้กับคำว่า Empty ที่ตัวเองรู้จัก แล้วก็พูดกับแม่เพื่อเช็คดูว่าเข้าใจถูกต้องไหม พอแม่พยักหน้าให้ เด็กๆก็กระตือรือล้นอ่านมาก เหมือนว่าหนังสือเล่มนี้ช่วยสอนศัพท์ใหม่ๆ ให้กับเขา เป็นอีกจุดที่เด็กชอบ
พลังในการจาม แรงขนาดนี้น่าเชื่อมากว่าทำให้หมูตายได้ มิ้นเคยอ่านนิทานเรื่องหมูสามตัวให้ลูกฟังมากก่อนหน้านี้แล้ว แล้วก็เคยทำท่าประกอบ Huff กับ Puff ให้เด็กๆดูมาก่อน ไม่น่าเชื่อว่าเด็กๆจำได้ พออ่านให้ฟังว่าหมาป่ามัน Huff ลูกก็ลุกขึ้นยืนแล้วสูดลมเข้าเตรียมเป่าบ้านตามเลย ...นอกจากนี้ลูกยังชอบไอเดียที่บอกว่าหมูตายแล้วเป็นแฮมชิ้นโตมาก เชียร์ให้หมาป่ากินใหญ่
หน้าสุดท้าย But maybe you could loan me a cup of sugar. เมื่อถามลูกว่า will you loan him a cup of sugar? ลูกชายคนนึงรีบสั่นหัวเลย แสดงว่าลูกคนนี้เข้าใจว่าหมาป่ามันหลอก ส่วนลูกอีกคนที่เชียร์ให้หมาป่ากินหมูบอกว่า Yes ..ให้น้ำตาลแน่นอน จะได้ทำเค้กใหุ้คุณยายได้ :-)
One Fine Day
โดย Nonny Hogrogian
รางวัล Caldercott Medal ปี 1971
Wow! เป็นหนังสือที่ (แม่) อ่านมันส์มาก เป็นหนังสือทำนองเล่าเรียงลำดับไป แล้วเรียงลำดับย้อนกลับ เจ้าจิ้งจอกไปขโมยนมจึงโดนตัดหาง มันต้องการหางคืน ญิงชราบอกว่าต้องหานมมาคืนให้ได้ก่อน จิ้งจอกจึงต้องไปขอวัว วัวขอหญ้าตอบแทน จิ้งจอกก็ต้องไปขอหญ้า ... ไล่เป็นทอดๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ ความสนุกในมุมมองของเรา คือ อ่านหนังสือแบบนี้ต้องอ่านเร็ว และเว้นวรรคดีๆ (ถ้าอ่านช้ามันจะ่น่าเบื่อ) ถ้าเว้นวรรคถูกตำแหน่ง ก็จะเข้าใจความหมายได้ไม่ยาก เพราะศัพท์ไม่ยากมากนักสำหรับเด็กวัย 3 ขวบ และภาพประกอบก็ตามเรื่องเป๊ะๆ ...เด็กๆต้องหัดจำความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆด้วย น่าจะเป็นการฝึกสมองที่ดี
ฮูกน้อยขี้แย (Owl Howl)
โดย Paul Friester และ Paul Friester
2-5 ขวบ
ลูกชายฝาแฝดคนนึง (ชื่อกะทิ) เป็นเด็กขี้แย เหมือนเจ้านกฮูกในเรื่องนี้เลย นกฮูกในเรื่องนี้ร้องไห้ ไม่ว่าใครจะมาปลอบใจยังไง มันก็ไม่หยุดร้อง
ขอเล่าประสบการณ์อ่านเที่ยวแรกแล้วกันนะคะ ประทับใจมาก ตอนที่เจ้านกฮูกมันร้องไห้ไม่ลืมหูลืมตา มิ้นทำท่าเลียนแบบกะทิเวลาร้องไห้ให้ดู เจ้าน้ำว้า (คู่แฝด) หัวเราะขำ ส่วนกะทิบอกว่า "ไม่ร้องไห้ ไม่ร้องไห้" (คงจะอายน่ะค่ะ) กะทิจะบอกว่าไม่ร้องไห้ทุกครั้งที่แม่ทำท่าร้องไห้ให้ดู............ พอถึงตอนจบ นกฮูกบินไปหาแม่นกฮูก แม่ฮูกกอดฮูกน้อย เราก็ดึงกะทิมากอดบ้าง ทีนี้กะทิก็หยุดโวยวายว่า "ไม่ร้องไห้" แล้ว ยิ้มกว้างเลย ...แม่นกฮูกถามว่า "ร้องไห้ทำไมจ้ะลูก" เราสามคนแม่ลูกก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันร้องทำไม ก็รีบพลิกไปดูคำตอบหน้าสุดท้าย ...
... ฮูกน้อยตอบว่า "หนูลืมไปแล้วจ้ะ" ....ได้ยินแล้วขำกลิ้ง หัวเราะกันไม่หยุดสามคนแม่ลูกเลย ...เลยตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนี้กลับบ้านทันที มาค้นดูในเนท จึงทราบว่ามีขายเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษด้วย
Tags:
© 2025 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by