เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

+++รวบรวมขั้นตอนการสอนลูกวัยทารกถึงวัยหัดเดินอ่านหนังสือให้ "ออก" ก่อนเข้าโรงเรียน+++

สวัสดีค่ะ วันนี้แม่เจคอบเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ โดยการรวบรวมประสบการณ์สอนเด็กอ่านหนังสือออกเป็นขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนจบ และการต่อยอดหลังจากที่ลูกอ่านหนังสือออกได้


วิธีการสอนเด็กอ่านหนังสือในปัจจุบันนี้มีหลายวิธีมาก ตามนี้เลยค่ะ

วิธี whole word/sight reading or looksay method ของ Glen Doman หลักปฎิบัติอย่างย่อๆคือ ดูบัตรคำแยกเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มผลไม้ กลุ่มสัตว์ ให้ดูบัตรคำอย่างเดียว ห้ามสะกด ห้ามดูรูป ดูสามกลุ่มต่อวัน กลุ่มละห้าคำ วันละสามครั้ง แต่วิธีนี้ห้ามทดสอบ ห้ามถามว่าคำนี้อ่านว่าอย่างไร

วิธี โฟนิคส์ของ Rudolph Flecsh ผู้เขียนหนังสือ Why Johnny Can’t Read หลักการคือต้องรู้จักเสียงก่อน จากนั้นก็ผสมคำ อ่านออกเสียง เขียนคำ ห้ามเดาคำ แยกคำเป็นกลุ่มโดยดูจากเสียงสระ เช่นกลุ่ม short a เสียง เเอ๊ กลุ่ม short e เสียง เอะ วิธีนี้เน้นทดสอบไม่รู้จริงก็ต้องทำแบบฝึกหัดต่อจนอ่านได้ก่อนที่จะเริ่มกลุ่มต่อไป

วิธี whole words + Phonics ของ Larry Sanger ผู้ก่อตั้ง wikipedia (ความจริงตอนที่เราเอาวิธีเค้ามาใช้นั้นก็ไม่รู้ว่าเค้าเป็นใครเพราะเค้าใช้ล็อกอิน) วิธีนี้ ดูทั้งคำ ทั้งรูป ออกเสียงสะกดด้วย เดาคำได้ไม่เป็นไร
ดูวันละครั้งสองครั้งหรือแล้วแต่สะดวก


หลังจากที่ทำความเข้าใจกับทั้งสามวิธี จขกทเลือกวิธีที่สามค่ะ เพราะเชื่อว่าถ้าเราเลือกจุดเด่นของสองวิธีแรกมาปรับใช้ให้เหมาะกับลูกเรา ผลที่ได้น่าจะดีกว่าการใช้วิธีเดียวเเบบสุดโต่ง อีกอย่างวิธี whole word มันก็มีข้อเสียคือเด็กๆที่เรียนอ่านหนังสือจากวิธีนี้บางส่วนจะอ่อนการสะกดคำ ส่วนวิธีโฟนิคส์แบบ 100% ก็คงจะไม่เหมาะกับเด็กเล็กที่อายุยังไม่ถึงขวบหรือสองขวบด้วยซ้ำ ดังนั้นวิธีที่สามน่าจะลงตัวสุดๆ

จุดเริ่มต้นของการสอน – วิธี Sight Words และสื่อที่ใช้สอน

ตอนนั้นลูกชายอายุ 15 เดือน เราเริ่มสอนด้วยวิธีการ sight words ก่อน เพราะว่าลูกยังเล็กมาก ยังพูดหรือออกเสียงไม่ได้ วิธีที่เหมาะสมที่สุดคือวิธีนี้ เราเริ่มจากการทำบัตรคำด้วยตนเอง โดยอาศัยวิธีการจากหนังสือ How to Teach Your Baby to Read ของ เกล็น โดแมน ตอนแรกที่เริ่มทำ เราเริ่มเจอปัญหาคือ ต้องเตรียมอุปกรณ์เยอะ ต้องมานั่งทำบัตรคำ จัดเก็บ และบันทึกว่าลูกดูคำไหนไปแล้วบ้าง ปัญหาหลักที่เจอคือลูกชายไม่ชอบดูบัตรคำเอาซะเลย ทั้งๆที่เราก็ทำทุกอย่างตามที่หนังสือบอกมา มีข้อมูลแน่นปึ๊ก แต่เจ้าลูกชายพอเจอบัตรคำก็จะหันหน้าหนี หรือทั้งเคี้ยว จับอม ในที่สุดก็ทำต่อไม่ไหว และต้องหาวิธีใหม่มารับมือกับลูกชาย


หลังจากได้หาข้อมูลจากเวบบอร์ด และบล็อกของแม่โฮมสคูล เราได้มาเจอเวบ Brillkids และได้รู้จักกับโปรแกรม Little Reader นอกจากนั้นก็ดีวีดีที่เป็นที่นิยมกันคือ You Baby Can Read เราก็เปรียบเทียบโปรแกรมสองชุดนี้ แล้วตัดสินใจลงตัวกับ Little Reader เพราะว่าเป็นโปรแกรมที่ใช้ได้ไม่มีจำกัด ต่อเติม ตกแต่ง สร้างบทเรียนเองได้ ทำบัตรคำ ปริ๊นต์บัตรคำได้ และมีหลักสูตรสำเร็จรูปให้เราได้เอามาสอนลูกอีกเป็นเวลาหนึ่งปี ถ้าเราซื้อดีวีดี ลูกดูจบแล้วก็จบเลย เอาไปต่อยอดไม่ได้ เลยใช้ Little Reader แค่อย่างเดียว

ตอนแรกก็กังวลเหมือนกัน ว่าลูกยังเล็กนัก จะให้ดูคอมพิวเตอร์ได้หรือ แต่พอได้โหลดโปรแกรมมาทดลองใช้ ก็รู้ว่า ตัวบทเรียนใช้แวลาน้อยมากๆ ในหนึ่งวัน ลูกดูบทเรียนสองรอบ รอบละไม่เกินห้านาทีด้วยซ้ำ อีกอย่างจอคอมเราเป็นจอแบน อัตราการรีเฟรชสูง
ทำให้มีอันตรายน้อยกว่าจอนูนแบบเก่า แถมเจ้าลูกชายก็ชอบดูโปรแกรมมากๆ หลังจากที่เมินบัตรคำ พอมาเจอ Little Reader ร้องให้ขอดู ปิดไปก็ร้องทันทีค่ะ พอให้ดูมาได้ระยะหนึ่ง ลูกชายอายุ 1.11 ขวบ ก็เริ่มอ่านคำแรกให้ฟัง ยังจำได้ดีว่า คำแรกที่ลูกอ่านได้คือคำว่า Truck พอเริ่มอ่านคำแรกได้ คำอื่นๆก็เริ่มมา พอลูกอายุ 2.2 ขวบก็เริ่มอ่านประโยคง่ายๆในบทเรียนได้

หลักสูตรของ Little Reader จะแบ่งออกเป็นสองเทอม เทอมละ 130 วัน รวมทั้งหมด 260 วัน เด็กจะเริ่มเรียนอ่านคำเดียวก่อน จากนั้นก็คำคู่ วลี ประโยค จนสุดท้ายก็เริ่มเรียนอ่านนิทาน หลักๆแล้วหลักสูตร Little Reader เป็น sight words แต่มีเพิ่มโครงสร้างโฟนิคส์ด้วย ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ของหลักสูตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่น่าสนใจเพราะเด็กจะได้เรียนโฟนิคส์ไปด้วยในตัว

นี่เป็นวิดิโอลูกชายอ่านประโยคจากบทเรียน Simple Sentences ของ Little Reader ตอนอายุได้ 2 ขวบกับสองเดือนค่ะ

ช่วงที่สอง – เริ่มสอนโฟนิคส์

หลังจากที่ลูกดู Little Reader มาได้ระยะหนึ่ง เราก็เริ่มสอนโฟนิคส์ให้ลูก ตอนนั้นลูกชายอายุได้ 18 เดือน เริ่มชอบเลียนเสียง ทำเสียงต่างๆได้ เราเลยเริ่มสอนโฟนิคส์ วิธีสอนของเรา

เราสอนผ่านการเล่นเกม เพลง วิดิโอยูทูป และที่สำคัญที่สุดคือ ดีวีดี LeapFrog The Letter Factory เวลาที่ลูกดูดีวีดี เราจะนั่งดูกับลูกด้วยทุกครั้ง เพราะเราเองก็ไม่แม่นโฟนิคส์เท่าไหร่ พอได้ดูกับลูกก็เริ่มจำเสียงได้ จำได้พร้อมๆกับลูกนั่นเองค่ะ นอกจากจะดูดีวีดีแล้ว เรายังเล่นเกมต่อพัสเซิลกับลูก เวลาลูกต่อตัว a เราจะพูด a แอ แอ๊ปเปิล ตัว b ก็ b เบอะ บาสเก็ต ทำอย่างนี้ทุกครั้งที่ต่อตัวอักษรค่ะ แล้วก็มีร้องเพลงโฟนิคส์ จำมาจากยูทูปแล้วก็มาร้องเล่นกันสองคนกับลูกชาย ลูกชายจำเสียงตัวอักษรได้ทุกตัว เมื่อตอนอายุประมาณ 20-21 เดือนค่ะ ใช้เวลาในการสอนแค่สองถึงสามเดือนเท่านั้นเอง พอลูกเราจำเสียงได้ เราก็เริ่มสอนลูกผสมคำ เราเอาแบบฝึกหัดมาจากหนังสือ Why Jonny Can’t Read ใช้ Little Reader ทำบัตรคำแล้วก็ปริ๊นต์ออกมากให้ลูกดู แต่ค่อนข้างลำบาก เพราะลูกไม่ชอบดูบัตรคำ แถมกฎของการสอนแบบนี้ลูกต้องอ่านคำนั้นๆออกก่อนที่เราจะเริ่มให้อ่านคำใหม่ได้


ช่วงแรกที่ผสมคำ ทำไปแบบช้ามากๆ ลูกเองก็ยังพูดไม่ได้ กว่าจะผ่านได้แต่ละชุดใช้เวลาเป็นเดือนค่ะ วิธีที่เราใช้ทดสอบว่าลูกอ่านได้ไหมคือ การให้เค้าเดินไปหนิบคำที่เราต้องการทดสอบ ถ้าหยิบถูกห้าครั้งติดกัน หรือหยิบถูกทุกครั้งที่ถาม แสดงว่าอ่านได้ ก็จะข้ามไปคำต่อไป


เราทำแบบนี้มาเรื่อยๆ จนเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ คุณ Larry Sanger ทำเวบสอนผสมคำด้วยโฟนิคส์เสร็จ เราก็เลยไม่ต้องทำบัตรคำเองแล้ว เข้าเวบนี้อย่างเดียวเลยค่ะ เวบที่ว่าคือ Reading Bearฟรีด้วยค่ะ ดีมากๆค่ะ


ณ วันนี้ ลูกชายเราอายุ 2.11 ขวบ อ่านหนังสืออก ผสมคำเป็น แยกรหัสโฟนิคส์ได้ และคิดว่าน่าจะทำได้ในระดับเดียวกับเด็ก Grade 1
ค่ะ

วิดิโอ ลูกชายออกเสียงโฟนิคส์ตอนอายุ 1 ขวบ 8 เดือนค่ะ


ขั้นตอนสุดท้าย – อ่านหนังสือเป็นเล่มได้แล้ว

เราให้ลูกดู Little Reader ต่อมาเรื่อยๆ และในเวลาเดียวกันก็สอนโฟนิคส์ตามวิธีข้างบน ทำเรื่อยๆมาจนในที่สุดลูกก็จบหลักสูตรของ Little Reader ผลที่ได้คือ ลูกอ่านหนังสือเป็นเล่มได้แล้ว อ่านแบบอ่านได้จริงไม่ใช่จำเอาจากหนังสือที่เคยให้ฟังบ่อยๆ ลูกอ่านคำที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ และตอนนี้ก็ชอบอ่านหนังสือ ทั้งชอบอ่านเองและขอให้แม่อ่านให้ฟัง

ผลพลอยได้อีกอย่างคือ Little Reader เป็นการสอนแบบแฟรช ช่วยกระตุ้นสมองซีกขวา เราคิดว่าช่วยให้ลูกเราจำอะไรได้ดีและเร็วด้วยค่ะตอนนี้เรียนจบแล้ว เราก็ยังใช้ Little Reader อยู่ เราเอามาสอนวิชาอื่นด้วย เช่นภาษาต่างประเทศ เลข ความรู้สาราณุกรม และก็การสอนอ่านภาษาไทยค่ะ เราแปลหลักสูตรเป็นภาษาไทยแล้วเอามาให้ลูกดูอีกที

ในห้องสมุดออนไลน์ของ Little Reader มีไฟล์ให้ดาวน์โหลดเป็นพันๆไฟล์ เราเลือกเนื้อหาที่เราสนใจ หรือลูกสนใจ แล้วเอามาให้ลูกดู นอกนากนี้เราก็แต่งหนังสือเอง เอาสิ่งของรอบตัวลูกมาทำเป็นหนังสือ แล้วให้ดูผ่าน Little reader ซึ่งก็เป็นการอ่านแบบขั้นสูงขึ้นมานิดเมื่อเทียบกับเนื้อหาของหลักสูตร นอกจากนี้ลูกก็ยังคงได้ดู Reading
Bear
อยู่ทุกวัน เพราะเป็นขั้นต่อยอด และเริ่มผสมคำที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

 

 

ลูกชายอ่านหนังสือที่แม่ทำให้




Views: 5978

Replies to This Discussion

สวัสดีค่ะ แม่เกดน้องยูโรน่ะคะ่ พอดีตาม กระทู้จาก พันทิพ มา มีแม่คนนึงไปโพสวิธีการสอนลูกแล้วก็ link หน้านี้มาให้อ่าน อยากจะบอกว่าสนใจมากเลยค่ะ แต่น้องสองขวบแล้ว จะสายไปมั้ยเอ่ย ถ้าจะมาเริ่มฝึกเหมือนน้องเจคอบ เพราะไม่น่ิงเลยยย เหมือนที่คุณแม่เจคอบบอก ฮ่าๆๆ แต่ก็ยังอยากจะลองสอนดูน่ะค่ะ 

ปล เข้า  blog ไปอ่านไม่ได้อะค่ะ link ผิดป่าวอะค่ะ อยากตาม blog มากเลยค่ะ 

สองขวบ ไม่สายค่ะแม่เกด ยังใช้ได้อยู่ค่ะ และยังไม่สายเกินไปค่ะ....บล็อกที่อัพเดทเป็นบล็อกนี้นะคะ

 

http://imjakob.wordpress.com ค่ะ

ขอบคุณมากน่ะค่ะ

ปล สงสัยจังค่ะ คือว่าถ้าสั่งทางเนท ชุด delux แล้วเค้าส่งจากเมืองนอกมาเหรอค่ะ คิดค่าส่งยังไงอะค่ะ มีโดนภาษีป่าวอะค่ะ เพราะเห็นเค้ามีหนังสือด้วย คือไม่เคยสั่งซื้อผ่านเนทอะค่ะ พอแนะนำได้มั้ยค่ะ

ใช่ค่ะ สั่งจากฮ่องกงค่ะ...ส่วนใหญ่แล้วจะไม่เสียภาษีกัน ที่เคยถามๆมา ถ้าเสียก็จะประมาณ 300-500 บาทค่ะ

รายละเอียดราคาและส่วนลด ดูที่

 

http://www.facebook.com/brillkidsthai

 

ชุดดีลักซ์ราคาเต็ม $250 ลด 15% เหลือ $212.50 และค่าส่งไปเมืองไทย $25.38 ค่ะ

ชำระผ่านบัตรวีซ่า มาสเตอร์การ์ด หรือไม่ก็ paypal ค่ะ

 

แอ๋วรับชำระผ่าน paypal ด้วยค่ะ.แต่ว่ารอเอาเเบ๊งค์ไปผูกกับ paypal อยู่ค่ะ คงสักอาทิตย์ถึงจะสั่งได้

แต่ถ้าแม่เกดจะสั่งเอง เดี๋ยวจะบอกวิธีการสั่งเป็นขั้นตอนให้ได้ค่ะ... ^_^

กำลังจะโหลด trial version มาลองเลยคะคุณแอ๋ว คุยกับคุณแอ๋วมาพักนึงแล้วเพิ่งจะได้ฤกษ์ทดลอง 555 แต่โอ๋ซื้อ DVD leapfrog ที่คุณแอ๋วแนะนำมาแล้วนะคะ เกรซชอบมากๆ คะ ขอดูวันละหลายรอบเลย ตอนนี้เริ่มออกเสียงตามได้หลายตัวแล้วคะ แม่ก็ชอบเรียนไปพร้อมกับลูก พี่เลี้ยงก็แอบเรียนออกเสียงตามตอนช่วยดูน้องด้วยคะ คุ้มจริงๆ 555

 

อ่อ ถามนิดนึงคะเห็นคุณแอ๋วมีใช้ flash card ของ leapfrog สอนน้องเจคอบด้วย หาซื้อได้ที่ไหนเหรอคะ ราคาประมาณเท่าไหร่คะ ใช้ดีมั๊ยคะ อยากได้บ้างคะ

แอ๋วได้มาฟรีพร้อมชุดดีวีดีที่ซื้อจาก amazon  ค่ะคุณโอ๋

ชุดที่แอ๋วซื้อเป็น box set มีดีวีดี 3 เเผ่น (The Letter factory, Talking Word Factory, Let's Go to School) ได้บัตรคำแถมมาด้วยค่ะ...ไม่รู้เหมือนกันว่าเมืองไทยหาซื้อได้ที่ไหน.....

 

ถ้าพี่เลี้ยงออกเสียงด้วยนี่ดีเลยค่ะ ให้เป็นตัวช่วยสอนน้องอีกแรง สอนพี่เลี้ยงใช้ Little Reader นะคะ จะได้พาน้องดูได้ด้วย อิอิ

ว๊า...เสียดายจัง ไม่ทราบมาก่อนว่ามีบัตรคำแถมให้ด้วย โอ๋ซื้อ 2 แผ่นตามที่คุณแอ๋วแนะนำมาแล้ว แบบนี้เราโหลดจาก Brillkids มา apply แทนได้มั๊ยคะ

 

อ้อ...แวะมารายงานคุณแอ๋วคะว่าเมื่อคืนโหลดตัว trial ของ LR มาแล้วคะ เอาให้เกรซดูเมื่อเช้านี้ คุณเธอชอบมากคะ ดูจบ session แรกของ Day 1 แล้วบอก "เอาอีก" ระหว่างที่ดูก็พูดตามคะ พอเค้าถามถึงส่วนต่างๆ ของร่างกายก็เอามือจับตามคะ แต่โอ๋ก็ไม่ได้ให้ดูซ้ำนะคะ รอให้ดู session ที่ 2 ตอนเย็นอีกรอบคะ ถ้าจำไม่ผิดเค้าแนะนำว่าให้ดูแต่ละ session แค่รอบเดียวรึเปล่าคะ ถ้าลูกชอบเราให้ดูซ้ำได้มั๊ยคะ อีกคำถามนึงคะ ตัว trail นี่มันมีแค่ 9 วันแต่เราทดลองใช้ได้ถึง 14 วัน ถ้าเราดูจบ 9 วันแล้วเราวนมาดูซ้ำใหม่ได้มั๊ยคะ

 

คำถามสุดท้ายคะ โอ๋ยังงงๆ กับการโพสต์การใช้งานใน Brillkids อยู่คะ คือโอ๋อยากจะส่งเมล์ถามเค้าเรื่องการสั่งซื้อ LR Deluxe แล้วให้เค้าส่งไปที่อยู่ที่ HK แทนเมืองไทย (แบบว่าอยากประหยัดค่าส่งหนะคะ) ตอน register โอ๋ได้รับคล้ายๆ กับ welcome message จาก Lappy โอ๋เลย reply อันนั้นไปถามเค้าเรื่องการส่งของ แต่ไม่เห็นเค้าตอบเลยคะ ไม่แน่ใจว่าควรจะติดต่อเค้าผ่านช่องทางไหนดีคะ รบกวนคุณแอ๋วช่วยแนะนำด้วยคะ

 

ขอบคุณมากๆ คะ

คุณโอ๋ สงสัย Lappy คงหลับอยู่ค่ะ ฮ่าๆๆ

ส่วนเรื่องส่งไปฮ่องกง ง่ายมากๆ ก็ตอนที่สั่งซื้อแค่ใส่ที่อยู่ที่ฮ่องกงเท่านั้นเองค่ะ แค่นี้ของก็จะไปส่งให้ตามที่อยู่แล้วค่ะ ติดต่อกับบิลคิดส์โดยตรงได้ที่ support@brillkids.com

 

ส่วนเรื่องให้ดูเกินกว่าสองรอบ อันนี้แล้วแต่พ่อแม่ค่ะ แอ๋วไม่ให้ดูค่ะ แอ๋วกลัวเบื่อเพราะมันต้องสอนกันนานมากกก เป็นปีกว่าจะจบหลักสูตร เลยไม่ให้ดูแบบตามใจฉัน  ลูกจะได้รู้สึกว่าโปรแกรมเป็นสิ่งพิเศษ เจคอบตอนนี้ดูมาจนจบหลักสูตรไปแล้ว ยังติดโปรแกรมอยู่ค่ะ

 

ส่วนโปรแกรมทดลอง พอครบ 14 วันแล้วมันจะกลายเป็นสีเทาค่ะ ล็อกไปเลย เล่นต่อไม่ได้เเล้วค่ะ

คุณแอ๋วค่ะ ตอนนี้น้องโชกุนอายุ 1.8ขวบแล้วเริ่มเลียนเสียงได้ดี ทำตามคำสั่งได้บ้าง ไม่เคยสอนบัตรคำ ใช้แต่คุยรูปประโยคชีวิตประจำวันทั่วไป สามารถนำโปรแกรมนี้มาใช้ได้อยู่ใช่ไหมค่ะ

ส่วนที่ให้ทดลองใช้คือใช้ได้ 14 วันนับตั้งแต่ที่สมัครทดลองหรือว่าเข้าไปใช้โปรแกรมได้ 14 วัน (แบบ วันเว้นวันอ่ะค่ะ) พอดีเป็นพยาบาลไม่ค่อยมีเวลาแน่นอนบางวันแทบไม่ได้เห็นหน้าลูกเลย เลยถามเผื่อไว้ก่อนนะค่ะ แล้วหลัง 14 วันต้องซื้อเลยหรือว่าเข้าไปซื้อไหมได้ค่ะ คืออยากหาคนมาช่วยแชร์อยู่อะค่ะ

ไปเลือกดู leapfrog ที่ amazon เยอะมากไม่รู้จะเลือกตัวไหนดี ขอคำแนะนำด้วยค่ะแม่แอ๋ว น้องชอบร้องเพลงและเต้นมาก ชอบเลียนเสียงต่าง ๆแล้ว

ชุดนี้เวิร์คสุดค่ะ อันเดียวกับที่แอ๋วมีเลยค่ะ มีบัตรคำด้วยค่า
http://www.amazon.com/LeapFrog-Learning-DVD-Set/dp/B002LYD2M6/ref=s...

ส่วนเรื่องไม่มีเวลา little reader ใช้เวลาน้อยมากๆ ไม่เกินห้านาทีต่อหนึ่งบทเรียนค่ะ
โปรแกรมทดลอง ถ้าโหลดมาแล้วพอครบ 14 วันก็จะใช้ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะระบบจะจำไอดี และไอพีเราได้ มันจะล็อกไปเลยค่ะ ถ้าอยากใช้ต่อก็ต้องซื้อโปรอกรมจ้า

ขอบคุณมากค่ะ จะไปทดลองใช้แล้วก่อนค่ะ ส่วนleapfrog คงจะฝากพี่ปักเป้าซื้อให้ค่ะ (รบกวนเค้าไปหมด) แล้วอาจจะสอบถามเกี่ยวกับบทเรียนด้วยนะค่ะ ชื่อ ณินนะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service