เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

เป็นหนังสือที่พูดได้เลยว่า ต้องอ่าน ค่ะ
ส่วนเด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ ไม่ต้องพูดถึง จำเป็นต้องอ่านเป็นอย่างยิ่งค่ะ

Views: 934

Replies to This Discussion

เล่มนี้ก็เป็นคัมภีร์จริงๆค่ะ
คุณแม่ทุกคนควรอ่าน จะได้เป็น road map ในการเลี้ยงลูกค่ะ
แอนก็ได้อ่าน ต้้งแต่มีหลานคนแรก จน หลานคนที่สาม
และลูกเราเป็นคนที่สี่ ตอนนี้ก็ยังคงนำหลักการมาใช้อยู่อย่างไม่เสื่อมคลายจ้ะ

ขอบคุณที่นำมาแนะนำนะคะ
รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว....หนังสือคลาสสิกครับ
อ่านเล่มนี้เสร็จก็ต้องอ่าน คุณคือครูคนแรกของลูก
แปลจาก You Are Your Child's First Teacher
เขียนโดย ราหิมา บาลด์วิน แปลโดย สุวรรณา โชคประจักษ์ชัด
เป็นหนังสือให้ความรู้คุณพ่อคุณแม่ ในการเลี้ยงดูเด็ก และเป็น
หนังสือคลาสสิก สไตล์ วอลดอร์ฟ ของผมครับ.....
ต้องไปหามาอ่าซะแล้ว เห็นหลายคนพูดถึง
ค่ะ ครอบครัวของน้องยีน ก็ยึดหลัก วอลดอร์ฟ มาใช้ค่ะ
เขียนจาก หนังสือ คุณคือครูคนแรกของลูก หน้า 450
แม้หลักสูตรของวอลดอร์ฟเริ่มสอนให้เด็กอ่านช้า แต่สำหรับคณิตศาสตร์ไม่เป็นเช่นนั้น
การบวก ลบ คูณ และหารเริ่มสอนตั้งแต่ประถมหนึ่ง หากสอนให้เด็กคิดอย่างมีจินตนาการ
ตัวอย่าง นิทานเรื่องสี่ณอมพี่น้อง ซื่งได้แก่ นายบวกอ้วนพีและร่าเริงกับข้าวของในกระเป๋าของเขา
และนายลบผอมและเศร้าสร้อยเพราะ เพชรพลอยที่เขาเก็บมักหล่นจากถุงที่มีรู เป็นต้น

เด็กคิดเลขจากภาพรวมทั้งหมดแล้วลงสู่ส่วนย่อย เช่น ตอนแรกเขามีลูกเกาลัด หรือ
เปลือกหอยอยู่ทั้งหมด 8 ลูกซึ่งก็คือ 1 บวก 7 หรือ 2 บวก 6.....
และเมื่อคณิตศาสตร์สอนด้วยจินตนาการและสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นนี้ เด็กก็เรียนรู้อย่างมีความสุข

ปล.ภาพนี้แนะนำจากคุณ nookjung
คุณคือครูคนแรกของลูก-เล่มนี้ซื้อมาได้สองปีแล้วค่ะ...อ่านแค่บทนำก็ร้องไห้แทบเป็นแทบตาย เลยต้องวางไปก่อน (บ้าแน่ๆ เรา) เห็นทีได้ฤกษ์ ตั้งสติกลับไปหยิบมาอ่านอีกครั้ง ส่วนอีกเล่มของครูสุวรรณาที่กำลังตามอยู่คือ เลี้ยงลูกด้วยสัญชาตญาณ (ไม่แน่ใจว่าออกมารึยัง น่าสนใจมากๆ)

ขอบคุณนะคะ
อ่านยากจริงๆ ครับ เข้าใจว่าเป็นหนังสือแปล โดย
ใช้สำนวนการแปลจากอังกฤษเป็นไทย..หนังสือ
ก็หนา นิ้วกว่าๆ ทำให้ต้องใช้สมาธิในการอ่านพอควร...ขอบคุณครับ
แนววอลดอฟต่างกับแนวมอนเตสยังไงคะ ไม่ค่อยทราบแนวนี้เท่าไหร่เห็นคุณตงพูดมาก็เลยอยากถามเป็นการส่วนตัวคะ
บางอย่างก็okeyน่ะครับ แต่บางอย่างก็แล้วแต่จะทำความเข้าใจ คุณอิบุกะผู้เขียนได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากมาจากอาจารย์ซูซูกิครูสอนดนตรี ซึ่งจริงๆอาจารย์ซูซูกิก็จัดเป็นworld class music teacher ในแนวคิดของอาจารย์ซูซูกิบางอย่างผมว่าก็หนักไปสำหรับเด็ก แต่ที่เป็นคุณูประการเลยก็คือเรื่องการสอนเรื่องภาษาแม่นี่ละครับ เพราะอาจารย์ซูซูกิใช้วิธีสอนไวโอลินแบบการเลียนแบภาษาแม่คือให้ฟังจนเป็นธรรมชาติของเด็กก่อนแล้วค่อยเล่นดนตรีตามแบบที่ตัวเองได้ยิน หมู่บ้านสองภาษาเราก็เลยได้มีโอกาสติดตามแนวคิดนี้ด้วย แต่ที่ว่าเด็กพร้อมรับข้อมูลทุกอย่างที่บรรจุไปให้นั้นก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเหมาะกับเราหรือเปล่าเพราะที่สิงค์โปร์ จีน และที่ญี่ปุ่นเองด้วย เด็กๆก็อาการหนักพอกัน เพราะแนวทางของคุณอิบุกะค่อนข้างบีบบังคับน่ะครับ ข้อสำคัญการเล่นคือการเรียนรู้ที่ดีที่สุดของเด็ก ก็คงยากนิดนึงที่จะผสมผสานให้พอดีนะครับ แต่ยังไงก็แล้วแต่"กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว"ก็ยังเป็นหนังสือที่น่าอ่านและควรมีเก็บไว้อยู่ดีละ่ครับ
ใช่ค่ะ เรื่องดนตรีก็เหมือนกันค่ะ ตอนนี้น้องยีนสามารถเล่นไวโอลินได้แล้ว โดยที่เค้าเลียนแบบจากคุณพ่อเค้าค่ะ
พอเห็นพ่อเค้าเล่น เค้าก็หยิบขึ้นมาเล่นค่ะ เคยเอาคลิปมาลงในสองภาษาด้วยค่ะ แต่ตอนนั้นเค้าเพิ่งเล่นเป็นครั้งแรกคะ
รอให้ถึงอนุบาลก็สายเสียแล้วกับคุณคือครูคนแรกของลูก แนวคิดต่างกันคนละขั้วเลยนะคะ ตามความเห็นของตนเองคิดว่าทางสายกลางน่าจะดีค่ะ
บางอย่างก็ต้องใจเย็น รอให้งอกงามตามวัย อ่านหนังสือของหนูดีที่คณอ๊อบแนะนำเข้าท่าดีค่ะ มีเรื่องในวัยเด็กของอาชญากรคนหนึ่ง ได้ข้อคิดทีเดียวค่ะ

ตอนกุ้งท้องนู๋ลิตา แม่หยิบหนังสือจากห้องเก็บหนังสือมาให้อ่าน.....

 

หน้าแรกมีลายเซ็นต์เขียนกำกับไว้ แล้วก็ .......25/01/30 ค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service