เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

กระทู้ นี้ตั้งใจว่าจะทำให้เป็นกระทู้ สำหรับเรียนภาษาอังกฤษจากเพลงนะครับ

 

เพลงนี้เป็นเพลงแรก ที่ผมเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ตอนสมัย อยู่ ม.4 เก่ามาก ครับ แต่ใช้ภาษาง่ายๆครับ

 

ลองดู นะครับ

 

Handy Man - James Taylor

 

Hey girls, gather round, listen to what I'm putting down.
Hey babe, I'm your handy man.
I'm not the kind to use a pencil or rule, I'm handy with love and I'm no fool,
I fix broken hearts, I know that I truly can.

If your broken heart should need repair, then I'm the man to see.
I whisper sweet things, you tell all your friends, they'll come running to me.

Here is the main thing I want to say, I'm busy 24 hours a day.
I fix broken hearts, I know that I truly can.
Comma, comma, comma, com, com, yeah, yeah, yeah.
Comma, comma, comma, com, com, yeah, yeah, yeah, they'll come running to me.

Here is the main thing I want to say, I'm busy 24 hours a day.
I fix broken hearts, I know that I truly can.
Comma, comma, comma, com, com, yeah, yeah, yeah.
Comma, comma, comma, com, com, yeah, yeah, yeah

 

Views: 3686

Replies to This Discussion

ฝากไว้สักเพลงแล้วกันครับ สำหรับเพลง Scarborough Fair เป็นอีกหนึ่ง version จาก Celtic Woman (ชอบวงนี้เป็นการส่วนตัว)


คำแปล copy เค้ามาอีกทีครับ ความหมายลึกซึ้งเหลือเกิน

Scarborough Fair เป็นชื่อของชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากงาน Scarborough Fair ในประเทศอังกฤษค่ะ ซึ่งตอนนี้งาน Scarborough Fair ไม่หลงเหลือให้เห็นอีกต่อไปแล้ว แนวดนตรีฟังง่าย ๆ สบาย ๆ สไตล์เพลงคันทรีของอังกฤษเขา เป็นเพลงโฟล์คซองที่ถือกำเนิดขึ้นในยุค'60 หรือยุคแสวงหาของอังกฤษ ที่เป็นยุคแห่งการเรียกร้องเสรีภาพ ความเสมอภาค

บทเพลงนี้เลยถูกแต่งขึ้นด้วยถ้อยคำและภาษาของบทกวีที่ลึก ซึ้ง แต่แฝงไปด้วยความหมายในการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ในเนื้อเพลงและเสียงบรรเลงของดนตรี

ความหมายของสมุนไพรเท่าที่ทราบ
parsley ; I'm yours ฉันเป็นของเธอ
sage ; I'm dependable " อิสระ
rosemary ; Remember me จงจดจำฉัน
thyme ; I want to have children with you ประโยคนี้ขอไม่แปล อิอิ

ความหมายคือ การใช้สมุนไพร ชายหนุ่มต้องการให้รักแท้ ของเขานั้นบรรเทาความขมขื่น ระหว่างเขาและหล่อน มีความมั่นคงในยามที่ต้องพลัดพราก ภักดีซื่อตรงต่อกัน ในยาม (โดดเดี่ยว) และเคว้งคว้าง และมีความเข้มแข็งพอที่จะเติมเต็มให้กันเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนาม..

นอกจากนี้เนื้อเพลงยังพูดถึง...ความ รักระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว ที่ชายหนุ่มอยากให้หญิงสาวจดจำเขาซึ่งเป็นคนรัก อยากให้เธอช่วยเย็บเสื้อผ้าลินินให้แก่เขาด้วยมือ โดยไม่ต้องคำนึงถึงตะเข็บอันสวยงาม...ซึ่งถ้าเธอทำให้แก่เขาได้ก็หมายถึงเธอ รักเขามากนั่นเอง
โฮกกกก... เอาอีก-เอาอีก..
ติดใจห้องขอนแก่นแล้วอะ
55555++++
มาเลยครับ....มีอะไรอยากเพิ่ม-แนะนำ-ติชม-เข้ามาเลยครับ...
Tracy Chapman

เกิดเมื่อ 30มีนาคมปี 1964 เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ชาวอเมริกัน ในแนวfolk ที่มีกลิ่นอาย ของRock และR&B ด้วย เกิดที่คลีฟแลนด์ มลรัฐโอไฮโอ และเริ่มเล่นกีตาร์ตั้งแต่วัยเด็ก และแต่งเพลงไปพร้อมๆกัน..เธอได้รับการส่งเสริมในฐานะทรัพยากรมนุษย์ที่มีพรสวรรค์ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์เป็นเลิศในกลุ่มผิวสี จึงได้รับการสนับสนุนให้ไปศึกษาต่อที่Wooster School ในคอนเนคติกัต และไปศึกษาต่อที่Tufts University เมดฟอร์ด รัฐแมสสาชูเสททส์ ระหว่างที่รับการศึกษาเธอก็เล่นคนตรี ในร้านอาหาร ในเคมบริดจ์..แมสสาชูเสททส์..เมื่อจบจากวิทยาลัยก็ทำสัญญากับSBK Records

ในช่วงสหัสวรรษที่20 Tracy Chapman น่าจะเป็น นักร้องหญิงผิวดำ คนเดียวของ สังคมอเมริกา ที่พูดถึง ชีวิตความเป็นอยู่ของคนผิวดำ
ในสังคมบริโภคนิยมเต็มตัวแบบอเมริกัน พูดถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พูดถึงความไม่เป็นธรรมที่คนดำไม่ได้รับในโลกเสรีแบบอเมริกา ที่บอกคนอื่นว่าตัวเองคือแบบอย่างของความเท่าเทียมกันของมนุษย์ แต่ความจริงไม่ใช่

ในช่วงแรกๆของเธอ เธอต้องไปรอเพื่อเป็นนักดนตรีแสดงก่อนเวลา ในคอนเสิร์ทของนักร้องที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เธอนั่งรอตั้งแต่เช้าจนดึก โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้แสดงหรือเปล่า มีแค่ กีตาร์ตัวเดียว ไม่มีแบคอัพ ไม่มีคนรู้จัก รอแค่โอกาสที่ใครซักคนมาขึ้นเวทีไม่ทัน เธอถึงจะได้ออกไปร้อง
และโอกาสก็เป็นของ Tracy เมื่อเวลามีเหลือเพราะมีวงๆหนึ่ง เกิดมาไม่ทัน หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง โลกก็รู้จัก Tracy Chapman....

หลังจากนั้นก็เริ่มมีชื่อเสียงจากเพลง Fast Car, Talking about a revolution, Baby can I Hold You, Give Me One Reasonได้รับรางวัล แผ่นแพลทตินัม และรางวัลแกรมมี่หลายรางวัล...ในปี 1988ได้ออกผลงานชุด Tracy Chapman (1988)ซึ่งได้รับความสนใจและได้รับความชื่นชมมากจากนักวิจารณ์ เธอเริ่มออกแสดงดนตรีในที่ต่างๆ เริ่มมีกลุ่มแฟนเพลงมากขึ้นเรื่อย

ร่วมแสดงทางทีวี..เนื่องในโอกาส Nelson Mandela 70th Birthday Tributeในเดือนมิถุนายนปี1988

เพลงFast Car ขึ้นติดอันดับ top10ใน Billboard Hot 100 ต่อมา Talkin' About A Revolution," เข้าอันดับที่75มาติดๆ Baby Can I Hold You," เข้ามา ติดชาร์ตในอันดับที่48 (และเพลงBaby Can I Hold You," มีคณะBoy zone/the Irish boy-band นำมาร้องก็ประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกัน) และอัลบั้มนี้ได้รับความนิยมยอดจำหน่ายดีมากจนได้รับรางวัลแพลทตินัมหลายเพลง ได้รับสี่รางวัลแกรมมี่ พร้อมทั้งได้รับรางวัลในฐานะศิลปินหน้าใหม่อีกด้วยในคราวเดียวกัน..

ได้ไปแสดงในAmnesty International Human Rights Now! Tour.เนื่องจากในเวบไซด์VH1เผยแผ่ แนวคิด ในผลงานของเธอ มีอิทธิพลต่อแนวคิดของหนุ่มสาวที่มีการศึกษาในยุคปลายปี80เป็นอันมาก

ปีถัดมา 1989 ผลงานถัดมาคือ Crossroad(1989) จำหน่ายได้น้อยกว่าชุดแรกเล็กน้อย

ในปี1992 ได้ออกชุด Matter of The Heart ตามมา,และ เธอได้แสดงดนตรีให้คนกลุ่มเล็กๆฟังแต่ก็ประทับใจต่อผลงานของเธอมาก

ผลงานที่ตามมาคือผลงานชุดที่สี ในปี1995 ''New Beginning''ประสบผลสำเร็จมากจำหน่ายได้มากกว่า 3ล้านแผ่นในอเมริกา และในชุดนี้แผ่นซิงเกิลที่ได้รับความนิยมคือ''Give Me One Reasonสามารถคว้ารางวัล1997 Grammy for Best Rock Song:ซึ่งยังได้รับความนิยมต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

ผลงานของเธอต่อมาออกมาในแนวRock มากขึ้นในปี2000 คือ Telling Stories.และเพลงTelling Stories ได้รับการเปิดทางสถานีวิทยุEuropean radio Adult AlternativeและHot ACและหลังจากนั้นออกอัลบั้มชุดที่6 ชื่อ Let It Rain(2002)..และเดินทางแสดงแนะนำเพลงชุดนี้ในยุโรปและอเมริกาในปี2003 ถัดมาในเดือนพ.ค.2004มหาวิทยาลัยTufts University ได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์สาขาศิลปศาสตร์ เเด่Tracy Chapman เนื่องจากมีผลงานที่กระตุ้นเตือนสำนึกเชิงสังคม ในฐานะนักศิลปการดนตรี (In May 2004, her alma mater, Tufts University honored her with an honorary degree of Doctor of Fine Arts, for her contributions as a socially-conscious)

Where You Live..เป็นผลงานชุดที่7 ออกจำหน่ายในเดือนก.ย. ปี2005 และได้มีการจัดการแสดง เพื่อแนะนำผลงานชุดนี้ในอเมริกาและยุโรปในปีเดียวกันนั้นเอง หลังจากนั้นก็ได้จัดแสดง Concert "Where You Live" tours และได้แสดงต่อมาจนถึงปี 2006 ในยุโรป เยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส สวีเดน ฟินแลนด์ นอรเวย์ รัสเซีย

ในเดือนมิถุนายน 2006 ได้แสดงใน The 5th Gala of Jazz in Lincoln Center, New York

Tracy Chapman
มีหลายคนบอกว่าดูหน้าตานักร้องท่านนี้ แล้วไม่อยากฟังเพลงที่เขาร้องเลย
แต่พอมานั่งฟังเพลงและ ทำความเข้าใจกับเนื้อเพลงที่Chapman สร้างสรรค์มานั้น ก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ ว่าทำไมจึงศิลปินท่านนี้จึงตกผลึกทางความคิดและเข้าใจในความเป็นไปของชีวิต โลก การเมือง เศรษฐกิจ เรื่องราวของเด็ก สตรีทั้งในแง่สังคม การกดขี่ทางเพศ การป้อนข้อมูลของสังคมให้กับเด็ก เช่นความโหดร้ายจากเกมส์จากภาพยนตร์ หรือจากยาเสพติด การเหยียดผิว การตกงาน ศาสนาและปรัชญา แม้กระทั่งการหาเสียงของนักการเมือง ความรักของหนุ่มสาว เศรษฐกิจในยุคเงินฝืดในช่วงปี ค.ศ.1980-1989 ในยุคของประธานาธิบดี โรนัล เรเเกนตั้งแต่ปี1980 เป็นต้นมามีRevolution เกิดขึ้นหลายอย่าง เช่นเทคโนโลยี การมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาใช้ ซึ่งเมื่อก่อนมีsupper computer ที่ใช้ในการทหารเท่านั้นมีการใช้Internet อย่างแพร่หลายทำให้โลกของเราแคบลง บุคคลจากสถานที่ไกลๆ ก็สามารถ chat และมองเห็นภาพrealtime ได้ โลกเราแคบลงทุกวัน มีการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ การเมืองที่สำคัญหลายๆอย่างตั้งแต่ปีคศ.1980เป็นต้นมา

บทเพลงที่..ออกมาจึงสะท้อนภาพรวมได้เป็นอย่างดี

บทเพลงที่สะท้อนความรู้สึกต่างๆ เช่น

ความรักแบบหนุ่มสาวเช่น..Baby can I hold you, You are the one,I am yours, Give me one reason, the promise
ความรุนแรงในเด็กที่เกิดจากการถูกครอบงำทางเทคโนโลยี คือเพลงBang Bang Bang
ความรุนแรงที่เกิดกับสตรี..All That you have is your soul
ความคาดหวังที่จะมีโลกใหม่ที่ดีกว่าเดิม..Dreaming on a world, the Rape of the world, new beginning
ศาสนา ปรัชญา..เช่น..Crossroad, wedding story, unsung psalm
การเมืองเศรษฐกิจ ..Talking (a)Bout revolution, telling stories, change,
America เป็นบทเพลงที่พยายามต่อต้านการครอบงำของอเมริกาที่พยายามแผ่ไปทั่วโลก
คาดหวังว่าชีวิตจะดีกว่าเดิมเช่นเพลงFast Car,Subcity
ส่วนใหญ่เป็นบทเพลงที่กระตุ้นสำนึกเชิงสังคม..ซึ่งยอดเยี่ยมมาก.




ผมชอบเพลงนี้ครับ Baby, Can I hold you .

ในระหว่างความสัมพันธ์ของคนสองคน ที่มีความรักให้ต่อกันนั้น บางที ที่มีปัญหาจนต้องเลิกรากันไป ก็เป็นเพราะไอ้ความปากหนัก มีทิฐิสูงกันเสียเหลือเกิน นี่แหละ น่าเสียดายที่หลายคู่ กว่าจะรู้ตัวว่าควรพูด ควรบอกอะไรออกไป มันก็สายเกินแก้เสียแล้ว เวลาคนเราไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน หรือ มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำร้ายจิตใจกัน แค่คำสามคำ ก็อาจจะช่วยให้อะไรดีขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่า มันยากที่จะเอื้อนเอ่ย ออกมาเสียนี่กระไรเลย กับแค่คำว่า

"ขอโทษ"...
"ให้อภัยฉันเถิดนะ"
หรือแม้แต่คำว่า "รัก"

(ในบ้านเรา ก็รณรงค์ เรื่อง คำ 3 คำเช่นกัน “สวัสดีครับ/ค่ะ - ขอโทษครับ/ค่ะ - ขอบคุณครับ/ค่ะ)
ไม่รู้เป็นเพราะว่า มีทิฐิมานะ กันหรืออย่างไร ทั้งๆ ที่ ต่อให้วันเวลาผ่านไปนานแค่ไหน
ความรู้สึกเหล่านี้ ก็จะยังคงอยู่ในใจเสมอ (รักนะ แต่ไม่แสดงออก...555++++)

แล้วเป็นไง ในที่สุด ก็ต้องมานั่งเสียใจ เสียดาย ที่ไม่เอ่ยปากออกไปเสียอย่างนั้น ไอ้คนรอฟัง ก็รอไปเถิดหนา น่าสงสารกันจริงๆ
เอ้า …. ใครไม่อยากเสียใครไป ก็หัด พูดคำหวานๆกันไว้ สำหรับ

ขอโทษ / รัก / ให้อภัยฉันนะที่รัก(ผมผิดไปแล้ว...)


ที่มา : th.wikipedia.org/wiki/เทรซี_แชปแมน
: http://www.youtube.com/watch?v=dkcAiZrKhfc
: www.acousticthai.net/community
เพลงนี้ร้องง่ายค่ะ (กำลังฝึกร้อง) ชื่อเพลง The one you love
ปล. ตอนนี้เครื่องคอมไม่มีลำโพงค่ะบวกกับทดลองวิธีที่พี่ภาสอน ไม่ทราบว่าเสียงจะดีไม๊ ลองดูนะคะ

กรี๊ดดดดดด...เพลงนี้ จำได้ว่าน่าจะ อยู่ ม.1- ม.2 เนี่ยแหละ.....

ปล.ติ๊กต๊อก ทำได้แล้ว...Yeah..
55... พี่แมนแอ๊บแตกซะแว้วววววว ชอบ ๆ เพลงนี้เหมือนกันครับ .... ฟังทีไรได้อารมณ์ blue ทุ๊กทีเลย ยิ่งถ้าฟังตอนที่ฝนตก แล้วอยู่คนเดียวด้วยหน่ะ ... โอย .... เกินบรรยาย อะไรจะเหงาขนาดนั้น
เพลงนี้ ตอนงานแต่งงาน...ฮิ้ววววว เขิลลลล

จริงเหรอคะพี่กิ้ม กรี๊ดดดด.......
Woww..... ตอนนั้น ทำไมไม่ได้ไป งาน กิ้มน้อ....
งานหมั้นที่เมืองพลค่า..มีการ์ดสมานมิตรชัวร์ค่ะ จำได้...... งานแต่งที่แปดริ้วจร้า :P

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service