เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
เข้าใจ (เอาเอง) ว่าคุณพ่อคุณแม่ในห้องนี้ นอกจากอยากให้น้องๆได้ภาษาญี่ปุ่นแล้ว ก็คงสอนภาษาอังกฤษน้องๆควบคู่ไปด้วย เพราะอย่างที่คุณบิ๊กกำลังโปรโมทอยู่ว่าเราเตรียมพร้อมด้านภาษาสำหรับ AEC ในปี 2015 หรือยัง
แล้วจะสอนยังไงดี ... ตัวเองพยายามพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ(สลับกับญี่ปุ่น แล้วแต่อารมณ์ของแม่) ตั้งแต่ลูกได้หกเดือน โชคดีที่เค้าชอบ Caillou และพยายามพูดตาม ทำให้สำเนียงดีกว่าแม่ แต่ก็ไม่อยากให้เค้าดูทีวีอย่างเดียว อยากให้มีทำกิจกรรมช่วยกระตุ้นทั้งฟัง อ่าน(ดู) เล่นเหมือนกับ Shimajiro ภาคภาษาญี่ปุ่น ก็เลยลองเป็นสมาชิก Shimajiro ภาคภาษาอังกฤษ รับมาร่วมสองปีได้ ก็ยังไม่ปิ๊ง ดูยังไงอังกฤษก็ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่สำเนียงไม่ดีนะคะ แต่ยังไม่ชอบเนื้อหาในคอร์ส พอจะเข้าปีที่ 3 แฟนเลยบอกให้เลิกรับ
ปีนี้ก็เลยต้องหาตัวช่วยใหม่ … ตัดสินใจลองใช้สื่อที่เราหาได้ในเมืองไทยคือ PINGU English
http://www.pingusenglish.ac.th/
หลังจากลองใช้มาได้เดือนนึง เลยขอเอามา review ตรงนี้ แบ่งปันประสบการณ์นะคะ
PINGU มีทั้งหมด 3 levels
http://www.pingusenglish.ac.th/overview.htm
แต่ละระดับมี 12 บท เป็นเรื่องราวของ PINGU เพื่อนๆและครอบครัวในสถานการณ์ต่างๆ
เราไปเจอโรงเรียน PINGU English ครั้งแรกที่ The Nine เจ้าตัวเล็กชอบเพนกวิ้น แม่เลยไปถามราคาโดยประมาณมาได้ดังนี้
ถ้าซื้อ Study Pack อย่างเดียว Level ละประมาณเกือบ 6000 บาท
http://www.pingusenglish.ac.th/sr_studypack.htm
ถ้าซื้อLevel ใด Level หนึ่ง พร้อม Activitypack กล่องละประมาณ 9000 กว่าบาท
http://www.pingusenglish.ac.th/sr_activitypack.htm
ส่วนค่าเรียนไม่ได้ถามอย่างจริงจัง เพราะตั้งใจจะสอนเองอยู่แล้ว ถ้าจำไม่ผิดตกครั้งนึงเกือบพันมังคะ
(ใครทราบรายละเอียดช่วยเสริมให้อีกทีแล้วกันนะคะ)
จริงๆเจอราคาสื่อเข้าไปก็แอบถอยก่อน พยายามไปหาแหล่งอื่นที่ถูกกว่าอยู่นาน แต่หาไม่ได้ เลยยอมจำนน กลับไปดูจริงๆจังๆที่สาขา Central World อีกที
ก่อนอื่นก็เอาไอ้ตัวเล็กไปทดสอบ เมื่อเดือนที่แล้ว ก็ 3 ขวบครึ่งพอดี คุณครูจูงเข้าห้องไปทดสอบ เธอเดินบ๊ายบายแม่ หน้ายิ้มแป้นตามคุณครูไป สักพักคุณครูออกมาบอกว่าอยู่ Level 3 เพราะน้องพูดเป็นประโยคยาวๆได้แล้ว
แม่เลยต้องกลับมาดูตัวอย่างหนังสืออีกที ถ้าเป็น Level 2 ยังพอมีฝึกเขียน ABC เพราะน้องพูดได้ แต่เขียนไม่เก่ง ก็เลยตัดสินใจว่า (เอาวะ) แพงหน่อยแต่ได้ฝึกทบทวนตัวอักษรด้วย เลยซื้อมาตั้งแต่ Level 2 แบบที่เป็น Activity pack กับ Level 3 study pack อย่างละกล่อง โดนไปเบ็ดเสร็จ 14,500 บาท
กลับมาเปิดดูครั้งแรก แกะมาเฉพาะ Level 2 ก่อน ตอนนั้นรู้สึกว่า ทำไมโดยรวม มันถึงได้ช้าาาาา และน่าเบื่ออออ อย่างนี้
ส่วนที่เป็นการ์ตูน PINGU จะไม่ใช่ลักษณะที่ character พูดเอง อย่างที่เราคุ้นเคยใน Caillou หรือ Shimajiro แต่จะเป็นบทบรรยายเกี่ยวกับพฤติกรรมของตัวเพนกวิ้นในบทนั้นๆ เช่น Pinga(น้องสาวPingu) has a red balloon. Pingu blows up the balloon.
ตอนแรกแอบรับไม่ค่อยได้ ทำไมสอนเหมือนชั้นเรียนภาษาอังกฤษโบราณเลย ฟังแล้วจะหลับ จนลองมานั่งดูกับลูกแบบจริงๆจัง แล้วใช้หนังสือstudy book ประกอบตามไปด้วย หลังจากบทบรรยายที่เป็นเรื่องราวจบ ก็จะตามมาด้วยแบบฝึกหัด ทีวีพูดประโยคออกมา เช่น Pinga is sad. ในหนังสือก็จะมีรูปให้เลือกว่า เป็น Pinga หน้ายิ้ม หรือหน้าบึ้ง แล้วให้เด็กชี้ ทดสอบว่าเค้าฟังออก เข้าใจ แล้วบอกได้ไหม
ในมุมของตัวเอง มองว่า PINGU เป็นตัวเสริมไวยากรณ์ให้เด็ก จากบทบรรยายสถานการณ์
ประโยค พูดช้า สั้น ชัดเจน เด็กจำประโยคที่สอนในทีวีได้แม่น
มีเพลงที่เป็นเนื้อหาตามบทเรียน สั้นๆ ขำๆ ลูกสาวร้องได้จนติดทุกบท จนพ่อเค้าต้องเอา CD เพลงมาใส่ในรถ ฟังตลอดเลย
มี CD ประกอบ story book ด้วย ประโยคใน story book ก็สั้นๆง่ายๆ
ตอนแรกแม่ก็อ่านให้ฟัง ตอนหลังพอลูกจำเนื้อเรื่อง จำประโยคได้ ก็เปลี่ยนมาถามลูกแทนว่า เรื่องเป็นยังไง เล่าให้ฟังหน่อย เค้าก็จะพูดประโยคที่ฟังมาจากในบทเรียนออกมา
สรุปว่า ถึงจะไม่ได้ปิ๊งเหมือนกับ Shimajiro ภาคภาษาญี่ปุ่น แต่ส่วนตัวก็คิดว่าน่าจะได้ใช้คุ้ม ลูกชอบ เรียนอย่างมีความสุข และยอมเขียน ตัวอักษร ทั้งๆที่ปกติไม่ชอบเขียนเลย
อย่างไรก็ตาม พวกหนังสือนิทาน เราก็ควรจะอ่านนิทานที่เป็นเรื่องยาวๆเสริมให้ลูก หรือถ้าจะใช้การ์ตูน ก็ควรจะให้ฟังที่เป็นเรื่องราว ตัวละครพูดเองเป็นธรรมชาติอย่าง Caillou ไปด้วยค่ะ
แต่พอหลังจากจบ Level 3 จะใช้อะไรต่อ ก็ยังคิดไม่ตก มีเวลาให้คิดอีกหนึ่งปี ใครมีอะไำรดีๆช่วยแบ่งปันด้วยนะคะ
Tags:
© 2025 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by