การเรียนphonicsสำหรับเด็กป1

[pavinee patanachan]

เนื่องจากลูกไม่ได้เรียนอังกฤษเป็นจริงเป็นจังค่ะ และกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กป1 ค่ะ ระหว่างเรียน phonics กับ เรียน communication ไม่ทราบว่ามีคำแนะนำไหมค่ะว่าควรเริ่มเรียนอะไรดี เคยได้รับคำแนะนำว่า กิจกรรม phonics เหมาะสำหรับเด็กเล็ก แต่เด็ก 6 ขวบ หากจะเริ่มเรียน phonics กิจกรรมอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากโตเกินไป เลยหวั่นใจว่า พื้นฐาน จะไม่แข็งแรง ค่ะ

[ป้าจิ๊บ]

แชร์ความเห็นค่ะ

ส่วนตัวแล้ว ไม่ว่าอายุเท่าไร ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็ควรเรียน phonics ค่ะ ถึงแม้ว่า หลักการของ phonics จะถูกคิดค้นมาเพื่อการอ่านออกเสียง แต่สำหรับคนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง หรือ ภาษาต่างประเทศ การเรียน phonics จะช่วยให้ออกเสียงได้ถูกต้องคะ

ไม่ทราบว่า กิจกรรมอะไรที่ว่าไม่เหมาะกับการเรียน phonics ของเด็ก 6 ขวบค่ะ

[pavinee patanachan]

กิจกรรมสำหรับการเรียน Phonics ยังไม่ทราบค่ะว่าทำอะไรบ้าง เพราะไปขอคำแนะนำจากคุณครูที่รร.สอนภาษาค่ะ คุณครูบอกว่า การเรียน phonics  เหมาะสมกับการเริ่มเรียนกับเด็กวัยประมาณ อนุบาล 2 ซึ่งเรียนอักษรเสียงเดี่ยว และ วัยอนุบาล 3 จึงเรียนอักษรเสียงคู่ ซึ่งหากนร. ระดับ ป 1 ไม่เคยเรียนphonics มาก่อนจะไม่แนะนำให้เรียนค่ะ เพราะกิจกรรมอาจไม่เหมาะสมกับวัย น้องควรเรียน communication program ค่ะ ซึ่งต่อไปหากน้องรักการอ่าน ก็จะพัฒนา phonics ไปได้เอง เหมือนอย่างที่สมัยก่อนไม่มีการเรียน phonics  แต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเก่งภาษากันได้ ค่ะ (อันนี้แอบแย้งในใจว่า ก็ ฟังจากรูปประโยคว่ากำลังคุยเรื่องไรกัน แต่ภาษาอังกฤษนะ แค่ออกเสียงต่างกันนิดเดียวก็ความหมายต่างกันแล้ว อย่าง cash กับ cat)

นอกจากนี้ลองเข้าไปหาข้อมูลจากรร.สอนภาษา เช่น phonics 1st ก็มีข้อมูล jolly phonic program  ซึ่งบอกว่าเป็นโปรแกรมการอ่านและเขียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กอายุ 4 ปี ขึ้นไป แต่ไม่มีรายละเอียดค่ะ

ตอนนี้เลยงงมาก เพราะกังวลว่าพื้นฐานจะไม่แน่น

[ป้าจิ๊บ]

ฟังดูโรงเรียนเขาจัดหลักสูตรใว้ดีนะค่ะ ส่วนการให้เรียน communication program คงเป็นไปตามหลักสูตรของโรงเรียนมั้งค่ะ ต้องไปขอดูรายละเอียดของ communication program แล้วล่ะค่ะว่า โครงสร้างของหลักสูตรมีอะไรมั้ง ลูกเราจะได้เรียนอะไรมั้ง จบโปรแกรมแล้ว ลูกเราจะต้องได้อะไร... ประมาณนี้อะคะ เพราะโปรแกรมอาจจะรวมสอนการออกเสียงด้วย แล้วถ้ามีโอกาสได้พูดคุยกะคนที่เขาเรียนโปรแกรมนี้ไปแล้วก็จะยิ่งดีค่ะ เราจะได้สอบถามข้อมูลว่า โปรแกรมได้ผลมั๊ย

ต้องเข้าใจว่า Phonics ไม่ใช่แค่การออกเสียง A แอะ B บึ C คึ  นะค่ะ

ส่วนการกำหนดอายุในการเรียน jolly phonics ก็เหมือนที่จิ๊บได้บอกไปนะค่ะ คนที่คิดหลัก phonics เนียะ เขาไม่ได้คิดขึ้นมาสำหรับการออกเสียงเพื่อการพูด เขาคิดมาเพื่อสอนการอ่านออกเสียง (learn to read) และนำไปสู่การเขียน (การสะกดคำ - spell) ซึ่งเขาจะเริ่มสอนกันในชั้น Pre-Kindergarten (อายุ 4-5 ขวบ) นะคะ เพราะเป็นช่วงที่เริ่มสอนการอ่านค่ะ

เรื่องกังวลว่า พื้นฐานไม่แน่น... จิ๊บว่า ต้องดูครูที่สอนค่ะ กะสภาพแวดล้อมค่ะ เพราะครูคนไทยสอนแล้วเด็กพูดได้ดีก็มีเยอะค่ะ... ผู้ใหญ่บางคนอยู่เมืองนอก 20-30 ปี ภาษายังไม่ไปไหนก็เพียบค่ะ


เอาใจช่วยค่ะ

[แม่แอ๋ว - Brillkids Thailand]

มาเสริมป้าจิ๊บอีกแรก...จริงๆแล้ววิธีการสอนที่เหมาะกับเด็กโตที่สุดคือหลักการโฟนิคส์เพราะเด็กโตสามารถเลียนเสียงได้แล้ว ดังนั้นสอนได้และสอนง่ายค่ะ ส่วนเด็กเล็กวิธีที่เหมาะคือ sight words กับ wholewords แต่จริงๆเด็กเล็กก็เรียนโฟนิคส์ได้ แต่ต้องรอให้เลียนเสียงเป็นก่อนถึงจะสอนได้

อ่านขั้นตอนและวิธีการสอนได้ที่นี่ค่ะ

วิธีการสอนอ่านภาษาอังกฤษนั้น วิธีที่ได้ผลดีสำหรับเด็กโตคือวิธีโฟนิคส์ เพราะอะไร? เพราะเด็กโตพูดได้ ออกเสียงได้ เลียนเสียงได้ ดังนั้นจึงพร้อมที่จะเรียนสะกดคำและผสมคำ วิธีการสอนนั้น ง่ายๆเลยค่ะ วิดีโอ LeapFrog The Letter Factory คอนเฟิร์มว่าดีจริง เด็กๆส่วนใหญ่ดูแล้วจำเสียงได้ในเวลาไม่เกิน 3 เดือน แม่แอ๋วไม่ได้ขายดีวีดีตัวนี้นะคะ แต่ใช้แล้วได้ผลดีจึงแนะนำบอกต่อเพื่อนๆน้องๆตลอด 

นอกจากนี้ก็พวกวิดีโอ Youtube ทั้งหลาย 

ขั้นตอนสรุปแบบง่าย

1. ก่อนจะเริ่มเรียนโฟนิคส์ น้องจะต้องจำ ABCs และรู้จักตัวอักษรทุกตัวก่อน
2. พอจำชื่อตัวอักษรได้แล้ว ขึ้นตอนต่อมาก็มาจำเสียงค่ะ
3. พอจำได้ทั้งชื่อและเสียง ก็เริ่มผสมคำ ไม่แนะนำให้ข้ามขั้นตอนเพราะการเรียนโฟนิคส์นั้น เสียงตัวอักษรสำคัญมาก ใช้เวลากับตรงนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จำเป็น เป็นเหมือนเสาเข็มของการเรียนสะกดคำในภาษาอังกฤษเลยล่ะค่ะ ถ้าลูกเราจำเสียงได้เมื่อไหร่ สบายเลยค่ะ เริ่มสะกดคำได้เลย

นอกจากนี้ เด็กที่ออกเสียงโฟนิคส์เป็นจะพูดภาษาอังกฤษชัดเจน มีเสียงท้าย ออกเสียงได้ถูกต้อง ^_^