กลับมาแล้วครับ พาน้อง Bless ไปเยี่ยมคุณย่าที่ LA (ร้อยเอ็ด) มา กลางคืนนี่ร้องไห้บ่อยมาก กลางวันก็ซนเป็นลิงเลย อากาศกำลังดีเลย หมอกเยอะมาก พาออกไปเดินเล่นตอน 7 โมงเช้า หายใจออกแรง ๆ มีไอขึ้นด้วย ท่าทางลูกจะชอบ .... อิ ๆ นอกเรื่องไปเยอะเลย เอ้า .... เข้าเรื่องดีกว่าครับ จากบทความที่เขียนค้างไว้
***********************************************************************************************************
ความเดิม ......
พอดีว่ากำลังทำคู่มือ การอัดเสียงเพลงจาก internet โดยใช้โปรแกรม Nero อยู่หน่ะครับ กำลัง capture พวกรูปต่าง ๆ อยู่ รู้สึกว่าเยอะเหมือนกันนะนี่ อีกอย่างต้องเรียบเรียงคำพูดให้เข้าใจง่ายด้วย เดี๋ยวจะงงกันไปใหญ่ เพราะคาดว่าจะหายตัวไปสักพัก กลับมาอีกทีก็วันที่ 14 Dec เลย ยังไงก็รอกันหน่อยนะครับ .... ปั่น ๆ ๆ ๆ
***************************************************************************************************************
*** ย้ำอีกทีนะครับว่าสำหรับเครื่อง computer ของท่าน ถ้าสามารถที่จะเปิดไฟล์นั้น ๆ แล้วมีเสียงออกทางลำโพงได้ โปรแกรมก็สามารถอัดเสียงเหล่านั้นได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเปิดจาก cd, dvd, internet หรืออื่น ๆ ที่ใช้เครื่อง computer เล่น ***
มาเริ่มกันเลยครับสำหรับ แม่ ๆ พ่อ ๆ ท่านใดที่ต้องการอัดเสียงจาก internet แล้วแปลงเป็น mp3 ขั้นตอนอาจจะยุ่งยากสักหน่อยสำหรับคนที่เพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่ถ้าเป็นแล้วสบายเลยครับ ถ้าไม่เข้าใจอ่านทบทวนแล้วทำตามขั้นตอนช้า ๆ นะครับ
1.ก่อนอื่นทำการตรวจสอบดูก่อนว่าโปรแกรม Nero ที่มีอยู่ในเครื่องนั้นสามารถที่จะอัดเสียงได้หรือเปล่า โดยดูจาก
Start --> Program --> Nero --> Nero xx Edition มองหาตัว Nero Wave Editor (เครื่องผมจะโบราณหน่อยยังใช้ version 6 อยู่ ท่านใดที่มีใหม่กว่านี้ใช้ได้ไม่มีปัญหาครับ จากนี้จะอ้างอิง version 6 นี้ไปก่อนนะครับ ปัจจุบันน่าจะเป็น 9 หรือ 10 แล้วมั่ง)
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799737166?profile=original)
** ถ้า Nero ของใครไม่มีตัวนี้ก็หมดสิทธิ์อ่ะครับ ไม่สามารถอัดได้ ต้องหามาลงเพิ่มหรือลงใหม่สถานเดียว ส่วนใครที่มีประจำการในเครื่องแล้ว ไปขั้นตอนต่อไปเลยครับ **
2. ทำการตรวจสอบอุปกรณ์ที่จะทำการอัดเสียงว่าถูกต้อง หรือมีการเปิดการใช้งานอยู่หรือเปล่า โดยไปที่
2.1
Start --> Settings --> Control Panel --> Sounds and Audio Devices จะได้หน้าตาแบบในรูปขึ้นมา ให้เลือก tab
Audio
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799737235?profile=original)
ในส่วนของ Sound recording set ชื่อของ อุปกรณ์ ให้ตรงกับชื่อที่อยู่ในส่วนของ Sound playback
2.2 จากนั้นกลับมาที่ tab Volumn กดปุ่ม
Advanced
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799737320?profile=original)
ไปที่ option --> Properties
เลือกที่ Recording จะมีรายชื่อของ volumn control ต่าง ๆ ขึ้นมาให้ ตัวที่มีเครื่องหมาย / (ถูก) คือตัวที่มีการใช้งานอยู่ ณ ปัจจุบัน
ให้เลือก ตัวที่คำว่า out ต่อท้าย (ชื่อแต่ละเครื่องอาจแตกต่างกันไป ผมไม่เลือก Mono out เพราะเสียงที่ออกมาจะเป็น mono ไม่ใช่ stereo) จากนั้นกด OK จะได้รูปตามด้านล่าง อ่อ ... เสียงไม่ต้องเอาขึ้นเยอะนะครับ เดี๋ยวจะดังไป
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799737338?profile=original)
3. เมื่อทำการ set devices ถูกต้องแล้ว ก็เปิดโปรแกรม Nero Wave Editor กันเลยครับ เมื่อเปิดมาจะได้หน้าตาแบบนี้ ครับ
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799737468?profile=original)
ขออธิบายส่วนต่าง ๆ เอาเท่าที่จำเป็นต้องใช้ก่อนนะครับ
1. ใช้สำหรับปรับเพิ่มหรือลด ความดังของเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียง
2. ใช้สำหรับปรับเสียงสมดุลย์ซ้ายขวาให้เท่ากัน หรือ ข้างใดข้างหนึ่ง
3. ใช้สำหรับเริ่มการบันทึกเสียง
เมื่อทราบหน้าที่ของปุ่มต่าง ๆ แล้ว ไปต่อกันครับ
3.1 โดยถ้าต้องการจะอัดเสียงก็ให้กดปุ่มที่ 3 แล้วจะมี popup ขึ้นมาตามรูป
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799739775?profile=original)
เลือกเหมือนในรูปได้เลย
3.2 ทำการเปิดเสียงจาก internet หรือจากเครื่องเราเองก็ได้เพื่อทำการทดสอบว่าเสียงเข้ามาในระบบที่จะทำการอัดหรือเปล่า(เปิดอะไรก็ได้ให้มีเสียงออกทางลำโพงเป็นใช้ได้) โดยเมื่อเปิดเสร็จ ก็กลับมาที่ Nero ตามเดิม โดยกดปุ่มอัด (เบอร์ 3 ) ตามด้วย ok (จาก popup ) และกดปุ่มอัดเสียง (สีแดงเหมือนในรูป) ถ้าเสียงเข้ามาในระบบจะเห็น แถบระดับเสียง ตามรูปครับ (ในการอัดไม่ควรให้ระดับเสียงอยู่ในแถบแดง เพราะเสียงที่ได้จะออกแตกนิด ๆ เวลาที่เปิดดัง ๆ)
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799739987?profile=original)
เมื่อเสียงเข้าระบบตามที่ต้องการแล้ว ก็มาเริ่มอัดเสียงกันจริง ๆ เลยครับ
4.ทำการเปิดเสียงจากแหล่ง(Source)ที่ต้องการ เริ่มทำตามขั้นตอนที่ 3.1-3.2 อีกครั้ง
4.1 เมื่อสิ้นสุดเพลง หรือเล่นจบตามที่ต้องการ ให้กดปุ่ม หยุด (ตามรูป) เพื่อสิ้นสุดการอัดเสียงผ่านโปรแกรม แล้วกด OK
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799742825?profile=original)
4.2 หลังจากกดปุ่ม OK จะได้แถบเสียงที่ได้ทำการบันทึก ดังรูป
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799745344?profile=original)
4.3 เลือกที่ File --> Save As --> เลือกที่ที่เราต้องการ save
สังเกตุ Save as type จะเป็นการระบุว่าไฟล์ที่เราต้องการจะทำการ save นั้น จะให้อยู่ในรูป format อะไร เลือกที่เป็น mp3PRO นะครับ ไฟล์ที่ได้จะได้ออกมาเป็น mp3 ตามที่ต้องการ สมมุติว่าผม save file ชื่อ testRecord ดูรูปประกอบ
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799749137?profile=original)
5.เมื่อทำการบันทึกทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มาเปิดไฟล์ดูว่าใช้งานได้หรือเปล่า โดยเราสามารถใช้โปรแกรมที่ใช้เปิด mp3 ทั่ว ๆ ไปนั่นแหละครับ แต่ในตัวอย่าง ผมจะใช้โปรแกรม Media Player Classic เปิด ครับ ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราจะได้ยินเสียงจาก file mp3 ที่เราทำการอัดไว้ครับ
![](http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799749404?profile=original)
ยาวววววหน่อยนะครับ แต่ถ้าทำครั้งที่ 2 ที่ 3 น่าจะคล่องขึ้น คราวนี้ไฟล์ไหน ๆ ที่เปิดจาก Internet หรือทุก ๆ เสียงที่เปิดผ่านลำโพง computer ของเราได้ ก็สามารถจะบันทึกเป็น mp3 เอาไว้ให้ลูก ๆ ฟังได้แล้วหล่ะครับ ..... ได้ผลยังไง รบกวนรายงายด้วยนะครับ หรือ ติดที่ขั้นตอนใด ถามทางกระทู้ได้เลยครับ