เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
Tags:
สวัสดีครับคุณกิ้ม หายไปนานเลยนะครับ แชร์นะครับ:
1.ลูกคิดว่าฝ่ายตรงข้ามรู้สึกอย่างไร
-> What do you think the other side will feel?
"ฝ่ายตรงข้าม" ใช้ side = ฝ่าย ก็ได้ครับเป็น "other side"
2.วันนี้เจอเรื่องสนุกๆอะไรบ้าง
-> What fun things did you have today? / What fun things have you been through today?
3.เราจะใช้คำพูดแบบไหนถึงจะดีเอ่ย
-> What nice/good words should we use?
4.ทำอย่างไรให้กล้าที่จะลองทำสิ่งต่างๆเพิ่มขึ้น
-> What could we do to get ourselves bold enough to try new things?
5.ตอนไหนที่ใช้ความพยายามมากที่สุด
-> Which part calls for the most effort?
6.อยากให้พรุ่งนี้เป็นวันแบบไหน
-> How would you like tomorrow to be?
7.เราสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้สิ่งที่เราทำคืบหน้าไปอย่างราบรื่น
-> What could we do to make things (we are doing) go smoothly?
8.ถ้าเกิดความผิดพลาด อะไรน่าจะเป็นสาเหตุ
-> If there was a mistake, what could be the cause of it?
อันนี้ใช้เป็น if-clause แบบที่ 2 เพราะเป็นสถานการณ์สมมตินะครับ
9.อยากให้ตัวเองรู้สึกแบบไหน
-> How do you want yourself to feel?
10.ถ้าเรียนเรื่องนี้จบแล้ว อยากให้ผลออกมาเป็นอย่างไร
-> After you have finished this lesson, what do you expect to get from it?
คือถ้าหมายถึงอยากให้ผลออกมาเป็นอย่างไรกับตัวเราก็ใช้แบบประโยคหลังก็ได้ = คาดหวังว่าตัวเราอยากจะได้อะไร
ส่วนประโยคหน้าจะใช้เป็น "present simple tense" ก็ได้นะครับ จะใช้ "present perfect tense" ก็ได้หากพูดถึงกิจกรรมที่ต้องใช้เวลานานช่วงหนึ่งกว่าจะจบลง
ดีใจครับที่ได้เจอกระทู้คุณกิ้ม ส่วนเรื่อง bold จะใช้ dare แทนในประโยคไม่ได้ เพราะไม่เหมือนกัน "bold"(adj.) จะคล้าย ๆ กับ brave คือกล้าหรือเสี่ยงที่จะทำบางอย่าง แต่ "dare" จะใช้หลัก ๆ ในประโยคปฏิเสธ หรือ คำถาม มากกว่าในความหมายไทยว่า "ไม่กล้า" เช่น I didn't dare swim, but my brother was bold enough to do it. (= ฉันไม่กล้าว่ายน้ำ แต่น้องฉันกล้าพอที่จะว่ายน้ำ) หรือจะใช้อีกความหมายหนึ่งคือ "ท้า" เช่น He dared me to swim the other day. (= เขาท้าฉันให้ว่ายน้ำวันนั้น) หากผมตอบไม่ชัดเจนตรงไหน บอกได้นะครับ
11. หนูคงต้องใช้ความพยายาม การฝึกฝน และการทบทวนสม่ำเสมอเลยซินะคะ ผลการเรียนถึงได้ออกมาดีแบบนี้
You must have to take a very much effort , practicing and always reviewed your books so you've got this excellent results like this.
-> เปลี่ยนหน่อยเป็นแบบนี้นะครับ You must have used lots of effort to always practise and review your lessons. That's why you've got excellent results like this.
ประโยคนี้น่าจะพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว เลยใช้ must + present perfect tense (= must have used)
มีอีกคำหนึ่งมีความหมายครอบคลุมที่ใช้ในบริบทนี้ได้เลยคือ "apply oneself" = ทุ่มเทเรียนหนัก หรือ ทำงานหนัก หากใช้ในประโยคนี้ก็เป็น:
"You must have applied yourself at school. That's why the results you've got are excellent."
คุณป๊อปตอบ 2 ข้อแล้ว ขอแชร์เพิ่มเติมอีกแบบสำหรับอีก 3 ข้อที่เหลือนะครับ (สวัสดีคุณเล็กด้วยนะครับ คิดถึงตลอดนะครับ :)
12.บางทีเราต้องคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ยึดติดแต่แนวทางเดิม
-> Sometimes, we have to solve immediate problems off-the-cuff, not in a conventional way.
"immediate" ก็มีความหมายว่า "เกิดขึ้นมาอย่างทันด่วน หรือเฉพาะหน้า" ได้เหมือนกันครับ อย่างใช้เป็น immediate problem = ปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างทันด่วน เฉพาะหน้า
"off-the-cuff"(adj.,adv.) = (พูด/ทำ)อย่างสด ๆ เฉพาะหน้า แบบคิดอะไรได้ก็พูด ตอบ หรือทำแบบนั้น อย่างการตอบคำถาม หรือ กระทู้แบบคิดอะไรได้ก็ตอบเลย ก็เป็นแบบ off-the-cuff เหมือนกัน (= answer questions off-the-cuff)
"conventional"(adj.) = แบบตามแนวทางเดิม ๆ
13.นี่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะที่ดีวิธีหนึ่ง
-> This is one of the good off-the-cuff solutions. (= นี้เป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีวิธีหนึ่ง)
© 2025 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by