เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

หน้าที่แตกต่างกันตามช่วงอายุ

น้องเพิ่งเข้าโรงเรียนค่ะเค้าถามว่าทำไมเค้าต้องไปโรงเรียนคุณแม่เลยอยากเค้าแบบนี้ค่ะ

          1 คนเรามีหน้าที่แตกต่างกันไปตามช่วงอายุ หน้าที่ก็เหมือนอย่างที่แม่ต้องดูแลลูกก็เป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง

แรกเกิดถึง3ปี หนูยังเด็กแม่ต้องดูแลจึงยังไม่ต้องไปโรงเรียน

3ปีขึ้นไป หนูโตขึ้นมากจำเป็นต้องมีสังคม เรียนรู้การอยู่กับเพื่อนๆและคนอื่น เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีเพื่อนใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่หนูจึงต้องไปโรงเรียน หากไม่ไปก็ต้องอยุูู่คนเดียว

ประมาณ22ปีหนูต้องเรียนจบแล้วและอาจจะทำงานที่หนูชอบหรือเรียนต่อก็ได้จะ

          2 หนูอย่าร้องโวยวาย หนูจะลงกับแม่ดีๆแล้วเดินไปด้วยกันหรือหนูอยากให้ครูล็อกตัวแล้วอุ้มไป(ไปโรงเรียนร้องไห้ไม่อยากลงจากรถค่ะ) ถ้าอย่างนั้นต้องเงียบและหยุดดิ้น

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

Views: 462

Replies to This Discussion

คำตอบหนึ่งนะครับคุณอรทัย:

  1 คนเรามีหน้าที่แตกต่างกันไปตามช่วงอายุ หน้าที่ก็เหมือนอย่างที่แม่ต้องดูแลลูกก็เป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง

แรกเกิดถึง3ปี หนูยังเด็กแม่ต้องดูแลจึงยังไม่ต้องไปโรงเรียน

3ปีขึ้นไป หนูโตขึ้นมากจำเป็นต้องมีสังคม เรียนรู้การอยู่กับเพื่อนๆและคนอื่น เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีเพื่อนใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่หนูจึงต้องไปโรงเรียน หากไม่ไปก็ต้องอยุูู่คนเดียว

ประมาณ22ปีหนูต้องเรียนจบแล้วและอาจจะทำงานที่หนูชอบหรือเรียนต่อก็ได้จะ

->  We all have responsibilities at different ages in our lives.  Mine as a mother is to take care of you right after you were born.   From that time till you turned 3 years old, you were too small to go to school.  But now, you have reached the age where you must go to school to have friends, to learn new things and have a new social life.  You can't be alone.  And everybody has to go through that.

In the future, when you grow up to be 22 years old, you will finish your study and you can choose what you want to do or even further your study.     

          2 หนูอย่าร้องโวยวาย หนูจะลงกับแม่ดีๆแล้วเดินไปด้วยกันหรือหนูอยากให้ครูล็อกตัวแล้วอุ้มไป(ไป โรงเรียนร้องไห้ไม่อยากลงจากรถค่ะ) ถ้าอย่างนั้นต้องเงียบและหยุดดิ้น

->  Stop making a fuss.  (หรือ Stop crying / whining ก็ได้)  Do you want to simply come with me or have your teacher come to the car and get you off to school?  If you don't want them to do that, just snap out of it and pull yourself together.

ขออธิบายเพิ่มเติมยาวหน่อยนะครับ:

1. " get you off to school" ในบริบทนี้คือ มาจับแล้วก็พาตัวออกไปจากรถเข้าไปที่โรงเรียน   (เหมือนกับการใช้ get ใน get you home ครับ)

2. ในประโยค If you don't want them....  คือใช้ "they" แทน "teacher"  ในประโยคก่อนหน้าที่เป็น เอกพจน์  เรียกว่าเป็นการใช้แบบ "Singular they คือหากเราใช้ everyone/everybody, each student, every teacher, an employee  หรืออะไรแบบนี้ ซึ่งเป็น เอกพจน์  แล้ว pronoun ในประโยคที่มีตามหลังมาจะใช้ "they" แทนเลย  โดยถือว่าใช้เป็น พหูพจน์ ไปเลย  ทั้งนี้เพื่อเป็นการไม่ให้ประโยคดูเยิ่นเย้อ เพราะใช้ "he or she" แทน   หรือ ใช้ "he" แทนไปเลย ซึ่งก็จะถูกมองว่าทำไมเป็น "he" ไม่เป็น "she" 

ดังนั้นการใช้ Singular they จึงเป็นการใช้ pronoun เป็น "they" แทน  noun ที่เป็น เอกพจน์ ที่พูดถึงในประโยคก่อนหน้านี้

แต่ก็ยกเว้นนะครับ หากเรารู้อยู่แล้วว่ากลุ่มคนที่พูดถึง มีแต่ผู้ชายล้วน หรือ ผู้หญิงล้วน ก็จะใช้ "he" หรือ "she"  เป็น เอกพจน์ แทนไปเลยก็ได้

3. "make a fuss" = ทำโวยวาย เพราะไม่พอใจกับอะไรบางอย่าง 

หากเป็นแบบตั้งใจทำตัวโวยวายในที่สาธารณะ ให้เป็นเรื่องจนทำให้คนมอง (เช่น ลงไปดิ้นชักขาคู่ กลางห้าง) = "make a scene"

ส่วนอีก 2 สำนวน ได้มาจากการ์ตูน "Bees" คุ้น ๆ ว่า มีการ์ตูนตัวนึงคุมสติไม่อยู่ โวยวาย แล้วอีกตัวหันมาพูด 2 ประโยคนี้ใส่ เพื่อให้หยุดโวยวาย และเงียบคุมสติ จะได้แก้ปัญหาที่เจออยู่ได้  ก็คิดว่าใช้ได้กับบริบทนี้เหมือนกันนะครับ:

"snap out of it" = หยุดคิด/หยุดทำสิ่งที่ทำให้ตัวเองหงุดหงิด รู้สึกไม่ดี, เสียใจ หรือในอารมณ์ในทางไม่ดีในทำนองนี้

"pull yourself together" = เงียบสงบสติอารมณ์ หลังโวยวาย หรือหลังมีอารมณ์ในทำนองนี้

คุณเอกนี่ขยันจริงๆนะคะ.
เหนื่อยแย่เลย สู้ๆค่ะ

ขอบคุณครับ คือบังเอิญมีเวลาเลยตอบเยอะไปหน่อย หากตรงไหนตกหล่น หรือผิดก็บอกได้นะครับคุณป๊อป

get you home   &    take you home    ความหมายเหมือนกันใช่ไหมคะ

ความหมายเหมือนกันครับคุณรัชนี

ขอบคุณมากจริงๆค่ะคุณAkeเดี๋ยวจะนำไปใช้เลยค่ัะ

อยากจะบอกว่าก็เพราะความมีน้ำใจของคุณเอกนี้แหละค่ะคุณเอกถึงเป้นที่รักของทุกๆคน บ้างครั้งมีท้อนึกถึงคุณเอกและเพื่อนๆที่ช่วยกันสละเวลากันมาถามและตอบทำให้ที่แห่งนี้เป้นที่เรียนรู้อังกฤษของทุกคน เลยพยายามสู้ต่อไป บอกลูกว่าให้เรียนเก่งๆหากมีโอกาสช่วยเหลือสังคมให้ทำเหมือนกับที่แม่ได้รับการช่วยเหลือทางวิชาการจากเพื่อนแห่งๆนี้ค่ะ ทุกวันนี้ลูกสองคนพูดอังกฤษอย่างธรรมชาติในระดับอายุของเค้าก้ดีใจมากและค่ะ

ยินดีครับคุณอรทัย พอหลังมีลูกผมก็ต้องมาฟิตความรู้ใหม่เหมือนกัน มีหลาย ๆ คำหลาย ๆ ประโยคที่เป็นภาษาใช้กับเด็ก ๆ ก็ต้องมาเรียนรู้ใหม่  อย่าท้อ และอย่าหยุดครับ พอพยายามได้ระดับหนึ่งมันก็จะไปได้ดี ขอให้ทำสม่ำเสมอทุกวัน  แล้วทั้งลูกและตัวเราเองก็จะได้ประโยชน์สักวันนึงครับ  จริง ๆก็ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่บิ๊ก และแม่เพ่ยเพ่ย ที่มีที่ดี ๆ แบบนี้ให้มารู้จักกันนะครับ หากไม่มีที่นี่ก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักคนดี ๆ และเก่ง ๆ หลายคนที่นี่ครับ   

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service