เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ที่บอกว่าเป็นเด็ก 2 ภาษาใน 4 เดือน 6 เดือน งี้ ดูยังไงครับ

คือผมงงครับ หลังจากอ่านหนังสือเด็ก 2 ภาษาเล่ม 2 ครับ แล้วก็มีสัมภาษณ์พ่อแม่ ว่าความเป็นมายังไง แล้วก็สรุปว่าเป็นเด็ก 2 ภาษาใช้เวลาเท่านั้นเดือน เท่านี้เดือน หมายถึงยังไงเหรอครับ หมายความว่าเด็กสื่อสารกับพ่อหรือแม่เป็นภาษาอังกฤษเพียวๆ ได้เลยเหรอครับ โดยไม่มีภาษาไทยปนเลย โดยที่ศัพท์ทุกคำเด็กก็รู้หมดเลยเหรอครับ หรือยังไงครับ ส่วนลูกผมเนี่ย ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไร ย่างเข้า 3 ขวบแล้ว สื่อสารกับผมเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ 100% เพราะว่ายังไม่รุ้ศัพท์หลายๆ คำ ไอ้ที่พูดได้ก็จะพูดอังกฤษ แต่ถ้าพูดไม่ได้ประโยคไหนก็จะใช้ไทยเลย บางทีก็ทับศัพท์หรือไทยปนอังกฤษ อย่า่งนี้เรียกว่าเด็ก 2 ภาษาหรือเปล่าครับ

Views: 448

Replies to This Discussion

ตามความเข้าใจของแพรนะค่ะคือ
ถ้าน้องอายุ 3 ปี แล้วเพิ่งเริ่มสอน จนกระทั่ง 3.8 ปี คือสอนผ่านมาเป็นเวลาแปดเดือน แล้วเริ่มพูดได้ ก็คือน้องได้พูดอังกฤษเพียวๆกะคุณพ่อป็หรือคุณแม่เป็นเวลาแปดเดืือนค่ะ หรืออาจจะไทยบ้าง อังกฤษบ้างในกรณีที่คุณพ่อหรือคุณแม่อ่อนอังกฤษอ่ะค่ะ ซึ่งนั่นก็หมายถึงระยะเวลาที่น้องได้เริ่มฝึกฝนนั่นเองค่ะ น้องจะพูดได้ไว หรือ ช้า ขึ้นอยู่กับตัวเรานะค่ะ ว่าเราพูดบ่อยแค่ไหน

แพรว่าถ้ายังไทยคำ อังกฤษคำ ปนกันอยู่ในประโยคเดียวกันก็คงไม่ดีเท่าไหร่นะค่ะ เพราะน้องจะไม่รู้ภาษาใดภาษาหนึ่งจริงๆ
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ
ยังไงก็ลองรอฟังจากพี่อ๊อบผู้ชำนาญการ หรือ ผู้ใหญ่บ้านดีกว่าค่ะ

^o^
ตอบคุณแหม่แม่ครับ ผมไม่ได้พูดไทยคำอังกฤษคำนะครับ ที่บอกอย่างนั้นหมายถึงลูกผมครับ เค้ารู้ศัพท์ยังไม่เยอะ แต่เค้ารู้ว่าเวลาพูดกับพ่อนั้นต้องพูดภาษาอังกฤษครับ เพียงแต่บางประโยคไม่รุ้เค้าก็จะมีพูดปนมาครับ แต่ตัวผมน่ะพูดปะกิดกะเค้าทุกประโยคอยู่แล้วครับ อันไหนที่ไม่รู้ก็จะไม่พูดครับ และก็ยังไม่เคยนับเดือนมาว่ากี่เดือนแล้วที่ทำอย่างนี้ เพียงแต่ว่างงตรงเรื่องที่ถามไปนั่นล่ะครับ
อ่อ..เข้าใจแล้วล่ะค่ะ ถ้าอย่างงั้นคุณพ่อก็ทำถูกตามวิธีในหนังสือแล้วล่ะค่ะ
น้องคงจะยังเอาศัพท์มาเรียงๆกันตามความเข้าใจในวัยของเค้า
อีกไม่นานก็คงพูดเป็นประโยคแล้วล่ะค่ะ ^_^
อยู่นิวซีแลนด์มา 15ปี ยังเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆอยู่ทุกวันค่ะ บางอันศัพท์เก่าที่ลืมไปแล้วก็มี

ใจเย็นๆนะค่ะ ค่อยๆเรียนรู้ไป ช้าเร็วจริงๆก็ไม่สำคัญ อันไหนที่น้องไม่รู้พูดไม่เป็นคุณพ่อต้องช่วยสอน อันไหนที่คุณพ่อไม่ทราบก็ต้องไปค้นคว้าหามานะค่ะ การเรียนรู้แบบธรรมชาติไม่ได้มีกำหนดเวลาต้องเข้าสอบเพื่อทดสอบความสามารถค่ะ ขอให้เรียนรู้ไปด้วยกัน สนุกกับการใช้ภาษา

แพทคิดว่าสมองของน้องเค้าไปไม่ได้แปลภาษา แต่บางคำเค้าอาจจะรู้ในภาษาไทยเท่านั้น ยังงัยก็ดีก็ถือว่าเป็นเด็ก 2 ภาษาค่ะ
ภาคิดว่าที่คุณพ่อถามคงกำลังคิดว่า เอ..ตอนนี้ลูกเราเป็นเด็ก 2 ภาษารึยังน้า..จริงๆส่วนตัวภาว่า ไม่ต้องคิดมาก ถ้าเด็กๆเริ่มเรียนรู้ทั้ง 2 ภาษาก็น่าจะเป็นเด็ก 2 ภาษาแล้วล่ะค่ะ แต่ที่คุณบิ๊กเขียนคงเป็นการสื่อสารตามหนังสือว่าใช้เวลาสอนประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้คนอื่นมองเห็นภาพรวมคร่าวๆ เป็นแนวทางน่ะค่ะ จริงๆตอนคุณบิ๊กถามก็ไม่ได้ถามประโยคว่า ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการเป็นเด็ก 2 ภาษานะคะ

แต่ถ้ามองย้อนกลับไป เจ้าขาที่เขียนว่า 6 เดือนคือ พูด 100% กับแม่ ถ้าไม่รู้ศัพท์คำไหนหรือประโยคไหน จะไม่ได้ปนภาษาไทยค่ะ คือจะพยายามคิดหรืออธิบายออกมาเป็นภาษาอังกฤษ แม้ไม่ถูกต้องมากนัก บางทีอ้อมๆ ใช้ภาษากายช่วย เราจะพอเดาได้และช่วยแก้ประโยคให้ หรือไม่เค้าก็จะถามก่อนว่านี่คืออะไร พอเราตอบศัพท์ ค่อยพูดประโยคน่ะค่ะ แต่ช่วงแรกๆถ้าไม่รู้ศัพท์ เจ้าขาจะปนศัพท์ไทยไปในประโยคเลยค่ะ ไม่แยกโหมด (ไม่แน่ใจว่าเค้าเริ่มโตด้วยรึเปล่านะคะ)

สรุปว่า น้องก็ถือว่าเป็นเด็ก 2 ภาษาแล้วล่ะค่ะตอนนี้ ทำไปเรื่อยๆค่ะ แบบที่พี่แพทบอกเราไม่มีกำหนดเวลา ทุกวันนี้เราก็ยังเรียนรู้ประโยคใหม่ๆ ศัพท์ใหม่ๆอยู่เลยค่ะ
ระยะเวลาไม่กี่เดือนก็ไ่ม่ใช่คำตอบซะทีเดียวว่าน้องจะเป็นเด็กสองภาษานะคะ เพียงแต่เขาตอบเราอัตโนมัติแบบไม่ต้องแปลและคิดอีกชั้นว่าแปลเป็นไทย เรื่องเวลายังไม่ใช่คำตอบค่ะ เพราะภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ภาษาแม่ของเรา ก็ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมไปค่ะ

ศัพท์หรือประโยคบางอันลูกดิฉันก็ยังพูดไทยอยู่เลยค่ะ เพียงเราต้องช่วยให้เขา่รู้ศัพท์อังกฤษมากขึ้น แก้ไขประโยคที่เขาพูดไม่ถูก และคงจะต้องเรียนไปด้วยกันแม่และลูกค่ะ
เสริมท่านอื่นนะค่ะ
คุณบิ๊กต้องการสื่อว่าใช้กรอปเวลาเท่านี้ เท่านั้น เด็กจะเริ่มซึมซับเซนส์ของการยอมรับการใช้ภาษาที่สอง และใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติอ่ะค่ะ
ขอบคุณทุกคนนะครับสำหรับความเห็นและคำแนะนำ ส่วนตัวนั้นไม่ค่อยมีเวลามากนักในการสอนภาษาอังกฤษให้ลูก ตอนแรกอ่านหนังสือเล่มแรกดูก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาได้ไกลขนาดนี้ เพียงแต่รู้สึกว่าอยากพูดภาษาอังกฤษกับลูกเท่านั่น พูดไปพูดมา ก็กลายเป็นความเคยชิน มานึกดูอีกที นี่เราไม่ได้พูดไทยกับลูกเลยเหรอเนี่ย เพียงแต่ตอนที่อ่านหนังสือเล่ม 2 ตกใจครับ เห็นเขียนกัน 5-7 เดือน เก่งๆ กันทั้งนั้น เลยกลับมานั่งนึกดูว่าเราทำอะไรบกพร่องตรงไหนเหรอ อย่างไรก็ตามก็รู้สึกสนุก (เครียดบ้าง เพราะบางทีนึกประโยคไม่ออก) ที่จะคุยกับลูกอย่างนี้ ทุกวันนี่้ก็ชื่นใจมากที่เค้าพูดกับเราอย่างที่เราต้องการครับ สรุปว่าสนอง need คุณพ่อ ครับ อ้าว Just kidding รักลูกต่างหาก
คุณพ่อน่ารักมากค่ะ ชื่นชมทุกครั้งที่มีพ่อๆ เข้ามาในเวบนี้ ส่วนใหญ่เป็นแม่ๆค่ะ...
ความสนุกที่จะคุยกับลูกนั่นแหละค่ะ ที่เด็กๆต้องการ
เมื่อเราสนุกและมีความสุขที่จะค้นคว้า หา อะไรมาพูดคุยกับลูก
นั่นเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วค่ะ สู้กันต่อไปค่ะ
ที่บ้านแรก ๆ ก็ใจสู้ค่ะ ลูกโต้ตอบบ้าง ... ตอนนี้ก้าวหน้ากันน้อยมาก เริ่มจะถดถอย อีกอย่างลูกไปโรงเรียนแล้ว กลับมาบ้านคำศัพท์บางอย่างที่เคยพูดเป็นภาษาอังกฤษก็พูดเป็นภาษาไทยหมด ... แม่พยายามจะพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษบ้าง (ยอมรับว่าไม่ตลอด) ถามคำถามประเภท yes/no question ลูกก็จะตอบด้วยการ พยักหน้ากับส่ายหัว ...

พวกประโยคคำสั่ง หยิบนู่นี่ อย่านู่นนี่ ใส่นู่น ถอดนี่ ลูกเข้าใจและปฏิบัติตามได้หมด แต่ไม่พูด ... ประโยคถามตอบง่าย ๆ ประเภท what who where ลูกก็จะตอบเป็นภาษาไทยทันที ...

ส่วนคำถาม when how ยังไม่ได้ใช้ เคยพูดไปแล้วลูกยังไม่เข้าใจ แม้แต่ภาษาไทย ถามว่า เมื่อไหร่ ยังตอบว่า สองไหล่ อยู่เลย
ขออนุญาตแชร์ความเห็นคุณแม่ปิ่นโตนะครับ ตอนนี้เข้าใจว่าแม่ปิ่นโตน่าจะกำลังท้ออยู่ครับ วิธีแก้ของผมคือ แอ่นแอ๊น (คห ส่วนตัวนะครับ) ผมจะย้ายโรงเรียนลูกให้ไปเรียน 2 ภาษาหรือนานาชาติครับ แต่นานาชาติน่าจะแพงกว่า คงไม่เอา สำหรับผมคิดว่าโรงเีรียน 2 ภาษาน่าจะโอเค เดี๋ยวนี้เปิดกันเยอะ และที่มีคุณภาพดีๆ ไกล้ๆ บ้านก็แยะ โดยส่วนตัวตอนนี้ผมส่งลูกเีรียนที่โรงเีรียนวนิษาครับ แถวคลอง 3 รังสิตนครนายก ค่าเทอมก็เอาเรื่องเหมือนกัน แต่ลูกน่าจะได้ทั้งสองภาษาเพราะในห้องมีทั้งครูไทยและครุฟิลิปปินส์ครับ ส่วนตัวผมเองก็ไม่ค่อยมีเวลาคุยภาษาอังกฤษกับลูกเท่าไหร่ โชคดีที่ลูกไม่ได้ต่อต้าน แต่ก็อย่างที่ทราบว่าศัพท์บางคำที่เค้าไม่รู้ เค้าก็จะตอบเป็นไทย อันนี้ความถี่ในการใช้ภาษาอังกฤษของเราที่ใช้กับเค้าสำคัญมาก ตอนนี้ภาษาที่เค้ัาใช้กับผมน่าจะ eng 70 thai 30 ครับ ผมจึงคิดว่าถ้าพอมีกำลัง น่าจะส่งเรียนโรงเรียน 2 ภาษาครับ อนาคตข้างหน้าหรือขณะนี้ก็ตามเป็น globalized หมดแล้ว (ใช้ศัพท์ถูกหรือเปล่าเนี่ย) เมื่อลูกกลับมาที่บ้าน เราจะได้สามารถต่อยอดได้ และที่สำคัญคือทำให้เรามีกำลังใจที่จะพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษด้วยครับ แล้วแต่วิจารณญาณนะครับ ความเห็นผม

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service