ลูกติดเชื้อ HIV จากการกินนมคนอื่น

[ประภา ธีรลีกุล]

มีประสบการณ์ตรงนำมาเล่าให้ฟังนะค่ะ เนื่องจากตัวเองต้องดูแลสุขภาพของเด็กๆ

มีผู้ป่วยเด็กอายุ 7 ปี ถูกส่งตัวมาพบด้วยเรื่อง ซีด ตับม้ามโต ด้วยความเป็นหมอโรคเลือดเด็กก็ส่งตรวจหาโรคธาลัสซีเมีย(โรคเลือดจางพันธุกรรมจากเม็ดเลือดแดงผิดปกติ) ผลปรากฏว่าไม่เป็นโรค เลยส่งตรวจ หาเชื้อ HIV ปรากฏว่า positive

เลยตามพ่อกับแม่มาตรวจเลือด ผล negative เด็กเคยได้เลือดมา 1 ถุงเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งไม่น่าติดจากการให้เลือด เด็กไม่เคยถูกทารุณกรรมทางเพศ แล้วลูกติดเชื้อจากใคร ลองซักประวัติการกินนม ปรากฎว่าตอนเด็กได้กินนมจากญาติ ซึ่งตอนนี้พ่อแม่บอกว่า ญาติคนนั้นตรวจเจอเชื้อ HIV และกำลังรักษาให้ยาต้านไวรัส

 

นมแม่มีประโยชน์มากมายมหาศาล แต่ถ้าให้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะค่ะ บางครั้งการให้ลูกกินนมคนอื่น ก็อาจนำโรคมาสู่ลูกโดยที่ทั้งคนให้และพ่อแม่อาจไม่มีเจตนาคิดร้ายแต่อย่างใด

[คุณแม่น้องโอห์ม]

กรณีตัวอย่างนี้ หมายความว่าเด็กไปจุ๊บเต้าญาติคนนั้นตรงๆ เลยหรือเปล่าคะ หรือว่าป้อนนมที่ปั๊มให้โดยขวดนมคะ

ไม่แน่ใจว่า ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม ก็สามารถติดเชื้อได้ใช่ไหมคะ

[ประภา ธีรลีกุล]

เด็กดูดนมจากเต้าค่ะ แต่ไม่ว่าจะได้นมที่มีเชื้อ HIV ทางใดก็ติดได้ค่ะ เราจึงให้คุณแม่ที่ติดเชื้องดให้นมจากเต้าแก่ลูกค่ะ

[คุณแม่น้องโอห์ม]

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

ที่กังวลก็คือ ตัวเองกำลังจะบริจาคนมสต๊อกให้น้องๆ ที่ทำงานค่ะ (ปัจจุบันลูกชอบทานเต้ามากกว่านมสต๊อกค่ะ)

แม้ว่าตัวเองจะไม่มีเชื้อ HIV แต่ก็กังวลว่าจะทำบาปเอาเชื้อประเภทอื่นไปให้เด็กๆ คนอื่นหรือเปล่า

มีคำแนะนำในเรื่องนี้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ

[ประภา ธีรลีกุล]

เชื้อที่ติดต่อผ่านทางน้ำนมก็จะมาจากทางเลือด ถ้าคุณแม่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซี ก็ไม่ควรให้ลูกดูดนมค่ะ

ถ้าเคยบริจาคโลหิต ก็จะได้รับการตรวจเชื้อเหล่านี้โดยอัตโนมัตถ้าไม่ได้รับการติดต่อกลับจากสภากาชาดหรือรพ.ที่ไปบริจาคก็น่าจะปลอดภัยค่ะ

[คุณแม่น้องโอห์ม]

ถ้าเป็นเชื่อที่กล่าวมา ก็ไม่มีเลยค่ะ และไม่เคยบริจาคโลหิต (เพราะน้ำหนักไม่เคยถึงเกณฑ์ ^-^)

งั้นก็สบายใจไปเปราะหนึ่งค่ะ ขอบคุณนะคะ

[RATCHANEEWAN KHAMCHAI]

คุณหมอค่ะ แล้วมีโรคไหนอีกที่ทางการแพทย์บ้านเราเขาห้ามไม่ให้คุณแม่ให้นมลูก

[ประภา ธีรลีกุล]

คุณแม่เป็นงูสวัดบริเวณหน้าอก เป็นอีสุกอีใส แต่ถ้าแผลตกสะเก็ดก็สามารถให้ได้ค่ะ

ขอแก้ไขเกี่ยวกับเชื้อ ตับอักเสบบีนะค่ะ ไม่เป็นข้อห้ามในการให้นมแม่ค่ะ เพราะเด็กแรกเกิดทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนนี้ ส่วนตับอักเสบซี ข้อมูลไม่ชัดเจน แต่ถ้าหัวนมแตกมีเลือดก็ควรหยุดให้ก่อนนะค่ะ เพราะลูกจะได้รับเชื้อโดยตรงผ่านทางกระแสเลือด

คุณแม่ที่เป็นโรคมะเร็งกำลังได้ยาเคมีบำบัด ก็ต้องงดนะค่ะ หรือได้ยาบางชนิดต้องเช็คเป็นตัวๆไปค่ะ ว่าสามารถให้นมลูกได้ไหม

[แม่เพ่ยขอแจม]

ขอบคุณหมอเอ๋ค่ะ  เป็นข้อมูลที่ดีจริงๆ พี่ไม่ได้สนับสนุนการใช้นมผงกับเด็กนะคะ แต่ถ้ามันจำเป็นจริงๆแบบที่คุณหมอเอ๋ว่ามา คือคั้นยังไงนมแม่ก็ไม่ออก ก็อนุโลมนมผงกันไปนะคะ ไม่ต้องพยายามหานมแม่จากคุณแม่ท่านอื่นๆมา เพราะเราหรือแม้แต่ผู้บริจาคก็ไม่รู้จริงๆว่ามีเชื้ออะไรแฝงมาหรือเปล่า  

ว่าแต่เคสนี้ สงสารครอบครัวเล็กๆนี้จังเลย

[แม่แอ๋ว - Brillkids Thailand]

เป็นกระทู้ที่ดีมากๆค่ะ น่าจะนำไปตั้งกระทู้ที่ห้องชานเรือนด้วยนะคะคุณหมอ ที่นั่นมีแม่ที่ให้นมอยู่เยอะเลยค่ะ

[ประภา ธีรลีกุล]

คนไข้มาตรวจตามนัด อาการดีขึ้น ไม่มีผลข้างเคียงจากยาต้านไวรัส (โชคดีจังเลย)

ถึงแม้ไม่หายขาดจากโรคก็ขอให้อยู่กับโรคอย่างมีความสุขนะคะ

 

[พรทิพย์ สอนใจ]

ลูกชายก็คลอดออกมาโดยมีโรคประจำตัวค่ะ คือ โรคผนังหัวใจรั่ว และ G6PD (ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD เกี่ยวกับผนังเม็ดเลือดแดงแตกหักง่าย) แรกเกิดจึงไม่มีแรงดูดนมค่ะ ตอนนั้นเครียดมากและต้องรีบกลับมาทำงานด้วย น้ำนมจึงไม่ค่อยมีค่ะ จึงทำทุกวิถีทางเพื่อกระตุ้นน้ำนมและใช้ปั๊มมือช่วยค่ะ ปรากฏว่าหัวนมแตกเลือดออก จึงย้ายมาปั๊มและให้น้องดูดอีกข้างอย่างเดียว ช่วงนั้นคุณแม่หนาวสั่นตลอดเวลา ก็คิดว่านมคงคัดเต้า แต่ปรากฏว่าไปตรวจที่ ร.พ. พบว่าเป็นฝีที่เต้านมต้องผ่าตัดทันที หนองออกมาเยอะมาก และแผลเป็นโพรงลึกมากๆ (พยาบาลบอกว่าปลายน้ำกลางถึงกลางฝ่ามือ) ต้องทานยาฆ่าเชื้อและหยุดให้นม ร้องไห้เสียใจมาก สงสารลูก หลังจากนั้นต้องไป ร.พ. ทุกวันเพื่อล้วงและล้างทำความสะอาดแผล นานประมาณ 2 เดือน และยังมีผลกระทบจากการใช้มือปั๊มนมมาก เป็นเอ็นที่ข้อมืออักเสบทั้ง 2 ข้าง ต้องฉีดสเตียรอยด์รวมแล้วข้างละ 2 เข็ม จนคุณหมอต้องนัดผ่า ปัจจุบันหน้าอกข้างซ้ายก็พบเนื้องอก 2 ก้อนเล็กๆ ไม่รู้มาจากการเป็นฝีครั้งแรกหรือเปล่า ตอนนี้ลูกชาย 4 ขวบแล้ว สู้ สู้ นะคะทุกคน

 

[ประภา ธีรลีกุล]

ทุกวันนี้ก็ตรวจเจอผู้ป่วยเด็กติดเชื้อ HIV จากมารดาอยู่เรื่อยๆ คิดแล้วก็คงเป็นกรรมของเด็ก เพราะเกิดมายังไม่ได้ไปก่อกรรมที่ใดก็ต้องชดใช้กรรมแล้ว น่าสงสารค่ะ เด็กบางคนเราทราบว่ามารดาติดเชื้อ รีบให้ยาต้านไวรัสตั้งแต่อยู่ในท้อง หลังคลอดก็รีบทานยาต้านต่อเพื่อลดโอกาสติดเชื้อ และตรวจเลือดดูเป็นระยะว่าติดเชื้อหรือไม่ หลายคนโชคดีไม่ติด ก็คงทำกรรมดีมาก่อน