เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ฟันผุที่เกิดจากการเลี้ยงลูกด้วยนมขวด

ฟันผุที่เกิดจากการเลี้ยงลูกด้วยนมขวด

                นมมีน้ำตาลแลคโตส (Lactose) เป็นองค์ประกอบก่อให้เกิดฟันผุได้ แต่นมก็มีสารอาหารอื่นๆ ที่มีผลต่อต้านการเกิดฟันผุด้วย เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เคซีอีน (casein) และไขมัน ดังนั้นนมจะไม่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคฟันผุ แต่ถ้าหากพฤติกรรมในการเลี้ยงลูกด้วยนมไม่ว่าจะเป็นนมแม่หรือนมขวดเป็นไปอย่างไม่เหมาะสมร่วมกับการละเลยการทำความสะอาดช่องปากและฟันหลังดื่มนม จะทำให้เกิดฟันผุได้ ซึ่งฟันผุประเภทนี้มักพบในเด็กที่ผู้ปกครองให้ดูดนมหรือน้ำหวานจากขวดนมทุกเวลาที่เด็กต้องการ, การให้เด็กหลับคาขวดนม, หรือเด็กที่ดูดนมขวดนานไม่ยอมเลิกดูดขวดตามระยะเวลาที่เหมาะสม
                ในเด็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่ก็อาจเกิดฟันผุในลักษณะนี้ได้ หากให้เด็กดูดนมทุกเวลาที่เด็กต้องการ หรือโตแล้วก็ยังให้ดูดนมอยู่ แต่พบได้น้อยกว่าการเลี้ยงด้วยนมขวด

                               รูปแสดงฟันผุที่เกิดจากการเลี้ยงลูกด้วยนมขวด

                นอกจากโรคฟันผุแล้ว การดูดนมขวด ดูดนิ้ว ดูดจุกนมตลอดเวลาจนอายุเกิน 3 ปี จะมีผลทำให้ฟันหน้าบนยื่น ฟันหน้าล่างล้มเข้าด้านใน ทำให้ตำแหน่งลิ้นขณะกลืนผิดปกติ มีแรงดันจากลิ้นและแก้มต่อฟันหลัง ทำให้เกิดขากรรไกรบนโค้ง แคบ เพดานอยู่สูง และอาจมีผลต่อการสบฟันหลังผิดปกติด้วย

การป้องกันฟันผุอันเกิดจากการเลี้ยงลูกด้วยนม

1. เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือนมจืด
2. ไม่เติมน้ำตาลในนมให้ลูก เพราะจะทำให้ฟันผุง่าย และสร้างนิสัยชอบทานหวาน
3. ให้เด็กดูดน้ำเปล่าตามทุกครั้งหลังจากดูดนม เพื่อชำระคราบนมออกจากตัวฟันและช่องปาก
4. ผู้ปกครองควรทำความสะอาดช่องปาก โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสุก เช็ดลิ้น เพดาน กระพุ้งแก้ม
และสันเหงือกให้สะอาด วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน เมื่อฟันขึ้นต้องแปรงฟันให้ลูกด้วย
5. ฝึกให้ลูกดื่มนมเป็นเวลา ไม่ปล่อยให้ลูกดื่มนมทุกครั้งที่ต้องการ
6. ไม่ให้ลูกดูดนมขวดและหลับไปพร้อมกับมีนมค้างอยู่ในปาก เพราะจะทำให้ฟันผุ เนื่องจากในเวลาที่เด็กหลับน้ำลายซึ่งเป็นตัวทำความสะอาดตามธรรมชาติจะมีน้อยมาก เชื้อจุลินทรีย์ในช่องปากจะเปลี่ยนน้ำตาลในนมเป็นกรดละลายแร่ธาตุออกจากตัวฟันทำให้ฟันผุ
7. การให้น้ำผลไม้ ควรฝึกให้ดื่มจากแก้ว เพราะการดูดจากขวดจะใช้เวลานานกว่า ทำให้น้ำตาลเกาะผิวฟันมีผลต่อการเกิดโรคฟันผุ
8. เมื่อเด็กนั่งได้ อายุประมาณ 8 – 12 เดือน ฝึกให้เด็กดื่มจากแก้วแทนขวดนม เพื่อเป็นการเตรียมเด็กให้พร้อมที่จะเลิกดูดนมขวด
9. ควรให้เด็กเลิกดูดนมขวดเมื่ออายุประมาณ 12 – 18 เดือน โดยให้ดื่มนมจากแก้วแทน
10. ควรเลิกดูดนมขวดอย่างเด็ดขาด เมื่ออายุ 2 ขวบ เพราะการดูดนมขวดจนเด็กโตจะมีผลเสียต่อการเจริญของขากรรไกรบน

   รูปแสดงการทำความสะอาดช่องปากเด็ก

การป้องกันลูกติดขวดนม

1. ฝึกเข้านอนให้เป็นเวลา
2. ฝึกให้ลูกนอนหลับได้เอง โดยไม่ต้องดูดขวดนม ไม่ใช้ขวดนมเป็นเครื่องกล่อมให้หลับ
3. นมมื้อกลางวันกินให้อิ่ม นมมื้อดึกกินพอหายหิว
4. งดให้นมมื้อดึก (หลังเที่ยงคืน) เมื่ออายุ 6 เดือน
5. สร้างบรรยากาศกลางคืนให้เหมือนกลางคืน ไม่เปิดไฟสว่าง หรืออุ้มเล่น
6. อาจหาของที่ลูกชอบ พาเข้านอน เพื่อเป็นเพื่อนป้องกันการติดขวดนม
7. หลังดูดนมก่อนนอนต้องทำความสะอาดฟัน ไม่ควรกลับมาดูดนมและหลับคาขวด
8. ฝึกให้ดื่มน้ำหรือนมจากแก้วเมื่อเด็กนั่งได้เองอายุประมาณ 8 – 12 เดือน
9. ไม่ใช้ขวดนมเป็นของเล่น เดินถือไปมา
10. เมื่อเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป ส่งเสริมให้ลูกรับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก และสร้างบรรยากาศในการรับประทานอาหารอย่างมีความสุข นมจะเป็นเพียงอาหารเสริมเท่านั้น

เลิกนมขวด อย่างไรดี

1. ตั้งใจจริง ใจแข็ง
2. ฝึกให้ลูกดื่มนมจากแก้วในตอนกลางวัน
3. พาไปไหนตอนกลางวัน ไม่นำขวดนมไปด้วย ใช้แก้วใช้กล่องแทน
4. เปลี่ยนจากดูดนมก่อนนอน เป็นดื่มนมก่อนนอน
5. หลังทำความสะอาดฟันก่อนนอน ให้พาเข้านอนโดยเล่านิทาน ร้องเพลง ไม่ควรให้ดูดนมอีก
6. ไม่ปล่อยให้ลูกหลับคานมขวด

แนวทางในการป้องกันโรคฟันผุในเด็กเล็ก

ช่วงอายุของลูก ข้อปฏิบัติในการป้องกันฟันผุ
แรกเกิด – 4 เดือน 1. เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว (นานถึง 6 เดือน)
4 – 5 เดือน 1. ไม่ใส่น้ำตาลในนมและอาหาร
2. ให้เด็กดื่มน้ำตามหลังอาหารและนมทุกครั้ง
3. ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำสุก เช็ดลิ้น เพดาน กระพุ้งแก้ม และสันเหงือกให้สะอาด
4. ไม่ปล่อยให้เด็กหลับพร้อมขวดนมคาปากจนติดเป็นนิสัยของการนอน
6 เดือน 1. เลิกดูดนมมื้อดึก
2. เช็ดทำความสะอาดฟัน
3. พบทันตแพทย์ครั้งแรก
4. ให้ฟลูออไรด์เสริม 0.25 มิลลิกรัมต่อวัน*
12 เดือน 1. ให้ดื่มนมหรือน้ำจากแก้ว
2. แปรงฟันไม่ใช้ยาสีฟัน
3. ให้ฟลูออไรด์เสริม 0.25 มิลลิกรัมต่อวัน*
18 เดือน 1. เลิกดูดนมขวด แปรงฟันเช้าและก่อนนอน
2. หลังแปรงฟันก่อนเข้านอนไม่ดื่มนมและรับประทานอาหารอีก
3. ให้ฟลูออไรด์เสริม 0.25 มิลลิกรัมต่อวัน*
3 – 5 ปี 1. แปรงฟันใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียว
2. เคลือบฟลูออไรด์
3. ผนึกหลุมร่องฟันกรามน้ำนม
4. ให้ฟลูออไรด์เสริม 0.50 มิลลิกรัมต่อวัน*
6 ปี 1. แปรงฟันเพิ่มปริมาณยาสีฟันได้
2. เคลือบฟลูออไรด์
3. ผนึกหลุมร่องฟันกรามแท้
4. ให้ฟลูออไรด์เสริม 1 มิลลิกรัมต่อวัน*

* ให้ฟลูออไรด์เสริมเฉพาะบริเวณที่น้ำดื่มมีปริมาณฟลูออไรด์ต่ำกว่า 0.3 ส่วนในน้ำล้านส่วน โดยปรึกษาทันตแพทย์ก่อนใช้

อาจารย์ที่ปรึกษา
ทพญ.ปาริชาติ สรเทศน์
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

จัดทำโดย
1. นทพ. กฤษฎา โตศักดิ์ภราเลิศ
2. นทพ. ชัยวัฒน์ วราอุบล
3. นทพ. เชาว์สิน ชัยทนุวงศ์
4. นทพ. ธิติพงษ์ พฤกษศรีสกุล
5. นทพ. สรรพสิทธิ์ ปัญญา
6. นทพ. สัมพันธ์ ติงธนาธิกุล
คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Views: 446

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2025   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service