เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ลูกชายคนโต ปฏิเสธ eng ทันทีคุณแม่เริ่มพูด eng กับเค้า

หลังจากอ่านกระทู้หลายกระทู้   บทความหลายบทความ  เกี่ยวกับเด็ก 2 pasa และด้วยความเป็นแม่ที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่  ถึงจะกล้าๆกลัวๆ  แต่ก้อมีแรงฮึด  คิดในใจ ... ว่า เริ่มพูด eng กับลูกเลยละกัน  เพราะถ้าขืนรอๆต่อไป   ลูกก้อคงฝึกยาก

 

ตอนนี้  ต้นไผ่  ลูกชายคนโตอายุ 4 ปี 6 เดือน  และ ใบพลู ลูกชายคนเล็กอายุ 3 ปี 3 เดือน  ตัดสินใจ  เริ่มฝึกพร้อมๆกัน  แต่ทั้งสองมีปฏิกริยาโต้ตอบต่างกัน

 

ต้นไผ่  ฟังพอเข้าใจ  แต่บอกว่า  ไม่ชอบ...ไม่ชอบ  ทำไมคุณแม่ไม่พูดดีๆ  ไม่เอาๆ  ไม่พูดภาษาอังกฤษ  เวลาเล่านิทานก้อเหมือนกัน  ใช้หนังสือนิทานที่มี 2 ภาษา  และทำท่าทางประกอบ  เค้าก้อฟังบ้าง  ไม่ฟังบ้าง  บางทีก้อบอกว่า  เอาภาษาไทย...คุณแม่  ไม่พูดๆภาษอังกฤษ  ทำท่าขัดใจเดินหนีจากไป

 

ใบพลู  ยอมทำตามบ้าง  พอคุณแม่ส่งของให้และชักกลับแล้วพูดว่า  thank you mommy  first.  เค้าก้อพูด thank you.  พร้อมยกมือไหว้  แสดงออกว่า  เค้าพอจะเข้าใจ   หรือ  พอเรียก  Come here.  Let's  go now.

It's time to go to bed.  เค้าก้อวิ่งมาเพื่อขึ้นห้องนอน

 

คิดว่าจะพยายามสอนลูกไปเรื่อยๆ  แต่ก้อยังอยากได้กำลังใจ  คำแนะนำ  จากคุณพ่อ  คุณแม่ที่มีประสบการณ์

ช่วยแบ่งปันมาด้วยนะคะ 

Views: 472

Replies to This Discussion

ไม่ทราบว่าอ่านหนังสือสองภาษาเล่มหนึ่งและสองหรือยัง มีคำตอบอยุ่เล่มคะ ค่อยๆอ่านและบ่อยอ่านจบแล้วก็ต้องวกกลับมาทวนอีกคะ ต้องสอนเป็นธรรมชาติให้มากที่สุดเหมือนเราสอนลูกพูดไทยได้อย่างไร ต้องให้เวลาค่อยเป็นค่อยไปคะ หรือลองเข้า วช.ร่น 18 เห็นคุณบิกประกาศแล้วคะ จัดวันที่ 16/5/2553 คะ ลองเช้ดดูช่องกิจกรรมขวามือสุดคะ
เป็นกำลังใจให้คะ สู้ๆๆๆๆๆๆ

http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/on-your-markget-setgo วิธีเริ่มของอ๊อบค่ะ..
เท่าที่ฟัง workshop ให้เน้นคนเล็กค่ะ เดี่ยวคนโตก็จะมากระแซะ ๆ เอง เพราะอยากให้แม่คุยด้วย
ตื้ออย่างมีศิลปะเท่านั้นที่ครองโลก หลอกล่อด้วยขนม(ที่มีประโยชน์) ทำหน้าตาท่าทีให้บันเทิงเข้าไว้ หลายๆครั้งเข้า เค้าก็ชินเอง อุปสรรคมีกระโดดข้ามค่า น้องภีมวันแรกที่พูดด้วยเค้าเดินหนีเลย ในใจคิดว่า ผู้หญิงคนนี้หน้าเหมือนแม่เลย แต่ไม่เข้าใจพูดอะไร BYE BYE
ในการฝึกลูกพูดภาษา eng มีปัญหาตามมามากมายจริงๆค่ะ ปัญหาสำคัญกลับเป็นปัญหาที่อยู่ในตัวคุณแม่เองค่ะ อาจเป็นเพราะทิ้งห่างการพูด การฟัง eng มานาน.. นับจากต้องรับหน้าที่ดูแลลูกอย่างเต็มตัว แต่เดิม eng ก้อไม่ค่อย o.k อยู่แล้วด้วย พอมาเริ่มกับลูก กว่าจะพูดออกมาลูกเดินจากไปแล้ว คิดประโยคจนปวดหัว จนอดใจไม่อยู่ ต้องหลุดปากพูดเป็น thai ไปซะทุกที ท้อจังค่ะ
ก็เริ่มแบบหนึ่งเวลาหนึ่งภาษาไปก่อนก็ดีนะคะ สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่มั่นใจในการใช้ Eng จะได้ไม่กดดันตัวเองแบบที่คุณบิ๊กแนะนำ เช่น It's bedtime, Come on. mommy will read the book for you. ไหนใครอยากให้แม่อ่านเล่มไหนไปหยิบมาซิครับ คือพูดเท่าที่เรามั่นใจ อย่าพูดไทยทำ Eng คำ และอย่าแปล, เพิ่มคำศัพท์,พอเราเริ่มมั่นใจ หรือลูกเริ่มไม่ต่อต้านเราก็เพิ่มความถื่เป็นหนึ่งคนหนึ่งภาษาได้เลย อีกอย่างควรเริ่มสอนในสิ่งที่ลูกกำลังทำหรือสนใจ เช่น ลูกขี่จักรยาน เราก็พูดเรื่องการขี่จักรยานและการเล่น อย่าไปดึงลูกเข้ามาสอนที่เราอยากสอนเด็กจะยิ่งต่อต้านค่ะ หาเพลงเพราะ ๆ มาเปิดคลอ แม่ต้องทำท่าทางว่าเราชอบเพลงนั้น ๆ มาก และทำท่าทางประกอบเพลงร้องตาม (หรือฮัมเพลงตามถ้ายังร้องไม่ได้) เดี๋ยวเด็กก็จะสนใจ เพราะเด็กอยากเป็นส่วนหนึ่งของแม่อยู่แล้วค่ะ ลองเข้าไปโหลดเพลง mp3 จากweb ข้างล่างมาเปิดให้ลูกฟังนะคะ (ฟรี) ออกเสียงชัด ฟังง่าย เพลงเด็ก ๆ ของฝรั่งค่ะ
http://freekidsmusic.com/traditional/index.html
เป็นเหมือนกันค่ะ ตอนเริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูกชายคนโต เขาก็ไม่ยอมคุยด้วย ไม่อยากคุยด้วย เหมือนคุณแม่พูดภาษาต่างดาวหรือนี่
ประมาณปีกว่ามาแล้วค่ะ ตอนนั้นเขาอายุเกือบ 2 ขวบ ตอนนี้เขา 3 ขวบเต็มแล้วค่ะ
ตอนนี้ เขาก็ยังไม่พูดภาษาอังกฤษกับแม่เหมือนเดิม
แต่เขาเข้าใจภาษาอังกฤษค่ะ ถ้าเขาจะพูด เขาก็พูดแค่บางประโยคที่เขาอยากพูด

เมื่อก่อน ก็คุยกับสามีว่า ลูกชายไม่พูดภาษาอังกฤษกับเราเลย ที่ทำไปนี่ ได้ประโยชน์อะไรหรือเปล่า
แต่เขาก็แสดงออกให้เห็นว่า เขาเข้าใจภาษาอังกฤษ ก็เลยคุยกันว่า ก็ยังดี ถึงเขาไม่พูดกับเราตอนนี้
แต่ต่อไป เมื่อเขาเจอชาวต่างชาติ เขาก็อาจจะพูด โดยไม่เคอะเขินก็ได้
(ที่ว่าต้องสร้างสถานการณ์ว่า ทำเป็นไม่เข้าใจเวลาเขาพูดภาษาไทย ก็เคยทำอยู่ค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้ผล
แล้วอีกอย่าง ดิฉันเป็นคนโต้ตอบไว ก็เลยมักจะลืมว่าต้องทำเป็นไ่ม่เข้าใจภาษาไทย)

เมื่อเช้านี้ ชัดเจนเลยค่ะ เขาตื่นมา แล้วอยากเล่นไอโฟนของคุณพ่อ เขาก็ถามหาไอโฟนกับคุณแม่
ดิฉันก็เลยตอบว่า IPhone's in the toilet. เขาก็หันไปพูดกับคุณพ่อว่า ป่าป๊า ไอโฟนอยู่ในห้องน้ำ
กับก่อนหน้านี้ ก็เคยบอกเขา่ว่า Cover น้องแซนด์ with a blanket. เขาก็เอาผ้าห่มมาห่มให้น้องค่ะ
แล้วก็ยังมีอีก เช่น บอกว่า Turn off the TV. Turn off the light. เขาก็จะพูดว่า ไม่ปิด จะดู

ตอนนี้ ดิฉัีนมั่นใจว่า เขาค่อนข้างเข้าใจภาษาอังกฤษค่ะ แต่ยังไม่พูดด้วย
บางท่านอาจจะคิดว่า ควรจะกระตุ้นให้เขาเริ่มพูดภาษาอังกฤษด้วยแล้ว
แต่สำหรับดิฉัน ที่ลูกชายเขาเข้าใจภาษาอังกฤษระดับหนึ่ง ดิฉันก็โอ.เค.แล้ว ถึงยังไม่พูด ก็ไม่เป็นไร
ก็พูดไปเรื่อยๆ กับเขา สนุกสนานไปเรื่อยๆค่ะ

หวังว่าพอจะเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้บ้างนะคะ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่มีคำแนะนำมาให้นะคะ เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ วันนี้ขอมารายงานเพิ่มเติม มาพร้อมกำลังใจค่ะ เพราะตอนนี้คุณพ่อเข้ามามีส่วนร่วมช่วยเสริมกำลังใจให้ด้วยอีกแรง เฮ..ไชโย เริ่มอุ่นใจขึ้นทันที ที่จริงเคยตั้งต้นให้คุณพ่อสอนลูกพูดภาษาอักฤษแบบนี้มาบ้างแล้วค่ะ แต่ก้อจางหายไป....

ทั้งๆที่คุณพ่อเองพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าคุณแม่ แต่เป็นเพราะคุณพ่อต้องทำงานนอกบ้าน เวลาที่อยู่กับลูกย่อมมีน้อยกว่าเราแน่นอน ละคุณพ่อก้อเหนื่อย

มาครานี้เอาจริงค่ะ เลยบอกกับคุณพ่อว่า ช่วยหน่อยนะเท่าที่เวลาจะมี เต็มที่ก้อเสาร์-อาทิตย์นี่แหละ ต้องช่วยกันนะ มาเป็นแรงเสริมหน่อย ครั้นพอเสาร์-อาทิตย์ ไปเดินซื้อของที่ห้างฯ ก้อเลยต้องกระตุ้นให้คุณพ่อพยายามพูดกับลูก ทั้งตัวเราเองก้อต้องพูดด้วย ร่วมด้วยช่วยกันหล่ะงานนี้ พยายามสอนเค้า เช่น Don't touch. , Help me,put it in cart. หรือ Go this way. ลูกเองก้อมองหน้า ทำท่าขัดใจอีกตามเคย แต่เราสองคนพ่อแม่ก้อไม่ละความพยายามค่ะ จนบางครั้งลูกเผลอทำตามบ้างแต่ก้อยังมีบ่นตลอดว่า คุณแม่เมื่อไหร่จะหยุดพูดภาษาอักฤษซะทีเนี่ย ทั้งพ่อทั้งแม่ทำท่าไม่สนใจ ฝ่ายคุณพ่อก้อพูดว่า I know you want to go in the airplane. If we speak in English,we can go to there. และอีกหลายประโยคเริ่มพรั่งพรูออกมา ผิดๆถูกๆ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่

ทั้งนี้ทั้งนั้น เลยขอถามคุณพ่อคุณแม่ที่มีประสบการณ์หน่อยนะคะ คือ ยังมีข้อสงสัยในใจว่า เอ...ถ้าตัวเราพูดประโยคภาษาอังกฤษผิดๆถูกๆออกไป จะมีผลกับลูกมากน้อยแค่ไหนค่ะเนี่ย หมายถึง ลูกเองเค้าก้อจะจำที่ผิดๆไปด้วยมั๊ยค่ะ?? แต่ถ้ามัวนึกและกังวลมาก พาลจะคิดไม่ออก ก้อจะไม่ได้พูดกันพอดี จะยังงัยดีค่ะ
แชร์บ้างนะครับ เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง ครอบครัวผมเริ่มทำโครงการนี้ตอนน้องพอใจอายุ สามขวบ เก้าเดือน เรื่องต่อต้านแบบน้องต้นไผ่เป็นเรื่องปกติครับ เค้างอน และพยายามที่จะพูดกับแม่อย่างเดียว ประเด็นนี้ต้องหาแรงจูงใจ(สิ่งที่เค้าชอบ เช่นน้องพอใจชอบโพโรโร่มาก เราก็ไปซื้อตุ๊กตามาให้หายากมากกกก แล้วบอกว่าโพโรโร่มาจากต่างประเทศต้องพูดกันเป็นภาษาอังกฤษแล้วเราก็สวมบทเป็นโพโรโร่ครับ)ให้เค้าเพื่อเป็นแรงดึง แล้วเราต้องใจแข็งรักษากติกาให้ได้เมื่อเค้าเจอสถานการณ์ที่บังคับเช่นอยากได้อะไร หรืออยากให้เราช่วยอะไร เค้าจะพยายามพูดเป็นภาษาอังกฤษเอง ถ้าเค้าพูดไม่ได้ก็บอกเค้า แล้วให้ลองพูดให้ฟังก่อนค่อยทำตามสิ่งที่เค้าต้องการเพื่อเป็นแรงดัน
ส่วนประโยคที่พูดผิดเราต้องพยายามแก้ไขวันหลัง หรือครั้งต่อมาครับ ใจแข็งและทำต่อเนื่องประมาณสาม สี่ เดือนก็เห็นผลแล้วละครับ
เรื่องระบบOPOL หรือOTOL ก็เลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว ของผมใช้แบบ OPOL ซึ่งข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนคือ เป็นกติกาที่เข้มแข็งมาก เค้าจะพยายามพูดภาษาอังกฤษกับเราในทุกสถานะการณ์ ทุกเวลา ทุกสถานที่ เนื่องจากเค้ารู้ว่าถ้าพูดภาษาไทยแล้วเราไม่ตอบสนองครับ สู้ๆครับ เชียร์
ไม่รู้ว่ามีหรือยัง
Attachments:
แวะมาขอบคุณอีกครั้งค่ะ ขอบคุณ ....คุณแม่น้องกุน ,คุณ Pat ,คุณอรนัย ,คุณ mamaoun ,คุณแม่น้องภีม ,คุณ Suthawadee C. ,คุณเปิ้ล ,คุณsakda anajaroen และที่สำคัญ file ของคุณ mamaoun เป็นประโยชน์มากๆสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ดันไม่เก่งภาษาอังกฤษอย่างเรา

ดีใจมากๆค่ะ...ขอบอก..รู้สึกอบอุ่นใจค่ะ ว่ายังไงก็มีเพื่อนที่มีน้ำใจอีกมากมายในช่วงเวลาเช่นนี้ ขอบคุณค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service