เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

อยากถามพ่อมือใหม่ พูดกับลูก เป็นคำๆ สั้นๆ หรือเป็นประโยคดีกว่ากันคะ


ลูกเรา 1.2 ขวบค่ะ อยากถามพ่อมือใหม่ ว่าเด็กวัยนี้ ควรสอน เป็นคำๆ (ศัพท์) หรือเป็นรูปประโยค แบบ พูดไปเลยเรื่อยๆ ให้เค้ารู้ทั้งหมดเลย เช่น
Where do you want to go ? หรือ Go? เวลาจะถามเค้าว่าจะเดิน หรือคลานไปไหนอ่ะค่ะ เป็นต้นน่ะค่ะ

หรือ Do you want to Swiming ? or Swiming? อันไหนดีกว่ากันคะ

รบกวนตอบหน่อยค่ะ พอดีชอบพูดประโยคยาวๆ กลัวลูกจะงง เราเองก็กลัวจะไม่ได้ผล เพราะเค้ายังพูดไม่ได้ พูดเป็นคำๆ เช่น หม่ำๆ กัดๆ อะไรทำนองนี้ ก้อเลยสงสัยน่ะค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้านะคะ

ม๊าพีโอ

Views: 170

Reply to This

Replies to This Discussion

แรกๆสั้นๆก่อนนะคะ พอน้องเริ่มรู้มากขึ้นก็เติมไปวันละนิดวันละหน่อยค่ะ
ขออนุญาตคุณดาเห็นต่างนะคะ
อยากให้พูดเต็มประโยค และให้ถูกไวยากรณ์ด้วย (ถ้าไหวนะคะ)
แล้วอาจพูดซ้ำตรงคำสำคัญ เช่น swim swim หรือ
ใช้ stress ช่วยเน้นคำสำคัญในประโยคก็ได้
ขอcopyคำตอบที่ให้กับพ่อน้องเคนมาแบ่งให้ม๊าพีโอด้วยค่ะ

ก่อนที่นีโอจะพูดเป็นประโยคได้ แม่ปูพื้นฐานด้วยเทคนิคเหล่านี้ค่ะ

1. รู้จักคำศัพท์จนมั่นใจที่จะพูด (แม่นศัพท์):
ข้อนี้เริ่มจากศัพท์ใกล้ตัว และสิ่งที่น้องสนใจ เวลาคุณพ่อจะหยิบอะไรให้น้อง หรือน้องจะเอาอะไร ให้เราพูดคำนั้นๆ “อย่างชัดเจน” ถ้าใส่อารมณ์ให้มีสีสันสักนิดได้ยิ่งดีค่ะ เช่น เวลาจะหยิบหนังสือมาอ่านกัน ก็พูดว่า “เรามาอ่าน “หนังสือ” กันดีกว่า” (ใส่อารมณ์ร่าเริงตรงคำว่าหนังสือเยอะๆ) แล้วก็พูดย้ำอีกก่อนเปิดว่า “นี่ “หนังสือ” ของหนูนะครับ.. “หนังสือ” เล่มใหญ่จัง” เป็นต้น (ใช้ประโยคให้หลากหลาย แต่เน้นคำที่เราอยากสอน) หรือถ้าเป็นเด็กเล็กๆ เวลาเราหยิบขวดนมมาให้เค้า ก็ลองทำเสียงตื่นเต้นๆ พูดคำว่า “ขวดนม ขวดนม” แล้วก็โชว์ขวดนมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อย่าลืมสบตาลูกด้วยนะคะเราจะได้ปรับตัวถูก เวลาพาเดินเล่นก็ชี้สิ่งต่างๆแล้วพูดคำศัพท์ให้ชัดๆ (ใช้เสียงสูงต่ำของวรรณยุกต์ไทยให้เป็นประโยชน์ในการใส่อารมณ์ อย่า Monotone เดี๋ยวลูกหลับค่ะ)

2. ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกถึง “อำนาจ” ของการพูดได้:
ข้อนี้ฟังแล้วอาจขำนะคะ แต่สิ่งที่แม่โบว์ทำตอนนีโอเพิ่งเริ่มพูดก็คือ ไม่ว่าลูกจะพูดอะไร ต้องได้รับการตอบสนองอย่างทันที เรียกว่าช่วงหนึ่งขวบนั้น นีโอเอ่ยปากขออะไรแม่ให้หมด จะไปทางซ้ายทางขวา จะขออะไรแม่ส่งให้ถึงมือทันที หรือพูดตอบทันที ให้เค้ารู้ว่าเราฟังรู้เรื่อง เหมือนตอนนั้นนีโอจะรู้สึกถึง “อำนาจ” ที่ได้มาจากการพูดค่ะ เลยมีกำลังใจพูดใหญ่เลย (แต่พอลูกพูดเก่งแล้วก็ไม่ได้ตามใจเท่าเดิมแล้วค่ะ แต่การตอบสนองด้วยการพูดและสีหน้าท่าทางสนใจสุดๆยังต้องดำเนินต่อไปค่ะ)

คราวนี้ก็อย่าลืมต่อยอดค่ะ (อันที่จริงทุกข้อควรทำไปพร้อมกันได้เลย)

3. บรรยายทุกอย่างเสมือนเราเป็นคนพากย์หนังสารคดี:
ตอนที่ลูกยังไม่พูดหรือเพิ่งเริ่มพูด เวลาเราไปไหนทำอะไรกับลูกในบ้าน ก็บรรยายให้หมด เช่น เวลาจะอาบน้ำนะคะ ก็บรรยายไปว่าเรากำลังทำอะไร แม่ถอดเสื้อให้นีโอ ถอดแพมเพอร์ส แม่เปิดฝักบัว น้ำไหลลงมาแล้ว ฟอกสบู่กันดีกว่า ฯลฯ สามารถเน้นศัพท์ที่ลูกยังไม่รู้ด้วยการหยิบของประกอบการบรรยายค่ะ แม้แต่เวลาจะลงไปข้างล่าง ก็บรรยายไปค่ะ “แม่เปิดประตู แม่อุ้มนีโอเดินลงบันได ฯลฯ” เหมือนเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ลูกจะรู้ว่าเราพูดถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ทั้งคำศัพท์และประโยคก็จะเป็นที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น อีกไม่นานเค้าก็พูดได้เอง

4. อ่านหนังสือด้วยกันทุกวัน:
อันนี้โบว์เริ่มมาตั้งแต่นีโออายุสองเดือน พอจับนั่งตักได้ เราก็ดูหนังสือด้วยกันทุกวันไม่เคยเว้นค่ะ ต้องเลือกหนังสือให้เหมาะกับวัยและความสนใจของน้องนะคะ หนังสือช่วยได้มากเลย เพราะแต่ละเล่มจะถูกอ่านหลายครั้ง ทำให้น้องจำศัพท์ได้เร็วค่ะ ใช้หนังสือหลายเล่มหน่อยนะคะ จะได้ไม่เกิดอาการปฏิเสธหนังสือเล่มใหม่ๆค่ะ ถึงแม้จะมีเล่มโปรดที่ต้องอ่านบ่อยกว่าเล่มอื่นก็ตาม เวลาอ่านไม่ต้องตามตัวหนังสือนะคะ ทำให้เป็นธรรมชาติ พอเค้ารู้เรื่องแล้วก็ทำให้การอ่านเป็นแบบ interactiveมีถามตอบกันบ้าง เดี๋ยวเค้าก็จะช่วยเราเล่าได้ เริ่มจากหนังสือที่เน้นศัพท์คำนามต่างๆ แต่วัยสองขวบนี้เลือกหนังสือเป็นเรื่องสนุกๆได้แล้วค่ะ ไม่งั้นเค้าจะเบื่อ (แต่ก็เลือกไม่ง่ายนะคะ ไม่รู้ทำไม หนังสือใหม่ๆเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเรื่องที่ผูกเรื่องสนุกๆเลย) *ที่สำคัญ เวลาเล่าต้องเหมือนเล่นละครเลยค่ะ เหนื่อยหน่อยแต่สนุกค่ะ…

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยค่ะ
**มีบางกรณีที่คนเลี้ยงพูดมากเกินไปจนเด็กไม่พูดก็มีนะคะ คือพ่อแม่บางคนพยายามพูดเยอะๆเพราะกลัวลูกไม่พูด จนลืมเว้นจังหวะให้ลูกพูดบ้าง การสื่อสารสองทางก็เลยไม่เกิดสักที เราต้องเป็นผู้ฟังที่ดีที่สุดของลูกค่ะ

**ถ้าลูกพูดไม่ชัด ลองสังเกตดูว่าเวลาที่เราพูดนั้น เค้ามองเห็นปากเราหรือเปล่า การมองหน้ากันเวลาพูดช่วยได้คะ เพราะเค้าจะเห็นว่าเราทำปากอย่างไรในแต่ละพยางค์ที่พูด พอคล่องแล้วก็ไม่ต้องดูกันตลอดก็ได้ค่ะ แต่การสบตากันเวลาฟังลูกพูด ก็ยังเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆค่ะ

**คงเคยได้ยินว่าเด็กเล็กไม่ควรดูทีวีนะคะ วัยนี้ถึงจะดูวีดีโอสำหรับเด็ก แต่ถ้าเกินครึ่งชั่วโมงต่อวัน ก็อาจจะมากไปค่ะ

โชคดีค่ะ
ควรพูดอังกฤษเป็นประโยคเต็มๆ พูดแบบปรกติเหมือนเราพูดไทยกับลูกแหละค่ะ
คำไหนอยากให้ลูกจำก็พูดซ้ำ พูดเน้นเสียง ซึ่งจะตรงกับที่คุณแม่โบว์เอามาโพสท์ให้อ่านค่ะ
คุณพ่อน้องเคนเขียนได้ละเอียดดีมากๆ เลยค่ะ
อ๊อบเคยโพสท์กระทู้นึงชื่อ สั้นๆง่ายๆบ่อยๆ สำหรับสอนลูกที่โตแล้วถนัดภาษาไทยไปแล้ว ในระยะเริ่มแรก เพราะจากประสบการณ์พอเราพูดยาวๆเค้าไม่เก็ต พอมาลองเริ่มต้นสั้นๆ เช่น Do you want to Swiming ? = Want to swim? Do you want some water? = Want some water? เค้าเก็ตและมีปฏิกิริยาตอบรับดีขึ้น ยอมตอบ (คงเพราะง่าย) ทำแบบนี้ได้ซักระยะ ดูท่าทีว่าเค้าตอบสนองเราได้ดี คล่องขึ้น ก็มาเริ่มเป็นประโยคยาวแบบเต็มประโยค

แต่สำหรับลูกคนเล็ก อ๊อบพูดเต็มประโยคปกติเลยค่ะ เค้ายังเล็กเลยไม่มีเงื่อนไขไรมาก ตามธรรมชาติโลดๆ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
การสอนภาษาที่สองบนแนวคิด เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ อยู่บนพื้นฐานของวิถีธรรมชาติครับ ดังนั้นธรรมชาติในการพูดคุยเป็นอย่างไร ให้ปล่อยไปตามนั้น เด็กจะเรียนรู้ผ่านการเลียนแบบเอง ดังนั้นให้ใช้ภาษากับเด็กไป

เพียงแต่ว่าคำไหนอยากเน้นเป็นพิเศษ ก็พูดบ่อยๆให้ชินหู แล้วสังเกตการพยายามจะเลียนเสียงของเด็ก

สรุป พูดยาวได้ตามปกติ สลับกับการเน้นพูดเป็นคำๆ เน้นๆครับ

สำหรับความคิดเห็นของพ่อแม่ท่านอื่น ผมก็เห็นด้วยครับ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service