มือใหม่ขอคำแนะนำในการสอนลูก 2 ขวบ ค่ะ

[แม่น้องเจเจกับน้องจีจี้]

ตอนนี้ลูกชายก้อ 2 ขวบ 4 เดือนค่ะ พูดไทย เข้าใจภาษาไทยค่ะ เมื่อตอนเด็กๆ มีพี่เลี้ยงอินเตอร์ที่ค่อนข้างมีการศึกษา เค้าก้อสอนและก็พูดภาษาอังกฤษด้วย เมื่อก่อนถาม what's your name เค้าก้อจะตอบได้ ถาม what color is this? เค้าก้อจะตอบได้ เช่น yellow ค่ะ แต่ตอนนี้ถามก้อไม่บอกค่ะ ตอบเป็นไทย สีแดง แต่ว่าสีชมพูเนี่ยเค้าจะเรียกว่าสี pink ค่ะ แล้วก้อศัพท์ง่ายๆ เช่น frog lion อะไรพวกเนี้ยค่ะ แล้วเค้าก้อจะดูดีวีดีภาษาอังกฤษตลอดมานานแล้วค่ะ ดูซ้ำๆ ก้อคิดว่าเค้าเข้าใจตลอด แต่ตอนนี้เค้าดู Leapfrog letter factory เค้าถามว่าพีกบ (แท็ด) พูดอะไรอะค่ะ ก้อเลยงงว่าอ้าวตกลงที่ดูๆมานานเนี่ยไม่เข้าใจเหรอ...เศร้าเลยค่ะ เลยไร้ว่าควรจะแปลให้เค้าฟังหรือเปิดไปเรื่อยๆคะ ส่วน Clillou เค้าก้อชอบดูเฉพาะส่วนที่เป็นการ์ตูนค่ะ แล้วก้อคอยถามเป็นภาษาไทย ว่าพ่ออยู่ไหน แม่อยู่ไหน น้องอยู่ไหน ตลอดค่ะ ตอนนี้หลังจากอ่านหนังสือก็พยายามพูดภาษาอังกฤษกับเค้าแต่เค้าก้องงๆ เลยแอบแปลค่ะ ไม่ทราบว่าทำถูกมั้ย และตอนนี้เค้าเพิ่งเข้าเรียน Nursery ค่ะ แล้วก้อเหมือนมีอาการพูดติดอ่างด้วย แบบ เพิ่งสังเกตได้ประมาณ 3 อาทิตย์นี้อะค่ะ เลยเริ่มกลุ้มๆเหมือนกัน
ส่วนลูกสาวคนเล็กเพิ่งจะขวบนึง ก้อจะพยายามพูดเรื่อยๆค่ะ แต่ก้อกลัวเรื่องสำเนียง คิดว่าจะให้เป็นเรียนพวก EFL ของลิตเติ้ลเมเปิ้ลดีมั้ยคะ หรือไม่ทราบว่ามีใครทีที่ไหนดีๆแนะนำบ้างค่ะ หรือจะไปพวก gymboree หรือ tumble tod แต่อยากให้ไปฟังสำเนียงเจ้าของภาษาน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำค่ะ

[Danui]

อันที่จริง แม่คงต้องเสริมแค่เรื่องการพูดให้กับเด็กจะดีกว่าพาลูกไปเสริมที่จิมบอรี หรือสถาบันเสริมเด็กนะคะ...
ถามว่าสำเนียงจำเป็นไม๊....ก็จำเป็นค่ะ แต่รองมาจากที่เด็กได้เข้าใจภาษามากกว่า
แม่สามารถดัดสำเนียงให้เหมือนเจ้าของภาษาได้ไม่ยาก อีกอย่าง น้องเค้าก็ดูดีวีดีเจ้าของภาษาอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปเสริมเอา...ภาษาที่สอง หากไม่ได้ฟังไม่ได้พูดสม่ำเสมอ เค้าก็ไม่จำหรอกค่ะ เพราะว่าไม่ได้ใช้
ก็เหมือนคนไทยเราที่เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก แต่กลับพูดภาษาไม่ค่อยได้ เพราะไม่ได้นำมาใช้
ก็มีลืมกันไป เด็กๆก็เหมือนกัน
อยากให้น้องพูดภาษาที่สองได้ ก็ต้องทำให้เป็นกิจวัตประจำวัน หรือทำสม่ำเสมอ พูดทุกวัน ให้เป็นเสมือนหนึ่งว่า เป็นอีกภาษาที่ต้องพูดในบ้าน ทำให้เป็นความเคยชิน และนี่ก็จะเป็นการปูพื้นฐานที่ดีให้กับลูก ก่อนที่เค้าจะได้ไปเรียนรู้ภาษาที่สองในโรงเรียน...ซึงจะง่ายกว่าเยอะเลยค่ะ...

ส่วนเรื่องที่ให้ลูกดูดีวีดี การที่เด็กได้รับสื้อทางเดียว เด็กอาจเข้าใจเรื่องราวจากท่าทางและสีหน้าของตัวการตูน
แต่เรื่องภาษาอาจมีการเข้าใจผิดไปบ้าง หากผู้ใหญ่ไม่อยู่ใกล้ชิด
อย่างลูกสาว ก็ให้ดูการ์ตูนตั้งแต่เล็กเลยนะคะ แต่นุ้ยมักจะอยู่ด้วย และพูดคุย ถามถึงเรื่องที่ดู และถามถึงว่า ตัวการ์ตูนตัวนี้เค้าต้องการอะไร เค้าทำอะไร ลูกจะได้ไม่รับสื่อทางเดียว มีการโต้ตอบอีกต่างหาก
ลองดูนะคะ ค่อยๆสอนเค้าไปค่ะ วัยนี้กำลังพูดปร๋อเลย แถมเป็นช่วงที่ชอบซักถามอีกต่างหาก...

[แม่น้องเจเจกับน้องจีจี้]

ขอบคุณค่ะ คุณ Danui อืมปกติเวลาลูกดูดีวีดีก็นั่งดูด้วยกันค่ะ แต่เราก้อจะปล่อยให้เค้าดู เพราะดูเหมือนเค้าตั้งใจดูมากก มีสมาธิเหลือเกิน แบบพอแม่ถามก้อไม่ตอบ ทำหน้าแบบรำคาญ แล้วพอถามเซ้าซี้มากๆ เค้าก้อบอก เจจะดูพี่กบ ค่ะ เราก้อแบบ อารมณ์ตลกดี นึกถึงเวลาเราดูละครมันส์ๆก้อไม่อยากให้ใครกวนค่ะ อืม ไว้จะลองดูใหม่ค่ะ ยังงัยก้อขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ

[Danui]

อย่างลูกสาวดู เบบี้ไอล์สไตล์ ก็จะทำท่าทำทางไปพร้อมกันเวลาเค้าทำเสียง Clap ๆๆๆ
ก็จะตบขา ตบไหล่ ตามการ์ตูนทำ ลูกก็จะทำตาม พร้อมทำเสียง Clapๆๆๆ ด้วย เค้าก็จะรู้ว้านี่คือการตบมือ ตบขา
เวลาดูการ์ตูนนุ้ยจะดูแล้วทำท่าตื่นเต้น พร้อมมีการพากษ์นีสนุงด้วยค่ะ เช่นมีตัวการ์ตูนวิ่ง....
ก็จะพูดว่า...Look at him,He is running...แล้วทำท่าวิ่ง...ลูกก็ได้อีกคำหนึ่งแล้ว คือ run(วิ่ง)
บางครั้งก็ถามลูกว่า...Angel,What is that? / Angel,What's happened???
ส่วนใหญ่แล้วลูกสาวจะตอบนุ้ยตลอดค่ะ เวลามีฉากตื่นเต้น แม่ก็ตื่นเต้น หัวเราะด้วย
เวลามีฉากเสียใจ แม่ก็ทำท่าเสียใจด้วย... ตั้งแต่มีลูก ส่วนใหญ่จะได้ดูแต่การ์ตูนกับลูก ละครทีวีไม่ค่อยได้ดูเลยค่ะ
ทีวีไทย ข่าวไทย ไม่ค่อยได้ดูเลย ตอนเช้าของลูก ตอนบ่ายของพ่อ ตอนเย็นของลูก ตอนกลางคืนของพ่อ
ส่วนของแม่มีแต่เน็ตค่ะ...555

[แม่น้องเจเจกับน้องจีจี้]

เห็นด้วยค่ะ ตกเทรนด์สุดๆ ไม่ได้ดูข่าว ไม่ได้ดูรายการอะไรเลยค่ะ ถ้าเปิดทีวี ก้อจะเปิดดีวีดีให้ลูกดูเท่านั้นค่ะ ที่บ้านเค้าก้อว่าเครียดเกินไป จะดูบ้างก้อได้ แต่พออยู่กับลูกก้ออยากเล่นกับเค้าค่ะ ไม่อยากเปิดดูไปเองเลย ตอนนี้ก้อใครพูดเรื่องละคร หรือรายการอะไรนี่ ไม่รู้เรื่องเลยค่ะ อืม..ปกติแล้วเป็นคนไม่ค่อยมีมุขเลยค่ะ ดีจังจะได้ขอยืมมุขดีๆไปเล่นกับลูกบ้าง ขอบคุณค่ะ ปล. เหมือนกันเลยค่ะ มีแต่เน็ต

[Pat]

เหมียนกัลเลยค่ะ ม่ายได้ดูทีวีเหมือนกัน เน็ตโลด

[ศศรส บุญศิริ]

เห็นด้วยกับคุณนุ้ยค่ะ แต่ขอย้ำว่าอย่าปล่อยให้เด็กนั่งดู DVD คนเดียวค่ะอันตรายในระยะยาวเลยเพราะเค้าสื่อสารทางเดียว ภาพเปลี่ยนตลอดเวลา เด็กจึงนั่งนิ่งดูมีสมาธิเพราะเด็กจะถูกสะกดให้คอยดูภาพเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนไปเร็วๆ แต่ถ้าเรานั่งดูกับลูก คอยซักคอยถาม เค้าจะสื่อสารกับเราโดยมี DVD เป็นเพียงสื่อช่วยสอนค่ะ ถ้าทำแล้วลูกหงุดหงิดว่าแม่กวนเค้า ก็วางเงื่อนไขกับเค้าไปเลยค่ะว่า เวลาดู DVD ต้องดูกับแม่และพูดคุยกับแม่ด้วย อย่าง leapfrog เวลาออกเสียง Phonics ก็ออกเสียงตามไปเลยค่ะ เราใช้รีโมทหยุดภาพให้เค้าออกเสียงก่อนได้ทุกครั้ง ดิฉันใช้วิธีนี้กับลูกสาว (3.10 ปี) สนุกกันมากเลยเวลาออกเสียง เราก็ออกเสียงด้วย แข่งกับลูก ตอนนี้เค้าดูไป 3 รอบแล้ว (วันละ 1 รอบ) แม่ก็จำเอามาร้องเป็นเพลงให้เค้าออกเสียงค่ะ อย่าง The A says แอ๊ (ตรงนี้ให้ลูกออกเสียง) All letters make a sound The A says แอ๊ (ให้ลูกออกเสียงอีก) ร้องไปจนถึงตัว Z อันไหนฟังแล้วลูกออกไม่ชัดเราก็แก้ให้ค่ะ ได้เรียนไปกับลูกด้วย ทีนี้เวลาพูดหรือสอนศัพท์ก็ออกเสียงได้ชัดมากขึ้นเลยค่ะ ทั้งตัวสะกด st หรือ ft หรือ l เด็กๆ รับและเรียนเร็วมากค่ะ

[ศศรส บุญศิริ]

ส่วนเรื่องพาไปเสริมที่อื่นๆ นั้นคิดว่าเด็กจะได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับคนอื่นค่ะ แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นมากเท่าไหร่ค่ะ อาจจะดีในแง่ว่าเด็กได้สื่อสารภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้นนอกเหนือจากการพูดคุยกับแม่อยู่ที่บ้าน จริงๆ ก็มีส่วนดีแต่อย่าคิดว่าจะช่วยทำให้พัฒนาการทางภาษาของลูกดีขึ้นอย่างมาก ดิฉันเองพาลูกไปเข้ากลุ่มกิจกรรมที่ Gymboree ตอนลูก 1.6 ปีค่ะ ก็ไปอยู่เรื่อยๆ จนลูกอายุ 3 ขวบก็หมด course ที่นั่น ลุกก็เตรียมตัวเรียนอนุบาล 1 สิ่งทีไ่ด้จาำ gymboree เกี่ยวกับภาษาก็คือ ลูกรู้สึกคุ้นเลยกับการฟังภาษาอังกฤษ เข้าใจมั่ง ไม่เข้าใจมั่ง แต่ลูกไม่เคยโต้ตอบออกมาเป็นอังกฤษค่ะ เพราะเมื่อกลับมาบ้านอยู่กับแม่ก็ไทยตลอดเวลา เพลงที่ Gymboree สนุกและสอนเด็กๆ เรื่องคำศัพท์ ลูกก็มักจะจำไปร้องเสมอ แต่พ่อแม่ก็ต้องนำมาย้ำและใช้เป็นสื่อสอนอยู่ที่บ้านค่ะ ตอนลูก 3 ขวบไม่ได้ไป Gymboree แล้ว แม่ก็เอาเพลงที่ Gymboree นั่นล่ะมาร้องมาสอน แต่พอมาได้แนวทางที่พ่อมือใหม่สอนภาษาให้ลูก แม่ก็ลองบ้าง เริ่มพูดอังกฤษกับลูกทุกวันทุกช่วงเวลาที่สามารถจะพูดได้ ลูกสาวรับการสื่อสารภาษาอังกฤษจากแม่ได้เร็วมากเลยค่ะแม้จะมีต่อต้านในระยะแรก แต่ผ่านมา 3 สัปดาห์แล้วเค้าก็สนุกกับการได้พูดและฟังภาษาอังกฤษจากแม่