เพิ่งเริ่มต้นค่ะ อึดอัด เครียดท้อเหมือนกันค่ะ ขอปรึกษาหน่อยนะค่ะ

[narisara panturad]

ได้หนังสือมาแล้วค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีใจที่ตัวเองคิดไม่ผิดกับการสอนภาษาอังกฤษให้ลูก ต้องขอบคุณคุณพ่อมือใหม่มากๆค่ะ ที่ทำหนังสือนี้ออกมาช่วยแม่อย่างเราที่อยากสอนภาษาอังกฤษให้ลูกจริงๆๆค่ะ

อ้อเริ่มให้ลูกดู วีซีดี ภาษาอังกฤษอย่างเดียวค่ะ มาตลอด ตั้ง แต่ 1 ขวบค่ะ กลับเป็นว่าลูกพูดไทยไม่ชัดเลยคะ แฟนบอกว่าลูกพูดไทยเหมือนฝรั่งพูดไทยไม่ชัด ก็มีเพี้ยนบ้างนิดหน่อยค่ะ ตอนนี้ไปรร ก็พูดได้ดีขึ้นค่ะ

พออ้อได้อ่านหนังสือ อ้อก็เริ่มพูดอังกฤษเลยค่ะะ เริ่มมาได้ สามวันแล้ว รู้สึกอึดอัดค่ะ ลูกไม่เข้าใจ แต่แกไม่โต้แย้งอะไร แกรู้สึกอึดอัดบ้าง มองหน้าแม่แปลกๆค่ะ เมื่อวาน ลูกทานน้ำเต้าหู้ บอกลูกว่า hot , its' hot , be careful, ลูกก็จับแก้ว แล้วพูด hot, hot และก็พูดร้อน และก็พูด hot ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยค่ะ บอกให้ลูกอาบน้ำ ก็พูด take a bath ลูกก็พูดตามแต่ไม่เข้าใจ

แต่วันนี้รู้สึกเครียดค่ะ ไปส่งลูกไปรร คุยกันในรถ สามีบอกว่า ไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษได้ไหม ปวดหัว ไม่เข้าใจ ลูกอึดอัด ลูกไม่เข้าใจหรอก ถ้าจะเริ่มก็เริ่มตอนเล็กๆๆ มาเริ่มตอนนี้เด็กไม่ชอบ เราฟังแล้วน้ำตาแทบไหลค่ะ แต่ลูกอยู่ด้วย เราพูดภาษาอังกฤษใส่สามีไปเลยค่ะ ลูกมองหน้าทันทีคิดว่าคงสงสัยว่าแม่พูดอะไร สามีเขาฟังออกค่ะ เราบอกว่าให้เชื่อใจเรา เราจะทำให้เขาเห็นว่าลูกพูดภาษาอังกฤษได้นะค่ะ พอกลับมาบ้าน พูดอังกฤษด้วยเขาก็ไม่พูดเลย คืออ้ออยากจะพูดอังกฤษกับเขาจะได้ฝึกไปด้วยจะได้ไม่เขินกัน และก็ตอนนี้อ้อเริ่มนึกเป็นภาษาอังกฤษหมด เวลานึกจะทำอะไรก็เป็นอังกฤษไปเลยจะได้คิดชินเป็นอังกฤษไปเลยค่ะ ผ่านไปไม่กี่นาทีพูดอีก เขาก็พูดไทยกลับมาแล้วไม่ว่าอะไรค่ะ เลยมีปัญหาอยากถามว่า

1. การใช้ประโยคสั้นๆหรือคำศัพท์สั้นๆสำหรับการเริ่มต้น ไม่ควรพูดไทยเลยหรือเปล่าค่ะ และต่อหน้าลูกพูดไทยกับสามีได้ไหมค่ะ

2. ถ้าพูดอังกฤษกับลูกแล้วลูกพูดไทยกลับมา สำหรับการเริ่มต้นควรทำอย่างไรค่ะ พูดโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษไปเลยหรือเปล่าค่ะ

3. วิธีที่อ้อใช้เหมาะสมไหมค่ะ ถูกต้องหรือเปล่าค่ะ

กลางคืนลูกตื่นมางอแง ก็มีพูดไทยกับลูกบ้างคะ เพราะวินาทีนั้นอ้อนึกพูดไม่ออกค่ะ

ขอกำลังใจด้วยนะค่ะ ตอนนี้บางทีก็อดท้อไม่ได้แต่ไม่ถอยแน่นอนค่ะ แต่รู้สึกเครียดอัดอัดบ้างเหมือนกันค่ะ

**ขอบคุณค่ะ**

[แม่น้องอิน]

สู้ สู้ นะคะเป็นกำลังใจให้คะ

[พ่อแป๊ะ]

เป็นกำลังใจให้ครับ สิ่งที่เราให้กับลูกคืออะไรก้อได้ที่เป็นประโยชน์สำหรับลูก จะพูดไทย อังกฤษ จีน หรือแม้กระทั่ง ให้เล่นดนตรีหลายๆชิ้น เล่นกีฬาหลายๆอย่าง ทำไปเถอะครับ แต่อย่าลืม ภาษาไทย และความเป็นไทย วัฒนธรรมไทย เพราะเราอยู่ในประเทศไทย คนสิงค์โปรพูดได้ 5 ภาษา อยู่บ้านพูด จีนกลาง แต้จิ๋ว ไปโรงเรียนพูดอังกฤษ เรียนเป็นภาษาอังกฤษ ผมเคยทำงานร่วมกับเด็กสิงค์โปร พูดกับเราอังกฤษ คุยกับเพื่อนของเขาเองพูดจีนบ้าง อังกฤษบ้าง ทำไมทำได้ เพราะทำมาตั้งแต่เด็กๆ ในความเป็นจริงลูกเราเล่นกับเพื่อนๆของเขา ก้อจะพูดภาษาไทยกัน พอกลับมาเจอหน้าแม่ ก้อพูดอังกฤษ เด็กจะเรียนรู้ได้เองโดยธรรมชาติ มันก้อเหมือนกับการเอาตัวรอดของเด็กในสภาวะการณ์ต่างๆ อาจเปรียบได้กับการเล่นกีฬา บางคนเล่นได้4-5 ประเภท แต่อาจจะเก่งจริงๆ แค่เพียง 1 หรือ 2 เท่านั้น แต่เขาก้อสามารถเล่นได้หลายประเภท(เราภูมิใจมั๊ย) ขณะนี้เรากำลังฝึกผนด้านการสนทนาโดยใช้ภาษาพูดเราก้ออย่าลืมฝึกฝนในเรื่องต่างๆด้วย เรื่องภาษาไม่ได้สำคัญแต่เพียงด้านเดียว พูดภาษาอังกฤษเก่งมากแต่เวลาเล่นกับเพื่อนไม่มีความสุข ไม่มีทักษะการเข้าสังคม ไม่มีการเรียนรู้ด้านต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ทำอย่างไรก้อได้ครับ ให้ลูกเรามีความสุข และครอบครัวของเรามีความสุข

[Thayad]

มาเป็นกำลังใจให้อีกคนครับ
ผมก็พยายามสอนลูกอยู่เหมือนกัน
แต่ผมต้องเริ่มเรียน A B C ตั้งแต่ต้นใหม่
สำเนียงจะได้ดี ตอนนี้ก็รู้สึกท้อ
แต่สู้ๆครับ ท่องไว้เพื่อลูกๆ

ปล.ถ้ารู้สึกท้อผมจะมาที่นี่ครับ แล้วจะมีกำลังใจขึ้นเยอะจากเพื่อนๆใจดีเว็ปนี้ครับ

[narisara panturad]

ขอบคุณค่ะ คุณ Thayad อ้อก็ตอนนี้ เวลาว่างลูกไม่อยู่จะเอาหนังภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับในชีวิตประจำมาดูค่ะ Soundtrack เปิดsub อังกฤษไว้ตลอด ช่วยได้มากจริงๆๆคะ

[แม่น้องเนย]

เริ่มต้นสอนน้องตอนอายุ 2.6 ปีค่ะ ใกล้เคียงกันเลยค่ะ ตอนแรกเค้าก็ต่อต้านเลยทันทีค่ะ เพราะเริ่มแบบหักดิบ ฮ่าฮ่า ชอบลองของ.... เพราะได้แรงบันดาลใจจากหนังสือคุณพงษ์ระพีมาเพียบ.....

เพราะตอนแรกเราจริงจังเกินไป ตั้งความหวังไว้มากเกินไป ทำให้เราเครียดเอง เพราะหงุดหงิดที่พูดแล้วก็ติด นึกไม่ออก และทำไมลูกไม่เข้าใจแม่เล้ยยยลูกจ๋า.....รู้สึกเหมือนกันว่าพูดกับลูกได้น้อยจริงๆ และห่างเหินกัน เพราะถูกกั้นด้วยภาษาที่เราไม่ถนัด แต่ขอให้ลองอดทนทำไปก่อนซัก 1-2 เดือน ก็จะเริ่มรู้สึกลื่นขึ้นบ้าง ค่อยๆทำไป ไม่ต้องรีบ ลูกอยู่กับเราตลอดแหละค่ะ

คุณคงต้องคุยกับสามีก่อนนะคะ ให้ความคิดเห็นตรงกันก่อนไม่งั้น นอกจากจะเครียดกับลูกแล้ว ยังจะเครียดกับสามีอีก

ส่วนเรื่องตอนกลางคืนลูกตื่น ที่จริงก็พูดไทยก็ได้ ไม่ต้องซีเรียสมากหรอกค่ะ หรือไม่ก็ Mommy is here...

[Pat]

[narisara panturad]

คุณแพทค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

[อาทิตยา]

สู้เค้านะคะคุณอ้อ อรเจอปัญญาใกล้เคียงกับคุณอ้อแต่คนที่ขอให้อรพูดไทยกับลูกคือคุณแม่อร ท่านว่าพูดอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง แต่สำหรับสามีเข้าใจดีแต่ก็ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือ อรค่อนข้างมีเวลาให้ลูกน้อยมากเพราะต้องทำงานนอกบ้านเลยต้องฝากให้คุณยายเลี้ยงหนำซ้ำยังพูดภาษาใต้ล้วนๆ เลยนะคะแต่มันเป็นความต้องการของอรและสามีอยู่แล้วที่จะให้ลูกพูดภาษาใต้ได้ แต่เพราะเวลาน้อยทำให้ไม่ค่อยไ้ด้คุยกับลูก (ทุกครั้งที่อยู่กับลูกจะพูดอังกฤษตลอด) แต่คุณอ้้อทราบมั๊ยคะว่ากำลัีงใจที่ดีที่สุดอยู่ที่นักเรียนของเรานี่แหละค่ะ เพราะอรดูจากอรเองไม่ว่าทั้งวันลูกจะเจอแต่ภาษาใต้มา แต่พอได้คุยกับอรเค้าจะตอบสนองดีมาก รับรู้และมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับเสมอ เห็นมั๊ยคะว่าไม่มีอะไรแย่เสมอไปหรอกค่ะ ยิ่งใครที่ไม่อยากฟังเราพูด Eng ก็จะต้องยิ่งพูดให้มากขึ้นจะได้เลิกบ่นซะที อรใช้วิธีนี้แหละค่ะ ผลก็คือตอนนี้ลูกสาวอายุ 5 เดือนเศษ สามารถยกมือและขยับนิ้วขึ้นมานับ 1-10 Eng ได้อย่างสนุกสนาน พร้อมกับรับรู้ไ้ด้ว่า Good morning Ofie. นั่นคือเสียงทักทายจากแม่เมื่อยามเค้าตื่นนอน (ยิ้มร่าอย่าบอกใครเลยค่ะ)

[narisara panturad]

คุณอาทิตยาค่ะ อ้อก็พูดใต้ด้วยเหมือนกันค่ะ แต่ลูกก็ไม่ติดภาษาอัอมาเลย ตอนนี้ก็พยายามต่อไปค่ะ สู้ๆค่ะ

[mommy pang]

มาเป็นกำลังใจให้ด้วยคะ คนข้างตัวก็ชอบว่าเราเครียดเกินไปคะ แต่ก็อดทนคะ ตอนนี้กระดาษ post it ที่เขียนประโยคที่เราต้องพูดเต็มบ้านไปหมดคะ เพราะ ตอนสมัยเรียนภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยดีเท่าไร หลายคำที่เพิ่งมารู้ว่าเราอ่านผิดมาตลอดชีวิต มาแก้เอาตอนสอนลูกนี่ละคะ ทำให้ได้เล่นเกมส์เพิ่มไปอีกเกมส์คะ เพราะ ลูกสนใจว่า mommy ติดกระดาษที่เขียนอะไรไว้ เราได้โอกาสก็ท่องไป อธิบายให้เขาฟังไป เรียนไปพร้อมกับลูกนี่ละ สนุกกว่าตอนเรียนเองอีกคะ

[narisara panturad]

ขอบคุณค่ะคุณ mommy pang สงสัยต้องขอยืมเทคนิคนี้ไปใช้บ้างแล้วค่ะ เข้าท่าดีค่ะ

[Danui]

มาเป็นกำลังใจให้คุณแม่ที่มีความตั้งใจสูง ที่จะสอนภาษาที่สองให้กับลูกนะคะ
ไม่ต้องซีเรียส ไม่ต้องหวังผลกลับมาสูงค่ะ ไม่งั้นคุณแม่เครียดแน่ๆ
ค่อยๆสอนไปค่ะ เริ่มจากคำง่ายๆ ที่มักใช้บ่อยๆ เด็กๆจำได้ดี สมองเค้าดีและพร้อมที่จะรับข้อมูล
แรกเริ่มน่าจะคุยกับคุณพ่อของน้องก่อนนะคะ จู่ๆพูดภาษาอื่นมา เป็นเราเราก็คงงงค่ะ
น่าจะคุยและพูดถึงประโยชน์ที่ลูกจะได้รับ นุ้ยว่าคุณพ่อคงไม่เกี่ยงแน่...

เอาใจช่วยนะคะ...