เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
ขึ้นหัวกระทู้นี่ ด้วยความสับสนในแนวทางปฏิบัติของตัวเองค่ะ ตอนแรกที่เริ่มใช้ระบบ opol พูดๆไปสักสองอาทิตย์ก้อเริ่มรู้สึกว่า มันยังไม่ค่อยเข้ากับชีวิตประจำวันของเรากับลูก ก้อเลยติดขัดไปบ้าง พูดบ้างไม่พูดบ้าง แต่ลูกก้อไม่ค่อยต่อต้าน ทิ้งเวลาไปเกือบเดือนเก็บไปนั่งคิดนอนคิด ไปอ่านหนังสือเล่มแรกทบทวนดูขั้นตอน ได้เล่มสองมา อ่านต่อ เลยทำให้ตัวเองชัดเจนขึ้นว่าจะไปต่อยังไงในเดือนที่สอง อ่านทั้งสองเล่มแล้วก้อสรุปเอาเองง่ายๆได้ว่า ตอนลูกเริ่มพูดไทยได้เราสอนลูกยังไง เราก้อน่าจะหัดให้ลูกพูดภาษาอังกฤษในแนวทางพื้นฐานเหมือนๆกัน นั่นคือ สอนให้ลูกรู้ว่า อันนี้คืออะไร เป็นอะไร เวลาลูกเห็นนก เราก้อบอกว่า "ลูกจ๋า นี่ นก นะคะ" พูดสิค่ะ "นก นก" คุณแม่ทุกคนก้อคงจะสอนแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน คิดว่าการสอนลูกให้พูดภาษาอังกฤษ ก้อคงสอดคล้องกับพัฒนาการสอนของเด็กในช่วงเริ่มหัดพูด นั่นคือ พูดเป็นคำๆ พูดกับลูกบ่อยๆ ร้องเพลงให้ฟัง พูดคำคล้องจอง อ่านนิทานสั้นๆเข้าใจง่าย ชักชวนให้ลูกดูนั่นนู้นนี่ แค่นี้เด็กก้อสามารถพัฒนาทักษะการพูดของเค้าได้เอง จับประเด็นได้ตรงนี้แหละค่ะ ก้อเลยคิดว่า แนวทาวการสอนพูดภาษาอังกฤษก้อไม่ได้แตกต่างกัน อันนี้เป็นข้อสรุปส่วนตัวที่ได้อ่านหนังสือทั้งสองเล่มและจากที่ผ่านมาหนึ่งเดือน ยอมรับค่ะว่าตัวเองไม่ได้พูดภาษาอังกฤษกับลูกอย่างเข้มข้น เนื่องด้วยติดขัดเป็นบางครั้งอย่างที่ได้เกริ่นตอนต้น ก้อเลยทำให้ขาดช่วงไป แต่มาตอนนี้ที่ได้ข้อสรุปของตัวเอง ก้อจะใช้วิธีดังกล่าวกับลูกต่อไป ขอไปแบบช้าๆ ชัดๆ ค่อยๆไปจาก คำ วลี ประโยค แล้วโต้ตอบกัน น่าจะเหมาะกับเราและลูกดี
ตอนนี้ตัวเองคงหายสับสนในแนวทางปฏิบัติแล้วคะ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นที่เพิ่งเริ่ม ก้อเลยเอามาแชร์ให้อ่านกันค่ะ แนะนำเพิ่มเติมกันได้ ยินดีรับทุกความคิดเห็นค่ะ
Tags:
มาเก็บข้อมูลค่ะ ยินดีที่รู้จักค่ะ แม่นินะคะลูกพึ่งได้3เดือนค่ะ ตอนนี้กำลังฝึกตัวเองใหญ่เลยค่ะท่องจำจนสับสนไปหมดแล้วค่ะ พอพักเหนื่อยซักวันมันก็เหมือนลืมๆ เพราะเราไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองพูด อาศัยจดจำอย่างเดียวเลย จะต้องเปลี่ยนแนวสอนตัวเองใหม่แล้วค่ะ คงต้องไปแบบช้าๆชัดๆใจเย็นๆเหมือนคุณแม่เจ้าของกระทู้บอกแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by