หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

"เลี้ยงลูกอย่างไรให้พูดได้สองภาษามาฝากค่ะ"

วันนี้แม่ต้นอ้อมีบทความเกี่ยวกับ "เลี้ยงลูกอย่างไรให้พูดได้สองภาษามาฝากค่ะ"

แม่ต้นอ้อเชื่อว่า การเลี้ยงลูกให้พูดได้สองภาษาต้องใช้เวลาและความพยายามเต็มที่ แต่การช่วยให้ลูกสามารถใช้สองภาษาได้นั้นสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากมายมหาศาลสำหรับเด็กจริง ๆ ค่ะ นอกจากคุณพ่อคุณแม่จะรู้สึกปลื้มใจที่รู้ว่าลูกมีทักษะทางภาษาที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเองในอนาคต เด็กยังรุ้สึกสนุกที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย มาเริ่มวางแผนช่วยให้ลูกเป็นนักพูดสองภาษากันเถอะค่ะ

เป็นความเชื่อโดยทั่วไปว่ามีแต่พ่อแม่ที่พูดได้สองภาษาเท่านั้นที่จะช่วยให้ลูก ๆ เรียนรู้ภาษาอื่นที่นอกเหนือจากภาษาหลักของตัวเองได้ ความเชื่อที่ผิด ๆ นี้เป็นเหตุให้พ่อแม่พลาดโอกาสจากการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และความสนุกสนานกับลูกในขณะที่ช่วยให้ลูกเรียนรู้ ถ้าต้องการให้ลูกน้อยพูดได้สองภาษาจริง ๆ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการก็มีเพียงความตั้งใจจริงและความพร้อมที่จะเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับลูกน้อยค่ะ

มาดูเทคนิคที่จะช่วยให้ลูกน้อยพูดได้สองภาษากันดีกว่าค่ะ

ขั้นที่ 1 เริ่มด้วยภาษาหลักและอีกหนึ่งภาษารอง

เมื่อกล่าวถึงการเรียนภาษาที่สอง การเชื่อมโยงข้อมูลใหม่กับข้อมูลที่เด็กรู้และเข้าใจแล้วมีความสำคัญมาก ลูกน้อยจะพบว่ามันง่ายกว่ามากถ้าเขาเข้าใจแนวคิดของภาษาที่สองที่เหมือนกับแนวคิดในภาษาหลักที่ใช้อยู่ ถ้าเด็กเข้าใจว่าของเหลวใสที่เราดื่มเรียกว่า "น้ำ" ในภาษาไทย เด็กจะเข้าใจง่าย ๆ ว่าของเหลวแบบเดียวกันนี้เรียกว่า Water ในภาษาอังกฤษ

การเรียนรู้แบบเปรียบเทียบง่าย ๆ ระหว่าง 2 ภาษาจะช่วยให้ลูกน้อยซึมซับข้อมูลได้มากขึ้น ยังมีเวลาอีกนานในการแนะนำภาษาที่สามเมื่อลูกโตขึ้นถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องการค่ะ

ขั้นที่ 2 เต็มใจเรียนรู้คู่ไปกับลูกน้อย

ถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะพูดภาษาที่สองได้อย่างคล่องแคล่ว แต่เราอาจจะลืมพื้นฐานบางอย่างถ้าไม่ได้พูดภาษานี้บ่อย ๆ การเรียนรู้และทบทวนความรู้ในขณะที่ลูกกำลังเรียนภาษาที่สองมีส่วนช่วยครอบครัวได้ ดังนี้ค่ะ

คุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็กที่ต้องการความสนใจเป็นพิเศษจากพ่อแม่ แม้แต่เด็กโตก็จะตื่นเต้นเหมือนได้เล่นเกมแข่งกับพ่อแม่ในขณะที่เรียนภาษาที่สอง
ระดับความมั่นใจของลูกน้อยจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ความภูมิใจที่เขาได้รับจากการเรียนรู้สิ่งใหม่เป็นความรู้สึกพิเศษ การพูดประโยคภาษาอังกฤษได้สมบูรณ์เป็นครั้งแรก ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ช่วยให้เขาอยากเรียนรู้มากขึ้นไปอีก

ขั้นที่ 3 หาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม
เมื่อลูกยังเป็นเด็กเล็ก คงจะเป็นการดีที่คุณพ่อคุณแม่จะซื้อหนังสือและอุปกรณ์ช่วยเหลือการเรียนรู้อื่น ๆ อย่างใบคำศัพท์เบื้องต้นหรือวิดีโอภาษาไว้สอนลูกที่บ้าน แต่เมื่อลูกโตขึ้นมาอีกหน่อย คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปเข้าเรียนในโรงเรียนสอนภาษาที่มีอยู่มากมาย และทราบไหมคะว่ายิ่งเป็นการดีหากว่าคุณพ่อคุณแม่เองก็ไปเข้าคอร์สเรียนภาษาด้วยเหมือนกัน อย่าลืมนะคะว่าถ้าอยากให้ลูกมีความตั้งใจที่ดี คุณพ่อคุณแม่ก็ควรแสดงความสนใจในการเรียนรู้ภาษานั้น ๆ ไปด้วย

ขั้นที่ 4 พูดภาษาที่สองที่บ้านเป็นประจำสม่ำเสมอ
วิธีที่จะทำให้ลูกน้อยรู้สึกสนุกกับภาษาที่สองก็คือ การประกาศให้คืนหนึ่งในรอบสัปดาห์เป็นคืนฝึกพูดภาษาที่สอง ทุกคนในครอบครัวจะต้องพูดภาษาที่สองตลอดเวลาช่วงเย็น และเมื่อทุกคนในครอบครัวเริ่มเชี่ยวชาญทางด้านภาษามากขึ้นแล้ว ก็สามารถจัดตารางเวลาเพิ่มเติมระหว่างสัปดาห์ด้วยกิจกรรมสนุก ๆ แบบนี้ได้อีกนะคะ

ขั้นที่ 5 สนับสนุนการอ่านและเขียนควบคู่ไปกับการพูด
เพื่อให้เด็กสามารถใช้สองภาษาได้จริง ๆ เด็กจะต้องเรียนรู้วิธีเขียนภาษาที่สองนอกเหนือไปจากการพูดด้วย การอ่านหนังสือในภาษาที่สองไม่เพียงแต่จะทำให้เด็กเรียนรู้การอ่านออกเสียงที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว ยังช่วยให้เด็กจดจำการสะกดคำเมื่อต้องเขียนเป็นคำ ๆ ได้ค่ะ อย่าลืมใช้อินเตอร์เน็ตควบคู่ไปกับหนังสือด้วยนะคะ เพราะมีเว็บไซต์สอนภาษามากมายสำหรับเด็กๆ ลองนำเกมหรือกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ จากเว็บไซต์เหล่านี้มาใช้ดูสิคะ รับรองว่าลูกน้อยจะยิ่งสนุกสนานกับการเรียนภาษาที่สองมากขึ้นไปอีก

ขั้นที่ 6 สอนภาษาให้เหมาะกับระดับความสามารถของลูก
การพยายามบังคับลูกให้ซึมซับข้อมูลเกินกว่าที่เขาจะรับได้ไม่มีผลดีเลย แถมยังจะทำลายความเชื่อมั่นในการใช้ภาษาที่สองของเขา และอาจจะทำให้การเรียนภาษาที่สองหมดความน่าสนใจไป คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจนะคะหากลูกต้องการเวลามากกว่าที่เราคิดในการเรียนรู้ ควรสร้างบรรยากาศการเรียนให้สนุกไปตามจังหวะขั้นตอนที่เหมาะกับลูกน้อย และที่สำคัญควรบอกให้เขารู้ถึงความสำเร็จในแต่ละก้าวของเขาด้วยค่ะ