เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

1เปลือกมังคุดเรียกว่าอะไรค่ะ

2กริยาปลอกผลไม้เปลือกแข็ง เช่นทุเรียนshell แตงโม ใช้คำว่าอะไรค่ะ

3ของอันนี้เป้นของฟรี เอาไว้แจก

4 น้องถามว่าทำไมเราไม่เห็นเครื่องบินบนท้องฟ้า คุณแม่จะตอบว่า เราเห็นเครื่องบินบนท้องฟ้าเป็นบ้างครั้งที่นักบิน

ขับเครื่องบินออกมาเท่านั้น ส่วนใหญ่เครื่องบินจอดอยุ่ที่สนามบิน

5 รถขนซีเมนต์ขนซีเมนต์ไปที่เขตก่อสร้างเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการสร้างตึก

6 สมมติเราขับรถอยู่เลนนี้ แล้วเลนถนนที่รถสวนมาเราใช้คำว่าอะไรค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

Views: 1335

Replies to This Discussion

1. เรียกได้หลายแบบมาก บางที่เรียก skin บางที่เรียก shell บางที่เรียก peel ค่ะ
Mangoesteen skin
Mangoesteen shell
Mangoesteen peel (ใช้เมื่อปลอกมันออกมา แยกเปลือกออกมาแล้วนะคะ ถ้าเปลืองยังไม่ได้แยกจากเนื้อ ไม่ใช้คำนี้ค่ะ)

2. ผลไม้ ผัก ปลอกเปลือกทุกอย่าง ใช้ peel ค่ะ
Peel แปลว่า ปลอกเปลือก(ของผักและผลไม้ค่ะ)

3. These are the giveaways. Giveaway is the thing that we give our customer for free.

Giveaway แปลว่า ของฟรีที่เอาไว้แจกลูกค้าค่ะ.
นอกจากคำนี้แล้ว ยังสามารถใช้คำว่า freebie(s) ได้อีกคำนึงค่ะ
4. ทำไมเราไม่เห็นเครื่องบินบนท้องฟ้า. จริงๆแล้วเพราะว่า เครื่องบิน บินสูงเกินกว่าสายตาเราจะมองเห็นได้ค่ะ
Mommy, why we don't often see airplanes in the sky ? Because the planes usually fly very high in the sky. It's too high to see with our eyes.

แต่ถ้าอยากจะตอบแบบคุณแม่คือ we can see the airplanes only when the pilots are flying them. Normally, the airplanes are at the airport.

5. รถขนซีเมนต์เรียกว่า concrete mixing truck
The concrete mixing truck takes the concrete to the construction site, where they will use concrete to build things.

6. The opposite lane ค่ะ. เลนตรงกันข้าม

5. รถขนซีเมนต์ใช้ concrete truck ตลอดเลยอ่าค่ะ ผิดไหมค่ะ อันนี้ได้มาจากคำศัพท์ของลูกค่ะ

3.เวลาเล็กมีของแจกให้ลูกค้าเล็กๆน้อยๆ แอบใช้คำว่า Premium มาตลอดเลยอ่ะค่ะ

ไม่ทราบว่าต่างกับ giveaway อย่างไรคะป๊อป อยากรู้จริงๆ ไม่รู้ว่าแอบใช้ผิดมาตลอดหรือเปล่าอ่ะ

ของpremuim เป็นคำศัพท์ทางการตลาดค่ะพี่เล็ก

ของพรีเมี่ยม จริงๆแล้วมันเป็นของที่ต้องแลกซื้อ หรือเก็บpoint ได้ครบแล้วจะได้ค่ะ เช่น ซื้อครบ 2,500 ได้ลิปติกเพิ่มอีก 1 แท่ง ซื้อครบ 5,000 ได้ gift set อารายแบบนี้ ของแบบนี้เรียกว่าของพรีเมี่ยมค่ะ รวมไปถึงพวกสะสมแต้มแล้วแลกของราวัล แบบนี้ก็เป็นของพรีเมี่ยมค่ะ

http://en.wikipedia.org/wiki/Premium_(marketing)

Premiums are promotional items—toys, collectables, souvenirs and household products—that are linked to a product, and often require box tops, tokens or proofs of purchase to acquire.[1][2] The consumer generally has to pay at least the shipping and handling costs to receive the premium. Premiums are sometimes referred to as prizes, although historically the word "prize" has been used to denote (as opposed to a premium) an item that is packaged with the product (or available from the retailer at the time of purchase) and requires no additional payment over the cost of the product.

แต่ถ้าเป็น give away หรือ freebie นี่คือของแจกให้ไปเฉยๆเลย ไม่ต้องมีซื้อทำยอด หรือว่าสะสมแต้มอะไรค่ะ
เช่น. ถ้าซื้อลิปติก 1 แท่ง ก็รับไปเลยถุงเครื่องสำอางค์หนึ่งใบ
หรือของที่เค้ายืนแจกตรงประตูทางเข้าห้าง แจกฟรี แบบนี้ก็เป็น freebie ค่ะ

แชร์เพิ่มเติมนะครับ

1เปลือกมังคุดเรียกว่าอะไรค่ะ

->  หากเป็นผลไม้เปลือกหนา ๆ แบบมังคุด ทุเรียน แตงโม ใช้ "rind" ได้อีกคำ เพราะแปลว่าเปลือกหนา ๆ ของผลไม้ ข้อนี้ก็เป็น  mangosteen rind   อย่างเปลือกทุเรียนก็เป็น spiky rind ก็ได้ครับ

2กริยาปลอกผลไม้เปลือกแข็ง เช่นทุเรียนshell แตงโม ใช้คำว่าอะไรค่ะ

->  นอกจาก peel แล้ว หากใช้มีดปอกทุเรียน จะใช้ว่า cut it open = ใช้มีดตัดเปิดออกมา;  pry it open with knife = ใช้มีดแงะมันเปิดออก  ก็ได้ครับ

4 น้องถามว่าทำไมเราไม่เห็นเครื่องบินบนท้องฟ้า คุณแม่จะตอบว่า เราเห็นเครื่องบินบนท้องฟ้าเป็นบ้างครั้งที่นักบิน

ขับเครื่องบินออกมาเท่านั้น ส่วนใหญ่เครื่องบินจอดอยุ่ที่สนามบิน

->  We see the planes flying in the sky only when the pilots are flying them.  Most of the time, the planes are parked at the airport.

5 รถขนซีเมนต์ขนซีเมนต์ไปที่เขตก่อสร้างเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการสร้างตึก

->  Cement truck carries cement to where construction is going on.  It is used as a building material.

6 สมมติเราขับรถอยู่เลนนี้ แล้วเลนถนนที่รถสวนมาเราใช้คำว่าอะไรค่ะ

->  ใช้อีกคำก็ได้คือ  "oncoming"(adj.)  เช่น  oncoming lane = เลนที่รถสวนกับเรา /  oncoming traffic = การจราจรที่อยู่ในเลนที่สวนกับเรา /  oncoming car = รถที่วิ่งสวนกับรถเรา

ขอบคุณคุณClamp และคุณAkeมากค่ะ

รบกวนถามคำถามเพิ่มค่ะ

1คุณแม่กำลังแกะเนื้อทุเรียนออกจากพลู

2 ถ้าปากกาเราใช้ the pen has no ink แล้วถ้าเป้นmarkerเราใช้อะไรค่ะ

3 ความแตกต่างของ disturb กับ interrupt ในการใช้ค่ะ

4ขับรถลงทางลาดระวังรถสวน

  Going down the ramp beware the coming car.

5เคยเห็นในหนังสือค่ะ the apple go on tree แล้วถ้าเป้นดอกไม้ใช้ the flower go on tree ได้ไหมค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

ผมตอบก่อนละกันนะครับ:

1คุณแม่กำลังแกะเนื้อทุเรียนออกจากพลู

->  I'm getting/pulling durian flesh out of its shell.

2 ถ้าปากกาเราใช้ the pen has no ink แล้วถ้าเป้นmarkerเราใช้อะไรค่ะ

->  ก็ใช้ ink เหมือนกันนะครับเช่น the marker has no ink / has run out of ink  หรือ marker ink has dried

3 ความแตกต่างของ disturb กับ interrupt ในการใช้ค่ะ

->  เช็คดูกับ dictionaries แล้ว หากเป็นในความหมายหลักว่า "รบกวน" คนที่ทำอะไรอยู่ให้หยุดทำสิ่ง ๆนั้น  ทั้ง 2 คำก็เหมือนกัน ใช้แทนกันได้  แต่ disturb ที่เพิ่มขึ้นมาอีกคือ:

a.  ทำให้บางอย่างเคลื่อนไหวไปจากเดิม  เช่น  After I glue it back, don't disturb it. (= หลังจากแม่ติดมันเข้าที่แล้ว อย่าไปจับให้มันเคลื่อน)

b.  ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปในทางไม่ดี เช่น  His mood today was disturbed by lack of sleep last night.. (= อารมณ์เขาไม่ค่อยดีวันนี้เพราะนอนไม่พอเมื่อคืน)

4ขับรถลงทางลาดระวังรถสวน

  Going down the ramp beware the coming car.

-> Watch out for / Beware of oncoming cars while driving/going down the ramp.

จะใช้ beware of หรือ watch out for sth.  ก็ได้ครับ  ความหมายคล้าย ๆ กันคือ ให้ "ระวัง" เพื่อไม่ให้สิ่งที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นครับ

5เคยเห็นในหนังสือค่ะ the apple go on tree แล้วถ้าเป้นดอกไม้ใช้ the flower go on tree ได้ไหมค่ะ

->  go on ในวลีนี้คือ  "ไปอยู่บน"  อย่างสมมติในหนังสือให้เราหยิบภาพแอปเปิ้ล ไปวางไว้บนต้น ก็จะใช้เป็น  the/this apple goes on the tree    ดังนั้น หากไม่ใช่ apple แต่เป็นดอกไม้แทน ก็ใช้แบบเดียวกันได้ครับ

เรื่อง "on" the tree จะมีอีกบุพบทหนึ่งที่ใช้  คือ "in" the tree  จะใช้ไม่เหมือนกัน ความต่างอยู่ที่ว่า:

1.  ON the tree  ใช้กับผลไม้ ดอกไม้ หรืออะไรอย่างอื่น ที่เป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้นั้น ๆ

2.  IN the tree  หมายถึง "อยู่บนต้นไม้" เหมือนกัน ใช้กับสัตว์ หรือ สิ่งของที่อยู่ "บน" ต้นไม้  เช่น bird / treehouse / cat / monkey is in the tree   จะไม่ใช้ "on"  เพราะถือว่าสัตว์ หรือสิ่งของพวกนี้ เวลาอยู่บนต้นไม้ใหญ่ จะถูกปกคลุมอยู่ภายในบริเวณกิ่งก้าน ใบไม้ ต่าง ๆ ของต้นไม้  เลยเป็น "in" the tree ครับ   

แต่หากเป็นสัตว์ สิ่งของ อยู่บน กิ่งไม้ หรือ ส่วนของต้นไม้ ก็เป็น "on" เหมือนเดิม เช่น  A bird is sitting on that branch of the tree. 

ขอบคุณค่า
ส่วนเรื่องที่ไม่อยากให้ตอบว่า เครื่องบินส่วนมากจอดอยู่ที่สนามบิน
เพราะว่าเป็นพนักงานด้านนี้เลยรู้สึกแหม่งๆค่ะ
เครื่องบินต้องอยู่บนฟ้าจึงจะทำกำไรค่ะ
ถ้าส่วนมากจอดอยู่แสดงว่า บริษัทใกล้ปิดตัวค่ะ สะเทือนใจ T_T

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service