เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

1.ลูกคิดว่าฝ่ายตรงข้ามรู้สึกอย่างไร
2.วันนี้เจอเรื่องสนุกๆอะไรบ้าง
3.เราจะใช้คำพูดแบบไหนถึงจะดีเอ่ย
4.ทำอย่างไรให้กล้าที่จะลองทำสิ่งต่างๆเพิ่มขึ้น
5.ตอนไหนที่ใช้ความพยายามมากที่สุด
6.อยากให้พรุ่งนี้เป็นวันแบบไหน
7.เราสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้สิ่งที่เราทำคืบหน้าไปอย่างราบรื่น
8.ถ้าเกิดความผิดพลาด อะไรน่าจะเป็นสาเหตุ
9.อยากให้ตัวเองรู้สึกแบบไหน
10.ถ้าเรียนเรื่องนี้จบแล้ว อยากให้ผลออกมาเป็นอย่างไร

รบกวนด้วยนะคะ เป็นคำถามแนวจิตวิทยาเด็กคะ จะได้ฝึกใช้กับลูกได้ถูก^^

Views: 777

Replies to This Discussion

สวัสดีครับคุณกิ้ม หายไปนานเลยนะครับ  แชร์นะครับ:

1.ลูกคิดว่าฝ่ายตรงข้ามรู้สึกอย่างไร

->  What do you think the other side will feel?

"ฝ่ายตรงข้าม" ใช้  side = ฝ่าย  ก็ได้ครับเป็น  "other side"


2.วันนี้เจอเรื่องสนุกๆอะไรบ้าง

->  What fun things did you have today? / What fun things have you been through today?


3.เราจะใช้คำพูดแบบไหนถึงจะดีเอ่ย

-> What nice/good words should we use?


4.ทำอย่างไรให้กล้าที่จะลองทำสิ่งต่างๆเพิ่มขึ้น

->  What could we do to get ourselves bold enough to try new things?


5.ตอนไหนที่ใช้ความพยายามมากที่สุด

->  Which part calls for the most effort?


6.อยากให้พรุ่งนี้เป็นวันแบบไหน

->  How would you like tomorrow to be?


7.เราสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้สิ่งที่เราทำคืบหน้าไปอย่างราบรื่น

->  What could we do to make things (we are doing) go smoothly?


8.ถ้าเกิดความผิดพลาด อะไรน่าจะเป็นสาเหตุ

->  If there was a mistake, what could be the cause of it?

อันนี้ใช้เป็น if-clause แบบที่ 2  เพราะเป็นสถานการณ์สมมตินะครับ


9.อยากให้ตัวเองรู้สึกแบบไหน

->  How do you want yourself to feel?


10.ถ้าเรียนเรื่องนี้จบแล้ว อยากให้ผลออกมาเป็นอย่างไร

->  After you have finished this lesson, what do you expect to get from it?

คือถ้าหมายถึงอยากให้ผลออกมาเป็นอย่างไรกับตัวเราก็ใช้แบบประโยคหลังก็ได้ = คาดหวังว่าตัวเราอยากจะได้อะไร

ส่วนประโยคหน้าจะใช้เป็น "present simple tense" ก็ได้นะครับ  จะใช้ "present perfect tense" ก็ได้หากพูดถึงกิจกรรมที่ต้องใช้เวลานานช่วงหนึ่งกว่าจะจบลง

ขอบคุณคุณเอกมากๆเช่นเคยคะ …หายไปกับปิดเทอมคะ พอไม่ฟิต การพูดก็ติดๆขัดๆ แหะๆ…ต้องหาเรื่องมาถามคะ จะได้บังคับตัวเองให้มาตามดูคำตอบ ^^
4. ไม่เคยใช้ bold ในความหมายแบบนี้มาก่อนเลยคะ ตอนแรกนึกถึงคำว่า dare คะ บริบทใช้ได้มั้ยคะ

11. หนูคงต้องใช้ความพยายาม การฝึกฝน และการทบทวนสม่ำเสมอเลยซินะคะ ผลการเรียนถึงได้ออกมาดีแบบนี้
You must have to take a very much effort , practicing and always reviewed your books so you've got this excellent results like this.

ดีใจครับที่ได้เจอกระทู้คุณกิ้ม  ส่วนเรื่อง bold จะใช้ dare แทนในประโยคไม่ได้  เพราะไม่เหมือนกัน  "bold"(adj.) จะคล้าย ๆ กับ brave  คือกล้าหรือเสี่ยงที่จะทำบางอย่าง   แต่ "dare"  จะใช้หลัก ๆ ในประโยคปฏิเสธ หรือ คำถาม มากกว่าในความหมายไทยว่า "ไม่กล้า"  เช่น  I didn't dare swim, but my brother was bold enough to do it.   (= ฉันไม่กล้าว่ายน้ำ แต่น้องฉันกล้าพอที่จะว่ายน้ำ)   หรือจะใช้อีกความหมายหนึ่งคือ "ท้า"  เช่น   He dared me to swim the other day. (= เขาท้าฉันให้ว่ายน้ำวันนั้น)   หากผมตอบไม่ชัดเจนตรงไหน บอกได้นะครับ

11. หนูคงต้องใช้ความพยายาม การฝึกฝน และการทบทวนสม่ำเสมอเลยซินะคะ ผลการเรียนถึงได้ออกมาดีแบบนี้
You must have to take a very much effort , practicing and always reviewed your books so you've got this excellent results like this.

->  เปลี่ยนหน่อยเป็นแบบนี้นะครับ  You must have used lots of effort to always practise and review your lessons.  That's why you've got excellent results like this.   

ประโยคนี้น่าจะพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว  เลยใช้ must + present perfect tense (= must have used)

มีอีกคำหนึ่งมีความหมายครอบคลุมที่ใช้ในบริบทนี้ได้เลยคือ  "apply oneself"  =  ทุ่มเทเรียนหนัก หรือ ทำงานหนัก   หากใช้ในประโยคนี้ก็เป็น:

"You must have applied yourself at school.  That's why the results you've got are excellent."

ใช้แบบนี้ได้มั้ยคะ รบกวนแก้ให้ด้วยคะ
I must have to apply myself at school to get excellent result. ฉันต้องทุ่มเทในการเรียนอย่างหนัก เพื่อให้ได้ผลการเรียนดีเยี่ยม
Daddy must has to apply himself for everyone in our family better life . พ่อต้องทุ่มเททำงานหนัก เพื่อทุกคนในครอบครัวจะได้สบาย

12.บางทีเราต้องคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ยึดติดแต่แนวทางเดิม
13.นี่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะที่ดีวิธีหนึ่ง
14. ถ้าหนูไม่กิน เดี๋ยวจะเสียน้ำใจคุณป้านะคะ คุณป้าอุตสาห์เตรียทไว้ให้หนู(ลูก)
ขออธิบายก่อนค่ะ

Must นอกจากจะแปลว่าต้องแล้ว เรายังสามารถใช้ must ในการแสดงความมั่นใจในสิ่งที่เรากำลังคาดเดาได้ค่ะ (มีหลักฐานสนับสนุนสิ่งที่พูด) คือมั่นใจว่าถูกแน่ๆเลย
Ex. It’s getting dark. It must be quite late.
You haven’t eaten all day. You must be hungry.


ที่กล่าวมาข้างบนเป็นรูปปัจจุบันค่ะ ถ้าใช้ในรูออดีตในสถานการณ์มั่นใจในสิ่งที่พูด
จะใช้เป็น must have + v3 ค่ะ
ตัวอย่าง
They hadn’t eaten all day. They must have been hungry.
You look happy. You must have heard the good news.

*****หลัง must ต้องเป็น infinitive ค่ะ ไม่ว่าประธานจะเป็นอะไร ใช้ must have ทั้งหมดค่ะ
ฉันต้องทุ่มเทในการเรียนอย่างหนัก เพื่อให้ได้ผลการเรียนดีเยี่ยม (ผลยังไม่ออก กำลังอยู่ระหว่างเทอม)
I must apply myself at school to get excellent result/grade. >> พูดถึงตัวเอง ต้องมั่นใจค่ะ must ในที่นี้มีความหมายว่า "ต้อง" ค่ะ ไม่ใช่การคาดเดา >> อธิบายไม่ถูก รอคุณเอก

แต่ถ้าต้องการทำให้เป็นอดีต คือ ฉันได้ทุ่มเทเรียนอย่างหนัก เพื่อให้ได้ผลการเรียนที่ดีเยี่ยม(ผลออกมาแล้ว)
I applied myself at school to get excellent result/grade.
▶ Reply
ขอบคุณคะคุณป๊อบ
คือ จะลองใช้ apply oneself. ที่คุณเอกเพิ่งบอกมาน่ะคะ ว่าจะใช้ถูกเปล่า อิอิ
ได้ประโยค think outside the box. แถมมา ชอบคะ^^
Daddy must apply himself to his work so we will get the better life. พ่อต้องทุ่มเททำงานหนักเพื่อทุกคนในครอบครัวจะได้สบาย

Daddy must work hard for our family. พูดแบบนี้ก็ได้ค่ะ

12. Sometimes we have to think outside the box to slove unexpected problems.

13. This is a good solutions.

คุณป๊อปตอบ 2 ข้อแล้ว ขอแชร์เพิ่มเติมอีกแบบสำหรับอีก 3 ข้อที่เหลือนะครับ (สวัสดีคุณเล็กด้วยนะครับ คิดถึงตลอดนะครับ :)   

12.บางทีเราต้องคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ยึดติดแต่แนวทางเดิม

->  Sometimes, we have to solve immediate problems off-the-cuff, not in a conventional way.

"immediate" ก็มีความหมายว่า "เกิดขึ้นมาอย่างทันด่วน หรือเฉพาะหน้า"  ได้เหมือนกันครับ อย่างใช้เป็น immediate problem = ปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างทันด่วน เฉพาะหน้า

"off-the-cuff"(adj.,adv.) =  (พูด/ทำ)อย่างสด ๆ เฉพาะหน้า แบบคิดอะไรได้ก็พูด ตอบ หรือทำแบบนั้น    อย่างการตอบคำถาม หรือ กระทู้แบบคิดอะไรได้ก็ตอบเลย  ก็เป็นแบบ off-the-cuff เหมือนกัน  (= answer questions off-the-cuff)

"conventional"(adj.) = แบบตามแนวทางเดิม ๆ  


13.นี่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะที่ดีวิธีหนึ่ง

->  This is one of the good off-the-cuff solutions.  (= นี้เป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีวิธีหนึ่ง)

14. ถ้าหนูไม่กิน เดี๋ยวจะเสียน้ำใจคุณป้านะคะ คุณป้าอุตสาห์เตรียทไว้ให้หนู(ลูก)
->  If you don't eat it, your aunty will be disappointed.  She went to the trouble to prepare it (especially) for you.
"อุตส่าห์(ทำ...)" =  go /take to the trouble to do sth.    
13.ได้ความรุ้ใหม่ off-the-cuff
That was my off-the-cuff solution. (ลูกถามว่า why did you do like that? ตอบว่า นั่นเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของแม่). ใช้แบบนี้ได้ไหมคะ

14 เสียน้ำใจ ตอนแรกนึกออกแต่ sad. กับ upset. คะ มีความรุ้สึกว่าใช้แล้วไม่ค่อยตรงใจคะ…ใช้. Disappointed. ตรงแบบความหมายที่ตรงการดีคะ

ขอบคุณมากๆคะคุณเอก

ยินดีครับคุณกิ้ม  ที่ว่า That was my off-the-cuff solution ก็ใช้ถูกแล้วครับ  :)

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service