Sirin malinil's Posts - หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้
2024-03-28T21:58:57Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
https://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1959345886?profile=RESIZE_48X48&width=48&height=48&crop=1%3A1
https://go2pasa.ning.com/profiles/blog/feed?user=17lsqiwzsm4ng&xn_auth=no
final test
tag:go2pasa.ning.com,2010-10-12:2456660:BlogPost:453234
2010-10-12T15:46:02.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
ก็ผ่านไปแล้วค่ะกับการสอบปลายภาคเรียนที่1ของชั้น ป2 ที่บ้านเด็กๆชอบภาษาอังกฤษตามแม่ แม่สอนยังไม่ได้สอนเป็น OPOLนะคะ แม่นึกขึ้นได้ ลูกนึกขึ้นได้เราก็จะพูดกันเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงก็ยังไม่ดีเท่าไร แต่ลูกก็ได้รับโอกาสให้ออกเสียงให้เพื่อนฟังหน้าชั้น เพื่อนๆลูก บอกว่า ลูกตอบอยู่คนเดียวเวลาชั่วโมงภาษาอังกฤษ แถมแอบต่อว่าว่าลูกตอบแล้วเพื่อนไม่ค่อยได้ยิน เพราะเพื่อนๆจะรอฟังลูกว่าตอบอะไรแล้วจะได้ตอบตาม สอบมา 3 เทอมคะแนนอยู่ที่ 20 19 19 จากคะแนนเต็ม 20ของทุกเทอม นี่เริ่มสอนป.3 แล้วค่ะจบก็จะต่อของ ป4 เลย…
ก็ผ่านไปแล้วค่ะกับการสอบปลายภาคเรียนที่1ของชั้น ป2 ที่บ้านเด็กๆชอบภาษาอังกฤษตามแม่ แม่สอนยังไม่ได้สอนเป็น OPOLนะคะ แม่นึกขึ้นได้ ลูกนึกขึ้นได้เราก็จะพูดกันเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงก็ยังไม่ดีเท่าไร แต่ลูกก็ได้รับโอกาสให้ออกเสียงให้เพื่อนฟังหน้าชั้น เพื่อนๆลูก บอกว่า ลูกตอบอยู่คนเดียวเวลาชั่วโมงภาษาอังกฤษ แถมแอบต่อว่าว่าลูกตอบแล้วเพื่อนไม่ค่อยได้ยิน เพราะเพื่อนๆจะรอฟังลูกว่าตอบอะไรแล้วจะได้ตอบตาม สอบมา 3 เทอมคะแนนอยู่ที่ 20 19 19 จากคะแนนเต็ม 20ของทุกเทอม นี่เริ่มสอนป.3 แล้วค่ะจบก็จะต่อของ ป4 เลย แล้วเด็กๆรุ่นใหม่ที่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงให้เป็นเด็ก 2 ภาษา จะทำคะแนนกันได้ดีขนาดไหน ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าค่ะ
english by sense
tag:go2pasa.ning.com,2010-07-14:2456660:BlogPost:333518
2010-07-14T00:04:48.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
<p>เรื่องราวสั้นๆแต่น่าอัศจรรย์ ไม่รู้ว่าลูกอัจฉริยะด้านภาษาหรือว่าแค่หลงใหล</p>
<p>เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งนั่งดูการ์ตูนกับลูกอยู่ มีตัวละครตัวหนึ่งแสดงกิริยาแย่ๆออกมา</p>
<p>ตะวันบอกว่า "แม่อย่าทำแบบนี้นะคะ"</p>
<p>แม่ก็บอกว่า "i'll never do like that"</p>
<p>ตะวันบอกว่า "แม่จะไม่มีวันทำอย่างนั้นเหรอคะ"</p>
<p>แม่ก็อึ้งสิ รู้ได้งัยเนี่ย never ก็ยังไม่เคยสอน ก็ถามลูกว่า "how do you know ?"</p>
<p>ตะวันบอกว่า "หนูรู้สึกว่าเป็นอย่างนั้นน่ะค่ะ"</p>
<p>เรื่องราวสั้นๆแต่น่าอัศจรรย์ ไม่รู้ว่าลูกอัจฉริยะด้านภาษาหรือว่าแค่หลงใหล</p>
<p>เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งนั่งดูการ์ตูนกับลูกอยู่ มีตัวละครตัวหนึ่งแสดงกิริยาแย่ๆออกมา</p>
<p>ตะวันบอกว่า "แม่อย่าทำแบบนี้นะคะ"</p>
<p>แม่ก็บอกว่า "i'll never do like that"</p>
<p>ตะวันบอกว่า "แม่จะไม่มีวันทำอย่างนั้นเหรอคะ"</p>
<p>แม่ก็อึ้งสิ รู้ได้งัยเนี่ย never ก็ยังไม่เคยสอน ก็ถามลูกว่า "how do you know ?"</p>
<p>ตะวันบอกว่า "หนูรู้สึกว่าเป็นอย่างนั้นน่ะค่ะ"</p>
ภูมิใจวันละประโยค 2 ประโยค
tag:go2pasa.ning.com,2010-07-09:2456660:BlogPost:327974
2010-07-09T04:56:57.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
เมื่อวันพุธ เด็กๆขอไปตกปลาที่บ้านป้าโจ้ ริมแม่น้ำท่าจีน ก็ไปกัน ใช้ไส้เดือนเป็นเหยื่อ โบว์ไปขุดไส้เดือนกับป้าโจ้ ซักพักก็วิ่งกลับมาที่ริมน้ำ แม่ก็ตะโกนถามว่าได้ไส้เดือนกี่ตัว น้องโบว์ตะโกนกลับมาว่า " only one " แถ่ม แท้ม น้องโบว์ยังไม่ได้รับการสอนเป็นเรื่องเป็นราวนะคะ แอบจำจากที่แม่สอนพี่ตะวัน ที่สุพรรณบ้านเราได้แค่นี้ก็หรูแล้วค่ะ<br />
ส่วนพี่ตะวันดู lion king ภาคภาษาอังกฤษ ซิมบ้าพูดกับพ่อเขาว่า '' Daddy don't eat animals" ตะวันหันมาถามว่า"ซิมบ้าไม่ให้พ่อเขากินสัตว์หรือคะแม่"
เมื่อวันพุธ เด็กๆขอไปตกปลาที่บ้านป้าโจ้ ริมแม่น้ำท่าจีน ก็ไปกัน ใช้ไส้เดือนเป็นเหยื่อ โบว์ไปขุดไส้เดือนกับป้าโจ้ ซักพักก็วิ่งกลับมาที่ริมน้ำ แม่ก็ตะโกนถามว่าได้ไส้เดือนกี่ตัว น้องโบว์ตะโกนกลับมาว่า " only one " แถ่ม แท้ม น้องโบว์ยังไม่ได้รับการสอนเป็นเรื่องเป็นราวนะคะ แอบจำจากที่แม่สอนพี่ตะวัน ที่สุพรรณบ้านเราได้แค่นี้ก็หรูแล้วค่ะ<br />
ส่วนพี่ตะวันดู lion king ภาคภาษาอังกฤษ ซิมบ้าพูดกับพ่อเขาว่า '' Daddy don't eat animals" ตะวันหันมาถามว่า"ซิมบ้าไม่ให้พ่อเขากินสัตว์หรือคะแม่"
บ้านนอกเข้ากรุง
tag:go2pasa.ning.com,2010-06-27:2456660:BlogPost:312867
2010-06-27T08:32:07.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
เมื่อวันเสาร์บ้านเราไปเยี่ยมน้องที่เพิ่งคลอดที่ กทม.ค่ะ นานๆจะเข้าไปซะที คุณตะวันเจอรถ "Ho mommy so many cars"<br />
แล้วพ่อก็พาไปที่บ้านที่ กทม. ที่จากมานาน ชี้ชวนกันดู<br />
ตะวัน "Daddy where is your home ?"<br />
พ่อ ~" จะถึงแล้ว นี่งัย" ตะวัน "Ho ..it's so small" พ่อลูกเค้าคุยกันรู้เรื่องนะคะบ้านดิฉันเนี่ยลูกพูดอังกฤษ พ่อพูดไทย<br />
<br />
ส่วนน้องโบก็ตื่นเต้นกับการดูรถแทกซี่หลากสี<br />
mom white taxi ,yellow taxi, pink and white taxi,green มาแล้วๆ<br />
แม่ ไฟเขียวแล้ว let's go ....พ่อ ไฟแดง stop
เมื่อวันเสาร์บ้านเราไปเยี่ยมน้องที่เพิ่งคลอดที่ กทม.ค่ะ นานๆจะเข้าไปซะที คุณตะวันเจอรถ "Ho mommy so many cars"<br />
แล้วพ่อก็พาไปที่บ้านที่ กทม. ที่จากมานาน ชี้ชวนกันดู<br />
ตะวัน "Daddy where is your home ?"<br />
พ่อ ~" จะถึงแล้ว นี่งัย" ตะวัน "Ho ..it's so small" พ่อลูกเค้าคุยกันรู้เรื่องนะคะบ้านดิฉันเนี่ยลูกพูดอังกฤษ พ่อพูดไทย<br />
<br />
ส่วนน้องโบก็ตื่นเต้นกับการดูรถแทกซี่หลากสี<br />
mom white taxi ,yellow taxi, pink and white taxi,green มาแล้วๆ<br />
แม่ ไฟเขียวแล้ว let's go ....พ่อ ไฟแดง stop
เด็กไทยหัวใจอังกฤษ
tag:go2pasa.ning.com,2010-06-20:2456660:BlogPost:304306
2010-06-20T13:44:02.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
<p><font size="5">จากที่แม่ได้รับรู้วิธีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษด้วยวิธีต่างๆ นา ๆ สุดท้ายสำหรับลูกเราแม่คือต้นแบบของเค้า พี่เป็นต้นแบบน้อง จากที่ได้ค้นหาวิธีต่างๆ พบว่าการใช้ภาษากับลูกเป็นวิธีที่ดีที่สุด เสียตังน้อยที่สุด เป็นธรรมชาติที่สุด ลูกเรียนรู้อิสระที่สุด ดิฉันเริ่มช้ากว่าใครๆ เพราะสมัยนั้นเมื่อ5ปีที่แล้ว ถ้าบ้านไหนไม่ได้มีคนในครอบครัวเป็นฝรั่งก็ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษกับลูก แต่ที่ดิฉันสอน…</font></p>
<p><font size="5">จากที่แม่ได้รับรู้วิธีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษด้วยวิธีต่างๆ นา ๆ สุดท้ายสำหรับลูกเราแม่คือต้นแบบของเค้า พี่เป็นต้นแบบน้อง จากที่ได้ค้นหาวิธีต่างๆ พบว่าการใช้ภาษากับลูกเป็นวิธีที่ดีที่สุด เสียตังน้อยที่สุด เป็นธรรมชาติที่สุด ลูกเรียนรู้อิสระที่สุด ดิฉันเริ่มช้ากว่าใครๆ เพราะสมัยนั้นเมื่อ5ปีที่แล้ว ถ้าบ้านไหนไม่ได้มีคนในครอบครัวเป็นฝรั่งก็ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษกับลูก แต่ที่ดิฉันสอน เริ่มจากคำศัพท์เจออะไรเรียกไทยแล้วก็ต้องตามด้วยอังกฤษเสมอด้วยหวังว่าลูกจะท่องศัพท์น้อยลงเมื่อเรียนจริง เริ่มตั้งแต่ลูกพูดไทยแข็งแรง ทำให้ลูกเคยตัวว่าเมื่อรู้อะไรที่เป็นภาษาไทยลูกจะต้องรับอีกคำที่เป็นภาษาอังกฤษด้วย ถ้าแม่ลืมบอกลูกจะทวงถามกลายเป็นเด็กคนนี้สนใจภาษาอังกฤษไปเลย ใครถามอะไรเค้าจะตอบได้หมด ยิ่งภาคภูมิใจ ยิ่งอยากรู้ ลูกเคยเรียนภาษาอังกฤษเสริมด้วยเพราะแม่คิดว่าตัวเองหมดมุข เวลาผ่านไปแม่สรุปว่าแม่ต้องใช้ภาษาอังกฤษกับลูกเอาเรื่องที่ลูกเรียนมาใช้ในชีวิตประจำวัน เลิกเรียนในส่วนที่แม่สอนได้ประหยัดตังอีกเยอะ ก็เลยเริ่มพูดe กับลูกโดยเค้าไม่รู้ตัวว่าแม่กำลังเปลี่ยนไป จากคำศัพท์ ก็เริ่มมีส่วนขยาย วลี ประโยคสั้นๆ อาทิ เช่น</font></p>
<p><font size="5">i knew</font></p>
<p><font size="5">i found it</font></p>
<p><font size="5">it's so hot. it's cold.it's raining</font></p>
<p><font size="5">oh my god !!!</font></p>
<p><font size="5">I forgot</font></p>
<p><font size="5">wait minute</font></p>
<p><font size="5">wait pls.</font></p>
<p><font size="5">let's do homework</font></p>
<p><font size="5">let's sleep</font></p>
<p><font size="5">so fun</font></p>
<p><font size="5">so beautiful</font></p>
<p><font size="5">what do you want?</font></p>
<p><font size="5">which one do you want?</font></p>
<p><font size="5">what are you doing?</font></p>
<p><font size="5">where are you?</font></p>
<p><font size="5">i love you ,i miss you ,i'm proud of you</font></p>
<p><font size="5">where will you go?</font></p>
<p><font size="5">some more.....</font></p>
<p><font size="5">อื่นๆอีกมากมาย</font></p>
<p><font size="5">ปรากฏว่า.คำที่เราทำเป็นพูดติดปาก ลูกเอาไปติดปากตัวเองด้วย เช่น</font></p>
<p><font size="5">ตะวันหยิบนั่นให้แม่ที คำตอบ wait mother</font></p>
<p><font size="5">ลงบันไดไม่ทันก็บอกว่า wait for me</font></p>
<p><font size="5">ลูกทำการบ้านโอ้เอ้ แม่บ่นๆๆๆๆ ตะวันตอบ i knew mother</font></p>
<p><font size="5">เรียนกับครูฝรั่งไปชื่นชมเครื่องประดับเค้าตะวันบอก teacher,so beautiful</font></p>
<p><font size="5">เล่นเกมส์กับครูฝรั่ง teacher ,it's so fun, play again pls</font></p>
<p><font size="5">การบ้านเสร็จยังลูก บางทีก็ not yet บางทีก็ finish</font></p>
<p><font size="5">แม่ถามคำถามต่างๆลูกตอบได้</font></p>
<p><font size="5">เพลงที่ฮัมประจำก็เป็นเพลงภาษาอังกฤษ แต่เธอยกมือไหว้ครูฝรั่ง</font></p>
<p><font size="5">ก็ดูน่าหมั่นไส้นะคะ เมื่อก่อนพูดไทยคำอังกฤษคำ ตอนนี้ลูกพูดไทยคำอังกฤษ2-3คำ แถมต้องไปออกเสียงให้เพื่อนๆในห้องเรียนพูดตามด้วยค่ะ เจ้าน้องสาวก็ได้ไปด้วย</font></p>
<p><font size="5">ที่บ้านยังใช้ระบบแปลนะคะ ที่ไม่เลิกเพราะ มันมีผลสืบเนื่องที่น่าสนใจค่ะจากที่ลูกถามว่าแปลว่าอะไรเวลาแม่พูดประโยคeใหม่ ลูกเอาชื่อไทยของเพื่อนมาให้แม่แปล แม่ก็ได้ช่องเพิ่มคำศัพท์ภาษาไทยคำใหม่ๆให้ลูกเวลาลูกให้แปลชื่อเพื่อน ลูกอยู่โรงเรียนชื่อสุพรรณภูมิ แม่ก็แปลให้ว่า โรงเรียนลูกแปลว่า แผ่นดินทอง....สุพรรณบุรี ลูกอยู่ในเมืองทอง</font></p>
<p><font size="5">.............................so proud..................</font></p>
วันละคำ2คำ ประโยค2ประโยค
tag:go2pasa.ning.com,2010-06-12:2456660:BlogPost:292434
2010-06-12T05:56:44.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
<p>ครานี้ก็มีสิ่งที่ทำให้แม่หัวใจพอง จากลูกทั้งสอง</p>
<p>พี่ตะวัน แม่ทำมาม่าให้กิน ลูกนั่งรอที่โต๊ะพอเทมาม่าใส่ชามให้ ตะวันบอก "Wow, it's so good.it's deliciuos"</p>
<p>ส่วนน้องโบก็จะได้เป็นคำๆไป โบไปดูสวนหย่อมบอกแม่ว่า "แม่โบเห็น frog ด้วย"</p>
<p>ครานี้ก็มีสิ่งที่ทำให้แม่หัวใจพอง จากลูกทั้งสอง</p>
<p>พี่ตะวัน แม่ทำมาม่าให้กิน ลูกนั่งรอที่โต๊ะพอเทมาม่าใส่ชามให้ ตะวันบอก "Wow, it's so good.it's deliciuos"</p>
<p>ส่วนน้องโบก็จะได้เป็นคำๆไป โบไปดูสวนหย่อมบอกแม่ว่า "แม่โบเห็น frog ด้วย"</p>
อุปกรณ์การเรียน ตัวช่วยสำคัญ
tag:go2pasa.ning.com,2010-05-28:2456660:BlogPost:265827
2010-05-28T03:43:50.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องสิ่งที่แม่หลินใช้ในการสอนภาษาลูกนะคะ<br />
1.ที่บ้านเราจะมี ดิกชันนารี 2 เล่มค่ะ ไทย-อังกฤษ และอังกฤษ-ไทยเอาชนิดที่อธิบายเป็นภาษาอังกฤษนะค่ะ เพราะจะมีคำอื่นที่มีความหมายเดียวกันหรือคำตรงข้ามกันทำให้เรารู้คำศัพท์เพิ่มมากขึ้น และพจนานุกรมไทยเอาไว้สอนภาษาไทย มีดิกไว้ตรวจสอบคำศัพท์เช่นการสะกด รูปกริยา เป็นต้น หาความหมายของคำศัพท์ ส่วนดิกไทยอังกฤษที่ต้องมีไว้เพราะต้องการเอาไว้เปิดหาคำที่เป็นภาษาอังกฤษเวลาเรารู้คำไทย และลูกก็เริ่มสนใจการเปฺิดดิกแล้วด้วยค่ะ…
วันนี้ก็จะมาเล่าเรื่องสิ่งที่แม่หลินใช้ในการสอนภาษาลูกนะคะ<br />
1.ที่บ้านเราจะมี ดิกชันนารี 2 เล่มค่ะ ไทย-อังกฤษ และอังกฤษ-ไทยเอาชนิดที่อธิบายเป็นภาษาอังกฤษนะค่ะ เพราะจะมีคำอื่นที่มีความหมายเดียวกันหรือคำตรงข้ามกันทำให้เรารู้คำศัพท์เพิ่มมากขึ้น และพจนานุกรมไทยเอาไว้สอนภาษาไทย มีดิกไว้ตรวจสอบคำศัพท์เช่นการสะกด รูปกริยา เป็นต้น หาความหมายของคำศัพท์ ส่วนดิกไทยอังกฤษที่ต้องมีไว้เพราะต้องการเอาไว้เปิดหาคำที่เป็นภาษาอังกฤษเวลาเรารู้คำไทย และลูกก็เริ่มสนใจการเปฺิดดิกแล้วด้วยค่ะ เค้าจะมีดิกรวมศัพท์ป.6ไว้ให้พกเล่นๆค่ะ ลูกมักจะถามถ้า.ภาษาไทยคำนี้ ภาษาอังกฤษพูดว่าอย่างไร บางคำแม่ไม่รู้แม่ก็ไม่อายบอกลูกว่าแม่ต้องเปิดดิกก่อน เค้าก็ok<br />
2ไพ่ไว้เล่นเกมส์ เปิดไพ่แล้วให้เค้าคิดศัทพ์ที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเดียวกับอักษรแรกของตัวในไพ่ เช่น ไพ่ เลข 7 เค้าต้องหาคำที่ขึ้นต้นด้วย s มาและต้องเป็นคำที่ไม่ใช่ seven ด้วยแม่และลูกก็ต้อง update vocab บ่อยๆ<br />
3.ตอนนี้เริ่มสอนเรื่อง gramma ,writing ก็จะมี แบบฝึกหัด(แม่คิดเอง และหาในเน็ต)ให้เค้าทำซักวันละ 10-15 ข้อ โดยเปลี่ยนคำถามแต่จะคงคำศัพท์เดิมไว้ เพื่อที่เค้าจะได้จำคำศัพท์ได้ แต่ยังไม่ได้ให้ท่องศัพท์ค่ะ กลัวเค้าไม่สนุก<br />
4.เพื่อนฝรั่ง แม่พยายามมีเพื่อนฝรั่งไว้ให้ลูกคุ้นเคยและให้เค้าสอนบ้าง ให้ลูกได้การพูดการฟัง สร้างภาพให้ลูกเห็นว่าทำไมเราต้องฝึกภาษาอังกฤษ และลูกก็ชอบฝรั่งค่ะ<br />
5.หน้าปัดรถ ได้สอน on off e=empty f=fullและ oil ลูกเคยมองหน้าปัดแล้วบอกแม่ไปเติมน้ำมันได้แล้ว emptyแล้ว<br />
6.ป้าย บนท้องถนน exit entrance go straight turn left turn right ป้ายร้านค้า ถุงขนม ป้ายบอกจังหวัด อำเภอ ลูกจะได้หัดสะกด<br />
7.หนังสือการใช้ภาษาอังกฤษไว้สำหรับแม่ update ความรู้ตัวเอง<br />
8.บัตรคำ ทำเองค่ะไว้ทายคำศัพท์<br />
english is all around นะคะ บ้าน bilingual อย่างเราต้องไม่พลาดภาษาอังกฤษซักวินาทีไม่ได้อัดนะคะ เราก็สอนเค้าทีละคำ2คำ ประโยค2ประโยค เค้าจะมีปฏิกิริยายังไงก็ปล่อยเค้า ทำภาษาอังกฤษให้เป็นธรรมชาติ เราอย่าไปวัดผลเค้าในระยะเวลาจำกัด แต่เราให้เค้าเพื่อผลระยะยาว
ภาษาอังกฤษแบบไทยๆ
tag:go2pasa.ning.com,2010-05-12:2456660:BlogPost:263018
2010-05-12T15:12:40.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
<p><font size="5">จากที่ปานตะวันได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับแม่อยู่เรื่อยๆโดยมีพ่อเป็นผู้ทบทวนและทดสอบก็มีเรื่องขำขันมาเล่าสู่กันฟัง</font></p>
<p><font size="5">เรื่องแรก</font></p>
<p><font size="4">พ่อกลับมาจากงานโดนฝนมา</font></p>
<p><font size="4">ตะวันบอก "โหพ่อเปียกมาเลย"</font></p>
<p><font size="4">พ่อก็ยังมีอารมณ์ทดสอบลูก "เปียกภาษาอังกฤษว่าอะไรนะ "</font></p>
<p><font size="4">ตะวัน " เออ..เปี้ยก-เกอะ"</font></p>
<p><font size="5">คือ แม่ยังไม่ได้สอนน่ะค่ะ...…</font></p>
<p></p>
<p><font size="5">จากที่ปานตะวันได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับแม่อยู่เรื่อยๆโดยมีพ่อเป็นผู้ทบทวนและทดสอบก็มีเรื่องขำขันมาเล่าสู่กันฟัง</font></p>
<p><font size="5">เรื่องแรก</font></p>
<p><font size="4">พ่อกลับมาจากงานโดนฝนมา</font></p>
<p><font size="4">ตะวันบอก "โหพ่อเปียกมาเลย"</font></p>
<p><font size="4">พ่อก็ยังมีอารมณ์ทดสอบลูก "เปียกภาษาอังกฤษว่าอะไรนะ "</font></p>
<p><font size="4">ตะวัน " เออ..เปี้ยก-เกอะ"</font></p>
<p><font size="5">คือ แม่ยังไม่ได้สอนน่ะค่ะ...</font></p>
<p><font size="5">เรื่องที่ 2</font></p>
<p><font size="5">วันหนึ่งไฟฟ้าดับค่ะ ตะวันกับพ่อก็ช่วยกันหาเทียน</font></p>
<p><font size="5">พ่อก็ยังมีอารมณ์ทดสอบลูก "เทียน ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไรนะ</font></p>
<p><font size="5">ตะวันบอกอย่างมั่นใจ " เที่ยน-เหนอะ"</font></p>
<p><font size="5">อีกเรื่องหนังสติ๊กตะวันเรียก Y-stick ค่ะ</font></p>
บทเรียนจากลูกคนแรกมาถึงคนที่2
tag:go2pasa.ning.com,2010-05-11:2456660:BlogPost:262040
2010-05-11T15:37:59.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
<p><font size="5">หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการทำให้ตะวันรักภาษาอังกฤษ น้องโบก็จะได้ไปด้วยเพราะมีพี่เป็น idol เวลาแม่สอนตะวันโบก็จะจำ แม่เห็นว่าโบก็ไม่ได้รังเกียจอะไรกับภาษาอังกฤษ ก็เริ่มพูดกับโบเป็นภาษาอังกฤษบ้างด้วยประโยคสั้นๆเพิ่มเติมจากการสอนคำศัพท์แบบที่สอนพี่ตะวัน น้องโบ4ขวบ9เดือนแล้วไม่ได้ไปเรียนหนังสือที่ไหนแม่ขี้เกียจไปส่ง-รับก็เลยรอเข้าตามเกณฑ์รัฐบาลก็คือกำลังจะเข้า อ1 17 พ.ค.53 คำศัพท์โบได้น้อยต่างจากตะวัน อาจเป็นเพราะเราไป concentrate ที่ตะวันมากไป…</font></p>
<p><font size="5">หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการทำให้ตะวันรักภาษาอังกฤษ น้องโบก็จะได้ไปด้วยเพราะมีพี่เป็น idol เวลาแม่สอนตะวันโบก็จะจำ แม่เห็นว่าโบก็ไม่ได้รังเกียจอะไรกับภาษาอังกฤษ ก็เริ่มพูดกับโบเป็นภาษาอังกฤษบ้างด้วยประโยคสั้นๆเพิ่มเติมจากการสอนคำศัพท์แบบที่สอนพี่ตะวัน น้องโบ4ขวบ9เดือนแล้วไม่ได้ไปเรียนหนังสือที่ไหนแม่ขี้เกียจไปส่ง-รับก็เลยรอเข้าตามเกณฑ์รัฐบาลก็คือกำลังจะเข้า อ1 17 พ.ค.53 คำศัพท์โบได้น้อยต่างจากตะวัน อาจเป็นเพราะเราไป concentrate ที่ตะวันมากไป แต่โบได้ประโยคมากกว่าในอายุเดียวกัน ดังนี้</font></p>
<p><font size="5">1.ถ้าได้ยินเสียงเคาะประตูโบบอก" Come in"</font> <font size="5">ถ้าโบเคาะประตูเองจะบอก" May i come in" ถ้าแม่เคาะประตูแล้วบอก" May i come in"จะมี 2 เสียงประสานกัน "Yes of course</font><font size="5">"</font></p>
<p><font size="5">2.ก่อนนอนโบก็บอก Good night ถ้าเลิกคุยโทรศัพท์โบจะบอก Good bye</font></p>
<p><font size="5">3.ถ้าแม่พูด Where are you ? เค้าจะบอก I'm here</font></p>
<p><font size="5">4.เวลาเช็ดตัวหลังอาบน้ำพอแม่บอก Hand up โบก็จะชูมือขึ้น เวลาล้างก้นหลังถ่ายแม่จะล้างให้2ครั้งเมื่อจบครั้งแรกเขาจะลงจากชักโครก แม่จะบอก Wait แล้วบอกว่า Again เมื่อเสร็จก็จะบอก finish ก็เข้าใจ3คำนี้แล้วอ้อ sit down stand up ก็ได้ อ้อนแม่ด้วย นะแม่นะ please</font></p>
<p><font size="5">5.ถ้าโบเจอสัญญาณไฟแดงโบบอกแม่ stop แต่ถ้าไฟเขียวโบบอก Let's go</font></p>
<p><font size="5">6. ทุกเช้าเวลาโบไป day careที่ที่ทำงานแม่โบจะเจอหมาเค้านับค่ะ ว่าแม่ a dog พอเจออีกตัวก็ two dogs ,three dogs,four dogs,five dogs บางทีก็ white dog ,black dog ต้นมะพร้าวเค้าบอก coconut tree</font></p>
<p><font size="5">7.เวลาเขาทำอะไรให้ถ้าแม่ลืมขอบคุณเค้าทวง thank you สิแม่แล้วเค้าจะบอก your welcome</font></p>
<p><font size="5">แค่นี้แม่ก็ชื่นใจค่ะ</font></p>
การเริ่มต้นภาษาอังกฤษที่บ้านเรา
tag:go2pasa.ning.com,2010-05-09:2456660:BlogPost:259507
2010-05-09T04:30:00.000Z
sirin malinil
https://go2pasa.ning.com/profile/sirinmalinil
<font size="4">ที่บ้านเราเริ่มจาก แม่เป็นผู้ที่ชื่นชอบภาษาอังกฤษก็อดไม่ได้ที่จะสอนลูก ตอนนั้นแม่ก็ยังก็ยังไม่ได้รู้ทฤษฎีการเรียนรู้ภาษาใดๆทั้งนั้น ตะวันเริ่มพูดตอน 1 ขวบ 8 เดือนแต่เธอก็สามารถที่จะพูดเป็นประโยคได้ในเวลาไม่นานหลังเริ่มพูดและชัดเจนทุกคำ และมีแอบเมาท์เด็กที่พูดไม่ชัดด้วยนะคะ เมื่อพูดภาษาไทยแข็งแรงแม่ก็เริ่มสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ตะวันเสมอ ย้ำว่าเสมอค่ะ แต่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษกับเธอ ยังนึกเสียดายถ้าพูดตั้งแต่ตอนนั้นหนูตะวันไปโลดแล้ว…</font>
<font size="4">ที่บ้านเราเริ่มจาก แม่เป็นผู้ที่ชื่นชอบภาษาอังกฤษก็อดไม่ได้ที่จะสอนลูก ตอนนั้นแม่ก็ยังก็ยังไม่ได้รู้ทฤษฎีการเรียนรู้ภาษาใดๆทั้งนั้น ตะวันเริ่มพูดตอน 1 ขวบ 8 เดือนแต่เธอก็สามารถที่จะพูดเป็นประโยคได้ในเวลาไม่นานหลังเริ่มพูดและชัดเจนทุกคำ และมีแอบเมาท์เด็กที่พูดไม่ชัดด้วยนะคะ เมื่อพูดภาษาไทยแข็งแรงแม่ก็เริ่มสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษให้ตะวันเสมอ ย้ำว่าเสมอค่ะ แต่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษกับเธอ ยังนึกเสียดายถ้าพูดตั้งแต่ตอนนั้นหนูตะวันไปโลดแล้ว ตอนนั้นที่เริ่มสอนไม่ได้มีแผนอะไรคิดเพียงจะสะสมคำศัพท์ไว้ เวลาเรียนจะได้ท่องศัพท์น้อยลง เจออะไรแม่ก็จะบอกภาษาอังกฤษควบคู่ไปด้วยเสมอเริ่มจากสีต่างๆแต่ก็ไม่เคยทดสอบหรือประเมินลูกนะคะว่าได้หรือไม่อย่างไรจนวันหนึ่งลูกบอกว่า "ตะวันอยากได้ลูกโป่งสีชมพู pink ค่ะ" และก็จะพูดสีทั้งไทยและอังกฤษด้วยกันเสมอ แม่ก็ลองถามสีอื่นๆ เค้าก็ได้ค่ะแต่แม่ก็ยังคิดว่าเค้าท่องจำ จนเค้าถูกทดสอบด้วยคนอื่นด้วยวิธีการสลับให้ตอบเป็นภาษาอังกฤษบ้าง ไทยบ้าง ผ่านค่ะ แม่ได้เฮเลย ก็ขยายผลต่อด้วยสีอ่อนสีแก่และก็สอนตามความคิดแม่น่ะนะให้ลูกออกเสียง black ว่า บะ-แล็ค blue ก็ บะ-ลู green ก็ กะ-รีน ตอนนั้นเรื่อง Phonic ,phonetic ก็ยังไม่รู้เรื่องกะเค้า คิดเอาเอง เวลาสอนคำควบกล้ำของไทยก็ให้เค้าออกเสียงแบบนี้ เวลาเค้าพูดเร็วๆก็จะควบกล้ำได้ จากนี้ก็สอนหว่านเลยบอกคำไทยและอังกฤษควบคู่กันเสมอ จนวันหนึ่งแม่ลืมบอกอังกฤษให้ ลูกทวงค่ะว่า ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร แม่ก็เลยต้อง update คำศัพท์เรื่อยๆค่ะ เพราะถ้าลืมเมื่อไรลูกจะทวงทันที ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไรล่ะแม่ ก็นับเป็น sign อันดีสำหรับบ้านเราค่ะว่าลูกสนใจอยากรู้ ชอบที่จะรู้ ก็เลยฉลุย สอนกันง่าย</font>