น้องคนโตอายุพอๆกับเจ้าขาเลยค่ะ ก่อนอื่นอ่านครบรึยังคะ เพราะอ่านบล็อกแรกๆ ภาจะพูดถึงการวางความคาดหวังเมื่อสอนเด็กโต คือ เรามักจะคาดหวังว่าสอนเด็กโตเค้าต้องรู้เรื่องทุกอย่าง จริงๆเค้าก็เหมือนเด็กแรกเกิดที่เพิ่งเรียนภาษานั้นค่ะ คิดถึงตอนลูกเล็กๆพูดกีครั้งลูกถึงตอบกลับมา จริงๆเราพูดเป็นปีเลยนะคะและเรายอมพูดคนเดียวไปตั้งนานกว่าลูกจะพูดกับเราได้ อันนี้เราก็ต้องคิดยังงี้เหมือนกันค่ะ อย่าคาดหวัง ขอให้พูดไปเรื่อยๆ ภาไม่เก่งอังกฤษ จีนยิ่งไม่ได้ซักตัวเลย ภาจะพูดจนเรารู้สึกภาคล่อง เน้นที่ตัวเราก่อน พูดไปเรื่อย ขึ้นรถก็ get into the car. ทุกครั้ง พูดทุกวันทำไมจะจำไม่ได้ พอเราคล่องจนมันเป็นส่วนนึงในชีวิตเราเหมือนภาษาไทย ก็พอดีกับที่ลูกได้ฟังเยอะพอสมควร ภาถึงขยับไปที่ตัวลูกค่ะ ลูกก็ฟังมาจนรู้เรื่องหมดแล้ว ก็เริ่มตั้งเงื่อนไขไปเรื่อยๆค่ะ
ที่ภามองนะคะ ถ้าเด็กต่อต้าน เด็กโตต้องสร้างแรงบันดาลใจก่อนว่าทำไมเราต้องพูดภาษาอังกฤษ สำหรับภาคิดว่าแรงบันดาลใจจะอยู่ได้ช่วงสั้นๆ นอกนั้นอาจเป็นสร้างบรรยากาศสนุกในการเรียนรู้เช่น ชอบอะไรก็สอนเกี่ยวกับอันนั้นก่อน พาร้องเพลง เล่านิทานให้สนุก ตอนแรกๆ ภาก็เล่นซ่อนหา ได้ฝึกนับเลข ได้ใช้หลายประโยค where are you ? Are you ready? I found you.... เยอะแยะเลยสะสมไปเรื่อยๆ ถ้าเด็กบอกไม่เอา แสดงว่าเค้ายังไม่สนุกค่ะ เราตั้งใจสอนเกินไป ต้องคิดถึงเราว่า ถ้าอยู่ดีๆเอาคนมาพูดภาษาอื่นๆที่เราไม่คุ้นหูและตั้งใจอัดเราเต็มที่ เราคงไม่อยากเอาเหมือนกันค่ะ ให้เค้าฟังเยอะๆ ก่อนเหมือนเด็กแล้วค่อยเริ่มให้เค้าพูดนะคะ
ต่อเรื่องไวยากรณ์นะคะ จริงๆเราทำทุกอย่างเหมือนไทยนะคะ ที่เราไม่ได้อธิบายอะไรเค้า ไม่ต้องสอนหลักภาษาไทยอะไรแค่พูดไปเรื่อยๆ เด็กจะใช้ความคุ้นเคย ใช้ความรู้สึกในการพูดออกมาค่ะ เช่น ถ้าพูดไปนานๆ เค้าจะพูดคำว่า I saw จากความรู้สึกสิ่งที่เค้าเห็นมาแล้ว I went กับไปมาแล้วนะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้เจ้าขาพูดถูกทั้งหมดนะคะ ต้องแก้อยู่เหมือนกันค่ะ แต่ภามองว่าต้องใช้เวลา ทุกวันนี้ลูกก็ยังไม่ได้พูดไทยถูกทั้งหมด แต่ถ้าจะสอน article ภาว่าให้เค้าพูดได้ระดับนึงแล้วเวลาเค้าพูดผิด เราก็เน้น a bird เวลามาตัวเดียว มาหลายตัวก็เน้นเสียง ssssss..ชัดๆ และภาจะบอก one bird,two birds, three birds,....เน้นเสียง s หลังจาก one bird แล้วลูกก็จะเข้าใจแต่น่าจะโตหน่อยนะคะ
mom_jenita
รบกวนไม่เยอะหรอกค่ะ แต่ตอบช้าหน่อยอย่าว่ากันนะคะ ภางานยุ่งค่ะ
น้องคนโตอายุพอๆกับเจ้าขาเลยค่ะ ก่อนอื่นอ่านครบรึยังคะ เพราะอ่านบล็อกแรกๆ ภาจะพูดถึงการวางความคาดหวังเมื่อสอนเด็กโต คือ เรามักจะคาดหวังว่าสอนเด็กโตเค้าต้องรู้เรื่องทุกอย่าง จริงๆเค้าก็เหมือนเด็กแรกเกิดที่เพิ่งเรียนภาษานั้นค่ะ คิดถึงตอนลูกเล็กๆพูดกีครั้งลูกถึงตอบกลับมา จริงๆเราพูดเป็นปีเลยนะคะและเรายอมพูดคนเดียวไปตั้งนานกว่าลูกจะพูดกับเราได้ อันนี้เราก็ต้องคิดยังงี้เหมือนกันค่ะ อย่าคาดหวัง ขอให้พูดไปเรื่อยๆ ภาไม่เก่งอังกฤษ จีนยิ่งไม่ได้ซักตัวเลย ภาจะพูดจนเรารู้สึกภาคล่อง เน้นที่ตัวเราก่อน พูดไปเรื่อย ขึ้นรถก็ get into the car. ทุกครั้ง พูดทุกวันทำไมจะจำไม่ได้ พอเราคล่องจนมันเป็นส่วนนึงในชีวิตเราเหมือนภาษาไทย ก็พอดีกับที่ลูกได้ฟังเยอะพอสมควร ภาถึงขยับไปที่ตัวลูกค่ะ ลูกก็ฟังมาจนรู้เรื่องหมดแล้ว ก็เริ่มตั้งเงื่อนไขไปเรื่อยๆค่ะ
ที่ภามองนะคะ ถ้าเด็กต่อต้าน เด็กโตต้องสร้างแรงบันดาลใจก่อนว่าทำไมเราต้องพูดภาษาอังกฤษ สำหรับภาคิดว่าแรงบันดาลใจจะอยู่ได้ช่วงสั้นๆ นอกนั้นอาจเป็นสร้างบรรยากาศสนุกในการเรียนรู้เช่น ชอบอะไรก็สอนเกี่ยวกับอันนั้นก่อน พาร้องเพลง เล่านิทานให้สนุก ตอนแรกๆ ภาก็เล่นซ่อนหา ได้ฝึกนับเลข ได้ใช้หลายประโยค where are you ? Are you ready? I found you.... เยอะแยะเลยสะสมไปเรื่อยๆ ถ้าเด็กบอกไม่เอา แสดงว่าเค้ายังไม่สนุกค่ะ เราตั้งใจสอนเกินไป ต้องคิดถึงเราว่า ถ้าอยู่ดีๆเอาคนมาพูดภาษาอื่นๆที่เราไม่คุ้นหูและตั้งใจอัดเราเต็มที่ เราคงไม่อยากเอาเหมือนกันค่ะ ให้เค้าฟังเยอะๆ ก่อนเหมือนเด็กแล้วค่อยเริ่มให้เค้าพูดนะคะ
Feb 12, 2011
mom_jenita
ยาวหน่อยนะคะ ภาอยากให้คุณแม่มองภาพของการค่อยๆสอนน่ะค่ะ เกรงว่าจะใจร้อนไปค่ะ
ต่อเรื่องไวยากรณ์นะคะ จริงๆเราทำทุกอย่างเหมือนไทยนะคะ ที่เราไม่ได้อธิบายอะไรเค้า ไม่ต้องสอนหลักภาษาไทยอะไรแค่พูดไปเรื่อยๆ เด็กจะใช้ความคุ้นเคย ใช้ความรู้สึกในการพูดออกมาค่ะ เช่น ถ้าพูดไปนานๆ เค้าจะพูดคำว่า I saw จากความรู้สึกสิ่งที่เค้าเห็นมาแล้ว I went กับไปมาแล้วนะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้เจ้าขาพูดถูกทั้งหมดนะคะ ต้องแก้อยู่เหมือนกันค่ะ แต่ภามองว่าต้องใช้เวลา ทุกวันนี้ลูกก็ยังไม่ได้พูดไทยถูกทั้งหมด แต่ถ้าจะสอน article ภาว่าให้เค้าพูดได้ระดับนึงแล้วเวลาเค้าพูดผิด เราก็เน้น a bird เวลามาตัวเดียว มาหลายตัวก็เน้นเสียง ssssss..ชัดๆ และภาจะบอก one bird,two birds, three birds,....เน้นเสียง s หลังจาก one bird แล้วลูกก็จะเข้าใจแต่น่าจะโตหน่อยนะคะ
เรื่องวลีก็พูดไปเลยค่ะ แม่พูดเยอะแค่ไหนก็ได้ค่ะ แต่อย่ากดดันลูกหรือให้เยอะเกินจนลูกไม่ไหว หาสมดุลให้ลูกด้วยค่ะ เท่าที่เค้ารับได้แล้วค่อยๆเพิ่ม แต่ลูกต้องค่อยๆไปตามขั้นตอนนะคะ ศัพท์ วลี ประโยค ไม่งั้นเค้าจะเดินอย่างไม่แข็งแรงค่ะ หวังว่าจะช่วยได้บ้างนะคะ
Feb 12, 2011