Featured Discussions - หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้
2024-03-29T10:44:57Z
https://go2pasa.ning.com/group/surat/forum/topic/list?feed=yes&xn_auth=no&featured=1
ภูมิปัญญาร่วม กับ กูรู้
tag:go2pasa.ning.com,2010-07-19:2456660:Topic:339309
2010-07-19T08:00:32.069Z
ผู้ใหญ่บิ๊ก
https://go2pasa.ning.com/profile/bigowl
กาลครั้งหนึ่ง ยังไม่นานเท่าไหร่ เพราะแค่ปี 1906 มีกระทาชายนายหนึ่งชื่อว่า ฟรานซิส กัลตัน ชาวอังกฤษได้เดินทางไปงานแสดงประจำปีของสัตว์เลี้ยง<br></br><br></br>กัลตันเดินเที่ยวงานจนกระทั่งไปพบกับ ซุ้มหนึ่งซึ่งจัดแข่งขันทายน้ำหนัก โดยจะมีการคัดเลือกแพะตัวอ้วน ๆ ขึ้นมาสักตัวหนึ่งแล้วนำขึ้นมาให้ผู้เข้าชม ทายน้ำหนักของมัน ในการทายน้ำหนักนั้น ผู้ชมจะต้องวางเงินเดิมพันน้ำหนักของแพะตัวนั้น…
กาลครั้งหนึ่ง ยังไม่นานเท่าไหร่ เพราะแค่ปี 1906 มีกระทาชายนายหนึ่งชื่อว่า ฟรานซิส กัลตัน ชาวอังกฤษได้เดินทางไปงานแสดงประจำปีของสัตว์เลี้ยง<br/><br/>กัลตันเดินเที่ยวงานจนกระทั่งไปพบกับ ซุ้มหนึ่งซึ่งจัดแข่งขันทายน้ำหนัก โดยจะมีการคัดเลือกแพะตัวอ้วน ๆ ขึ้นมาสักตัวหนึ่งแล้วนำขึ้นมาให้ผู้เข้าชม ทายน้ำหนักของมัน ในการทายน้ำหนักนั้น ผู้ชมจะต้องวางเงินเดิมพันน้ำหนักของแพะตัวนั้น โดยซื้อตั๋วซึ่งผู้ทายจะต้องใส่ชื่อ, ที่อยู่ และน้ำหนักที่ทาย ใครทายได้ ใกล้เคียงที่สุดก็จะได้รางวัลใหญ่ไป<br/><br/>ภายหลังการแข่งขัน จบลง กัลตันได้ขอยืมตั๋วทายน้ำหนักทั้งหมด จากเจ้าหน้าที่จัดงาน และนำไปใช้ ในการวิเคราะห์ทางสถิติ โดยเขานำผลการทายทั้งหมดจำนวน 787 คนมาจัดเรียงตามลำดับจากสูงที่สุดไปต่ำสุด จากนั้นนำไปพล็อตกราฟ นอกจากนี้ เขายังนำผลการทายทั้งหมดมาคำนวณหาค่าเฉลี่ย ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็น ความสามารถ หรือความฉลาด ของประชาชนชาวพลีมัธ (ที่ไปร่วมการทายน้ำหนักแพะ) นั่นคือ ถ้าถือว่ากลุ่มคนทั้งหมดนี้เป็นคนคนหนึ่ง ค่าเฉลี่ยนี้สามารถแสดงถึง ความสามารถในการทายน้ำหนักแพะของคนคนนั้นนั่นเอง<br/><br/>เดิมกัลตันเชื่อว่า ค่าเฉลี่ยของการทายน้ำหนัก น่าจะเบี่ยงออกจากน้ำหนักจริงค่อนข้างมาก เพราะ ค่าเฉลี่ยนี้เกิดจากการผสมผสาน ของคนที่เก่งและฉลาดมากๆ สองสามคนเข้ากับกลุ่มคนที่ไม่เก่งนักแต่ค่อนข้างดี, รวมกับคนที่ไม่รู้จำนวนมาก นั่นย่อมจะทำให้ค่าเฉลี่ยการทายแย่ไปด้วย แต่ปรากฏว่า เขาคิดผิด <br/><br/>เพราะน้ำหนักแพะเท่ากับ 1,198 ปอนด์ในขณะที่ค่าเฉลี่ย ของการทายเท่ากับ 1,197 ปอนด์ ซึ่งต่างกันเพียงปอนด์เดียว<br/><br/>ซึ่งกัลตันสรุปไว้ภายหลังในบทความที่ตีพิมพ์ใน วารสาร Nature ว่า บางทีเรื่องผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คนอาจจะไม่มีความสำ คัญมากนัก แต่ควรจะเชื่อมั่น ในการตัดสินของภูมิปัญญาร่วมมากกว่า<br/><br/>...<br/><br/>นั่นคือจุดเริ่มต้นของหนังสือ Wisdom of crowds ของ James Surowiecki ซึ่งเป็นนักเขียนประจำนิตยสารปัญญาชนอเมริกัน The New Yorker<br/><br/><span style="font-weight: bold;">นายเจมส์พยายามจะนำเสนอประเด็นที่ว่า การที่คิดว่าตัวเองเป็น กูรู้ (Guru- จากด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม) การรวบอำนาจข้อมูล นำไปสู่ความคับแคบและการบิดเบือนในระบบตัดสินใจ ในขณะที่การกระจายที่มาของแหล่งข้อมูลและการเปิดกว้างทางความคิด เป็นการสร้างความเป็นไปได้และความช่ำชองเฉพาะทางที่มากที่สุดที่จะช่วย ป้องกันความผิดพลาดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อมูลที่เป็นความรู้ซึ่งบางครั้งอาจไม่เป็น ประโยชน์โดยตรง</span><br/><br/>Wikipedia.org สารานุกรม ที่อาศัยคนที่สนใจทั้งหมดช่วยกันสร้างเนื้อหา ช่วยกันขัดเกลาเนื้อหา โดยไม่สนใจว่าเขามาจากวิชาชีพใด นี่คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดบนแนวคิดของ ภูมิปัญญาร่วม (Wisdom of crowds) ตอนที่ Jimmy Wales สร้างวิกิพีเดียขึ้นมานั้น ก็โดนพวกกูรู้ทั้งหลายถล่มเขาอย่างหนักว่า ข้อมูลมันจะถูกต้องเหรอ ปล่อยเชื้อมั่วเปล่า เดี๋ยวตกเป็นเหยื่อของคนรู้ไม่จริง แต่จนแล้วจนเล่าพวกกูรู้เหล่านี้ ก็ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลยบนโลกนี้ นอกจากวิพากษ์วิจารณ์อย่างเมามัน แต่ Jimmy Wales ก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาก็เดินหน้าสร้างวิกิพีเดียต่อ (ดีใจจัง คนดีไม่ท้อแท้) ซึ่งผลตอบรับจากมวลชนดีมาก เพราะเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมด้วยช่วยกันขัดเกลาองค์ความรู้ได้ ทันที โดยไม่ต้องไปรอกูรู้จากสำนักไหนมาช่วยตอบ จนปัจจุบันวิกิพีเดียเป็นสารานุกรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว มีบทความกว่า 3 ล้านบทความ 250 ภาษา ช่วยคนบนโลกนี้ได้เยอะแยกมากมาย<br/><br/><p style="text-align: left;"><img width="300" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1799736064?profile=RESIZE_320x320"/></p>
<br/><br/>อีกตัวอย่างที่อยู่บนพื้นฐานของแนวคิด ภูมิปัญญาร่วมก็คือเกมโชว์ชื่อดังในอเมริกา Who Wants to Be a Millionaire? หรือเกมเศรษฐีที่รู้จักกันในเมืองไทย<br/><br/>โดยในอเมริกานั้น ถ้าผู้เข้าแข่งขันไม่สามารถตอบคำถามได้ ก็จะมีตัวช่วยสามตัว ตัวช่วยแรก คือตัดคำตอบบางข้อที่ไม่ใช้ออก ตัวช่วยที่สองคือ ให้โทรศัพท์สอบถามคนใกล้ตัวหรือเพื่อนสนิทที่คิดว่ามีความรู้ความสามารถได้ และตัวช่วยที่สาม คือให้ผู้ชมในห้องส่งที่มาร่วมชมรายการทุกคนได้แสดงความคิดเห็นผ่านทาง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เล็กๆ ที่ติดอยู่กับที่นั่งแต่ละคน ซึ่งผู้ชมเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอันใด เป็นเพียงแต่คนมานั่งชมรายการเท่านั้นเอง<br/><br/>จากสถิติพบว่า ถ้าเลือกตัวช่วยที่สองคือสอบถามผู้ที่ตนเองคิดว่า "เชี่ยวชาญ" ผู้เชี่ยวชาญนั้นจะให้คำตอบที่ถูก 65% ซึ่งก็ถือเป็นสถิติที่ดีนะครับ แต่พอไปดูตัวช่วยที่สามแล้ว จะพบว่า พวกผู้ชมที่มานั่งในห้องส่งนั้นจะเลือกคำตอบที่ถูกต้องถึง 91% (จริงอยู่ผู้ชมคงจะไม่ได้เลือกคำตอบที่เหมือนกันหมด แต่เขาแสดงให้เห็นว่า ผู้ชมจำนวนเท่าใดที่เลือกคำตอบใดบ้าง และจะพิจารณาจากคำตอบที่เลือกกันมากที่สุด)<br/><br/><span style="font-weight: bold;">ผมทำเว็บ 2pasa.com ขึ้นมาพร้อมกับเขียนหนังสือเล่มนี้ นอกจากแนวคิดการสอนภาษาที่สองแบบ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" แล้ว ผมยังพยายามสร้างวัฒนธรรมร่วมด้วยช่วยกัน บนแนวคิดของ "ภูมิปัญญาร่วม" อีกด้วย ผมไม่ได้สนใจว่าใครจะเก่งภาษาอังกฤษมากน้อยแค่ไหน จะเป็นฝรั่งเนทีฟ ไม่เนทีฟหรือเป็นกูรู้จากสำนักไหน แต่ผมเชื่อภูมิปัญญาร่วมของสมาชิกทั้งหมด ที่เข้ามาช่วยกันขัดเกลาองค์ความรู้ให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด มีคนตั้งประเด็น มีคนช่วยตอบ ตอบแล้วยังดีไม่พอ ก็มีเพื่อนสมาชิกมาช่วยเสริมเพิ่มเติม เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้</span> <br/><br/><span style="font-weight: bold;">ดังนั้นพื้นที่ทั้งหมดในหมู่บ้านแห่งนี้เป็น "พื้นที่สาธารณะ" ทุกคนมีสิทธิตั้งคำถาม วิจารณ์ ช่วยแนะนำ ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัวของใคร เพียงแต่ขอให้การพูดคุยอยู่บนเหตุผล แตกต่างได้ แต่ต้องเพื่อ "ตกแต่งต่อเติมองค์ความรู้" ไม่ใช่แตกแยก<br/><br/>ผมอยากให้พยายามเอาอัตตาของตัวเองออกไปให้มากที่สุด พยามเป็นแก้วที่น้ำไม่เต็ม เพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ๆเขามาคิด ขัดเกลา เพื่อคัดเอาสิ่งที่ดีที่สุด</span><br style="font-weight: bold;"/><br style="font-weight: bold;"/><span style="font-weight: bold;">ผมมีความเชื่อเรื่องภูมิปัญญาร่วมครับ และผมเชื่อว่าพวกเราชาวหมู่บ้านทุกจะได้สิ่งที่เรียกว่า "ความผูกพันธ์ เอื้ออาทรระหว่างสมาชิกด้วยกัน" แล้วเราจะเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคงครับ</span><br/><br/><span style="font-weight: bold;">ผู้ใหญ่บิ๊ก</span><br/><br/>