All Discussions Tagged 'น้ำตาแม่' - หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้
2024-03-19T01:41:08Z
https://go2pasa.ning.com/group/school/forum/topic/listForTag?tag=%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88&feed=yes&xn_auth=no
น้ำตาแม่กับโรงเรียนที่ผู้ปกครองคิดว่าดีที่สุดในชลบุรี
tag:go2pasa.ning.com,2012-08-29:2456660:Topic:1076932
2012-08-29T19:57:52.959Z
ณัฏฐ์ณภัทร โพธิดอกไม้
https://go2pasa.ning.com/profile/2mh262jt8hagq
<p>ดิฉันเป็นแค่แม่คนนึง ที่สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตคือลูกทั้งสองคน ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ ไปกับการหาข้อมูลเพื่อพัฒนาเค้าอย่างเต็มศักยภาพ ดิฉันเองเป็นกังวลกับลูกหลายๆเรื่อง และโรงเรียนก็เป็นเรื่องสำคัญที่ดิฉันต้องคัดกรอง หลังจากลูกคนโตย้ายมาสองโรงเรียน จนมาถึงโรงเรียนนี้ สาเหตุที่ย้ายเพราะ โรงเรียนแรก แม่เห็นว่าเค้าเข้มข้นวิชาการมากไป บวกกับบุคลิกชอบแข่งขันและเอาชนะ แม่กลัวว่าลูกแม่จะอยู่แต่กับหนังสือ เอาแต่เรียน เอาแต่สอบแข่งขัน จนเป็นคนจิตใจแข็งกระด้าง เห็นแก่ตัว และไม่แคร์คนอื่น …</p>
<p>ดิฉันเป็นแค่แม่คนนึง ที่สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตคือลูกทั้งสองคน ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ ไปกับการหาข้อมูลเพื่อพัฒนาเค้าอย่างเต็มศักยภาพ ดิฉันเองเป็นกังวลกับลูกหลายๆเรื่อง และโรงเรียนก็เป็นเรื่องสำคัญที่ดิฉันต้องคัดกรอง หลังจากลูกคนโตย้ายมาสองโรงเรียน จนมาถึงโรงเรียนนี้ สาเหตุที่ย้ายเพราะ โรงเรียนแรก แม่เห็นว่าเค้าเข้มข้นวิชาการมากไป บวกกับบุคลิกชอบแข่งขันและเอาชนะ แม่กลัวว่าลูกแม่จะอยู่แต่กับหนังสือ เอาแต่เรียน เอาแต่สอบแข่งขัน จนเป็นคนจิตใจแข็งกระด้าง เห็นแก่ตัว และไม่แคร์คนอื่น พอ ถึงอ.3 แม่พบว่าลูกแม่เรียนเก่งมากแต่ขาดทักษะชีวิตเพราะขาดการทำกิจกรรมที่เหมาะสม เราย้ายมาที่ใหม่ โรงเรียนใหญ่ขึ้น แต่เมื่อเทอมนึงผ่านไป แม่ได้รู้ว่าลูกเคยเกือบถูกรถเฉี่ยว แม่กังวลใจทั้งวัน ไม่เป็นอันทำงาน คิดไปต่างๆนาๆ ทำไมครูปล่อยเด็กออกมาข้างนอกได้ แต่แม่เข้าใจ โรงเรียนขนาดใหญ่ย่อมมีความเสี่ยง แม่ตัดสินใจย้ายลูกกลางเทอม มาเรียนชั้น ป.1 ที่นี่ ที่ๆแม่มั่นใจในระบบการจัดการ ที่ที่แม่ประทับใจครูประจำชั้นของคนน้องที่ย้ายมาที่นี่ตั้งแต่เทอมก่อน เทอมแรกราบรื่น ลูกแม่มีความสุขมากทั้งสองคน กระตือรือร้นที่จะไปเรียน ลูกมีความสุข แม่เองก็มีความสุข พอสบายใจจะเริ่มมีแรงลุยงานธุรกิจเล็กๆในฝันของแม่ที่ไม่ต้องอาศัยนามสกุลของก๋งกับยายมาเป็นใบเบิกทาง ที่ที่แม่ภูมิใจเพราะได้ไล่ตามความฝัน ที่ที่มีความสุขเพราะได้อยู่กับลูกพร้อมๆกับเพื่อนๆลูก แม่เสพติดเสียงหัวเราะของลูกๆและนักเรียนของแม่ ที่นี่แม่ทุ่มเททำงานเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับลูก อยากให้ที่นี่เป็นที่ที่สร้างลูกที่น่ารักให้กับพ่อแม่ที่ไม่มีเวลาแต่อยากให้เด็กเป็นคนน่ารัก แม่ตั้งชื่อที่นี่ให้เป็นที่ที่เด็กมาแล้วมีความสุข "คิดสนุก คลับบ์ " แม่ไม่คิดว่าที่ที่แม่สร้างจะมาจบลงเพราะความรักลูกและเอาใจใส่เป็นห่วงชีวิตนักเรียนที่เหมือนลูกของแม่แบบนี้เลย</p>
<p><span style="color: #ff00ff;">ตอนที่ 1 สงครามมือเท้าปาก</span></p>
<p>ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 ปีนี้มีเด็กๆคิดสนุกย้ายมาเรียนที่นี่กับเราหลายคน เพราะแม่ชักชวนเค้าว่าโรงเรียนนี้ดีมากมาย สอดประสานกับแนวทางครอบครัวสองภาษาที่สุด ครูดูแลเด็กอย่างดี และข้อตกลงว่าแม่จะรับเด็กกลับจากโรงเรียนมาพร้อมกับลูกแม่เลย ทานข้านเย็นกัน และเรียนเสริมทักษะรอบด้านกันต่อ รอพ่อแม่มารับตอนหนึ่งทุ่ม ทุกอย่างลงตัวอย่างดี แต่เรื่องแย่ๆเริ่มเกิดขึ้นเมื่อเกิดมือเท้าปากระบาดรอบสองในเดือนกรกฎาคม มีข่าวเด็กตายตรงนั้นตรงนี้ แม่เริ่มเป็นกังวล ทั้งลูก ทั้ังนักเรียน รอบแรกโรงเรียนปิดไปรอบนึงแล้ว แต่รอบนี้กระแสข่าวแรงมาก โรงเรียนเรากลับนิ่งๆ ไม่ตื่นตัวอะไร ใจแม่ก็คิด โรงเรียนเค้ามืออาชีพ ควบคุมโรคได้ </p>
<p>วันจันทร์ที่ 23 ก.ค. 2555 คิดสนุกของเราหยุด เด็กๆไปโรงเรียนปกติ วันอังคารที่ 24 ก.ค. 2555 แม่ไม่สบาย เลยโทรไล่แจ้งขอหยุดให้ผู้ปกครองทราบ ผู้ปกครองคนนึงของเราบอกว่าโอเค แต่ ช่วยเช็คเรื่องเด็กเป็นมือเท้าปากที่โรงเรียนให้หน่อยว่าจริงมั้ย ได้ข่าวมาจากผู้ปกครองด้วยกัน เค้าดูกังวลมาก กลัวลูกคนโตจะเอาเชื้อโรคกลับมาติดน้องที่อายุไม่กี่เดือนที่บ้าน และหลานที่อยู่เตรียมอนุบาลก็ยังไม่หายจากไซนัสอักเสบที่พ่วงมากับมือเท้าปากที่ติดจากโรงเรียนเมื่อเดือนก่อน แม่บอกเค้าว่าไม่น่าจะมีนะ ไม่เห็นมีใครพูดถึง ทีแรกแม่คิดว่าผู้ปกครองคิดมากไปเอง แต่แม่ต้องช็อคเมื่อผู้ปกครองอีกคนบอกกลับมาว่า ดีแล้วที่เราหยุด เพราะเด็กจากโรงเรียนเราเป็นมือเท้าปากกันเยอะ นอนแอดมิดอยู่ในสองโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในศรีราชาเยอะมาก เค้ากลัวลูกจะติด ของดพาลูกมาเรียนซักพัก แม่งงว่า นี่มันอะไรกัน จริงเหรอ เราไปรับส่งเด็กๆทุกวัน ไม่รู้เรื่องเลย นี่ครูโกหกเรารึปล่าว หรือว่าเกิดเข้าใจผิด ไหนว่าไม่มี สับสนไปหมด เลยตัดสินใจโทรหาครูคนนึง คาดคั้นว่าเรื่องจริงใช่มั้ย มีเด็กป่วยเป็นมือเท้าปากอีกแล้วใช่มั้ย ทำไมไม่บอกผู้ปกครอง ปิดข่าวทำไม พ่อแม่ที่ลูกเค้าป่วยอยู่แล้วจะทำยังไง ครูบอกเค้าจำเป็น มันเป็นคำสั่งของผู้บริหาร อืมม,,,,,ดีเนอะ เป็นผู้บริหาร เรียกตัวเองว่าครู คิดถึงแต่ชื่อเสียง ลูกใครตายก็ช่าง กูไม่สนสินะ</p>
<p>แม่โทรหาผู้ปกครองที่มาเรียนที่คิดสนุกทุกคนว่า มีเด็กเป็นมือเท้าปากที่โรงเรียนแต่โรงเรียนไม่เห็นแจ้งให้เราระวังลูกเลย เราจะให้ลูกหยุด แต่ใครจะให้ไปก็ได้แล้วแต่ แต่งดรับมาคิดสนุกนะ เพราะ เด็กจากโรงเรียนอื่นเค้ากลัว</p>
<p>ดีที่คิดเหมือนๆกัน หยุดกันเกือบหมด</p>
<p>เช้าวันที่ 25 ก.ค. 2555 แม่รู้สึกโกรธและหมดศรัทธากับผู้บริหารที่เรียกตัวเองว่าครู สำนึกครูที่ดีไปไหนซะหมด</p>
<p>โถงทางเดินไม่เคยตรวจไข้เด็กเหมือนโรงเรียนอนุบาลอื่นๆที่เราเห็นในข่าว ไม่มีแม้แต่พยาบาลประจำโรงเรียน แค่เอาแอลกอฮอล์ล้างมือ กว่าจะได้อ้าปากตรวจ โน้นตอนเข้าเรียน เด็กอยู่รวมกันที่โถงทางเดินด้วยกัน เล่นด้วยกัน กินขนมด้วยกัน โดยดูไม่ออกว่าใครมีเชื้อบ้าง แม่มองรอบด้วยความกังวลใจ ติดกันไปถึงไหนแล้วเนี่ย แม่เห็นครูไม่รู้ร้อนรู้หนาว รู้สึกรังเกียจคนเห็นแก่ตัว แม่ตัดสินใจเดินไปห้องธุรการ " ขอโทษนะคะ แม่อยากขอคุยกับผู้ที่มีสิทธิ์ตัดสินใจปิดห้องเรียนหรือปิดโรงเรียน ในกรณีมือเท้าปากหน่อย คนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจเท่านั้นนะคะ คนที่คุยแล้วตัสินใจไม่ได้ แม่ไม่เสียเวลาคุยด้วยนะ บอกเค้าว่าถ้าไมงั้นก็ไปคุยกันที่สรยุทธ์ทีเดียวเลยละกัน แม่เดินออกมาหาเพื่อนผู้ปกครองที่กังวลใจเรื่องนี้เหมือนกัน และเล่าให้เค้าฟัง จึงได้รู้ว่า มีผู้ปกครองที่ลูกเป็นหลายคน ร้องเรียนไปที่สาธารณสุข แต่ก็ทำอะไรโรงเรียนนี้ไม่ได้ สักพัก เค้าเชิญแม่ไปคุยสายกับอดีตภรรยา คนที่แม่ศรัทธาและยินดีที่จะย้ายลูกมาอยู่โรงเรียนที่อยู่ภายใต้การบริหารของผู้หญิงคุณภาพคนนี้ แต่ตั้งแต่เปิดเทอม เธอคนนี้ กลับออกตัวเสมอว่าไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจอีกแล้ว ต้องรอกรรมการบริหารคนเดียวเท่านั้น อ้าว ใครอ่า ปีก่อนไม่เห็นเคยเอ่ยถึง ไงอ่ะ งง </p>