หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

v.to do กับ v.to be(is am are)

อยากรู้ค่ะว่า v.to do กับ v.to be(is am are) ใช้ต่างกันอย่างไร เมื่อไรใช้ do เมื่อ ไร ใช่ is am are ตั้งเป็นประโยคคำถาม @ พอดีเป็นกระทู้ของแม่น้องอังกฤตค่ะ เปิดเข้าไปแล้วมันไม่มีให้ตอบกลับค่ะและอยากรู้เหมือนกัน จะช่วยดันกระทู้แต่ไม่รู้จะทำยังไงเลยขออนุญาติตั้งเป็นกระทู้เลยน่ะค่ะ

Replies to This Discussion

Permalink Reply by Benjamin's Daddy on February 16, 2010 at 5:33pm

verb to do ใช้กับกริยาแท้
verb to be ใช้กับคุณศัพท์ นาม กรรม

หลักการง่ายๆ คือ ให้ดูว่าคำที่จะใช้เป็น กริยาแท้หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ใช้ verb to do แต่ถ้าไม่ใช่ก็ควรจะเป็น verb to be

จะรู้ได้ไงว่าเป็นกริยาแท้ ให้เปิดดิกดูและถ้ามี ตัว V, VT หรือ VI ด้านข้าง นั่นคือ กริยาแท้

Permalink Reply by Clamp ka on February 16, 2010 at 6:15pm

i am in Brisbane, using hotel's computer. there are no thai front here. in fact, i really like to explain in my language but i can't. so i try to find more information for you.

just wanna add up more details...ka

ขอตอบคำถามเกี่ยวกับการใช้ verb to be นะครับ
verb to be นั้น เราจะเห็นกันบ่อยในประโยคภาษาอังกฤษนะครับ verb to be ก็จะมี is, am, are ซึ่งก็จะใช้กับ ประธานของประโยคที่แตกต่างกัน

คราวนี้ในภาษาอังกฤษนั้นการบ่งบอกถึงการกระทำ(กริยา) ในแต่ละช่วงเวลานั้น เราก็จะใช้ verb ที่รูปแตกต่างกัน ดังนั้น ก็จะเกิดกริยาในรูป ปัจจุบัน และอดีต ขึ้นมา ( V1(ปัจจุบัน) V2 V3)

เรามาดูกันว่า is am are นั้นจะมีรูปอดีตเป็นอย่างไรบ้าง

Verb to be V1 V2 V3
is is was been
am am was been
are are were been

Verb to be โดยความหมายแล้วนั้นจะแปลว่า เป็น อยู่ คือ
หน้าที่ของ Verb to be ที่มีให้เราเห็นในประโยคภาษาอังกฤษบ่อยๆเลยก็คือ

1. เป็นกริยา
เช่น It is a cat
ประธาน+กริยา+กรรม

หรือ It is here
ประธาน+กริยา+คำขยายกริยา(จะเห็นได้ว่าไม่จำเป็นต้องตามด้วยกรรม)

2. เป็นตัวบอกการเวลา อันนี้น้องต้องไปทบทวนความรู้เกี่ยวกับ Tense ต่างๆที่มีในภาษาอังกฤษ
ถ้าเราพูดถึงเหตุการในปัจจุบัน verb to be จะใช้ใน Continuous Tense เช่น

เช่น I am watching TV .
ประธาน+ กริยา+ กรรม

จะเห็นได้ว่ากริยาในประโยคนี้ไม่ใช่ am แต่คือ watch
ซึ่ง am ในประโยคนี้เป็นตัวบ่งบอกว่า ประโยคนี้อยู่ใน Continuous Tense คือ บ่งบอกว่า I ซึ่งเป็นประธาน กำลัง(am) ดูทีวี คือการกระทำกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

3.เราใช้ Verb to be ในประโยค Passive Voice ซึ่งเป็นประโยคที่แสดงถึงการถูกกระทำ
เช่น

This book was written by me.
กรรม + verb + ผู้กระทำ
จะเห็นได้ว่าในประโยคนี้ was คือ Verb to be ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่า ประโยคนี้ หนังสือเป็นสิ่งที่ถูกกระทำ คือ ถูกเขียนขึ้นมา

นี่เป็นหน้าที่หลักๆของ verb to be ในภาษาอังกฤษ

this article refers to : http://www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=1775&sid=3b8c3a03...

Verb to do

Verb to do เป็นกริยาช่วยในประโยคคำถามและปฏิเสธที่มีกริยาแท้อยู่แล้วในประโยค
และประโยคนั้นไม่มี Verb to be (is am are) ในบริบทของประโยคเช่นนี้ do , does จะไม่มีความหมาย เป็นเพียงตัวช่วย เช่น

He does not have any sisters.
We do not buy a big car.

Note : Verb to be ไม่อยู่ เอา Verb to do เข้ามาช่วย

do not ใช้รูปย่อเป็น don't

does not ใช้รูปย่อเป็น doesn't

แยกใช้ไปตามประธานของประโยคดังนี้
1. ประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 (He, She, It ชื่อคนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง) ใช้ Does.

2. ประธานเป็นไม่ใช่เอกพจน์บุรุษที่ 3 (I, You, We, They ชื่อคนหลายคน สัตว์หลายตัว และสิ่งของหลายอย่างที่ถูกกล่าวถึง) ใช้ Do

แยกใช้ตามตารางต่อไปนี้
I
it
You
We
They do it
Dang and Dum
The cats
Three balls

He
She
It
Sam does it.
A dog
A man

การใช้ Verb to do ในประโยคปฏิเสธ
มีหลักการดังนี้

1. Verb to do เป็นเพียงกริยาช่วย ( Helping Verb ) ไม่ใช่กริยาแท้

2. กริยาแท้ของประโยคต้องใช้รูปเดิม ( Base form ) จะไม่มีการเติมหรือเปลี่ยนไปเป็นช่องใดทั้งสิ้น

ประโยคบอกเล่า He likes cartoon.

ประโยคปฏิเสธ He doesn't like cartoon.

ประโยคบอกเล่า They play football.

ประโยคปฏิเสธ They don't play football.

การใช้ Verb to do ในประโยคคำถาม
1. Yes / No Questions ใช้ Verb to do วางหน้าประโยค
ตามด้วยประธานของประโยคและกริยาแท้ของประโยควางเรียงต่อมา
เช่น กริยาแท้ใช้ Base form (รูปเดิมที่ไม่ต้องเติมหรือผัน)

ประโยคบอกเล่า He likes cartoon.

ประโยคคำถาม Does he like cartoon ?

ประโยคบอกเล่า They play football.

ประโยคคำถาม Do they play football. ?

2. Wh. Questions ใช้ Verb to do วางข้างหลัง Wh. และหน้าประธานของประโยค
ตามด้วยกริยาแท้ของประโยควางเรียงต่อมา เช่น

ประโยคคำถาม What does he want ?

ประโยคคำตอบ He wants a pen.

ประโยคคำถาม When do you have lunch ?

ประโยคคำตอบ I have lunch at 12.00.

http://school.obec.go.th/ng/eco/v2do.htm

Permalink Reply by Tao's mamy รักในหลวง on February 16, 2010 at 6:23pm