เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ออกกฎหมายใหม่/in time vs on time /fault vs mistake

1 แม่ฟังวิทยุ แล้วเค้าบอกว่า รัฐบาลกำลังจะออกกฎหมายใหม่บังคับให้เด็กนั่งcar seat และคาดเข็มขัดด้วย ไม่งั้น จะโดนตำรวจจับ เสียค่าปรับ

2 in time กับ on time ใช้ต่างกันยังงัยคะ

3 fault กับ mistake ใช้ต่างกันยังงัยคะ

Views: 1196

Replies to This Discussion

1. แม่ฟังวิทยุ แล้วเค้าบอกว่า รัฐบาลกำลังจะออกกฎหมายใหม่บังคับให้เด็กนั่งcar seat และคาดเข็มขัดด้วย ไม่งั้น จะโดนตำรวจจับ เสียค่าปรับ
-> I heard it on the radio about a new law on child seat.  The government will enact a new law to keep children buckled up in the child seats.   If not, the police can stop you and you have to pay a fine.   (enact = ออก[กฎหมาย]; fine [n.] = ค่าปรับ


2 in time กับ on time ใช้ต่างกันยังงัยคะ

in time  =  ทันเวลา   เช่น  I arrived at the air port in time for the flight.  (ฉันมาถึงสนามบินทันเวลาเครื่องบินพอดี)

on time  =  ตามเวลา   เช่น  The plane arrived on time.  (เครื่องบินบินมาถึงแล้วตามเวลา)


3 fault กับ mistake ใช้ต่างกันยังงัยคะ

ถ้าเรามีนัด10 โมง แล้วเราไปถึงที่นัด 9.50น. เราจะบอกว่า we arrived here in time หรือ on time คะ

คำถามดีครับ   หากนัด 10 โมงแล้วมา 9.50 จะใช้ว่า we arrived here "in time"  คือทันเวลา  เพราะ on time = ตามเวลาคือตรงตามเวลานัด   Oxford English Dictionary ให้ความหมายทั้ง 2 คำตามนี้นะครับ:

 

In time:  not late, punctual.  (ทันเวลา ไม่สายไปเกินกว่าเวลาที่กำหนด)
- I came back in time for Molly's party.  (ฉันกลับมาทันเวลางานเลี้่ยงของ Molly คืออาจจะมาในช่วงเวลาตั้งแต่ 18.45-19.00 หากงานเลี้ยงกำหนดไว้ว่าเริ่ม 19.00) 


On time: Punctually. = ตรงเวลา
- The train was on time.  (รถไฟมาตามเวลา  เช่น กำหนดไว้ 8.00am. และมาถึงสถานี่ 8.00am.)

 

หลาย ๆ ครั้งเวลาพูด จะใช้ "just" กับ "in time"  และ  "right" กับ "on time"  ด้วยเช่น   "I arrived at the airport just in time for the flight."  หรือ   "I came to pick him up right on time at school." 

ขอบคุณ คุณAke ค่ะ เคลียร์แล้วค่ะ

ถ้าคุณ Ake มีเวลารบกวนตอบ fault และ mistake ให้หน่อยนะคะ เพราะเป็นคำที่จะเอาไปใช้จริง จริง. แต่ไม่กล้าพูด เพราะกลัวใช้ผิด แล้วลูกจำผิดน่ะค่ะ
อย่าง enact a new law__ ก่อนที่จะได้คำตอบจากคุณ Ake แม่ใช้ issue a new law พอตอนหลังจะขอแก้เป็นenact ลูกบอกว่า ไม่ใช่ ต้องพูดว่า issue

ขอตอบ enact a new law ก่อนนะครับ  คือ ออกหรือผ่านกฎหมายใหม่จะใช้ "enact"  หรือ "pass"  เช่น  The government will pass/enact a new law on education reform.  (รัฐบาลจะออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับปฏิรูปการศึกษา)  ส่วน  "issue"  จะใช้กับ คำสั่ง, คำประกาศ, คำเตือน, เอกสาร, ใบอนุญาต, ใบประกาศนียบัตร (issue orders, instructions, warnings, documents, permits, certificate) จะไม่ใช้กับการออกกฎหมายครับ

 

ส่วน fault และ mistake ในภาษาไทยจะค่อนข้างคล้ายกันมาก แต่หากดูความหมายภาษาอังกฤษจะต่างกันหลัก ๆตรงที่:

1.  Mistake(countable noun =  จะมีความหมายเป็น รูปธรรม คือพูด, ทำ หรือ เขียน อะไรที่ผิดพลาดไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

2.  Fault(uncountable noun) = จะมีความหมายเป็น นามธรรม คือความรับผิดชอบที่ต้องมีต่อที่ตัวเอง พูด, ทำ หรือเขียนอะไรที่ผิดพลาดไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

     ส่วนใหญ่จะใช้ในวลี  "be somebody's fault" (= มันเป็นความผิดของ...)    เช่น:

 -  You made many mistakes in the report.  The teacher gave us very low score.  It is your fault! (= มันเป็นความรับผิดชอบของคุณที่คุณเขียนผิด [= มันเป็นความผิดของคุณ])

         (จะไม่ใช้  You made many faults in the report..X ) 

-  I told my friends not to worry too much because it's not their fault. (= ไม่ต้องกังวลเพราะไม่ใช่ความผิดที่ต้องรับผิดชอบของพวกเขา)  

 

     หรือใช้ในวลี "at fault"  = ใครผิด ใช้กับคน,กลุ่มคน หรือ องค์กร หลังทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง  หรือ ไม่ระวังพอ  อันนี้ใช้ค่อนข้างเป็นทางการในภาษาพูดหรือ เขียน:

-  The driver of the bus is at fault for the accident. (= คนขับรถเมล์เป็นคนผิดทำให้เกิดอุบัติเหตุ [เพราะขับรถไม่ดี]) 

-  Many Thai people thought the government was at fault for being too slow in handling the flood last year.  (= รัฐบาลผิดต้องรับผิดชอบเพราะรับมือน้ำท่วมช้า)

 

นอกจาก fault ในที่อธิบายมา  fault ยังมีความหมายอื่น ๆ อีก 2 ความหมายที่ไม่เกี่ยวกับ "ความรับผิดชอบต่อความผิด"  คือ:

1.  Fault (นามนับได้) = ความผิดปกติ ข้อบกพร่อง ของอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์, เครื่องจักรกลต่าง ๆ, แบบ, แผนการ, ฯลฯ เช่น:

   -  He works in QC department.  His duty is to check the faults in the TV. (เช็คดูว่า TV มีข้อผิดพลาด หรือ ข้อผิดพลาดของการทำงาน)

   -  There must be a fault in my iPAD.  The battery lasts only 1 hour.  (ต้องมีอะไรบกพร่องใน iPAD)

   -  The engineer found faults in the design of the building. (วิศวกรพบข้อผิดพลาดในแบบของอาคาร)

 

2.  Faults (นามนับได้) = ข้อบกพร่องหรือข้อไม่ดีทั่ว ๆ ไปของคน (ส่วนใหญ่ใช้ fault เติม s เพราะข้อไม่ดีทั่วๆ ไปมีหลายอย่าง)  

   -  Though he has many faults, he is my father. (ถึงแม้พ่อมีข้อไม่ดีหลายอย่าง)

   -  You can maintain a good relationship with your roommate if you can accept his faults.  (หากสามารถยอมรับข้อที่ไม่ดี หรือข้อบกพร่องของเพื่อร่วมหอได้) 

   

คิดว่าน่าจะละเอียดพอนะครับ  :)

 

ละเอียดดีค่ะ ชอบ

ขอบคุณ คุณAke ที่สละเวลามาตอบให้ค่ะ ขอบคุณจริงจริงคะ่

อยากรู้เรื่อง fault กับ mistake ด้วยค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service