เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

คิดเห็นอย่างไรบ้างกับกระทู้นี้ ช่วยอ่านหน่อยค่ะ

ไปอ่านเจอ เรื่อง แวะมาตั้งกระทู้ ประเด็นเรื่อง เด็ก 2 ภาษาค่ะ http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N8322651/N8322651.html
แค่สับสนว่าสำหรับพ่อแม่ ไทยแท้ ควรพูดภาษาอังกฤษที่บ้านกับลูกดีอะเปล่า แบบ OPOL
อ่านแล้วชักเมา 555 แต่ตอนนี้ก็ยังพูดภาษาอังกฤษกับลูกอยู่นะคะ

Views: 1397

Replies to This Discussion

เห็นด้วยอย่างยิ่งคะ
ความคิดต่าง แต่ต้องระวังอย่าหลงประเด็นค่ะ

เบื่อจริงๆ คนที่มองว่าการที่เราพยายามใช้ภาษาอังกฤษกับลูกเป็นการลดความสำคัญของภาษาไทย/ความเป็นไทย อยากตะโกนดังๆ ว่ามันคนละเรื่องกันเลย!!! เราเพียงแค่เพิ่มเติมสิ่งที่จำเป็นในอนาคตของชีวิตของเด็กๆ เข้ามา ทุกอย่างที่เราเป็นอยู่ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ถ้าอยากก้าวหน้าทั้งทางด้านการศึกษา การงาน เราคงปฏิเสธภาษาอังกฤษไม่ได้แน่ๆ หนังสือความรู้ดีๆ ความรู้ในอินเตอร์เน็ตก็เป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น

อยากก้าวหน้าในการงาน พูดภาษาอังกฤษ งูๆ ปลาๆ ก็ลำบาก

ส่วนใหญ่คนที่ว่ากระแดะ เล็กคิดว่าอารมณ์องุ่นเปรี้ยวนะคะ (ถ้าชั้นกินไม่ได้ มันก็ไม่อร่อยหรอก)

สิ่งที่เราครอบครัว 2 ภาษาต้องระวังให้มากคือ
- ไม่ควรพูดภาษาไทยปนอังกฤษ (ในประโยคเดียวกัน) ไม่งั้นเจ๊งแน่ ภาษาไทย
- ไม่ควรฝืนใช้ระบบที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความจำกัดของครอบครัว
- ไม่ควรหลงประเด็น มีเหตุผล ไม่ตามกระแสแต่ไตร่ตรองให้รอบคอบกับสิ่งที่เราทำให้ลูก (เพราะนั่นมันลูกเราเลยนะคะ)
- ไม่ควรเทคาดหวังไปที่ลูก แต่ถ้าคุณคาดหวัง(ว่าลูกจะได้มาก) คุณต้องถามตัวเองว่าพร้อมที่จะเหนื่อยทำการบ้านมากแค่ไหน เห็นด้วยว่าถ้าเด็กพูดได้แต่พูดผิดๆ ก็ไม่น่าจะเรียกว่าใช้ได้นะคะ
- ที่สำคัญที่สุด คือทำแล้วต้องรู้สึกมีความสุขดี ไม่อึดอัด
- ทำไม่ได้ไม่ต้องรู้สึกว่าเป็นพ่อแม่ที่ใช้ไม่ได้ คุณสามารถให้อย่างอื่นอีกมากมายกับลูกได้

//เล็ก-แม่น้องภูมิ
เห็นด้วยกับคุณเล็กที่สุดเลยคะ
โดยส่วนตัวเคยโดนคนอื่นมองเกือบตลอดเวลาที่พูดภาษาอังกฤษกับน้าสาวตลอดเวลาที่ไปไหนด้วยกันในกรุงเทพ(เคยโดนมองแล้วนินทาเราเป็นภาษาไทยในระยะเผาขนด้วยซ้ำ) เำพราะน้าอยากให้เราพูดภาษาอังกฤษได้ดี และเราก็ไม่ค่อยสนใจคนอื่นเท่าไร จะมองก็มองไป เพราะเราเองที่อยากจะพูดภาษาอังกฤษให้ได้ดี เกือบ 20ปีที่เรียนภาษาอังกฤษมาตลอดชีวิตในรั้ว รร. ยังพูดสู้แม่ค้าที่พัทยาไม่ได้ แม้กำลังจะจบปริญญาตรี เป็นจุดที่เรากลับหันมามองดูตัวเองอย่างจริงจัง

ปัจจุบันอาชีพไหนบ้างที่ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเลย รุ่นแจงภาษาอังกฤษทำให้เรามีโอกาสที่ดีมากมาย แต่ก็ยังรู้สึกว่าปัจจุบันถ้าได้ภาษาที่ 3 ก็จะมีลู่ทางทำมาหากินได้มากขึ้นอีก
แล้วรุ่นลูกเราละคะ แค่ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ จะพอรึเปล่า ถ้าตอนนี้เราไม่ช่วยลูกเราเอง ต้องรอให้โตแล้วใครจะช่วยลูกเราละคะ

เคยโดนว่า ว่าทำตัวฝรั่ง อังกฤษจ๋าพูดภาษาอังกฤษกะลูก แต่เห็นเวลามีปัญหากับฝรั่ง ก็ให้เราไปใช้ไอ้อังกฤษจ๋านี่แหละ ไปแก้ให้ทุกที

เอาองุ่นหวานๆมาเสิร์ฟจ้า (ตามมาป่วน 555+)
หวานเจี๊ยบเลย 555+
เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณแพทนะคะ บีมองว่าการที่เราได้พูดภาษาอังกฤษกับลูก น่าจะช่วยปูพื้นฐานการเรียนรู้ให้เค้าอย่างกว้างขวางขึ้น เพราะเราคงต้องยอมรับว่า ความรู้ในปัจจุบันไม่ได้ตีพิมพ์ออกมาให้อ่านและเรียนรู้แต่ภาษาไทยเท่านั้น ซึ่งคงไม่เพียงพอ การที่เราเข้าใจภาษาอื่นได้ด้วย จะทำให้เรียนรู้ได้เร็วและเข้าใจลึกซึ้งขึ้น
ปัจจุบันโลกก็แคบลงทุกวัน การติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในหลายๆ ครั้ง สมัยพวกเรายังขนาดนี้ แล้วถ้าในอนาคต สมัยลูกๆ เราโตขึ้น คงเป็นสิ่งที่ธรรมดาทีเดียว
พอดีได้มีโอกาสมาอยู่ต่างประเทศ เป็นประเทศที่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ แต่สังเกตได้ว่า เด็กที่นี่พูดภาษาอังกฤษกันได้ดีและไม่เคอะเขินเลยค่ะ แม้บางทีเราจะรู้ว่าเค้าใช้ไม่ได้ถูกต้อง แต่ก็เข้าใจกัน และทุกคนก็จะมั่นใจว่าพูดภาษาอังกฤษได้ สำหรับเวลามาฟังเด็กๆ ต่างชาตินำเสนองาน เราก็รู้ว่าเค้าก็ต้องเตรียม skript ภาษาอังกฤษมาเหมือนกันนะคะ สำหรับจุดนี้เลยอยากจะบอกว่า เราไม่ต้องกังวลค่ะ ไม่ต้องกลัวฝรั่ง เพราะฝรั่งที่ไม่ใช่ native speaker เค้าก็ยังมีปัญหาเหมือนเรานะคะ เพียงแต่ความมั่นใจเค้าจะดูมีมากกว่าคนไทยที่ขี้อาย เพราะฉะนั้น ถ้าเรามองว่า สิ่งที่เราสอนและพยายามทำเพื่อลูกเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกแล้ว ไม่ต้องสนใจใครหรอกค่ะ ว่าคนจะมองว่าทำเป็นพูดภาษาอังกฤษหรือว่าตามกระแส เราทำเพื่อลูก ลูกได้ความรู้ความมั่นใจ ไม่เกี่ยวกับใครสักหน่อย พวกเราก็มีสังคมหมู่บ้านสองภาษา ช่วยกันเรียน ช่วยกันหาความรู้ ช่วยกันเช็ค และก็เห็นผลลัพธ์ที่น่ายินดีเกิดขึ้นกับหลายๆ ครอบครัวแล้ว คงจะเป็นการการันตีแนวทางนี้ได้ดีทีเดียว ขอเพียงแต่ให้เรียนรู้และทำกันสม่ำเสมอด้วยความตั้งใจ ไม่ได้ตามกระแสค่ะ
ดังนั้น บีว่าการสร้างความมั่นใจและเชื่อมั่นให้กับลูก จะช่วยให้เค้าต่อยอดในอนาคตได้ เรากับลูกเรียนไปพร้อมกันในตอนต้น แต่ไม่นานลูกคงแซงพวกเราไปแน่นอนค่ะ และการได้ใช้ภาษาบ่อยๆ จะทำให้พูดได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจ ส่วนความถูกต้องและใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาคงตามมาทีหลังได้ค่ะ (ตามเที่ยวบินที่ได้ฝึกฝนบ่อยขึ้น)

อย่างไรก็ตาม ก็เหมือนที่คุณแม่น้องภูมิว่า ทุกอย่างเราก็ต้องไตร่ตรองให้ดี อย่าหลงประเด็นค่ะ เพราะที่ในเว็บเค้ากังวลเรื่องโรงเรียนสองภาษาที่เปิดกันให้เกลื่อนนั้น ก็น่าคิดนะคะ เพราะเราก็ยอมรับว่าบ้านเราชอบทำตามกระแสและการตลาด คุณพ่อคุณแม่ที่อยากส่งลูกเรียนโรงเรียนสองภาษา ก็คงต้องพิจารณาดีๆ หรือว่าส่งเรียนโรงเรียนไทยเราเนี่ยแหละ แล้วสอนลูกเพิ่มเติมที่บ้าน แบบที่คุณอ๊อบทำ บีว่าก็เป็นแนวทางที่น่าสนใจทีเดียวเลยค่ะ (ชอบอ่ะคุณอ๊อบ เดี๋ยวขอคำแนะนำบ้างนะคะ)
^^
หลายคนคงรู้จักเจ้าของกระทู้นะคะ เธอแต่งหนังสือเล่มหนึ่งด้วย
ใน คห 37 เธอกล่าวว่า

ในกรณีนี้เราพูดถึง เป็นกรณีของเด็ก bilingual ค่ะ
คือ เด็กที่พูด 2 ภาษา และมีสิ่งแวดล้อมเป็นภาษาอังกฤษอยู่ด้วย ประสิทธิภาพในการเรียนรู้จะดี
ถ้าพูดภาษาหลักให้ดีค่ะ
อย่างพวกเรา หรือแม้กระทั่งคุณเอง คงไม่ใช่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องย้ายถิ่นไปอยู่ในประเทศที่ต้องเปลี่ยนแปลงในเรื่องภาษา
ทำให้การเรียนรู้ไม่มีอุปสรรคในกระบวนการคิดมากมายนัก


สรุปว่าคนละเรื่องกันที่เราทำเนอะ
ว่าแต่บ้านอ๋อต้องกวดภาษาไทยกันซะหน่อยแล้ว พ่อเค้าชอบแจมพูดอังกฤษด้วยค่ะ เดี๋ยวภาษาไทยลูกจะแย่
อีกอย่างนะคะ อยากให้ห้อง english club เข้มแข็ง เป็นกำลังใจให้กัน และช่วยกันถามช่วยกันตอบอย่างนี้ตลอดไป ขอเพิ่มอีกนิดว่าถ้ามีใครแต่งประโยคผิด ขอให้ช่วยกันแก้ด้วยความหวังดี อย่าเกรงใจจนปล่อยให้มีคนจำแบบผิดไปสอนลูก แม้ผิดเล็กผิดน้อยก็ต้องช่วยกัน เช่น a an the คนที่ถูกแก้ก็ต้องยอมรับนะคะ เพื่อพัฒนาตนเอง อีกหน่อยก็เก่งแบบหลายๆ ท่านตอนนี้ล่ะค่ะ
ถ้าอ๋อเขียนผิดก็ช่วยกระหน่ำแก้กันมาเลยนะคะ จะพยายามลด ego ตัวเองค่ะ

แม้บางท่านจะเห็นว่าแกรมม่าไม่สำคัญ แต่อ๋ออยากให้เราพยายามก่อน ที่ native speaker เขาพูดได้ถูกต้องเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ก็เพราะว่าตอนเด็กๆ พ่อแม่เขาคอยแก้ให้ตลอด
แต่ถ้าเราพยายามแล้วยังไม่ได้ก็อีกเรื่อง สุดท้ายสื่อสารกันได้ก็โอเค (สื่อสารกับโลกได้นะคะ ไม่ใช่แค่กับแม่) ขอเพียงให้เราพยายามปรับปรุงตัวก็แล้วกันค่ะ

ในโลกอนาคต คนพูดได้สองสามภาษาคงเดินชนกันเต็มไปหมด อย่าลืมปลูกผังคุณธรรมให้ลูกๆ ด้วยนะคะ (ขอพิมพ์ผิดเพราะคีย์บอร์ดเสียค่ะ)
อ่านมายาวเลย เห็นด้วยกับหลายๆความเห็นเลยค่ะ
และก็เห็นด้วยกับความเห็นคุณอ๋อ ด้วยค่ะ เรื่อง อย่าลืมเรื่องปลูกฝังคุณธรรม และ ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
ชอบค่ะ ชอบประเด็นนี้ บางที่เราไม่ได้หลงประเด็นหรอกค่ะ แต่เหมือน เมื่อมี คอมเม้นท์มาในสิ่งที่เรากำลังทำ ก็ทำให้เราได้หยุดคิดทบทวน นิดนึง ถ้าไตร่ตรองแล้วเห็นว่าที่ทำมันถูกแล้วก็ลุยต่อเลยค่ะ
อันนี้ยาวเดี๋ยวมาคืนนี้ แปะโป้งไว้ก่อนน้า
ครเรามีสิทธิ์ที่จะคิดเห็นรแตกต่างกันได้คะ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันก็เป็นสิ่งที่ดีอย่างหนึ่งที่เป็นสิ่งคอยท้วงติงเราให้เราฉุกคิดว่า สิ่งที่เราทำอยู่นั้นมันถูกต้องแล้วหรือยัง แล้วถ้าเราคิดแล้วคิดอีกและเห็นว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกต้องแล้วก็เดินหน้าต่อไป สำหรับตัวเองแล้วหลังจากอ่านข้อความนี้จบก็ ฉุกคิดนิดหนึ่งแต่ก็มั่นใจว่าสิ่งทำเราทำอยู่มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูก ดังนั้นเราก็จะทำต่อไป สาเหตุทีเราสอนภาษาที่สองที่สามให้กับลูกเพราะเรารู้ว่าการเรียนภาษาจริงจริงแล้วไม่ใช่เรื่องยากหากเราได้คุนเคยกับมัน และวัยในการเรียนรู้ก็เป็นสิ่งจำเป็น จริงอยู่พอโตมาก็สามารถเรียนรู้ได้แต่จะดีเท่าเรียนรู้ได้ตั้งแต่เด็กหรือไม่ ลองนึกถึงคนหูหนวกสิคะ สาเหตุที่เขาพูดไม่ได้เพราะเขาไม่เคยได้ยินเสียงใดใดเลย เขาจึงพูดไม่ได้ และสาเหตุที่เราพูดุภาษาอังกฤษไม่ได้ นั่นก็เป็นเพราะ เราหูหนวกทางภาษาอังกฤษนั่นเอง หมายถึงว่าตั้งแต่เด็กเราไม่เคยได้ยินเสียงภาษาอังกฤษและถึงแม้จะได้ยินก็ไม่คุ้นเคยเพราะไม่ได้ใช้มันในชีวิตประจำวัน พอโตมาแล้วมาเรียนจึงทำให้มีอุปสรรคมากนี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวคะ
สำหรับคำพูดที่ว่ากระแดะเนี่ย รับไม่ได้จริงจริง สำหรับตัวเองแล้วไม่สนใจคะ ด้านได้อายอด ถึงแม้ภาษาตัวเองจะไม่ดีพูดผิดพูดถูกก็ไม่สนคะ ถ้าเราไม่พูดออกมาจะรู้ได้อย่างว่าผิดหรือถูก สิ่งไหนที่คิดว่าดิก็จะทำต่อไปคะ ไม่สนใจคำพูดของคนอื่น เพราะคำพูดนั้นไม่ได้ช่วยให้เราดีขึ้น
ส่วนเรื่องการสอนภาษาอังกฤษให้ลูกทั้งที่ตัวเองภาษาไม่ดีเนี่ย เราก็มิได้สอนแบบสุ่มสี่สุ่มห้าซักหน่อย เราก็เรียนรู้แล้วถึงสอน อยากจะขอยกตัวอย่างนะคะ ดิฉันอยู่ที่ญี่ปุ่น เห้ฯมีพ่อแม่หลายคนที่พูดญี่ปุ่นแบบผิดผิดถูกถูก อันนี้หมายถึงพ่อเป็นไทยแม่เป็นลาวคะ ที่บ้านเขาใช้ภาษาลาว ลางครั้งก็พูดภาษาญี่ปุ่นผิดผิดถูกถูก แต่แน่นอนเด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นญี่ปุ่นเขาก็ได้เองโดยปริยาย
ส่วนภาษาอังกฤษถึงแม้ว่าเราอาจจะสอนได้ไม่ดีเหมือนเจ้าของภาษา แต่เราก็มิได้ให้เขาได้ยินจากเราผ่ายเดียว เราก็ให้เขาศึกษาจากสื่ออื่นอืนด้วย เพราะฉะนั้นถึงแม้เราจะพูดผิด แต่ลูกก็ได้ยินสิ่งที่ถูกต้องจากสื่อด้วยเขาก็รู้เองว่าเขาควรจะพูดอย่างไร แต่ถ้าเราไม่พูดกับเขาเลย เขาอาจจะฟังรู้เรื่องแต่ไม่อาจจะพูดออกมาได้ก็เป็นได้ เหมือนตัวดิฉันเอง อยู่โคราช แม่พูดภาษาอีสาน แต่ตัวเองและพี่น้องฟัวออกคะ เพราะได้ยินบ่อยแต่พูดไม่ได้ เพราะไม่เคยพูด คิดว่าภาษาอังกฤษก้คงเหมือนกัน เพราะการดูหรือฟังอย่างเดียวเกป็นการสื่อสารทางเดียว การที่เราพูดกัยเขาเป็นการกระตุ้นให้เขาได้ใช้มัน
และการที่เราสอนภาษาอังกฤษให้ลูกก็มิได้หมายความว่าเราจะทิ้งภาษาไทยนะคะ แต่เรารู้ว่าภาษาไทยเนี่ยเราสอนได้เราจึงไม่ค่อยพูดถึงในที่นี้ สำหรับตัวเองเนี่ยภาษาไทยไม่เพียงแค่คิดจะให้ลูกพูดได้คิดถึงขุ้นจะสอนให้เขาอ่านออกเขียนได้ด้วย ไม่ทิ้งแน่นอน
แล้วที่ทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้ตามกระแสคะ คิดมานานแบ้วว่าจะทำอย่างไร พอมีแนวทางดีดีแบบนี้ก็เลยเอามาปรับใช้กับตัวเองคะ ขอบอกมีจุดยืนที่แน่นอนคะ
กระจ่างเลยค่ะ สู้ๆ สู้ต่อไปเพื่อลูกเรา

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service