มุมมองที่แตกต่าง - หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้
2024-03-29T05:04:26Z
https://go2pasa.ning.com/forum/topics/2456660:Topic:81676?commentId=2456660%3AComment%3A81924&feed=yes&xn_auth=no
เราก็ลังเลในประเด็นเหล่านี้เห…
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-19:2456660:Comment:240250
2010-04-19T04:56:02.491Z
Paveekorn
https://go2pasa.ning.com/profile/Paveekorn
เราก็ลังเลในประเด็นเหล่านี้เหมือนกันค่ะ เพราะมั่นใจว่าภาษาอังกฤษของตัวเองไม่ดีพอ โดยเฉพาะสำเนียง การออกเสียง สูงๆ ต่ำๆ อะไรพวกนี้ยิ่งแล้วใหญ่เลย เพราะเราเป็นพวกพูดจาโมโนโทน ฮ่าๆๆๆ<br />
<br />
ตอนนี้ก็กำลังอ่านหนังสือเจ้าของคำพูดข้างบนอยู่ค่ะ ยังอ่านไม่จบ แต่ก็ได้แง่คิดอีกมุมนึง ซึ่งเราคิดว่าสิ่งแวดล้อมที่จะเอื้อให้ลูกเราได้เจอภาษาอังกฤษมันน้อยเหลือเกิน (นอกจากซีดี ดีวีดี เพลง ซึ่งเราก็ไม่อยากให้ลูกอยู่หน้าจอทั้งวัน) ก็เลยยังคิดไม่ตกว่า…
เราก็ลังเลในประเด็นเหล่านี้เหมือนกันค่ะ เพราะมั่นใจว่าภาษาอังกฤษของตัวเองไม่ดีพอ โดยเฉพาะสำเนียง การออกเสียง สูงๆ ต่ำๆ อะไรพวกนี้ยิ่งแล้วใหญ่เลย เพราะเราเป็นพวกพูดจาโมโนโทน ฮ่าๆๆๆ<br />
<br />
ตอนนี้ก็กำลังอ่านหนังสือเจ้าของคำพูดข้างบนอยู่ค่ะ ยังอ่านไม่จบ แต่ก็ได้แง่คิดอีกมุมนึง ซึ่งเราคิดว่าสิ่งแวดล้อมที่จะเอื้อให้ลูกเราได้เจอภาษาอังกฤษมันน้อยเหลือเกิน (นอกจากซีดี ดีวีดี เพลง ซึ่งเราก็ไม่อยากให้ลูกอยู่หน้าจอทั้งวัน) ก็เลยยังคิดไม่ตกว่า แล้วเราจะพูดภาษาอังกฤษกับลูกดีไหมหนอ<br />
<br />
เกรงว่าลูกจะพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนแม่ 555555<br />
<br />
ตามมาอ่านเก็บข้อมูลจากท่านอื่นๆ ด้วยคนค่ะ
ขอบคุณ phanprapa rojanavanote…
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-18:2456660:Comment:239934
2010-04-18T18:34:20.078Z
Benjamin's Daddy
https://go2pasa.ning.com/profile/BenjaminsDaddy
ขอบคุณ phanprapa rojanavanote ที่นำข้อความนี้ของผู้เขียนมาให้เราอ่านกัน ผมว่าคุณ phanprapa rojanavanote ไม่น่าจะตกใจอะไรนะครับกับการสอนลูก ในความคิดส่วนตัวหลังจากการอ่านข้อความนี้ ผมคิดว่าผู้เขียนก็ดำเนินการสอนลูกของเค้าแบบ OPOL เหมือนกัน แต่อยากแสดงมุมมองที่แตกต่าง แต่ไม่สามารถชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนอย่างที่เค้าตั้งใจได้ (เพราะตัวเค้าเองก้ใช้อยู่) ถ้าคุณอ่านแล้ววิเคราะห์ดีๆ จะเห็นได้ว่า เค้าใช้ OPOL อยู่ พ่อพูดภาษาหนึ่ง แม่พูดอีกภาษาหนึ่ง ส่วนภาษาอังกฤษหรือภาษาที่ 3 ของเค้าได้จากสิ่งแวดล้อม…
ขอบคุณ phanprapa rojanavanote ที่นำข้อความนี้ของผู้เขียนมาให้เราอ่านกัน ผมว่าคุณ phanprapa rojanavanote ไม่น่าจะตกใจอะไรนะครับกับการสอนลูก ในความคิดส่วนตัวหลังจากการอ่านข้อความนี้ ผมคิดว่าผู้เขียนก็ดำเนินการสอนลูกของเค้าแบบ OPOL เหมือนกัน แต่อยากแสดงมุมมองที่แตกต่าง แต่ไม่สามารถชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนอย่างที่เค้าตั้งใจได้ (เพราะตัวเค้าเองก้ใช้อยู่) ถ้าคุณอ่านแล้ววิเคราะห์ดีๆ จะเห็นได้ว่า เค้าใช้ OPOL อยู่ พ่อพูดภาษาหนึ่ง แม่พูดอีกภาษาหนึ่ง ส่วนภาษาอังกฤษหรือภาษาที่ 3 ของเค้าได้จากสิ่งแวดล้อม ส่วนที่เค้าจะเหนือกว่าเราๆก็คือ ความเป็น native ของพ่อ แม่ และ สิ่งแวดล้อม ซึ่งจริงๆแล้ว พ่อแม่ที่อยู่ในเมืองไทย สามารถเพิ่มความเป็น native ได้โดย<br />
<br />
1. ตามที่คุณบิ๊กบอก สร้างสิ่งแวดล้อม โดยใช้สื่อ และ เทคโนโลยี่ต่างๆ<br />
2. คุณพ่อแม่ พยายามพัฒนาตัวเอง เรื่องการออกเสียงชัดเจน (ตรงนี้ผมถือว่าเป็นจุดสำคัญเลยทีเดียว)<br />
3. คุณพ่อแม่ พยายามเรียนวัฒนธรรมของภาษาอังกฤษ (ส่วนนี้ก็สำคัญ เพราะว่า สิ่งนี้จะเพิ่มความลึกซึ้งของการใช้ภาษาอังกฤษ)<br />
4. กล้าเข้าหา native speakers ที่มีอยู่ในประเทศไทย (ตอนนี้ผมมีเพื่อน อเมริกัน ที่นครสวรรค์ ไว้พูดคุยด้วย ซึ่งเกิดจากความกล้าอันนี้) ผมแนะนำว่าอย่ากลัว ฝรั่งเค้าน่าจะดีใจมากที่เราพูดกับเค้า<br />
5. ต้องทำ ข้อ 1-4 ได้อย่างมีความสุข หรือว่าถ้ามันยากมากเมื่อลงมือทำแล้ว ถามตัวเองต่อว่ายังมีความสุขอยู่ไหม ถ้ามีก็ทำต่อ แต่ถ้าไม่.....ก็แล้วแต่เห็นสมควร<br />
<br />
โชคดีครับ พ่อแม่ทุกคน
ขอโทษค่ะพิมชื่อผิดตอนสุดท้ายไ…
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-18:2456660:Comment:239918
2010-04-18T18:04:49.350Z
namo mom
https://go2pasa.ning.com/profile/1v7pgup7gfszv
ขอโทษค่ะพิมชื่อผิดตอนสุดท้ายไม่โกรธนะคะ
ขอโทษค่ะพิมชื่อผิดตอนสุดท้ายไม่โกรธนะคะ
อ่านกระทู้ของคุณphanprapa แล้…
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-18:2456660:Comment:239914
2010-04-18T18:01:22.435Z
namo mom
https://go2pasa.ning.com/profile/1v7pgup7gfszv
อ่านกระทู้ของคุณphanprapa แล้วก็อยากแสดงความคิดเห็นบ้างค่่ะ โดยส่วนตัวเห็นว่า แต่ละคนก็มีมุมมองในมุมของตัวเอง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างทั้งสภาพแวดล้อมสถานะทางการเงิน สถานะทางสังคม ความคิดและอีกหลายๆอย่างที่ทำให้แต่ละคนมีความคิดมุมมองไม่เหมือนกันอย่างเช่นคนที่เขียนกระทู้นี้เค้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อในการไช้ภาษาอังกฤษของลูกอยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยแค่พาลูกออกมานอกบ้านแค่นั้นเอง ทำ่ให้เค้าอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ก็ได้…
อ่านกระทู้ของคุณphanprapa แล้วก็อยากแสดงความคิดเห็นบ้างค่่ะ โดยส่วนตัวเห็นว่า แต่ละคนก็มีมุมมองในมุมของตัวเอง ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างทั้งสภาพแวดล้อมสถานะทางการเงิน สถานะทางสังคม ความคิดและอีกหลายๆอย่างที่ทำให้แต่ละคนมีความคิดมุมมองไม่เหมือนกันอย่างเช่นคนที่เขียนกระทู้นี้เค้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้อในการไช้ภาษาอังกฤษของลูกอยู่แล้ว โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลยแค่พาลูกออกมานอกบ้านแค่นั้นเอง ทำ่ให้เค้าอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ก็ได้ ในทางกลับกันถ่้าเราไปอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างนั้นเราก็คงไม่ต้องมานั่งสอนมานั่งพูดกับลูกเป็นeng อย่างนี้ เราก็คงเอาเวลาไปทำอย่างอื่นเหมือนกัน. แพทคิดว่าแม่ทุกคนต่างก็รักลูกด้วยกันทั้งนั้นอยากจะมอบแต่สิ่งดีๆให้กับเค้า เพราะฉนั้นการที่เราจะทำ่อะไรสักอย่างเพื่อเค้าเราคงต้องใช้วิจารณญาณและสติไตร่ตรองดีแล้วว่าสิ่งนั้นต้องดีและเป็นประโ่ยชน์กับเค้าอย่างแน่นอน เพราะแพทเองก่อนจะเข้ามาเป๊นสมาชิกบ้านสองภาษาก็อ่านหนังสือเข้าเน็ต ถามคุณหมอ หาข้อมูลจนแน่ใจว่าไม่มีผลเสียอย่างแน่นอน โดยเฉพาะมีตัวอย่างที่เราได้เห็น จากคลิปวีดีโอของน้องเพ่ยเพ่ยและอีกหลายๆครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ เป็นเครื่องยืนยันว่าการที่เราจะสอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษานั้นไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ทำให้ไม่ลังเลใจเลยที่จะเริ่ม อยากให้คุณ pornprapa ลองไตร่ตรองดูให้ดีค่ะว่าอยากให้ลูกเป็นยังงัย คงไม่มีใครรักและหวังดีกับเค้าเท่าคนเป็นพ่อแม่หรอกค่ะ
ชีวิตของลูก ของเรา ของครอบครั…
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-18:2456660:Comment:239306
2010-04-18T00:03:58.287Z
Pat
https://go2pasa.ning.com/profile/PatinyaKunkulvoranunn
<i>ชีวิตของลูก ของเรา ของครอบครัว ยังมีอีกหลายๆ มุม<br />
ไม่ใช่เรื่องภาษาอังกฤษแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น<br />
<br />
ขออภัยนะคะ ที่เขียนยาวและคิดต่างจากพ่อแม่บางท่าน คือ อยากจะบอกว่า<br />
ไม่ต้องเร่ง รีบ มากค่ะ อยากให้ enjoy กับการเลี้ยงลูก และมีความสุขกับการเป็นพ่อแม่ค่ะ<br />
เพราะเวลาเหล่านี้ ถ้ามันผ่านไป มันเรียกกลับมาไม่ได้อีก น่าเสียดาย. . .</i><br />
<br />
เคยคิดเสมอว่า เราน่าจะทำอะไรให้กับลูกได้มากกว่านี้<br />
เวลาไม่รอใคร ความสุขที่ให้กับลูก พร้อมกับโอกาสดีๆที่สามารถหยิบยื่นให้กับเค้าได้ มันก็ผ่านไปไวเช่นกันค่ะ<br />
พอลูกโตแล้ว…
<i>ชีวิตของลูก ของเรา ของครอบครัว ยังมีอีกหลายๆ มุม<br />
ไม่ใช่เรื่องภาษาอังกฤษแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น<br />
<br />
ขออภัยนะคะ ที่เขียนยาวและคิดต่างจากพ่อแม่บางท่าน คือ อยากจะบอกว่า<br />
ไม่ต้องเร่ง รีบ มากค่ะ อยากให้ enjoy กับการเลี้ยงลูก และมีความสุขกับการเป็นพ่อแม่ค่ะ<br />
เพราะเวลาเหล่านี้ ถ้ามันผ่านไป มันเรียกกลับมาไม่ได้อีก น่าเสียดาย. . .</i><br />
<br />
เคยคิดเสมอว่า เราน่าจะทำอะไรให้กับลูกได้มากกว่านี้<br />
เวลาไม่รอใคร ความสุขที่ให้กับลูก พร้อมกับโอกาสดีๆที่สามารถหยิบยื่นให้กับเค้าได้ มันก็ผ่านไปไวเช่นกันค่ะ<br />
พอลูกโตแล้ว วันนึงอาจจะย้อนกลับมาคิดว่า ทำไมเราไม่มอบโอกาส ไม่มอบความรู้ดีๆให้กับเค้าตั่งแต่เล็ก<br />
เราไม่ได้พยายามยัดเยียด แต่สิ่งที่ให้ได้ สิ่งที่ลูกรับได้ ทำไมถึงปิดโอกาสนั้นเสีย
"แล้วรวบรวมกันให้ได้สัก ๓- ๔…
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-17:2456660:Comment:239304
2010-04-17T23:58:29.847Z
Pat
https://go2pasa.ning.com/profile/PatinyaKunkulvoranunn
<i>"แล้วรวบรวมกันให้ได้สัก ๓- ๔ คน ให้มีโอกาสได้เล่นกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน พี่ๆ หรือหาครู"ฝรั่ง" ที่ใจดี น่ารัก มาเล่นยิม เล่นดนตรี อ่านหนังสือ ทำกิจกรรม (ปั้น เล่น ฯลฯ) กับเด็กๆ กลุ่มนี้สักอาทิตย์ละ ๒ ครั้ง น่าจะเป็นธรรมชาติ และสัมฤทธิผลกว่าค่ะ"<br />
</i><br />
จัดกลุ่มพ่อแม่และเด็ก 2 ภาษาในหมู่บ้านนี้มาเจอกันบ้าง น่าจะสนุกกว่า แถมเด็กๆพอเล่นด้วยกัน ความสนุก ความเพลิดเพลิน ก็ใช้ภาษากันมันส์ไปเลยค่ะ น้องนิวเล่นกับเพื่อนที่นี่ เป็นลูกของเพื่อน คนไทยเหมือนกันแต่เด็กเจอกัน ภาษาอังกฤษออกมาเป็นชุดๆเลย
<i>"แล้วรวบรวมกันให้ได้สัก ๓- ๔ คน ให้มีโอกาสได้เล่นกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน พี่ๆ หรือหาครู"ฝรั่ง" ที่ใจดี น่ารัก มาเล่นยิม เล่นดนตรี อ่านหนังสือ ทำกิจกรรม (ปั้น เล่น ฯลฯ) กับเด็กๆ กลุ่มนี้สักอาทิตย์ละ ๒ ครั้ง น่าจะเป็นธรรมชาติ และสัมฤทธิผลกว่าค่ะ"<br />
</i><br />
จัดกลุ่มพ่อแม่และเด็ก 2 ภาษาในหมู่บ้านนี้มาเจอกันบ้าง น่าจะสนุกกว่า แถมเด็กๆพอเล่นด้วยกัน ความสนุก ความเพลิดเพลิน ก็ใช้ภาษากันมันส์ไปเลยค่ะ น้องนิวเล่นกับเพื่อนที่นี่ เป็นลูกของเพื่อน คนไทยเหมือนกันแต่เด็กเจอกัน ภาษาอังกฤษออกมาเป็นชุดๆเลย
สุดยอด ให้ A+
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-16:2456660:Comment:238544
2010-04-16T17:10:28.441Z
น้องผิงผิง
https://go2pasa.ning.com/profile/2mcgzavsrdgrq
สุดยอด ให้ A+
สุดยอด ให้ A+
ยอดเยี่ยมค่ะ ทีแรกนึกว่าคุณบิ…
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-16:2456660:Comment:238542
2010-04-16T17:07:46.487Z
น้องผิงผิง
https://go2pasa.ning.com/profile/2mcgzavsrdgrq
ยอดเยี่ยมค่ะ ทีแรกนึกว่าคุณบิ๊กจะไม่เข้ามาตอบซะอีก VERY GooD
ยอดเยี่ยมค่ะ ทีแรกนึกว่าคุณบิ๊กจะไม่เข้ามาตอบซะอีก VERY GooD
สวัสดีค่ะ
ขอตอบที่จริงคนพูดเ…
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-16:2456660:Comment:238531
2010-04-16T16:54:52.400Z
น้องผิงผิง
https://go2pasa.ning.com/profile/2mcgzavsrdgrq
สวัสดีค่ะ<br />
<br />
ขอตอบที่จริงคนพูดเขาก็พูดถูกน่ะค่ะ แต่ถูกในทัศนะของเขา ซึ่งมันก็แล้วแต่น่ะค่ะ เพราะที่จริงเขาเองก็ทำตามหลักของ OPOL นั่นแหละ เพียงแต่คิดต่างตรงที่ว่า ต้องเป็นคนที่พูดภาษาหลักได้ ซึ่งมันก็จริง แต่ต้องยอมรับว่า สำหรับคนไทยอย่างเราๆ การที่จะหาสภาพแวดล้อมในการให้เด็กได้พูดสองภาษานั้น ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก ทำให้ต้องมีการสร้างสภาพแวดล้อมขึ้นมางัยล่ะค่ะ<br />
<br />
ยังงัยก็ลองอ่านบทความนี้ดูน่ะ ซึ่งคัดมาจะเวปสองภาษานี่หล่ะค่ะ อยู่ในบล๊อกเล่า ซึ่งจะทำให้ได้แง่มุมอีกมุมหนึ่ง…
สวัสดีค่ะ<br />
<br />
ขอตอบที่จริงคนพูดเขาก็พูดถูกน่ะค่ะ แต่ถูกในทัศนะของเขา ซึ่งมันก็แล้วแต่น่ะค่ะ เพราะที่จริงเขาเองก็ทำตามหลักของ OPOL นั่นแหละ เพียงแต่คิดต่างตรงที่ว่า ต้องเป็นคนที่พูดภาษาหลักได้ ซึ่งมันก็จริง แต่ต้องยอมรับว่า สำหรับคนไทยอย่างเราๆ การที่จะหาสภาพแวดล้อมในการให้เด็กได้พูดสองภาษานั้น ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก ทำให้ต้องมีการสร้างสภาพแวดล้อมขึ้นมางัยล่ะค่ะ<br />
<br />
ยังงัยก็ลองอ่านบทความนี้ดูน่ะ ซึ่งคัดมาจะเวปสองภาษานี่หล่ะค่ะ อยู่ในบล๊อกเล่า ซึ่งจะทำให้ได้แง่มุมอีกมุมหนึ่ง ซึ่งชัดเจนอยู่ในหนังสือเด็กสองภาษาเล่มที่หนึ่ง<br />
<br />
จุดเริ่มต้นสองภาษาของ น้องแพรวาเริ่มโดย คุณ นภาพร รัตนางกูร เมื่อ 14/04/2010 เวลา 11:48am<br />
ส่งข้อความ View คุณ นภาพร รัตนางกูร's blog<br />
.คุณแม่เริ่มเป็นสมาชิกของหมู่บ้านเด็กสองภาษา ตั้งแต่ซื้อหนังสือเล่มแรก (พิมพ์ครั้งที่ 1) มาอ่านแล้วค่ะ ตอนน้องแพรวา<br />
<br />
อายุได้ประมาณ 1 ขวบ 8 เดือน แต่เพิ่งจะมีโอกาส + เวลา เข้ามาหาความรู้ และแสดงความคิดเห็นร่วมกับเพื่อนๆ จาก Web 2pasa เนื่องจากที่ผ่านมาลาออกจากงานประจำ ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ เพื่อมาเลี้ยงลูกสาวเต็มตัว จนปัจจุบันน้องอายุ 2ขวบ 6 เดือนแล้ว ส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านหนังสือทุกประเภทพาลูกสาวเข้าร้านหนังสือตั้งแต่ยังเล็ก ตัวคุณแม่เองอ่อนภาษาอังกฤษมากๆ โดยเฉพาะฟัง พูด อ่านและเขียนพอได้นิดหน่อย ก็เลยอยากให้ลูกสาวเก่งภาษา ภายในครอบครัวไม่มึใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย ทำให้ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสอนภาษาให้กับลูกสาวได้อย่างไรดี และกังวลว่าจะพูดคุยกับเพื่อนๆ ในหมู่บ้านสองภาษาได้หรือไม่ก็เลยหายจาก Web นี้ไปนานพอสมควร แต่ก็ยังไม่ได้ล้มเลิกความพยายามและตั้งใจจริง ที่จะสอนภาษาให้กับลูกสาวในช่วงที่ดูแลเลี้ยงดูอยู่ที่บ้าน โดยหาเทคนิคต่างๆ จากหนังสือสองภาษา อ่านแล้วรู้สึกถูกใจมากค่ะ ถึงแม้จะปฏิบัติไม่ได้ 100% อย่างกับคุณแม่ที่อ่อนภาษาเอามากๆ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาจากตัวลูกสาวทำได้จริง ประโยชน์ที่ได้รับจากหนังสือเล่มนี้ ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะนำมาเป็นแนวทางในการสอนภาษาให้กับลูกสาว โดยคุณแม่เริ่มสอนจากการผ่านสื่อดีวีดี ที่มีเพลงประกอบอยู่เป็นเรื่องราวต่างๆ เช่น Baby einstein , Barney และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วน Mommy&me ไม่ต้องพูดถึง คุณพ่อขับรถออกนอกบ้านเมื่อไร ลูกสาวจะขอร้องให้เปิดทุกครั้ง จะร้องไปตลอดทาง เพราะชอบมากๆ สำหรับผลดีของสื่อดีวีดีต่างๆ ลูกสาวจะชอบเลียนแบบตัวละคร ทั้งร้องและเต้น ได้เป็นเรื่องราวเอง โดยที่คุณแม่ยังไม่ได้เริ่มสอนอะไรเลย แต่จะคอยสนับสนุน กับกิจกรรมตัวละครที่ลูกสาวกำลังทำอยู่ ตัวอย่างตอนที่ Barney กำลังสวมหมวก แว่นกันแดด ไปเดินชายหาด พร้อมกับร้องเพลงเต้นรำไปด้วย ลูกสาวก็จะให้คุณแม่ไปหยิบหมวก แว่นตา มาให้เพื่อเลียนแบบให้เหมือนกับตัวละครนั้นๆ<br />
<br />
ส่วนดีวีดีที่ดู ลูกสาวก็จะเลือกเอง ถ้าเปิดแล้วเป็นโหมดภาษาไทย ก็จะให้คุณแม่เปลี่ยนเป็นโหมดภาษาอังกฤษทันที สิ่งที่คุณแม่เห็นคือน้องมีพัฒนาการด้านภาษา และเรียนรู้ได้ไวมาก ถึงแม้คุณแม่จะยังไม่ได้สอนพูดโต้ตอบเป็นประโยค ภูมิใจมากๆเลยค่ะสำหรับผลลัพธ์ที่ได้ สำหรับการสอนที่ถือว่ายากกับครอบครัวคือการพูดโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ แต่เราก็จะพยายามทำให้ได้ สู้สู้! เพื่อลูกสาวที่น่ารักของเราค่ะ ถ้าจะให้บรรยายเรื่องราวของน้องแพรวายังไม่หมดเท่านี้นะคะ แต่คุณแม่ก็จะพยายามแชร์เรื่องราว และกิจกรรมต่างๆ ในการสอนภาษา ที่ทำร่วมกันกับลูกสาว เพื่อให้เพื่อนๆ ร่วมแสดงความคิดเห็นในครั้งต่อไปอีกนะคะ<br />
<br />
<br />
สรุป: เห็นไหมหล่ะค่ะ ว่าที่จริง คนพูดคนนั้นเขาก็มองในมุมของเขา แต่อาจไม่ได้มองในมุมของคนอื่นๆ เช่น สภาพแวดล้อม สถานะที่เอื้อหรือไม่เอื้อ รวมถึง อาจไม่ได้เข้าใจแก่นจริงๆก็ได้ และตอนหนึ่งที่เขาอ้างว่า<br />
<br />
"ถ้าลูกเราอยู่ในสิ่งแวดล้อมภาษาเดียว (คือ ไทย) ก็ให้เรียนอังกฤษ (จีน หรือ อะไรเสริม)<br />
จากเจ้าของภาษาดีกว่าค่ะ ทุ่มเทน้อยกว่า จะสัมฤทธิ์ผล และพูดได้ชัดเจนกว่า<br />
<br />
และตามหลักการศึกษาที่มีการวิจัยมา ถ้าก่อนอายุ ๑๔ และลูกได้คุยกับเจ้าของภาษาอย่าง<br />
สม่ำเสมอ ไม่สายเกินไปหรอกค่ะ คือให้ลูกเริ่มรู้จัก ได้เรียนภาษาที่ ๒ กับเจ้าของภาษา<br />
ตอนอายุ ๗ - ๘ - ๙ - ๑๐ ขวบ ก็ยังไม่สายเกินไปค่ะ "<br />
<br />
ตรงนี้ตอบได้ว่าถูกเลย ถ้าเรามีคนที่เป็นเจ้าของภาษา แต่บอกแล้วว่า สภาพบ้านเรามันไม่เอื้อ ครูภาษาก็ต้องจ้างเสียเงินเยอะ และใครเล่าจะมายอมสอนลูกเราที่อายุตั้งแต่ทารก-6 ขวบ<br />
<br />
แต่ผิดที่ว่า จะให้เริ่มตอน 7-10 ขวบไม่เห็นด้วยเลย และที่อ้างว่ามีการวิจัยมาว่า ก่อนอายะ 14 ปี ไม่สาย ขอบอกเลยว่า อ้างลอยๆ<br />
<br />
เอาเป็นว่าถ้าคุณได้อ่านหนังสือ เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ ทั้งเล่ม 1-2 ก็ให้จับหลักให้ได้ว่า จะทำแบบใด ซึ่งก็มีวิธิต่างๆให้เลือกอยู่ในเล่มหนึ่ง ว่าจะให้เป็น OPOL แบบใด ซึ่งผู้เขียนก็ไม่ได้บังคับ<br />
<br />
ขอสรุปในประสบการณ์ส่วนตัวว่า ตอนนี้ลูกสาวคือน้องผิงผิง อายุ 1.6 ปี ได้เริ่ม OPOL กับเขาตอนหนึ่งขวบ ซึ่งปาป๊าเป็นผู้สอน-พูด จะไม่พูดไทยกับลูกเลย แต่รู้ไหมว่า ปาป๊า สื่อกับคนต่างชาติไม่ได้มากเท่าไหร่เลย แต่อาศัยหลักการในหนังสือเล่มหนึ่ง (เล่มสองยังไม่ได้อ่าน) ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมาปรากฏว่า ทุกวันนี้ผิงผิง เริ่มฟังปาป๊าพูดและทำตามได้หมดเลย ประโยคยาวๆด้วย ซึ่งปาป๊าก็ยังงงว่า ทำไมเข้าใจหมดเลย ทำตามคำสั่งได้ทุกอย่าง ทั้งๆที่ยังสื่อได้แค่เป็นคำๆเท่านั้น<br />
<br />
แต่ขอบอกว่า คำศัพท์นั้นได้เยอะมากเป็นมากกว่าร้อยคำ รวมภาษาท่าทาง (Sign) ซึ่งปาป๊าก็อาศัยเปิดสื่อเอาเหมือนกับ แม่ของน้องแพรวานั่นแหละ (อ่อนภาษาพอๆกัน แต่ไม่อ่อนความรู้ที่จะหาให้ลูกได้รู้มากกว่า และเรียนรู้ไปกับลูก ซึ่งก็รู้คำศัพท์มากขึ้น) ตอนนี้รู้ไหมว่า ไปที่ไหน ปาป๋าก็พูดอังกฤษกับลูกตลอด ไม่อายใครเลย และเมื่อคนเห็นบางคนก็เข้ามาทักทาย เข้ามาทดสอบ ซึ่งผิงผิงก็ตอบได้หมดในสิ่งที่ถาม เช่น ชึ้เก้าอี้ ว่าคืออะไร ผิงผิงก็ตอบว่า แชร์ , ชี้ที่น้ำก็ต่อบว่า วอร์เทอร์ ซึ่งทำให้คนเหล่านั้นประทับใจ<br />
<br />
<br />
ค่ะ สรุปว่า เราต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่เราได้รู้ได้อ่านได้ศึกษา และเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นๆ (ส่วนใหญ่) ก็จะทำให้เรามั่นใจมากขึ้น อย่ากังวลหรือลังเลเลยค่ะ ทำต่อไป<br />
<br />
รู้ไหมค่ะว่า ปาป๋าเขาตั้งใจจะสอน ภาษาที่สามคือ จีนและเกาหลี หากผิงผิงเริ่มสนทนาโต้ตอบอังกฤษได้มากขึ้น ซึ่งปาป๋าก้ไม่รู้เรื่องเลยกับภาษาจีนและเกาหลี แต่ยังมั่นใจขนาดนี้<br />
<br />
ค่ะอาจยาวไป แต่ขอให้มองว่า คนนั้นที่พูดเขาก็พูดในมุมของเขา ส่วนเราก็ต้องกลับมามองในมุมของเรา ว่าเราพร้อมและมีทรัพยากรในมือมากแค่ไหน ก็ทำตามนั้นอย่าไปสนใจว่าคนอื่นเขาจะว่าอย่างไร<br />
<br />
เพิ่มเติมนิด ช่วงแรกๆที่ปาป๋าเริ่มสอนผิงผิง คนข้างบ้านก็บอกว่า ปาป๊า Froce ลูกมากเกินไป ซึ่งไม่จริงเลย ทุกวันนี้ผิงผงิไปหาเขายื่นมือ Chake hands กับลูกเขา ลูกเขาใบ้รับประทานเลย เพราะไม่รู้เรื่อง ซึ่งต่างจากเรา คุณเชื่อไหม ผิงผิงเองปาป๋าไม่เคยพูดไทยสักคำ แต่เขากลับสื่อเป็นภาษาไทยกับปาป๋าเป็นประจำ แต่ก็ต้องหันมาพูดอังกฤษ เพราะปาป๋าไม่พูดไทยด้วย ซึ่งเห็นไหมล่ะค่ะ โหมดขอป่าป่าคืออังกฤษเขาก็ต้องพูดอังฤษ นี่คือหลักการที่มีในหนังสือเด็กสองภาษา<br />
<br />
แถมหน่อย แน่นอนเรื่องดูทีวี มากไม่ดี แต่รู้ไหม ผิงผิงป่าป่าไม่เคยเปิดทีวีปกติให้ดูเลย และตอนนี้ป่าป่า ก็อดดูรายการที่ชอบด้วย แต่มีผลดีคือพอผิงผิงเห็นรายการทีวีปกติ ก็จะหันมาพุดกับป่าป๊าทันทีว่า Change คือให้เปลี่ยนมาเปิด DVD เห็นไหมค่ะว่า ทีวีที่เราสอนอังกฤษก็มีประโยชน์ แต่บอกแล้วงัยก็การจะเปิด DVD ผู้สอนต้องอยุ่ด้วยและสอนไป ซึ่งปาปาก็ทำตามหนังสือเป๊ะ ตอนนี้ผิงผิงนั่งดู DVD แต่ละเรื่องแต่ละครั้งได้นานกว่า ครี่งชั่วโมง ซึ่งผิดกับเด็กทั่วไปที่ดูรายการทีวีปกติ ซึ่งสมาธิจะสั้น แต่แปลก ผิงผิงสมาธิดีเอามากๆ<br />
<br />
ค่ะอยู่ที่เราเองมากกว่า อย่าฟังคนอื่นที่มีแนวคิดต่างเลยจะสับสนอซะเปล่าๆ น่ะค่ะ<br />
<br />
หากมีอะไรเขียนามาคุยได้น่ะค่ะ ยินดีแลกเปลี่ยน
จากตัวเองค่ะ เรียนภาษาอังกฤษไ…
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-16:2456660:Comment:238522
2010-04-16T16:41:15.788Z
mamaoun
https://go2pasa.ning.com/profile/3q0q4gns6p2b8
จากตัวเองค่ะ เรียนภาษาอังกฤษได้ 2 บ้าง 3 บ้างเพราะขยันท่องแกรมม่า พอเจอฝรั่งไม่กล้าสบตาค่ะกลัวเค้ามาพูดด้วย พอมีหลานอยากให้หลานพูดได้ ลงทุนจ้างแม่บ้านฟิลิปปินส์มาอยู่ในบ้านเลย ได้ผลค่ะ ไม่ใช่หลานน่ะค่ะ แต่เป็นพี่สาวค่ะ พูดภาษาอังกฤษกับแม่บ้านฟิลิปปินส์คล่องเลยค่ะ แถมกล้าพูดกับครูฝรั่งมากขึ้น ตัวเองเคยให้แม่บ้านฟิลลิปินส์มาช่วย 1 เดือนตอนคลอดลูกคนแรก กล้าพูดมากขึ้นเพราะจำประโยคที่พูดประจำได้ ให้ช่วยหยิบของ อุ้มน้อง เปลี่ยนผ้าอ้อม เจอหน้ากัน 12 ชั่วโมงยกเว้นเวลานอนนี่ค่ะ…
จากตัวเองค่ะ เรียนภาษาอังกฤษได้ 2 บ้าง 3 บ้างเพราะขยันท่องแกรมม่า พอเจอฝรั่งไม่กล้าสบตาค่ะกลัวเค้ามาพูดด้วย พอมีหลานอยากให้หลานพูดได้ ลงทุนจ้างแม่บ้านฟิลิปปินส์มาอยู่ในบ้านเลย ได้ผลค่ะ ไม่ใช่หลานน่ะค่ะ แต่เป็นพี่สาวค่ะ พูดภาษาอังกฤษกับแม่บ้านฟิลิปปินส์คล่องเลยค่ะ แถมกล้าพูดกับครูฝรั่งมากขึ้น ตัวเองเคยให้แม่บ้านฟิลลิปินส์มาช่วย 1 เดือนตอนคลอดลูกคนแรก กล้าพูดมากขึ้นเพราะจำประโยคที่พูดประจำได้ ให้ช่วยหยิบของ อุ้มน้อง เปลี่ยนผ้าอ้อม เจอหน้ากัน 12 ชั่วโมงยกเว้นเวลานอนนี่ค่ะ เลยอยากให้ลูกตัวเองพูดได้บ้าง สำเนียงไทยก็ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยปรับทีหลัง