เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
Tags:
2 ชม ต่อสัปดาห์น้อยไปไม๊คะ ในความคิดนะคะ เดือนแรกให้สอนคำศัพท์จากรอบตัวก่อนโดยไม่แปลคะในห้องเรียน และนอกห้องเรียน(รุ้จักธรรมช่าติ) พอเดือนที่สองให้พูดเป็นวลี พร้อมเรียนศัพท์ใหม่ๆไปเรื่อยๆและความถี่ในกาพูดให้บ่อยมากที่สุด ให้เด็กรุ้สึกว่า เด็กสามารถพูดออกจากความรุ้สึกได้แทนการอ่านท่องศัพท์คะ เดือนที่สามให้ทำกิจกรรมต่างๆพร้อมศัพท์และวลี ก่อนที่จะไปผูกประโยคให้เด็กฟัง พอเดือนที่สี่และเดือนที่ห้า ก็เน้นศัพท์ที่ใช้และวลีที่คุยกันทุกวันมาทบทวนความเข้าใจเด็กว่าเด็กซึมซับอิงได้มากน้อยแค่ไหนฝึกให้พูดบ่อยๆจนชิน พอเทอมสองก็เหมือนกันเพียงเพิ่มศัพท์เข้าไปและทำกิจกรรมมากขึ้น
พอดีว่าที่โรงเรียน(รัฐ) เห็นว่าจิ๊บ (ขอแทนชื่อตัวเองนะค่ะ) สอนลูกให้พูดภาษาอังกฤษและเห็นว่าลูกพูดได้ เข้าใจทุกอย่าง เคยคุยกับ ผอ.เรื่องระบบการสอนภาษาในโรงเรียนว่าแบบที่เราสอนไม่เหมือนกัน เน้นแบบธรรมชาติไม่แปล ท่านเลยให้โอกาสลองมาทำดู จิ๊บก็คิดว่า ยากสสสสส์ เหมือนกันนะค่ะ ย่าใบเตย เด็กซนมาก เราต้องมีสิ่งดึงดูดใจตลอดเวลา สอนคนเดียวค่ะ พยายามสอนเหมือนที่แม่น้องกุนบอก แต่ดูเหมือนจะเป็นผลน้อยเด็กไม่ค่อยฟัง ตอนนี้จะเน้นไปสอนโฟนิคผ่านเพลงของ jolly phonic พร้อมเพิ่มคลังคำศัพท์ (ใช้ Ipad ให้เป็นประโยชน์ เด็กชอบกันใหญ่) ตอนนี้ยังไม่ใช้ภาษาอังกฤษสอน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ต่อไปคงจะค่อยๆเปลี่ยน เหมือนที่คุณกุนบอก 2 ชม.ต่อสัปดาห์ ยังไงก็สร้างเด็กสองภาษายากค่ะ ต้องมีพ่อแม่ร่วมอีกแรง
ได้โอกาสมาแล้ว ไม่ทราบจะทำได้หรือเปล่า ใครมีกิจกรรมดีๆ หรือข้อเสนอแนะดีๆแนะนำ ช่วยหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับคุณย่าติ๋ม เดี๋ยวนี้ไม่ธรรมดาแล้วนะครับ go inter ไปแล้ว หลาน ๆ อย่างผมต้องเร่ง speed ตามคุณย่าให้ทัน แต่ว่าไปคุณย่าก็เป็นกิจกรรมอยู่แล้วนี่เน๊อะ น่าจะมีเทคนิคการสอนดี ๆ อยู่มากมาย ยังไงก็แชร์กันบ้างนะครับ น้องใบเตยคงพูดอังกฤษเป็นต่อยหอยแล้วซินะครับ
โอ้โห คุณจิ๊บ..ทำได้ไงสอนคนเดียวตั้ง 40 คน..พี่สอนเด็กๆวัยอนุบาล 10 คนยังร้อง..โอ้กกกกกก....เลยค่ะ ถ้าครูไม่ได้สัดส่วนกับเด็ก เด็กบางส่วนจะถูกทิ้งคะ..
ต้องอย่างที่ย่าบอกเลยคะ คุณจิ๊บต้องมีแนวทางก่อนว่าเด็กวัยนี้ต้องการเรียนรู้อะไรบ้าง...กระทู้นี้ขอลอกย่าเลยค่ะ ย่าตอบได้ครอบคลุมหมดแล้วคะ
เช่น ต้องรู้จัก อวัยวะในร่างกายของตนเอง ก็ต้องให้คำศัพท์ ผ่านกิจกรรมร้องเพลงแสดงท่าทางเป็นต้น เพลง head shoulders,
ต้องทักทายเป็น ต้องถามตอบชื่อตนเองกับผู้อื่นได้ ต้องพูดแสดงความรู้สึกได้ เป็นต้น เมืื่อได้เนื้อหาก็กำหนดกิจกรรมค่ะ
อ้ออย่าลืมนะคะ ทักษะกระบวนการเรียนรู้ภาษาเริ่มต้นที่การฟัง แล้วจึงพูด แล้วจึงอ่าน สุดท้ายจึงจะเขียนค่ะ
ขอเล่าประสบการณ์สอนเด็กนะครับน่าจะไปปรับใช้ได้ครับ เคยสอนเด็ก 45 คน เริ่มเมื่อ 25 พย 2544 แต่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ครับเด็ก ป2อายุประมาณ 7-8 ปีครับสอนอยู่ 4 ปีใช้หลัก อิทธิบาท 4 ครับโดยใช้ฉันทะให้เกิดขึ้นกับพ่อแม่เพื่อหาแนวร่วมครับแล้วแบ่งกลุ่มเป็น 9 ฐานครับส่วนมากคุณแม่จะมีเวลาให้มาช่วยประจำฐานโดยถ่ายทอดให้คุณแม่คุณพ่อเข้าใจก่อนช่วงแรกใช้เวลานิดหนึ่ง ภายในฐานเด็กที่มีความชัดเจนเราสามารถนำมาเป็นผู้ช่วยได้ครับเช่นเด็กบางคนออกเสียงได้ชัดเจน บางคนฟังและเข้าใจ ตั้งคำถามได้ดี การสอนภาษาต้องมีกิจกรรมรวมและแยกเพื่อดูรายละเอียดเป็นบุคคลครับ เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันมากครับของคุณจิ๊บน่าจะใช้ สุ จิ ปุ ลิ ครับ
แนวร่วมเป็นเรื่องสำคัญเพื่อไปต่อยอดที่บ้าน เป็นกระเงาให้ผู้สอนและช่วยเหลือคนอื่นได้ครับ ดีใจด้วยครับที่ช่วยกันสร้างทรัพยากรที่มีค่าให้กับชุมชนและประเทศชาติครับ
ขอบคุณทุกคนเลยนะค่ะที่เข้ามาให้ความเห็น รู้สึกตื้นตันมากค่ะ
ตอนจิ๊บสอนลูกตัวต่อตัวไม่เคยต้องท้อเลยเพราะเรามีเวลาเต็มที่ มาวันนี้เหมือนต้องแบกรับภาระไว้เต็มบ่า ลูกใคร ใครก็หวังว่าครูจะสอนได้ดี ตอนนี้ถึงแม้ตัวเองจะเข้าใจหลักการและวิธีการสอนภาษาที่สองแล้ว แต่ก็ต้องคิดว่าจะทำยังไงที่จะถ่ายทอดได้ทั่วถึงทุกคนเหมือนที่คุณอรนัยบอก บางครั้งต้องตัดใจทิ้งเด็กบางส่วนไปซึ่งเป็นสิ่งที่เราก็ทำใจได้ยากในฐานะของครูและแม่คนนึง
แนวทางของคุณเกษมน่าสนใจค่ะ แต่ไม่ทราบว่าจะทำให้เป็นจริงได้ไม๊ อาจต้องเขียนโครงการ หรือ ขออนุญาตทางโรงเรียนเพื่อขอความร่วมมือกับผู้ปกครอง แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้เข้าใจหลักการสอนภาษาที่สอง หัดให้ผู้ปกครองทำสื่อ และสานต่อสิ่งที่คุณครูสอนไป ต้องทำให้ผู้ปกครองเข้าใจและตระหนักให้ได้ว่าเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ :-)
คุณย่าใบเตยขา จิ๊บรอคำเสนอแนะเกี่ยวกับกิจกรรมดีๆอยู่นะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by