เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
1. หนูนั่งนิ่งๆนะลูกเราจะออกเดินทางกันแล้ว
2. หนูห้ามปีนป่ายไปมาในรถนะลูกเดี๋ยวเผื่อแม่เบรกกระทันหันหนูจะได้รับบาดเจ็บ
3. พี่โยดูแลน้องอย่าให้คลาดสายตานะ เพราะน้องซนมาก เราไม่มีเก้าอี้สำหรับเด็กในรถ
4. อย่ากวนแม่นะลูกแม่ขับรถ หนูมานั่งกับแม่ไม่ได้มันอันตรายมาก
5.หนูอย่าส่งเสียงดังอย่างอแงลูกเดี๋ยวก็จะถึงที่หมายแล้ว
6.หนูต้องพักผ่อนนะคะเดี๋ยวหนูจะเมารถ เราต้องเดินทางอีกไกลมาก
7. หนูนอนหลับได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ แม่ขับรถคนเดียวได้( เขาพยายามคุยเป็นเพื่อนทั้งที่ง่วงมาก)
8. ตื่นได้แล้วค่ะ เราจะถึงที่หมายภายใน 45 นาทีนี้ หนูปวดฉี่มั้ยอยากเข้าห้องน้ำมั้ยคะ
9. อย่ากินของแบบนี้ในรถเลยลูก (ใส้กรอกแหนม) มันจะทำให้มีกลิ่นไม่ดีในรถนะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะอาจารย์ทั้งหลาย
Tags:
1. หนูนั่งนิ่งๆนะลูกเราจะออกเดินทางกันแล้ว
Stay still, you will go now.
2. หนูห้ามปีนป่ายไปมาในรถนะลูกเดี๋ยวเผื่อแม่เบรกกระทันหันหนูจะได้รับบาดเจ็บ
Don't be naughty, just sit nicely. If something come up and I brake immediately, you might get hurt.
3. พี่โยดูแลน้องอย่าให้คลาดสายตานะ เพราะน้องซนมาก เราไม่มีเก้าอี้สำหรับเด็กในรถ
Your little brother is very naughty. He must be in sight of you. We don't have a baby car seat.
4. อย่ากวนแม่นะลูกแม่ขับรถ หนูมานั่งกับแม่ไม่ได้มันอันตรายมาก
Don't bother me while I am driving and you can't sit on my lap. It is dangerous.
5.หนูอย่าส่งเสียงดังอย่างอแงลูกเดี๋ยวก็จะถึงที่หมายแล้ว
Don't be fussy honey. We almost get there.
6.หนูต้องพักผ่อนนะคะเดี๋ยวหนูจะเมารถ เราต้องเดินทางอีกไกลมาก
You should take a rest, otherwise you might get a car sick. We have a long travell.
7. หนูนอนหลับได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ แม่ขับรถคนเดียวได้( เขาพยายามคุยเป็นเพื่อนทั้งที่ง่วงมาก)
You can take a nap, don't need to keep me company. I can drive alone.
8. ตื่นได้แล้วค่ะ เราจะถึงที่หมายภายใน 45 นาทีนี้ หนูปวดฉี่มั้ยอยากเข้าห้องน้ำมั้ยคะ
Wake up honey, we will get there in 45 mins. Do you want to use the restroom?
9. อย่ากินของแบบนี้ในรถเลยลูก (ใส้กรอกแหนม) มันจะทำให้มีกลิ่นไม่ดีในรถนะ
Don't eat this sausage in the car, it will give you a bad smell.
แชร์ด้วยนะครับ:
1. หนูนั่งนิ่งๆนะลูกเราจะออกเดินทางกันแล้ว
-> Sit properly. We are going now.
2. หนูห้ามปีนป่ายไปมาในรถนะลูกเดี๋ยวเผื่อแม่เบรกกระทันหันหนูจะได้รับบาดเจ็บ
-> Don't climb about in the car. If the car breaks hard, you'll get thrown and hurt yourself badly.
3. พี่โยดูแลน้องอย่าให้คลาดสายตานะ เพราะน้องซนมาก เราไม่มีเก้าอี้สำหรับเด็กในรถ
-> P'yo, please take care of your brother and keep watch on him all the time. He's very naughty and there's no child seat to put him in.
4. อย่ากวนแม่นะลูกแม่ขับรถ หนูมานั่งกับแม่ไม่ได้มันอันตรายมาก
-> Never bother/distract me while I'm driving. You can't sit with me (behind the wheel). It's dangerous.
5.หนูอย่าส่งเสียงดังอย่างอแงลูกเดี๋ยวก็จะถึงที่หมายแล้ว
-> Please don't cry. We are almost there.
6.หนูต้องพักผ่อนนะคะเดี๋ยวหนูจะเมารถ เราต้องเดินทางอีกไกลมาก
-> You have to take a nap or you'll get carsick. There's still a long way to go.
7. หนูนอนหลับได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ แม่ขับรถคนเดียวได้( เขาพยายามคุยเป็นเพื่อนทั้งที่ง่วงมาก)
-> Don't bother, just go to sleep. I can drive on my own.
"don't bother" ในที่นี้หมายถึง ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องกังวล
8. ตื่นได้แล้วค่ะ เราจะถึงที่หมายภายใน 45 นาทีนี้ หนูปวดฉี่มั้ยอยากเข้าห้องน้ำมั้ยคะ
-> You can wake up now. We'll get there in 45 minutes. Do you want to pee? Want to go to the bathroom?
9. อย่ากินของแบบนี้ในรถเลยลูก (ใส้กรอกแหนม) มันจะทำให้มีกลิ่นไม่ดีในรถนะ
-> Don't eat such thing/food in the car. It'll stink out the whole car.
"stink sth. out" = ทำให้มีกลิ่นเหม็นไปหมด
ขอบพระคุณคุณรัชนีและคุณเอกค่ะ ช่วยชีวิตไว้ทันก่อนที่จะมั่วกับลูก ขอให้ทั้งสองท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุขค่ะ
ึ7. หนูนอนหลับได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ แม่ขับรถคนเดียวได้( เขาพยายามคุยเป็นเพื่อนทั้งที่ง่วงมาก)
ที่นี่ Don't worry. ดีกว่าครับ
เราใช้คำว่า Don't bother เพื่อบอกให้คนอื่นหยุดทำอะไรสักอย่าง หรือ บอกเขาว่าเขาไม่ต้องทำสิ่งที่เขากำลังจะทำ
Don't bother เป็นคำแนะนำไม่ใช่คำสั่งครับ
อย่างนั้น...... Don't worry, just go to sleep. I can drive by myself.
การใช้คำว่า Don't bother ในประโยคนี้แสดงว่าเรารู้สึกรำคาญ
9. Don't eat such things/food in the car.
ขอบคุณคุณ John นะครับ ขอเพิ่มเติมต่อนะครับเรื่อง bother:
คือคำว่า bother มันมีอีกความหมายหนึ่งเหมือนกันนะครับโดยเฉพาะใช้แบบ negative คือในทำนองว่าไม่ได้ให้ความใส่ใจในการที่จะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะต่างกับความหมายหลักของ bother ที่แปลว่ารำคาญ อย่างใน Online Oxford ditionary ให้คำนิยามและตัวอย่างไว้
Bother :
2.1 [no object, usually with negative] Feel concern about or interest in:
- don’t bother about me—I’ll find my own way home.
"Don't bother about me. Just go to sleep. I can drive on my own. ซึ่งถ้าแปลเป็นไทย ก็จะไม่ได้หมายถึงสั่งให้หยุดทำ แต่เป็นในทำนองว่า "ไม่ต้องพยายาม หรือเกรงใจคุยเป็นเพื่อนแม่นะ "
เรื่อง Don't eat such things อันนี้เห็นด้วยครับว่า such ในความหมายแบบนี้ควรเป็น such things หรือ such a thing ครับ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by