เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

รบกวนอีกครั้งค่ะ ห่างหายไปนาน   บางครั้งก็เผลอพูดไทยกับลูกเยอะไปหน่อย กว่าจะหันกลับมาพูดอังกฤษนี่ก็ต้องใช้เวลากระตุ้นตัวเองนานอยู่  ลูกชายก็ยังพูดไทยไม่ชัดก็เลยต้องซ้อมกันนานหน่อยค่ะ เลยเผลอพูดไทยกับลูกสาวไปด้วยเลย ไม่ง่ายเลยค่ะคุณครู กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้

ถามต่อเลยค่ะคุณครูขา

๑. แม่ขาสำลีมันกำลังจะหลุดออกจากรูฟันแล้ว mommy ! the cottonwool is coming out from my teeth.

๒. เอ้าลูก สำลีหายไปไหน หนูดึงมันทิ้ง หรือว่าหนูกิน/กลืน เข้าไปลูก  ho ! my god  where has the cotton wool gone  , Did you pulled out or you are eatten it.

๓. หนูคิดว่าหนูคงจะกินมันไปแล้วค่ะแม่ I think I'm eatten it

๔. ใช่่คะแม่หนูดึงมันทิ้งเองหละ  yes mommy I'm pulled out by myself.

๕. แม่ขาหนูรู้สึกปวดฟันอีกแล้ว แม่ช่วยเอาสำลีจุ่มเกลือ แล้วก็มาอุดให้หนูหน่อยซิคะ

(อันนี้ทำกันบ่อยค่ะ เวลาลูกปวดฟันก็จะใช้สำลีจุ่มเกลือ และก็อุดในรูฟันจะช่วยให้หายปวดฟันได้ 55 สูตรโบราณ ลูกไม่ยอมพบหมอฟัน ก็ต้องหาหนทางช่วยลูกหละค่ะ)

ขอบคุณครูมากนะคะ

Views: 2248

Replies to This Discussion

ขออนุญาตลองตอบ เดี๋ยวให้คุณครูมาตรวจอีกที

๑. แม่ขาสำลีมันกำลังจะหลุดออกจากรูฟันแล้ว mommy ! the cottonwool is coming out from my teeth.

ขอเปลี่ยนนิดนึง mommy ! the cottonwool is coming out OF my mouth. คือว่าสำลีปกติจะใส่ที่ข้างแก้มค่ะ ไม่ได้ใส่ลงไปในฟัน ในกรณีนี้เลยขออนุญาตเปลี่ยนคำนิดหน่อยค่ะ หรือถ้าคุณแม่ให้น้องกัดสำลี ก็เป็นการวางสำลีลงบนฟัน ใช้ on ค่ะ

๒. เอ้าลูก สำลีหายไปไหน หนูดึงมันทิ้ง หรือว่าหนูกิน/กลืน เข้าไปลูก
ho ! where has the cotton wool gone? Did you pulled it out or swallowed it?


๓. หนูคิดว่าหนูคงจะกินมันไปแล้วค่ะแม่
I think, i ate it, mom.

๔. ใช่่คะแม่หนูดึงมันทิ้งเองหละ

Yes, mom. I pulled it out by myself.

๕. แม่ขาหนูรู้สึกปวดฟันอีกแล้ว แม่ช่วยเอาสำลีจุ่มเกลือ แล้วก็มาอุดให้หนูหน่อยซิคะ
(อันนี้ทำกันบ่อยค่ะ เวลาลูกปวดฟันก็จะใช้สำลีจุ่มเกลือ และก็อุดในรูฟันจะช่วยให้หายปวดฟันได้ 55 สูตรโบราณ ลูกไม่ยอมพบหมอฟัน ก็ต้องหาหนทางช่วยลูกหละค่ะ)
Mommy, i have a toothache , again. Can you put salt-water-soaked cotton wool in my mouth please?




คิดว่าคุณแม่อาจจะสับสนเรื่องการใช้ passive voice นะคะ

Passive Voice หมายถึงประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ (ใคร ถูกทำ) ค่ะ

รูปแบบประโยค คือ ประธาน + v.tobe + past participle (verb ช่อง 3) + (by ผู้กระทำ)

คำกริยาที่จะนำมาใช้ในประโยค Passive Voice ต้องเป็นคำกริยาที่ต้องมีกรรมเท่านั้นค่ะ
ในdictionary จะเรียกกริยาแบบนี้ว่า transitive verb (vt)
เพราะคำแปลจะต้องมีคำว่า ใครหรืออะไร ถูกทำอะไรเสมอ

ส่วนคำว่า by ที่แปลว่าโดย บางครั้งอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้พูด และบางประโยคไม่ต้องมีเลยก็ได้ เช่น

A fish was eaten. ปลาถูกกินไปแล้ว ประโยคนี้ต้องการสื่อแค่ว่าปลาถูกกิน ส่วนอะไรกินปลานั้นไม่สน

A fish was eaten by a cat. ปลาถูกกินไปแล้วโดยแมวตัวหนึ่ง ประโยคนี้เป็นการสื่อความแบบสมบูรณ์

Mr. Tom was arrested yesterday. นายทอมถูกจับกุมเมื่อวานนี้ ประโยคนี้ไม่ต้องใช้ by เพราะรู้อยู่แล้วว่าคนที่จับกุมคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ

My watch was stolen last night. นาฬิกาของฉันถูกขโมยเมื่อคืน ประโยคนี้ก็ไม่ต้องบอกก็ได้ว่าใคร เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นโจรย่องเบาแน่นอน


ส่วนเรื่องการหาหมอฟัน แนะนำให้พาไปหาหมอฟันสำหรับเด็กโดยเฉพาะค่ะ
คุณหมอมีวิธีหลอกล่อค่ะ
อย่าปล่อยไว้นานค่ะ อาจจะติดเชื้อลงไปที่โพรงประสาทฟันได้นะคะ
ไม่รู้ทำไมเด็กๆกลัวหมอฟันเนอะ
ที่บ้านเวลาป๊อปไปหาหมอฟัน ก็พาเค้าไปด้วยค่ะ
เค้าก็คุ้นเคยพอถึงเวลาที่เค้าจะหา เค้าก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่กลัวค่ะ

ขอบคุณมากค่ะคุณครูป๊อบ บอกตรง ๆ ค่ะแกรมม่านี่ดิฉันไม่เก่งเลยจริง ๆ จะ copy ไว้สอนลูกอีกทีนึงค่ะ คำว่า ate  eatten ดิฉันงงทุกทีค่ะ ก็เพิ่งจะเข้าตอนนี้ค่ะ

ส่วนข้อ ๑ คือเอาสำลีอุดลงรูฟันเลยนะคะเพื่อกันไม่ให้เศษอาหารตกลงไปเวลาทานอาหารค่ะ เพราะถ้าไม่อุดสำลีเวลาทานอาหาร เศษอาหารจะตกลงไปก็จะทำให้เขามีอาการปวดฟันมาก 

mommy ! the cottonwool is coming out OF my mouth. (จาก mouth เปลี่ยนเป็น tooth , teeth ได้ไหม๊คะ)

สงสัยฟันต้องรอถอนอย่างเดียวค่ะ คงจะอุดไม่ได้แล้วเพราะลูกมีอาการปวดเส้นประสาทฟันแล้ว ไปหาหมอเขาก็กลัวหมอมากจนตัวสั่น ตัวเย็นไปหมด ร้องไห้ไม่หยุด หมอเองก็หมดปัญญาค่ะหลอกล่อยังไงก็ไม่เอาท่าเดียว หมอบอกว่าต้องปล่อยให้มันหหลุดเองเพราะยังเป็นฟันน้ำนมอยู่  จะมัดลูกไว้ก็ไม่ได้กลัวเขาช็อคค่ะ เพราะเคยมีข่าวเด็กช็อคเพราะการมัดเด็กทำฟัน เด็กคนนั้นพิการเดินไม่ได้ไปเลย กลายเป็นเจ้าชายนิทราไปเลยค่ะ      สำลีอุดฟันไว้ก็ช่วยได้เยอะทีเดียวค่ะ รูฟันสะอาดขึ้นและก็ไม่ปวดด้วย นาน ๆ ทีจะมีอาการบ้างเล็กน้อยเนื่องจากอาจจะลืมเปลี่ยนสำลี  ดิฉันก็พยายามเปลี่ยนสำลีให้ทุกครั้งหลังจากทานอาหารเสร็จค่ะ กลัวเหมือนกันติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน 

ทำไมน้องกลัวหมอฟันล่ะคะ มีใครเล่าอะไรน่ากลัวๆให้เค้าฟังเหรอคะ
ปกติเด็กที่ไม่เคยโดนขู่ก็ไม่น่าจะกลัวหมอฟันนะคะ

แชร์เพิ่มนิดหน่อยจากคุณป๊อปนะครับคุณแม่น้อง Silvana เรื่องเกี่ยวกับฟันของน้อง:

๑. แม่ขาสำลีมันกำลังจะหลุดออกจากรูฟันแล้ว mommy ! the cottonwool is coming out from my teeth.

-> นอกจาก come out of จะใช้ "come off" เป็น  It is coming off my tooth ก็ได้ครับ

๕. แม่ขาหนูรู้สึกปวดฟันอีกแล้ว แม่ช่วยเอาสำลีจุ่มเกลือ แล้วก็มาอุดให้หนูหน่อยซิคะ

->  อันนี้อีกแบบก็เป็น  Mummy, that tooth is aching again. Can you please soak a tiny ball of cotton wool and put it in the hole?  

ขอบคุณค่ะคุณเอก คิดถึงคุณเอกอยู่ค่ะ เพราะยังต้องอุดฟันกันอีกนานเลยค่ะจนกว่าฟันจะหลุด

ขอบคุณคุณแม่น้อง silvana ด้วยนะครับ ทำให้รู้ว่ายังไงลูกตัวเองก็ต้องผ่านช่วงเวลาที่ต้องมีปัญหาเรื่องฟันอีกเยอะแยะเหมือนกัน  จะได้เตรียมใจไว้ก่อน ไปครั้งแรกปีก่อนร้องเยอะมาก พึ่งไปตอนไม่นานนี้ไม่ร้องอาจจะเพราะเริ่มโตมากขึ้น  แต่หมอนัดอีกทีเพราะมีฝันเริ่มผุอีก ครั้งนี้ไม่รู้จะร้องหรือเปล่า ลุ้นเป็นครั้ง ๆไปครับ 

เวลาคุณเอกไปหาหมอฟันก็พาเค้าไปด้วยเลยค่ะ ให้เค้าชินว่าทุกคนก็หาหมอฟัน
ถ้าครั้งไหนเป็นการเช็คฟันปกติ ไม่ต้องใช้เครื่องมืออุดถอน ให้น้องเข้าไปนั่งดูได้เลยค่ะ

ขอเข้ามาแนะนำนะคะไม่ได้มาช่วยตอบคำถามค่ะ ไม่ทราบว่าคุณแม่พาน้องไปหาหมอเด็กหรือเปล่าค่ะ ถ้าไปหาหมอฟันสำหรับเด็กเค้าจะมีวิธีหลอกล่อ

เด้กบางคนจะกลัวแรกครั้งต่อไปจะไม่กลัวและชอบที่จะไปหาหมอฟัน แนะนำให้คุณแม่พาไปหาหมอเด้กส่วนใหญ่หมอเด็กมักจะประจำที่รพ.ค่ะ ร้านหมอฟันทั่วไปไม่ค่อยมีนอกจากที่ใหญ่ๆ  และอีกวิธีคุณแม่อาจจะอ่านหนังสือหรือเล่าประสบการณ์การไปพบหมอฟันให้ลูกฟังลูกจะได้ไม่กลัว ลูกสองคนกลัวคุณหมอร้องไห้ พอไปครั้งที่สองคนโตไม่กลัวแล้ว ลูกคนเล็กร้องดังมากคุณแม่ก็อ่านหนังสือให้ฟังเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการไปพบหมอฟันอ่านหลายครั้งล่าสุดให้พี่คนโตทำฟันก่อน น้องเข้าไปดูด้วยพี่ทำเสร็จไม่ร้องไห้ได้ลูกโป่ง สติกเกอร์ น้องคนเล็กที่เคยร้องไห้ไม่ร้องแถมขึ้นไปนั่งอ้าปากให้หมอทำฟันเลย

หมอจะมีวิธีค่ะถ้าน้องกลัวมากหมอจะให้น้องนอนบนตัวคุณแม่แล้วกอดไว้ค่ะ สงสารน้องค่ะคุณแม่ปวดฟันยังนอนไม่หลับทั้งคืนเลยค่ะ

ที่อิตาลี่ไม่รู้เหมือนกันค่ะมีหมอฟันเด็กหรือเปล่า แต่เท่าที่ถามก็เป็นหมอทั่วไปไม่แยกหมอฟันเด็กผู้ใหญ่  ส่วนหมออื่นก็มีแยกอยู่นะคะเด็กและผู้ใหญ่  แต่ก็ลองทำทุกอย่างที่คุณอรทัยบอกมาแล้ว ลองหมดแล้วค่ะ ลูกไม่ยอมท่าเดียว  เดี๋ยวจะลองถามสามีอีกทีนึงว่ามีหมอฟันเด็กหรือเปล่า สามีดิฉันเขาก็เบื่อ ๆ บอกว่าไปก็คงจะเสียเวลาแน่นอน

ท่าจะยากค่ะ กลุ้มใจอยู่เหมือนกัน แล้วฟันก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะหลุด ผุตรงกรามสองซี่เลยนะคะ แต่ดิฉันรู้นิสัยลูกสาวค่ะ ยากค่ะ ต่อให้เป็นหมอฟันเด็กก็คงไม่เอาแน่นอน ไปก็คงจะเสียเวลาเหมือนที่สามีดิฉันบอก เพราะเราเคยไปกันสองรอบแล้วค่ะคุณหมอก็ใจดีมากหลอกล่อทุกอย่างแล้ว     คงต้องรอจนกว่าเขาจะปวดสุดชีวิตนั่นแหละค่ะถึงยอมมมม

ขอบคุณมากนะคะคุณอรทัยที่เป็นห่วง ^^

**ขอเพิ่มเติมนิดนะคะ

2. Where has the cotton wool gone.  Did you pull it out or you swallow it?

ไม่ต้องเติม ed ที่ v แล้วค่ะ เพราะมี did มาทำหน้าที่แทนแล้ว ^_^

 

 น่าจะใช่นะคะ  ถ้าเป็น Did นำหน้าประโยค verb ก็จะเป็นช่องหนึ่ง  ดิฉันเองก็พยายามสังเกตุอยู่เหมือนกันค่ะ เช่น

Did you forget to brush ?   สังเกตุดูได้ว่าจะใช้ forget v.1  

Did you brush your teeht?  อันนี้ v. ที่ตาม Did ก็จะเป็น v.1  เหมือนกัน

ก็สงสัยเหมือนกันค่ะ มีอยู่ประโยคนึงที่คุณเอก เคยตอบมาให้ก่อนหน้านั้นซึ่ง  verb ที่ตามหลัง Did เติม ed

เอ้าหนูไปดึงมันออกมาหรือเปล่า (หมายถึงดึงสำลีออกจากฟันแล้ว สำลีหายไปแล้ว) oh ! Did you pulled out?  ประโยคนี้กลายเป็น verb ที่ตามหลัง Did เป็นช่อง 2 ค่ะ 

สงสัยต้องรอคุณเอกมาตอบให้อีกครั้งค่ะ  ขอบคุณค่ะ

ขอถามเพิ่มหน่อยนะคะ  ขอบคุณมากค่ะ

๑. มานี่เดี๋ยวแม่จะเปลี่ยนสำลีให้มันสกปรกมากแล้ว come on then mommy chang the cotton wool because it very dirty.

๒. แม่ดึงสำลีออกให้ก่อนแล้วเดี๋ยวเปลี่ยนสำลีอันใหม่ให้

๓. เฮ้อ !ยุ่งยากจริง ๆ เลยลูกแม่ ทำไมไม่ยอมไปหาหมอฟัน มันไม่น่ากลัวหลอกลูก ลองไปหาหมอฟันอีกครีั้งไหม๊ลูก

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service