หม่ะม๊าเฟิงกี้'s Comments

ยืนดีที่รู้จักค่ะ

ลี่ ค่ะ แม่น้องมีมี่ :) จะอายุครบ 3 ขวบอาทิตย์หน้าแล้ว

น้องเฟิงกี้ น่ารักจังน่ะค่ะ อายุเท่าไรแล้วค่ะ

ค่ะ เห็นด้วยว่าต้องคิดไปถึงอนาคตว่าเราจะให้ลูกเรียนแนวใหนจะได้เลือโรงเรียนที่เหมาะสมกับเค้าได้ เหมือนอย่างเช่น ถ้าจะให้อยู่ โรงเรียนนานาชาติ อันนี้ก็น่าจะยาว ส่วนตัวกุลเองก็จะดูเป็นช่วงๆค่ะ คือตอนี้ถ้าอยู่หาดใหญ่ ก็คงเป็นวรพัฒน์ ไปจนถึงป.6 ก่อน ส่วนตอน ม.1 นั้นค่อยมาว่ากันอีกที เพราะไม่รู้ว่าจะยังอยู่หาดใหญ่ หรือ จะย้ายไปกทม ยังงัยก็แล้วแต่ กุลอยากให้ลูกได้มีประสพการณ์ในการใช้ชีวิตเยอะๆ แบบว่าเอาตัวรอดได้ในสังคมปัจจุบัน รู้เท่าทันคน รู้ถูกรู้ผิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังตั้งแต่เล็กๆ เหมือนสร้างเกราะคุ้มกันให้เค้า ทีนี้ถ้าเค้าแข็งแรงในเรื่องเหล่านี้ อยู่ที่ใหนก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก กุลเองไม่อยากให้ลูกต่อ มอ. เพราะเหตุผลข้างบนนั่นแหละค่ะ อยากให้เค้าได้เจออย่างอื่นบ้าง เหมือนกุลเอง ก็ธิดา จนจบ ป.6 จากนั้นก็ต่อโรงเรียนรํฐบาล (หาดใหญ่วิทยาลัย) ตอน ม.4 อยากไปสอบเตรียมอุดมมาก แต่ก็ไม่ได้ไป สุดท้ายก็สอบเทียบ ม.5 แล้วก็ไปต่อ ABAC แล้วก็ทำงาน แล้วก็ไปเมืองนอก เราก็รู้สึกว่า ดีเหมือนกันจะได้มีการเปลี่ยนบรรยากาศ เจอเพื่อนใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ก็เลยอยากให้ลูกเค้ามีโอกาสแบบนี้แทนที่จะอยู่กับสิ่งแวดล้อมเดิมๆเป็นเวลานาน กุลเองเป็นเด็กหาดใหญ่ แต่ก็คิดว่าโชคดีที่เรามีโอกาสได้ไป ที่อื่นๆบ้าง ถ้าให้อยู่แต่หาดใหญ่ ตั้งแต่เกิด จนโต จนทำงาน จนแต่งงาน ชีวิต หรือ ความรู้สึกต่างๆคงจะเป็นอีกแบบนึง คงไม่ใช่ในอย่างปัจจุบัน ส่วนตัวกุลรู้สึกว่าถ้าอยู่แต่ในหาดใหญ่ มุมมอง หรือ ทัศนคติๆต่างๆจะค่อนข้างแคบ เพราะทุกๆอย่างมันมีจำกัด อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวจริงๆนะคะ คนอื่นอาจจะไม่ได้คิดแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับมาอยู่หาดใหญ๋ ก็ตอนมีแพรวนี่แหละ ที่คิดว่าอย่างน้อยช่วงตอนเด็กๆ อยู่ที่นี่มันอบอุ่นกว่า มีทั้งคุณตาคุณยาย มีเวลาทำนู่นนี่ด้วยกันเยอะกว่า แต่พอแพรวโตขึ้นก็อยากให้เค้าได้ไปดูโลกกว้างน่ะค่ะ เหมือนล่าสุดเมื่อตอนต้น พ.ย. ก่อนน้ำท่วมก็พาแพรวไปกทม ไปอยู่ค่าย Mad Science อาทิตย์นึง กุลเองก็กำลังมีน้องคนที่สอง พอจะยังมีกำลังพาไปได้ก็ไปก่อน กลัวว่าเด๋วน้องออกมาจะพาแพรวมาลำบากขึ้น แต่ปรากฏว่าเค้าชอบมาก เค้าบอกปิดเทอมใหญ่จะมาอีก กุลก็บอกว่าถ้าจะลำบากเพราะตอนนั้นน้องเพิ่งจะ 3 เดือนเอง เค้าบอกว่าไม่เป็นไร จะขึ้นเครื่องบินมาเองก็ได้ ให็แอร์เค้าคอยดุแล คือเคยเล่าให้เค้าฟังน่ะค่ะ ว่าถ้าเด็กเล็กเดินทางคนเดียวจะทำได้อย่างไร แล้วแพรวก็บอกต่อว่าพอถึงสนามบินก็ให้เพื่อนแม่มารับ แล้วเค้าจะไปอยู่กับเพื่อนแม่ จะได้เล่นกับพี่รุธกับพี่ภู คือไปเที่ยวนี้ไปเจอลูกๆเพื่อนๆด้วยแล้วเล่นกันได้ก็เลยติดใจ กุลเลยบอกไปว่า ได้ถ้าลูกทำได้ ไม่งอแงคิดถึงแม่ แม่ก็อนุญาตให้ไป

กุลกับสามีก็จะประมาณนี้น่ะค่ะ คือจะพยายามส่งเสริม สนับสนุนให้เค้ากล้าในสิ่งที่ควร น่ะค่ะ 

โอย กุลว่าถ้าจะคุยกันเรื่องลูกล่ะก็ยาวจริงๆค่ะ ไว้คุณเอ๋มาหาดใหญ่เมื่อไหร่ ไว้นัดเจอคุยกันก็ได้นะคะ ยินดีค่ะ 

กุลเองก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย เพียงแต่โชคดีที่ลูก ค่อนข้างเลี้ยงง่าย แล้วก็เป็นตัวของตัวเอง กล้าแสดงออก เราก็แค่คอยสนับสนุน และ แนะนำเค้าน่ะค่ะ

เข้าใจเป็นอย่างดีค่ะคุณเอ๋ ที่บ้านคุณตาคุณยายก็อยากให้ไปธิดา ลุ้นมาตั้งแต่ตอน อ.1 แต่บังคับกุลไม่ได้ ไม่ยอมซะอย่าง พอตอนนี้แพรวจะขึ้น ป.1 ก็ไป ไซโคกับหลานแทน  ได้ผลด้วยนะ เพราะมีอยู่วันนึงหลังจากไปเที่ยวเล่นกับตายาย กลับมาบ้านบอกว่า ขึ้นป.1 แพรวอยากไปอยู่ธิดานะแม่ถามว่าทำไม เค้าก็เล่าให้ฟัง แล้วบอกว่าคุณยายบอก กุลเลยต้องกลับมาไซโคลูกอีกรอบ เมื่อหลายวันก่อนคุณตาเองก็ยังบ่นอุบว่าทำไมไม่ไปธิดา พาลจะหาเรื่องทะเลาะ กุลเลยแบบว่าหลบฉากไปไกลๆไม่พูดด้วย

เท่าที่เห็นเด็กธิดาที่ภาษาคิดนะคะ ส่วนใหญ่ตอนเด็กๆก็ร่าเริงดี ช่างพูดคุย พออยู่ประถมไปซักพัก ก็เริ่มเงียบ เรียบร้อย ถามคำตอบคำ และเป็นแบบนี้เยอะ ยกเว้นอยู่ไม่กี่คน แต่ถ้าตามไปดูก็จะพบว่าพวกที่เรียบร้อยมากๆจะเป็นเด็กที่เรียนเยอะมากๆๆ ย้ำเยอะจริงๆ กุลเคยมีลูกศิษย์ เจอเค้าตั้งแต่ ป.1 ปัจจุบัน ป.4 แล้ว อาทิตย์นึงเรยนพิเศษ 12-13 แห่งน่ะค่ะ ฟังแล้วจะเป็นลม แต่ว่าเค้าทำมาจนชินซะแล้ว วันใหนไม่ไปเรียน ไม่รู้จะทำอะไร เค้าบอกว่าเค้าเองก็เล่นไม่เป็น ถ้าอยู่ว่างๆก็ไม่รู้จะเล่นอะไร ปัจจุบันมาเรียนกับกุล กุลเลยสอนเค้าเล่นไปด้วยเลยค่ะ 

แต่ก็อีกนั่นแหละค่ะ อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่เป็นอย่างนี้ แต่เท่าที่เห็นเด็กธิดาที่เรียน เก่งมักจะเป็นอย่างนี้ 

กุลเลย เน้นที่ลูกมากกว่าอยากให้เค้ามีความสุข สนุกสมวัย วิชาการก็เสริมๆ สอนๆกันไปตามวัยและเวลาที่เราพอจะทำให้กับเค้าได้ กุลถือว่าค่อนข้างโชคดีที่แพรวเป็นเด็กเรียนรู้เร็ว และมีความจำที่ดี เป็นเด็กช่างสังเกตุ และ ช่างซักถาม สนใจในทุกๆเรื่อง ถามจนบางครั้งแม่ยังหาคำตอบไม่ได้ ก็ต้องไปค้นหา มาตอบ

ก็ลองดูนะคะ แบบว่าคนหาดใหญ่ยังยึดติดกับธิดา แสงทองอยู่อย่างมากๆน่ะค่ะ ก็คงเหมือนที่กรุงเทพ๐มั้งคะ ต้องสาธิตจุฬา เตรียมอุดม หรือ ไม่ก็โรงเรียนในเครือเซนต์ๆทั้งหลาย 

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ พอดีไปทำงานหลายวันไม่ได้เข้ามาเลยค่ะ

ขอโทาที่ให้รอนานนะคะ

ขอบคุณมากที่มาเป็นเพื่อนกันนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ปัญหาคือ upload ขึ้น youtube ไม่ได้อ่ะค่ะ --" รอต่อไปค่ะ

ค่า เท่าที่เห็นเด็กจากโรงเรียนธิดานะคะ เค้าเรียนกันเยอะจริงๆ ตั้งแต่อนุบาลกันเลย ทั้งเลข ไทย อังกฤษ เพราะว่าเด็กที่ภาษาคิดส่วนใหญ่จะมาจากธิดา กุลเองก็เป็นเด็กธิดาเก่านะคะ แต่ก็ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป กุลเห็นเด็กๆทุกวันนี้พอเริ่มเข้า ประถมปลายต้องเรียนกันอย่างหูดับตับไหม้ ต้องติวสอบเข้า ต้องเรียนเนื้อหาล่วงหน้า บางคนเรียนป.5 แต่ เรียนเนื้อหาล่วงหน้าไปถึง ม.2 ละ

ที่เป็นแบบนี้เพราะในหาดใหญ่ โรงเรียนระดับ มัธยมต้นมีให้เลือกน้อย เด็กจบป.6 มากกว่า การแข่งขันก็เลยสูงมากๆ เห็นแล้วก็ยังเป็นห่วงว่าพอถึงลูกเรา จะเป็นยังงัยบ้างเนี่ย

กุลเลยไม่อยากให้ลูกเครียดตั้งแต่เด็กๆน่ะค่ะ แล้วก็เป็นอย่างนี้จริงๆ กุลไม่เคยให้ลูกต้องมานั่งคัดลายมือตามเส้นประไม่ว่าจะเป็นตัวเลข ภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียนก็ไม่ได้เน้น แต่สุดท้ายแพรวก็เขียนได้เอง ส่วนเรื่องอ่านภาไทยก็เหมือนกัน ตอนแรกก็หนักใจว่าลูกจะอ่านหนังสือออกมั๊ยเพราะไม่เคยสอน ได้แต่อ่านหนังสือให้ฟังกันทุกคืน โรงเรียนก็ไม่ได้เน้น สุท้าย แพรวก็อ่านเองได้ และดีเสียด้วย ก็เลยเป็นบทพิสูจน์สำหรับลูกเราว่าเรามาทางนี้ก็เหมาะสมกับเค้าแล้ว 

คือกุลจะเอาลูกเป็นตัวตั้ง จะไม่พยายามไปเปรียบเทียบกับใคร หรือ จากโีรงเรียนใหน คือเท่าเราพอใจในผลลัพธ์ที่ลูกเป็นในปัจจุบัน ในวัยขนาดนี้ ก็โอเคแล้วน่ะค่ะ แต่ต้องบอกตรงๆ พ่อแม่บางคน ชอบเปรียบเทียบว่าลูกเราทำไมไม่ได้เหมือนลูกคนอื่น ทำไมโรงเรียนนี้สอนไม่เหมือนโรงเรียนนั้น ก็เป็นจบ เราก็ต้องดิ้นรน เป็นทุกข์เปล่าๆนะกุลว่า สงสารเด็กด้วย กุลมีเด็ก หลายคนด้วยนะคะ อยู่ อนุบาล 3  ป.1 แต่เรียนพิเศษเยอะมาก จนไม่มีเวลาไปเล่นตามวัยของเค้า 

ยาวค่ะถ้าจะคุยกันจริงๆเพราะกุลว่าแต่ละคนก็จะมีจุดหมาย หรือ ความคาดหวังจากลูกที่ต่างกันไปเนอะ แล้วตอนนี้ เอ หม่ะม๊าเฟิงกี้ ชื่ออะไรคะ  ตอนนี้อยู่ที่ใหนเหรอคะ มาหาดใหญ่หรือยังคะ 

ค่ะ ในตอนแรกตั้งใจว่าจะ Homeschooling ให้ลูก เพราะตอนที่ลูกเกิดยังไม่ค่อยมีข้อมูลของโรงเรียนเท่าไรนัก ก็เลยตั้งใจแบบนั้น ก็อ่านหนังสือเอาว่าช่วงวัยใหนควรเตรียมความพร้อมเรื่องอะไร ก็ทำมาตลอด ส่วนภาษาอังกฤษก็พูดกันมาตั้งแต่เกิดนั่นแหละค่ะ แล้วก็ต่อด้วย Phonics ตอน 1.5 ขวบ แล้วก็อื่นๆก็สอดแทรกไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง พอลูกมาครบ 3 ขวบเข้าจริงๆ มีโรงเรียนเปิดใหม่ชื่ออนุบาลในฝัน เป็นโรงเรียนเทศบาลแนวใหม่ concept ใหม่ facilities ก็ใหม่ ไม่เหมือนดรงเรียนเทศบาลอื่นๆ เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เลยให้ลูกไปลองสอบดู อีกอย่างเค้าก็ไม่ได้เน้นวิชาการมากมาย เน้นเตรียมความพร้อม ข้าวของเครื่องใช้ก็แบบว่าดี ห้องเรียนน่ารัก ไม่เหมือนกันซักห้อง เป็นห้องเรียนตาม Theme เช่น ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องสุนทรีย์ศาสตร์ ห้องศิลปะ และอื่นๆรวม 8 ห้อง พอลูกสอบได้ก็ตั้งใจให้เรียนที่นีจนจบ อ.3 ค่าเทอมก็ถูกแสนถูก ปีละ 6000 บาท แล้วพอแพรวเค้ามีทักษะภาษาที่ดีก้ได้รับเลือก ไปนู่นนี่ เป็นตัวแทนโรงเรียนบ่อยๆ เราก็คิดว่าดีเหมือนกัน ลูกจะได้ฝึกตั้งแต่เด็กๆ แล้วเค้าเป็นโรงเรียนใหม่ต้องการจะโปรโมทอยู่แล้วด้วย อีกอย่างเค้าบอกว่าเค้าเป็น 2 ภาษา ก็เลยต้องมีเด็กที่พูดได้ ฟังได้ ไปโชว์ นิดนึง

แต่บังเอิญน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว โรงเรียนท่วมหนักมาก ห้องเรียนเสียหายเยอะ  กุลให้ลูกหยุดเรียนไปเป็นเดือน เพราะเหม็นอับ สกปรก ตอนแรกคุยกับที่โรเรียน เค้าก็ไม่ว่าอะไร อนุญาตให้แพรวหยุดได้ จะกลับมาเรียนอีกเมื่อไหร่ก็ได้ ทีนี้บังเิญมีอยู่วันนึงมีผู้ปกครองที่ ภาษา คิด (โรงเรียนของกุลน่ะค่ะ) เค้าแนะนำที่วรพัฒน์ ก็เลยไปลองคุยดู ก็ไม่คิดว่าจะได้เข้า เพราะเปิดเทอมมาเดือนกว่าแล้ว แล้วเพิ่งจะขอย้าย แต่ก็โชคดีด้วยว่าพอดีมีที่นั่งว่างเหลือ อยู่ 1 ที่พอด๊ เค้าก็เลยรับ ประกอบกับไปคุยแล้ว เป็นแนวทาง และบรรยากาศตรงกับสิ่งที่เราอยากได้ก็เลยให้แพรวเรียนที่นี่ ป.1ก็คงให้อยู่ที่นี่แหละค่ะ

ส่วนแนวทาง Waldorf คืออะไร แบบว่า ลองอ่านดูตาม link ดีกว่านะคะ  

http://www.tridhaksa.ac.th/school/waldorfedu.htm

http://www.qkid.net/board/question.asp?QID=1009

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=504925

อีกที่คือโรงเรียนปัญโญทัย ถ้ากุลอยู่กทม คงให้ลูกไปเรียนที่นี่อ่ะค่ะ ชอบค่ะ 

วันนี้เขียนยาวนิดนะคะ 

ชื่อ บี นี่ก็โหลไม่แพ้กันค่ะ  อิอิ  ตอนนี้น้องเฟิงกี้คงพูดแจ๋วเลยนะคะ น้องฮันกำลังหัดค่ะ เรียกยายว่า  "แม่"   แล้วเวลาเรียกแม่นี่สิคะ.. จะเรียกว่าไง?  ลูกสาวติดคุณยายมากเลยค่ะ  อัพคลิปเยอะๆ นะคะ รอดูค่ะ

แพรวเรียนอยู่ที่โรงเรียนวรพัฒน์ ค่ะ เป็นโรงเรียนแนวทางเลือก ซึ่งในหาดใหญ่มีไม่กี่โรงหรอกค่ะ เค้าใช้แนว Waldorf ค่ะ ซึ่งตัวกุลเองไม่อยากให้ลูกเครียดตั้งแต่เด็กๆก้เลยเลือกโรงเรียนแนวนี้ค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่นะคะ ถ้าเป็นพวกแนวเข้มข้น ก็จะเป็นโรงเรียนธิดานุเคราะห์ สุวรรณวงศ์ ศรีสว่างวงศ์

แล้วก็พวกที่เน้น แบบเตรียมความพร้อม ก็จะมีทวีรัตน์ วรพัฒน์ นกฮูก นครหาดใหญ่ ณ สุวรรณ์วงศ์

อนุบาลในฝัน 

เด็กส่วนใหญ่ ที่ผู้ปกครองฐานะปานกลางขึ้นไป ก็มักจะไปเรียนกันที่ 3 โรงเรียนแรกน่ะค่ะ กุลแนะนำว่าอาจจะต้องเข้าไปคุยแต่ละโรงเรียนดูน่ะค่ะ

ดูคลิบการพัฒนาสองภาษา ของน้องเร็วนะคะ  ที่สำคัญรู้สึกว่าน้อง จะมีสมาธิดีเลยทีเดียว  คุณแม่ มีเวลากับน้องตลอดมั๊ยคะในแต่ละวัน  เพราะน้องไปได้เร็วจริงๆๆ  หรือมีเทคนิดแบบไรบ้างเอ่ย  แนะนำด้วยนะคะ

ขอโทษค่ะ ที่ตอบช้า เห็นบอกว่าจะเอาน้องมาอยู่โรงเรียนทีหาดใหญ่ ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่หาดใหญ่เหรอ คะ 

เด๋วรออีกแป๊บเนอะค่อยมาเรียน ยังงัยแวะมาคุยกันก่อนก็ได้นะคะ 

สวัสดีค่ะคุณแม่น้องเฟิงกี้ กุลรับตั้งแต่อนุบาล 2 ค่ะ สำหรับ Phonics นะคะ แต่ว่าตอนนี้มีกลุ่มของคุณเม่ย ทีเค้าจับกลุ่มกันสำหรับกลุ่มเด็ก 2 ภาษา อยู่ 3 คนมาเรียนเพิ่มกับครูชาวฟลิปปินส์ที่ภาษาคิด จริงๆแล้วก็คือเพื่อเพิ่มชั่วโมงในการพูดภาษาอังกฤษให้กับเด็กให้มากขึ้นนอกเหนือจากคุณแม่ที่พูดอยู่แล้ว และเห็นว่า พเวลาเด้กๆไปโรงเรียนแล้วพูดภาษาอังกฤษน้อยลงน่ะค่ะ กลุ่มนี้คืออนุบาล 1 ยังงัยถ้าสนใจจะมาแจมก็ได้นะคะ

สวัสดีค่ะ หม่ะม๊าเฟิงกี้   แนะนำตัวก่อนนะคะ  ชื่อ บี ค่ะ หรือ แม่น้องฮัน ติดตามคลิปน้องเฟิงกี้หลายคลิปแล้วค่ะ น่ารักทั้งคุณแม่ คุณลูก ยังไง บีขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

555 ไม่เลยจ้า คนละรุ่น หลายปีเลยทีเดียว T T แม่เม่ยเกิด 18 จ้า อิอิ แก่แระ เรียกพี่เม่ยได้เลยจ้า เด๋วจะไปรับแอดเฟสบุ๊คนะ มีไรคุยกันได้จ้า น้องเฟิงกี้น่ารัก ชื่อก็น่ารักด้วย

สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ หวังว่า คงได้มีโอกาสเจอกันนะคะ เม่ยอยู่แถวคลองเรียน 2 จ้า

ยินดีที่ได้รู้ัจักจ้ะ 

สนใจสื่อการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ และ จีน แวะที่นี่ได้จ้ะ

www.chinesekiddybook.pantown.com

ขอบคุณมากจ้ะ 

พี่ธี

081 697 2672