All Blog Posts (2,651)

15 วันแล้ว หลังจากที่เริ่มใช้ภาษาอังกฤษเต็มเวลากับลูกชายวัย 2.11 ขวบ  เดือนหน้าก็จะครบ 3 ขวบแล้วคับ

ตอนนี้สตางค์ทำตามคำสั่งง่าย ได้แล้ว โดยเราพูดประโยคภาษาอังกฤษโดยไม่มีการแปล แต่ใช้การบ่งชี้โดยการแสดงออกให้เห็นว่า เรากำลังพูดถึงสิ่งนี้อยู่นะ เช่น Wash you hair ก็สระผมให้ลูกไปแล้วพูดไป สระผมครั้งต่อมาสตางค์ก็ทำได้โดยทันที

ลองมาดูคำสั่งง่ายๆ ที่สตางค์ทำตามได้แล้วนะคะ

-  Wash/Clean your hair/ hand/ finger/ foot/ knee/ stomach/ ass/ pikajoo…

อ่านเกี่ยวกับเรื่องการพูดอังกฤษโดยที่ไม่แปลให้ลูกฟังน่ะค่ะ

คือว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา  สอนภาษาอังกฤษลูกในเวอร์ชั่นผิดๆมาตลอด

คือสอนแปลทุกคำของภาษาอังกฤษ  และก็สอนเป็นคำศัพท์  สอนปนกับไทย

(ซึ่งผิดวิธีการทุกสิ่งอย่าง)  พึ่งมาเจอ web นี้ตอนลูกอายุ 2.8 ขวบแล้ว

พอเริ่มพูดเป็นประโยค (ประมาณ 1 อาทิตย์แล้วค่ะ)  ลูกก็จะขอให้พูดไทย  และก็ขอให้แปลให้ทุกครั้ง

แม้ว่าแม่พยายามจะใบ้คำให้ต่างๆ นานา  แต่ลูกก็ไม่เข้าใจ  พาลจะร้องไห้ซะงั้น…

คุณพ่อคุณแม่ท่านใดมี app ดี ๆ บน ipad สำหรับเด็ก 3 ขวบแนะนำบ้างไหมค่ะ อยากหาให้ลูกเล่นบ้างค่ะ

สวัสดีค่ะคุณบิ๊ก  ตอนเริ่มสอนน้องอายุ 1.9 ปี ผ่านมาได้ 2 เดือน แล้วค่ะ ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ลูกไม่ต่อต้านในขณะที่พูดไทยได้คล่องแล้ว ชอบดูคายุมาก ๆ พูดตามและทำตามประโยคคำสั่งได้  เมื่อวันที่ 1 ก.ย.นี้เอง น้องเริ่มพูดติดอ่างในโหมดภาษาไทยอย่างมาก มีใครเป็นอย่างน้องบ้างค่ะ แล้วจะหายไหมคะ ตอนแรกก็ตลกกับพฤติกรรมลูก ตอนนี้เริ่มร้อนใจแล้วค่ะ

บ่มพลังเพื่อลูก ตอน 1

http://www.youtube.com/watch?v=_GRa8E74_LY&feature=related

บ่มพลังเพื่อลูก ตอน 2

http://www.youtube.com/watch?v=rL4F-mUiqjo

บ่มพลังเพื่อลูก ตอน 3…

วันนี้ทำงานดึกหน่อย ด้วยความที่ตัวแสบป่วน เรยไม่ค่อยได้นั่งซักเท่าไหร่ ... หลังจากที่เดิมที่เริ่มสอนลูกแบบ OPOL เพราะคิดว่าเราทำงานที่บ้าน น่าจะมีเวลาให้ลูกได้ทั้งวัน แต่... ก็นะ ยุ่งซะยิ่งก่าเข้า office ซะอิก เลยปล่อยวางเรื่องที่จะกดดันตัวเอง ปรับเป็น พูดกับลูกช่วงไหนก็ได้ที่อยากพูด เพราะใส่กับเค้ามาตั้งแต่ 1 ขวบแร้ว เค้าเริ่มคุ้นกับหลายๆ คำ เพียงแต่แม่เองก็ยังไม่เต็มที่เรื่องภาษา เพราะไม่เก่งเหมือนเดิม ...

ณ ปัจจุบัน อิ๊งค์เริ่มปล่อยมาเป็นระยะๆ เห็นแล้วมีกำลังใจที่จะทำต่อ…

หนึ่งปีเต็มแล้วค่ะ ที่แก้วกับน้องโอมเริ่มฝึกการใช้ภาษาอังกฤษกัน ตอนเริ่มต้นก็งูๆ ปลาๆ กระท่อนกระแท่นกันทั้งแม่ทั้งลูก แต่พอนานเข้าก็ได้มีโอกาสเข้าเวิร์คช็อบกับผู้ใหญ่บิ๊ก และได้เข้ามาค้นหาอ่านข้อมูลจากเว๊ปเด็กสองภาษาด้วย ข้อมูลต่างๆ ที่ได้ไปนั้น ก็พัฒนาเราสองคนเรื่อยๆ ค่ะ .....จนวันนี้ก็เลยขอ update พัฒนาการของน้องโอมค่ะ แก้วไม่ได้มา update พัฒนาการของน้องโอมมาสักระยะหนึ่งแล้วเพราะงานเยอะมาก บวกกับว่าแพ้ท้องด้วย…

แม่ข้าวหอมทำงานประจำไม่ได้เลี้ยงน้องเองเต็มเวลาเลยเลือกใช้ระบบ OTOL มาได้เกือบๆสองเดือนแล้วตั้งแต่น้องได้ 5 เดือนโดยพื้นฐานแม่ภาษาไม่ดีเลยค่ะ เริ่มจากคำศัพท์เลยค่ะ การใช้ภาษากับน้อง แม่จะเป็นคนพูดภาษากับน้องคนเดียว พ่อกับตากับยาพูดภาษาไทยค่ะ ที่ทำแบบนี้ก็คาดหวังว่าอยากให้น้องหัดมาพูดอังกฤษกับแม่แบบธรรมชาติ ไม่รู้ว่าจะได้หรือป่าวค่ะเพราะน้องยังไม่พูด ความตั้งใจก็จะพูดกับน้องไปเรื่อยๆเท่าที่แม่ได้ นิดทำแบบนี้จะได้ผลหรือป่าวค่ะ คุณแม่ท่านไหนใช้ระบบแบบนี้บ้างช่วยแนะนำด้วยค่ะ…

ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกที่ได้รู้จักวิธีสอนภาษาอังกฤษแบบเด็กสองภาษา ครอบครัวเราก็ตั้งใจจะสอนภาษาอังกฤษลูกอยู่แล้วแต่สอนแบบผิด ๆ คือแบบแปล พอได้เข้ามาศึกษาวิธีการได้อ่านหนังสือครูบิ๊กทุกเล่ม เข้าเว็บ ความตั้งใจสูงมาก โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นการกดดันตัวเองอย่างแรง พอเราไม่สามารถพูดกับลูกอย่างที่เราต้องการได้ทำให้เครียด คิดจะล้มเลิกหลายครั้ง แต่โชคดีที่ได้รู้จักครูติ๋มในหมู่บ้านเดียวกันให้คำปรึกษาได้ดีมาก สอนพูด สอนให้คิด สอนให้กล้า ก็เลยมาลดระดับความเครียดลง ทำไปเรื่อย ๆ เพราะเราไม่เก่งอยู่แล้ว…

                หลังจากเริ่มสองภาษากับเก้าตั้งแต่ขวบครึ่ง ตอนนี้น้องเก้า 1 ปี 8 เดือนแล้วค่ะ ระยะเวลา 2 เดือน น้องเก้าก็พัฒนาไปตามวัยได้ดีค่ะ  รู้จักคำศัพท์ต่างๆมากขึ้น(แฟนบอกว่าน้องเก้ารู้เท่าที่แม่รู้น่ะค่ะ เนื่องจากแม่ไม่เก่งภาษาเลย จึงเริ่มเรียนพร้อมลูกจริงๆ)  ถ้าอาร์ตถาม What's this? เก้าก็ตอบเป็นภาษาอังกฤษได้ แต่จะตอบแค่ชื่อสิ่งของค่ะ เช่น umbrella ,microwave, bottle จะไม่ตอบเป็นประโยค  รู้จักตอบคำถาม Yes No แล้ว แต่สวนใหญ่จะตอบ No (ถ้าถามภาษาไทยส่วนใหญ่ก็ตอบ "ไม่" เหมือนกันค่ะ)…

ตั้งแต่มิคกี้เกิดมา ปาป๊าก็ตั้งใจว่าอยากให้นู๋ฟังและพูดภาษาอังกฤษได้ โดยเริ่มซื้อหนังสือเด็ก 2 ภาษามาอ่าน แล้วก็เอามาให้มาม้าอ่านช่วงอยู่ในเดือน ซึ่งป๊ากับม้าเห็นตรงกันว่าดีมากๆ อยากให้ลูกเป็นเด็ก 2 ภาษา แต่แรกๆ มาม้าสับสนมากว่าเราควรจะพูดแบบไหน จึงพูดปนกันทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีนแต้จิ๋วบ้าง ซึ่งบางครั้งตัวเองก็ยังสับสนเอง หลังๆ เริ่มจับทางได้ว่าเอาแบบนี้ละกัน ปาป๊ามีหน้าที่พูดภาษาอังกฤษกับลูก ส่วนมาม้าจะพูดภาษาไทย หลังจากนั้นก็เริ่มดีขึ้น แต่ยังมีบางครั้งที่มาม้าก็เผลอพูดภาษาจีนกับนู๋บ้าง…

ตอนที่ผมพาน้องเพชรไปเข้าเรียนที่ศูนย์เด็กเล็ก ครูบอกว่าที่นี่มีเพิ่มค่าสอนภาษาอังกฤษ 200 บาท สำหรับครูต่างชาติ ซึ่งเป็น ครูฟิลิปปินส์ ผู้หญิง แต่ตอนนี้มีปัญหาตรงที่เด็กบางคนกลัว Teacher เพราะ Teacher ไม่พูดภาษาไทย ทำให้เด็กบางคน งง ไม่เข้าใจ และต่อต้าน  ปัจจุบันน้องเพชรอยู่กับตายาย ซึ่งพูดไทยด้วยกันทั้งคู่ ล่าสุด โทรศัพท์คุยกับน้องเพชร น้องเพชร ร้องเพลงให้ฟัง ไม่รุ้ว่าเพลงอะไร แต่ร้องแบบนี้ Good morning Good morning How are you How are you I'm fine.....ประมาณนี้น่ะครับ น้องเพชรเพิ่งสองขวบ…

คืนนี้น้องโป้ยเลือกหนังสือแล้วปีนขึ้นมาบนเตียงตามปกติ

ยื่นให้แม่อ่านหนึ่งเล่ม น้องโป้ยอ่าน(มั่ว)เองหนึ่งเล่ม

หากแม่ชำเลืองมอง ก็จะถูกต่อว่า "แม่บุ๋มอ่านของแม่บุ๋มไปสิ อย่ามาอ่านของโป้ย"

หูยยยย.......ก็แม่อยากมีส่วนร่วม..อ่ะนะ.....

แม่ : "Please teach me to read the book, I'll say after you"

แล้วน้องโป้ยก็ค่อยๆสอนแม่บุ๋มไปทีละหน้าๆ "duck (จำได้ติดหูติดตาแม่ ว่านี่คือตัวแรกที่ลูกอ่าน) ,dog, elephant, bird, batman(แต่มันคือรูปค้างคาวนะ), monkey, tiger, lion,…

ตอนนี้ลูกสาวอายุ 5 ขวบกว่าแล้ว เริ่มสอนไปได้ประมาณ 3 อาทิตย์เขาก็รู้สึกชอบแต่มาอาทิตย์นี้ไม่ยอมท่าเดียวเวลาแม่พูดภาษาอังกฤษ สอนลูกตอนนี้จะเริ่มยังไงดีค่ะ ใครมีประสบการณ์ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

คุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ 1.2 ขวบ ตอนนี้ก็2ขวบแต่แล้วแต่เรายังไม่ไปถึงไหนกันเลยรู้สึกว่าภาษาอังกฤษของแม่จะตามหลังภาษาไทยของลูกมาก ตอนนี้เลี้ยงลูกเองอยู่ด้วยกัน 2 คน พ่อทำงานต่างจังหวัด ต้องจัดการอะไรกับลูกเองทุกอย่าง…

                     สมาชิกใหม่ อยาก เล่าเรื่องความเป็นมาของตัวเองค่ะ ว่าทำไม ถึงอยากให้ลูกพูดได้สองภาษา จริง ๆแล้ว อ่านเว็ปไซด์นี้มานานแล้วตั้งแต่ตอนหา หนังสือ เพื่อเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ ตอนตั้งท้อง เมื่อสักประมาณ มกราคม 2010 พอดีหาหนังสือ แล้วก็ ผ่านสายตาแว๊ปๆ แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อทันที เพราะตอนนั้นอยากได้หนังสือดูแลตัวเองตอนท้องมากกว่า แต่ใจก็คิดไว้แล้วว่าจะซื้อ ตอนหลัง แต่สิ่งที่จุดประกายความคิดจริง ๆ แล้วก็คือ หนังสือ กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้วที่อ่านมาตั้งแต่สมัยเรียน…