ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)'s Posts - หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้
2024-03-29T05:17:39Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1959289678?profile=RESIZE_48X48&width=48&height=48&crop=1%3A1
http://go2pasa.ning.com/profiles/blog/feed?user=33t2nng91tohl&xn_auth=no
2เดือนของการกลับมาเอาจริงอีกครั้ง
tag:go2pasa.ning.com,2011-06-22:2456660:BlogPost:715354
2011-06-22T06:09:37.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
<p>ป้อพยายามสร้างให้อิงอิงเป็นเด็กสองภาษามานานนนนมากกกค่ะ ทำๆหยุดๆอยู่หลายครั้งตั้งแต่อิงอิงอายุ 2.4 ปี จนตอนนี้ 4.2 ปีแล้ว...เสียดายเวลามากมายค่ะ แต่แล้วก็กลับมาสานต่ออีกครั้งหลังจากเห็นหลายๆบ้านทำสำเร็จ โดยเฉพาะน้องฟ้าใสของคุณอ้อและน้องอิ่มของแม่เหมี่ยว ที่ทำได้อย่างน่าชื่นชมมั่กๆเลย</p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-3" style="color: #000080;"><strong>เริ่มกันอีกครั้ง 18 เมษา 2554...มาเพิ่มความถี่กัน</strong></span></p>
<p>จากเดิมที่พูดบ้างไม่พูดบ้าง…</p>
<p>ป้อพยายามสร้างให้อิงอิงเป็นเด็กสองภาษามานานนนนมากกกค่ะ ทำๆหยุดๆอยู่หลายครั้งตั้งแต่อิงอิงอายุ 2.4 ปี จนตอนนี้ 4.2 ปีแล้ว...เสียดายเวลามากมายค่ะ แต่แล้วก็กลับมาสานต่ออีกครั้งหลังจากเห็นหลายๆบ้านทำสำเร็จ โดยเฉพาะน้องฟ้าใสของคุณอ้อและน้องอิ่มของแม่เหมี่ยว ที่ทำได้อย่างน่าชื่นชมมั่กๆเลย</p>
<p> </p>
<p><span style="color: #000080;" class="font-size-3"><strong>เริ่มกันอีกครั้ง 18 เมษา 2554...มาเพิ่มความถี่กัน</strong></span></p>
<p>จากเดิมที่พูดบ้างไม่พูดบ้าง กลับมาอีกทีก็เลยต้องขอเพิ่มความถี่กันก่อนเลยค่ะ มาคราวนี้อิงอิงให้ความร่วมมือดีขึ้นเยอะค่ะ คงเพราะได้"แรงบันดาล"ที่โดนค่ะ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้อิงอิงก็จะยอมพูดตามป้อแต่โดยดีเลยค่ะ ก็พยายามเพิ่มเวลาที่พูดอังกฤษกับเค้า ณ ตอนนี้เค้าฟังได้พอสมควร แต่เรื่องศัพท์ป้อว่ายังรู้น้อยไปค่ะ ต้องเพิ่มคลังคำศัพท์ แล้วก็ต้องคอยพยุงการพูดให้เค้าค่ะ เพราะเค้าฟังรู้เรื่องแต่ไม่พูดค่ะ(หรือจะบอกว่าไม่รูัจะพูดยังไงมากกว่าน๊า)</p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-3" style="color: #3366ff;"><strong>ผ่านไป1เดือน...เริ่มมีอะไรออกมาให้ชื่นใจบ้างแล้ว</strong></span></p>
<p><strong>"I'm done!" ประโยคแรกๆที่อิงอิงพูดออกมาเอง</strong></p>
<p>ป้อพยายามพยุงการพูดปย.นี้มานานเป็นปีๆเลยค่ะ เวลาเค้าเข้าห้องน้ำเสร็จก็จะบอกให้เค้าเรียกเรา "Mommy, I'm done!" แต่ก็ไม่ยอมพูด จนพอมาเริ่มจริงๆจังนี่แหล่ะค่ะ อยู่มาวันนึงเค้าก็ตะโกนออกมาจากห้องน้ำ....พอได้ยินแล้วป้อแทบจะกระโดดติดเพดานเลยค่ะ อิอิ แล้วก็มีหลายๆครั้งที่เค้าพูดปย.นี้หลังจากกินข้าวเสร็จด้วยค่ะ</p>
<p><strong>"I forgot!" สั้นๆง่ายๆ แต่ไม่เคยสอนค่ะ</strong></p>
<p>ปย.นี้คงต้องบอกว่ามาจากการเลียนแบบโดยแท้เพราะป้อไม่เคยสอนเค้า แต่เพราะป้อขี้ลืมบ่อยก็จะอุทานปย.นี้บ่อยหน่อย คุณลูกสาวก็ซึบซับแล้วเอาไปใช้ได้เอง บ่ายวันนึงเค้าบอกว่าจะกินขนมหลังจากกินข้าว แล้วเค้าก็ลืม ป้อก็เลยถามเค้าว่าไหนบอกว่าจะกินขนมไง เค้าตอบมาว่า "I forgot!" ได้ยินแล้วก็อึ้งไปเลยค่ะ แล้วในวันเดียวกัน กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าว เค้าไม่รู้ว่ากับข้าวอันนี้คืออะไร เค้าก็ถามเป็นไทย "หม่าม๊าอันนี้อะไร" แล้วเค้าก็ตะโกนขึ้นมา "I forgot!" เราก็นึกว่าเค้านึกออกแล้วว่าเรียกอะไร แต่ไม่ใช่ค่ะ เค้าพูดต่อว่า I forgot "what is this?" แบบว่าลืมไปว่าต้องถามว่า What is this? อะค่ะ ก็ฮากันไปค่ะ...แม่ลูกหัวเราะกันคิกคัก</p>
<p><strong> " 's " การแสดงความเป็นเจ้าของ ที่ออกเสียงครบแทบไม่เคยขาดค่ะ</strong></p>
<p>ป้อก็ค่อนข้างงงกับการออกเสียง 's ในการแสดงความเป็นเจ้าของต่างๆของอิงอิงค่ะ ป้อไม่เคยเน้นแต่เวลาพูดก็คือพูดให้ครบให้ถูก แล้วพอถึงเวลาที่เค้าพูดตอบมาก็จะมีเสียง s ตามมาด้วยค่ะ</p>
<p> <span style="text-decoration: underline;">เหตุการณ์ที่1</span></p>
<p> ป้อ : where are we?</p>
<p> อิงอิง : หวั่วกง's house.</p>
<p> (หวั่วกง ภาษาแต้จิ๋วแปลว่า คุณตาค่ะ เวลาเรียกผู้ใหญ่ป้อยังให้เรียกเป็นแต้จิ๋วอยู่ค่ะ ไม่ได้ให้เรียกเป็นอังกฤษ)</p>
<p> <span style="text-decoration: underline;">เหตุการณ์ที่2</span></p>
<p> ตอนพาเค้าเข้านอน เค้ามาแย่งหมอนป้อ</p>
<p> ป้อ : This is mommy's pilliow.</p>
<p> อิงอิง: Inging's.</p>
<p> เถียงกันไปมาซักพัก เค้าก็ตอบมาว่า "mommy's pillow. share with Inging!"</p>
<p>เรื่อง 's เนี่ย หลายๆคนค่อนข้างทึ่งที่เค้าตอบได้ถูกต้องอะค่ะ งานนี้แม่ก็แอบยิ้มแป้นอยู่ในใจ...อิอิ</p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-3"><strong><span style="color: #3366ff;">ผ่านไป2เดือน...เริ่มได้ประโยคยาวขึ้น</span></strong></span></p>
<p>ป้อจะพูดกับลูกชายคนเล็ก(อี้หมิง 2.1ปี)เป็นอังกฤษมากกว่ากับพี่เพราะเริ่มตั้งแต่เค้ายังเล็กๆ อิงอิงก็มีซึมซับไปด้วย เวลาที่แม่สั่งน้องหรือดุน้อง พี่สาวก็จะร่วมด้วยช่วยกัน กลายเป็นได้ฝึกไปในตัว อย่างล่าสุดสองคนเข้ารพ. แล้วอี้หมิงงอแง ป้อก็แอบขู่ "I'll call the nurse to put กุ๊กไก่ on you if you don't sleep!" (กุ๊กไก่ คือหน้ากากที่พ่นยาค่ะ) ขู่ไปสามสี่รอบ คุณพี่ก็เอาบ้าง ลอกคุณแม่มาเกือบเป๊ะเลย " I call the nurse to put กุ๊กไก่ if you don't sleep!" ป้อกับแฟนแบบว่า งง..มาได้ยาวเลยยย </p>
<p>แต่บางทีก็ยังมีอะไรให้งงอยู่เหมือนกัน จริงๆคงเพราะเราพูดไม่ชัดเจน เค้าก็เลยฟังผิด ก็ต้องคอยระมัดระวังมากขึ้น อย่างเวลาขึ้นข้างบน ก็จะแข่งกันว่าใครถึงข้างบนก่อน เวลาอิงอิงถึงก่อน เค้าก็จะพูดว่า "I'm the first one" พอป้อถึงทีหลังป้อก็จะพูดว่า "Mommy is the second." เป็นการสอนเรื่องลำดับไปในตัว แต่อยู่ๆวันนึงอิงอิงก็บอกว่า "Mommy is paragon".....เอ่อ...ป้อก็งงสิค่ะ ลูกเราจะบอกอะไรเราน๊า คิดไปคิดมา เค้าคงฟัง the second เป็น paragon.....อันนี้ก็ต้องแก้ต้องปรับปรุงการพูดของแม่กันไปอะค่ะ</p>
<p> </p>
<p>ทั้งนี้และทั้งนั้น ที่อยากจะมาเล่าเรื่องของอิงอิงให้ฟังก็เพราะไม่อยากให้หลายๆบ้านที่ทำๆหยุดๆแบบป้อ ล้มเลิกการสร้างเด็กสองภาษาไป บางทีมันก็มีช่วงเวลาที่พร้อมและไม่พร้อมของแต่ละครอบครัว ถ้าถึงเวลาที่เราพร้อม ทุกๆอย่างมันก็จะไปเรื่อยๆเองค่ะ อย่าไปกดดันตัวเอง(ยอมรับว่าทีแรกก็กดดันเหมือนกัน เราใช้เวลานานมากแต่ก็ยังไม่ไปไหน ในขณะที่คนอื่นเค้าใช้เวลากันน้อยมาก) ขอเป็นกำลังใจให้อีกหลายๆครอบครัวนะค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้วเราก็จะเห็นผลงานที่เราพยายามสร้างขึ้นมาค่ะ</p>
ผลงานเล็กๆน้อยๆให้พอชื่นใจ
tag:go2pasa.ning.com,2011-04-06:2456660:BlogPost:637247
2011-04-06T16:58:25.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
<p><span class="font-size-3">ป้อเริ่มพูดอังกฤษกับอี้หมิงตั้งแต่เค้าอายุ 4เดือนครึ่ง ตอนนี้</span><span style="font-size: 16px;">อี้หมิงก็ 1ขวบกับ11เดือนแล้วววว....</span><span style="font-size: 16px;">เริ่มมีผลงานมาให้หม่าม๊าชื่นใจกับเค้ากันบ้างแล้วหล่ะค่ะ</span></p>
<p><font size="3">จะว่าไป.....ผ่านไปปีครึ่งแล้วเหรอนี่</font></p>
<p><span style="font-size: 16px;">จริงๆแทบจะไม่เคยนับเลยค่ะว่าเริ่มเป็นครอบครัว3ภาษา(ที่บ้านจะพูดแต้จิ๋วด้วยค่ะ)มานานแค่ไหนแล้ว …</span></p>
<p></p>
<p><span class="font-size-3">ป้อเริ่มพูดอังกฤษกับอี้หมิงตั้งแต่เค้าอายุ 4เดือนครึ่ง ตอนนี้</span><span style="font-size: 16px;">อี้หมิงก็ 1ขวบกับ11เดือนแล้วววว....</span><span style="font-size: 16px;">เริ่มมีผลงานมาให้หม่าม๊าชื่นใจกับเค้ากันบ้างแล้วหล่ะค่ะ</span></p>
<p><font size="3">จะว่าไป.....ผ่านไปปีครึ่งแล้วเหรอนี่</font></p>
<p><span style="font-size: 16px;">จริงๆแทบจะไม่เคยนับเลยค่ะว่าเริ่มเป็นครอบครัว3ภาษา(ที่บ้านจะพูดแต้จิ๋วด้วยค่ะ)มานานแค่ไหนแล้ว </span></p>
<p><span class="font-size-3">(ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่อยากกดดันตัวเอง อีกส่วนก็เพราะเริ่มพูดอังกฤษกับเค้าตั้งแต่ยังเด็ก พอเค้ายังพูดไม่ได้ก็เลยไม่รู้จะวัดผลกันตรงไหน)</span></p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-3">ขอเริ่มที่พัฒนาการทางการพูดโดยทั่วไปก่อนนะค่ะ อี้หมิงเริ่มพูดค่อนข้างช้า กว่าจะพูดเป็นคำๆก็ 1ขวบจะ9เดือนแล้ว โดนเปรียบเทียบกับญาติที่ห่างกันแค่3อาทิตย์บ่อยๆว่าทำไมเค้าพูดเป็นประโยคแล้ว ของเรายังไม่พูดอะไรเลย เพิ่งจะเป็นคำๆไม่กี่คำเอง แต่เวลาเราพูดอะไรกับเค้า เค้าก็ฟังเข้าใจหมด ทั้งไทย อังกฤษ และแต้จิ๋ว ส่วนคำแรกๆที่อี้หมิงพูดก็ไม่พ้นเรียกขานคนใกล้ชิด ป๊า ม๊า ม่า เจ้... แล้วก็ตามมาเรื่อยๆด้วยสิ่งที่เค้าชอบ car ball (bub)ble..... แต่ก็ยังถือว่าไม่มากเพียงพอให้ผู้ใหญ่ชื่นใจ แต่ป้อก็ไม่เครียดหรือกดดันหรอกค่ะ เค้าก็เริ่มพูดแล้ว ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี</span></p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-3">หลังจากที่คุณครูท่านหนึ่งแนะนำว่า <strong><em>"เวลาพูดกับเค้า ให้เราพูดช้าๆชัดๆและให้เค้ามองหน้าเรา มองปากเรา เพื่อเค้าจะได้เลียนแบบ และสามารถฝึกพูดได้เร็วขึ้น"</em></strong> ป้อก็ทำตามนะค่ะ ผ่านไปเกือบเดือน ตอนนี้อี้หมิงเริ่มพูดศัพท์ได้มากขึ้น ชัีดขึ้น และเริ่มพูดคำ2พยางค์ได้มากขึ้น </span></p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-3">ส่วนเรื่องภาษาที่พูดส่วนใหญ่ก็จะมีทั้งสามภาษาผสมกันไป โดยที่มีอังกฤษนำ ไทยตามมาติดๆจนบางทีก็มีเบียดกับอังกฤษบ้าง ส่วนแต้จิ๋วได้นิดหน่อย หลักๆก็จะเป็นอังกฤษ ซึ่งก็ทำให้ผู้ใหญ่หลายๆท่านไม่ค่อยชอบใจนัก(ยังไงเค้าก็อยากให้ได้จีนมากกว่าอะค่ะ) ก็ต้องจัดสรรค์เวลากันไป โดยให้ทุกฝ่ายแฮปปี้ที่สุด </span></p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-3">เนื่องจากอี้หมิงต้องเรียนรู้ถึง3ภาษา ป้อก็แอบกังวลเรื่องการแยกโหมดของเค้าเพราะเค้ายังพูดได้ไม่เยอะนัก วันนี้ป้อก็เลยลองทดสอบเรื่องการเปลี่ยนโหมดของเค้า... </span></p>
<p><em><span class="font-size-3"> ป้อ: Ming, what are you eating?</span></em></p>
<p><em><span class="font-size-3"> หมิง: Bread.</span></em></p>
<p><span class="font-size-3">พอถามเสร็จก็แอบสะกิดให้อากงถามเป็นแต้จิ๋ว</span></p>
<p><em><span class="font-size-3"> อากง: หมิง เจียะมิไก๊ (ภาษาแต้จิ๋ว แปลว่า กินอะไร)</span></em></p>
<p><span class="font-size-3"><em> หมิง: หนม</em> (ป้้อไม่เคยสอนลูกว่าขนมปังเรียกเป็นแต้จิ๋วว่ายังไงอะค่ะ คิดว่าเค้าไม่รู้ก็เลยตอบเป็นไทยแทน)</span></p>
<p><span class="font-size-3">วันนี้เพิ่งจะทดลองเป็นครั้งแรกก็เลยยังไม่กล้าสรุปซะทีเดียว แต่หลายครั้งที่เราถามเค้า</span></p>
<p><em><span class="font-size-3"> ป้อ: Do you want to eat.....?</span></em></p>
<p><em><span class="font-size-3"> หมิง: Yes/no ไม่ก็พยักหน้า/ส่ายหัว</span></em></p>
<p><span class="font-size-3">พอเวลาอากงอาม่าถามเป็นแต้จิ๋ว เค้าก็ตอบมาเป็นแต้จิ๋ว </span></p>
<p><font size="3">จากการทดสอบวันนี้ก็ถือว่าเค้ามีโหมดสามภาษาอยู่แต่คิดว่าคงยังไม่ชัดเจนนัก ก็ต้องคอยพยุงการพูดไปเรื่อยๆก่อนค่ะ คงต้องรอให้เค้าพูดได้มากกว่านี้ คงจะเห็นผลได้ชัดกว่านี้</font></p>
<p><font size="3"><br/></font></p>
<p><span class="font-size-3">ทีนี้ก็มาถึงอีกเรื่อง ก็คือการออกเสียง แรกๆต้องขอบอกเลยค่ะว่าฟังลูกพูดแล้วงง เพราะเค้ายังพูดไม่ชัดเลยยย แถมต้องคอยเดาอีกว่าจะพูดออกมาเป็นภาษาไหนเนี่ย ก็ต้องอาศัยการชี้โน่นชี้นี่ ทำไม้ทำมือจากเค้า ซึ่งเค้าก็พยายามสื่อกับเราให้เราเข้าใจ (ตรงนี้ต้องบอกว่าในบางครั้ง เค้าก็หงุดหงิดที่เราไม่เข้าใจ....เคยพยายามสอน baby sign แต่ไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ ก็เสียดายอยู่เหมือนกันค่ะ) ก็ต้องทำความเข้าใจกันอยู่พักใหญ่ค่ะ กว่าจะเข้าใจลูกให้ได้มากที่สุด พอเข้าใจว่าเค้าต้องการสื่อถึงอะไรแล้วก็คอยสอนเค้าพูด โดยการพูดนำให้ช้าและชัด ซึ่งผลที่ออกมาต้องบอกว่าทำให้ป้อแปลกใจและประทับใจอยู่ไม่น้อย</span></p>
<p><span class="font-size-3"><br/></span></p>
<p><span class="font-size-3">เมื่อประมาณ2อาทิตย์ก่อน เค้าพูดคำว่า truck ชัดมากค่ะ มีเสียง"เคอะ"ลงท้ายด้วย....</span></p>
<p><span class="font-size-3">ได้ยินแล้วแบบว่า โอ้..ลูกช้านน ออกเสียงได้ชัดขนาดนี้ (หม่าม๊าแอบกรี๊ดอยู่ในใจตอนที่ได้ยินครั้งแรก) </span></p>
<p><span class="font-size-3">แต่ก็ยังมีบางครั้งที่มี"เคอะ"ลงท้ายบ้าง ไม่มีบ้าง เราก็พยายามออกเสียงที่ถูกต้องและชัดเจนให้เค้าฟัง เพิ่มความถี่ในการใช้ศัพท์เหล่านี้ให้เค้าพูดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด นอกจากคำว่า truck ก็มี duck dark ที่ออกเสียงท้ายมาให้เราชื่นใจ (คำือื่นๆยังนึกไม่ออกอะค่ะ)</span></p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-3">ตอนนี้กับอี้หมิง ป้อก็พยายามเพิ่มเวลาภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเค้าใกล้จะไปเนอสเซอรี่แล้ว กลัวโดนภาษาไทยแซงค่ะ... แต่ก็ต้องพยายามทำการบ้านเพิ่มขึ้นพอสมควรเพราะต้องคอยอธิบายสิ่งรอบตัวให้เค้าฟัง(ซึ่งบางทีก็เล่นเอาคุณแม่มึนค่ะ นึกไม่ออก) แต่ยังไงก็จะไม่เครียดค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำให้ดีที่สุด</span></p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-3">ในส่วนของอาเจ้อิงอิง ก็มีความก้าวหน้าบ้าง แต่ก็ไม่มากนักถ้าเทียบกับหลายๆครอบครัวในหมู่บ้านนี้ เวลาป้อพูดกับเค้าเป็นอังกฤษเค้าก็เข้าใจมากขึ้นกว่าก่อน แต่คงเพราะป้อละเลยที่จะสร้างความถี่และพยุงการพูดของเค้า ก็เลยไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ แต่หลังจากอ่านประสบการณ์ของครอบครัวตัวอย่างในเล่ม3แล้ว ก็มีีแรงฮึดที่จะพยายามให้มากขึ้น ตอนนี้ก็พยายามหาแรงบันดาลใจทีแรงพอจะขับให้เค้าพยายามพูดอังกฤษอยู่ค่ะ </span></p>
<p><span class="font-size-3"><br/></span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span><span style="font-size: 16px;">วันนี้ลูกๆหลับเร็ว ก็เลยมีเวลามาเล่าสู่กันฟังค่ะ </span></p>
<p><span style="font-size: 16px;">สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เริ่มพูดกับลูกตั้งแต่เล็กๆ อดทนหน่อยนะค่ะแต่ขอบอกว่าคุ้มค่ากับการรอคอยค่ะ </span></p>
<p><span style="font-size: 16px;">สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เริ่มพูดกับลูกที่โตแล้ว มาพยายามกันต่อไปนะค่ะ </span></p>
เสียงตอบรับจากคนในครอบครัว
tag:go2pasa.ning.com,2010-11-16:2456660:BlogPost:494402
2010-11-16T16:05:14.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำครอบครัวของป้อก่อนนะค่ะ...<br></br><br></br>ที่บ้านแฟนเป็น<span style="font-weight: bold;">ครอบครัวคนแต้จิ๋ว(หัวค่อนข้างโบราณ</span>)ที่อยู่กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งมาก(ไม่ถึงกับอยู่ชายคาเดียวกันตลอดแต่ก็เจอกันแทบทั้งวันหล่ะค่ะ) ทั้งหมดก็มีย่าทวด(เหล่าม่า) คุณพ่อคุณแม่(อากงอาม่า) น้องชายคุณพ่อ(เหล่าเจ็ก) น้องสาวคุณพ่อ2คน(เหล่าโกว) แฟนกับป้อ พี่สาวแฟนอีก2คน(โกว) แล้วก็ลูกๆ อิงอิงกับอี้หมิง <br></br><br></br>ก่อนที่จะได้อ่านหนังสือคุณบิ๊ก ป้อก็ OPOL แต้จิ๋วกับลูกทั้งสองมาตั้งแต่เกิดหล่ะค่ะ…
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำครอบครัวของป้อก่อนนะค่ะ...<br/><br/>ที่บ้านแฟนเป็น<span style="font-weight: bold;">ครอบครัวคนแต้จิ๋ว(หัวค่อนข้างโบราณ</span>)ที่อยู่กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งมาก(ไม่ถึงกับอยู่ชายคาเดียวกันตลอดแต่ก็เจอกันแทบทั้งวันหล่ะค่ะ) ทั้งหมดก็มีย่าทวด(เหล่าม่า) คุณพ่อคุณแม่(อากงอาม่า) น้องชายคุณพ่อ(เหล่าเจ็ก) น้องสาวคุณพ่อ2คน(เหล่าโกว) แฟนกับป้อ พี่สาวแฟนอีก2คน(โกว) แล้วก็ลูกๆ อิงอิงกับอี้หมิง <br/><br/>ก่อนที่จะได้อ่านหนังสือคุณบิ๊ก ป้อก็ OPOL แต้จิ๋วกับลูกทั้งสองมาตั้งแต่เกิดหล่ะค่ะ จวบจนได้อ่านหนังสือ"เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้" เราก็เริ่มคิด <span style="font-style: italic;">ภาษาอังกฤษเราก็โอเค ทำไมเราไม่ให้ความรู้ส่วนนี้ที่เรามีกับลูกๆบ้าง</span> (ซึ่งต้องขอบอกว่าไม่เค๊ย ไม่เคยคิดจะพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษเลยจริงๆค่ะ คิดว่าเดี๋ยวไปเรียนเอาในรร.ก็ได้..เหมือนสมัยเราไงค่ะ)....หลังจากนั้นป้อก็เริ่ม OPOL ภาษาอังกฤษกับลูกทั้งสอง ผ่านมาประมาณ1ปีกับ2เดือนแล้วค่ะ (แต่อย่าถามถึงผลนะค่ะ ยังเทียบกับครอบครัวอื่นๆที่พยายามตั้งหน้าตั้งตาสร้างครอบครัวสองภาษาอย่างจริงจังไม่ได้หรอกค่ะ...ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ ชิลชิล) ก็มีเสียงตอบรับทั้งแบบดังๆ และแบบเก็บไว้ในใจจากผู้ใหญ่ทั้งหลายในครอบครัว ซึ่งก็คงไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ ก็อย่างที่แนะนำครอบครัวไป <span style="font-style: italic;">"ครอบครัวแต้จิ๋ว"...ยังไงก็ต้องพูดแต้จิ๋วสิค่ะ</span><br/><br/>ยังจำวันแรกๆที่เริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูกได้เลยค่ะ ตอนป้อนข้าวอี้หมิงอยู่ก็พูดEngกับเค้า เหล่าเจ็กพูดมาประโยคนึง "<span style="font-weight: bold;">จะเอาภาษาอะไรก็เอาให้แน่ซักภาษาก่อนไม่ดีเหร๊อ ทั้งไทย แต้จิ๋ว อังกฤษ เด็กมันยังพูดได้ไม่ พอดีเดี๋ยวลูกพูดได้ก็พูดภาษาอีสานหรอก..</span>" อะฮ๊า.....พอได้ยินเราก็ควันออกหูสิค่ะ แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะไม่คิดว่าอธิบายไปแล้วเค้าจะเข้าใจ แค่คิดว่ารอดูวันที่อี้หมิงพูดได้ก่อนก็แล้วกัน <br/><br/>จนผ่านไปปีกว่า แล้ววันนี้เค้าก็เห็นแล้วว่า เวลาเราพูดEng หมิงก็ฟังรู้เรื่อง เวลาพูดแต้จิ๋วหมิงก็ฟังรู้เรื่อง(เหล่าม่าก็แอบยิ้มไปด้วย) แถมหมิงก็สามารถพูดเป็นคำๆเป็นEngได้ด้วยอีกตะหาก แต้ิจิ๋วก็พอได้บ้างนิดหน่อย ไทยก็ได้อยู่แล้ว เค้าก็พูดออกมาว่า "<span style="font-weight: bold;">จริงๆเนี่ยนะ ถ้าจะให้เป็นประโยชน์จริงๆกับลูกเนี่ย ป้อต้องหัดพูดจีนกลางกับหมิง ดีกว่าพูดแต้จิ๋ว เพราะอนาคตเนี่ย ภาษาอังกฤษกับจีนกลางเนี่ยสำคัญ</span>" <font size="4"><span style="font-style: italic;">โอ๊ะโอว</span></font>...นี่แปลว่าเหล่าเจ็กเห็นผลแล้วใช่ไม๊ค๊า เลยให้คุณแม่คนนี้หัดพูดจีนกลางกับลูกแทนแต้จิ๋ว มีการสอนเราด้วยนะว่าพูดเท่าที่เราพูดได้แล้วกัน เอาง่ายๆพื้นๆก่อน...ซะงั้น ก็ไม่ได้ติดใจอะไรหรอกค่ะ ยังไงเค้าก็หวังดีกับลูกเรา<br/><br/>ส่วนเหล่าม่า ต้องขอบอกว่าเค้าไม่พอใจแน่นอนที่เราพูดEngกับลูกเรา แต่เค้าก็ไม่เคยพูดหรือแสดงท่าทีไม่พอใจอะไร จนอยู่มาวันหนึ่ง เค้าเล่าให้ลูกค้า(ที่บ้านเป็นร้านขายของหน่ะค่ะ) "<span style="font-weight: bold;">ดูแม่อีสิ จะสอนลูกให้เป็นฝรั่ง พูดก็พูดฝรั่ง ไปรร.ก็ไปรร.ที่สอนภาษาฝรั่ง รร.จีนใหญ่ๆโตๆดีๆไม่ให้ลูกไปเรียน</span>" ฟังแล้วก็ควันออกหูอีกรอบค่ะ งานนี้คุณแม่ก็เลยงานเข้าอีก รีบกวดภาษาแต้จิ๋วกับลูกเป็นการใหญ่ จากเดิมที่พยายามพูดอังกฤษให้มากเพื่อสร้างความถี่ ก็เลยเสียสละเวลากินข้าว(ซึ่งเหล่าม่าจะนั่งกินด้วย)และเวลาที่เหล่าม่าอยู่ด้วย เปลี่ยนเป็นโหมดแต้จิ๋วแทน (ได้บ้าง มั่วบ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ผสมไทยกันไปอะค่ะ) และแล้วถึงวันนี้เหล่าม่าได้ประจักษ์(พร้อมกับเหล่าเจ็ก)ว่า <span style="font-weight: bold;">เมื่อเราบอกอี้หมิงเป็นแต้จิ๋วแล้วอี้หมิงเข้าใจ</span> เค้าก็แอบยิ้มค่ะ <br/><br/>น้องสาวของคุณพ่อ(เหล่าโกว)ก็ค่อนข้างชื่นชมกับผลที่เราทำ ส่วนคุณป้า(โกว)ทั้งสองของลูกๆ หลังจากเห็นผลของสิ่งที่เราทำ ก็ชื่นชมในสิ่งที่เราพยายามทำเพื่อลูก ก็ถือเป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆที่ช่วยให้หม่าม๊าคนนี้พยายามต่อไป สำหรับคุณปู่คุณย่า(อากงอาม่า)เค้าก็ไม่เคยออกความเห็นกับสิ่งที่เราทำ ก็ปล่อยให้เราเลี้ยงตามที่เราเห็นสมควร ซึ่งก็ต้องบอกว่าโชคดีที่เค้าให้โอกาสเรา ตอนนี้ก็เลยพยายามเพิ่มจีนกลางให้กับลูกทั้งสองด้วยค่ะ(เพื่อให้อากงอาม่าชื่นใจอะค่ะ) แต่หม่าม๊าก็ต้องทำการบ้านเยอะหน่อยอะค่ะ<br/><br/>ทั้งนี้และทั้งนั้นที่อยากเขียนบล็อกนี้ขี้นมาเนี่ย อยากจะบอกว่า "<span style="font-weight: bold;">หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน</span>" สิ่งที่ครอบครัวสองภาษาในหมู่บ้านนี้กำลังทำเพื่อลูกๆอยู่นั้น มันไม่สามารถที่จะเห็นผลได้ข้ามคืน มันต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หลายท่านอาจจะท้อ ไฟมอดบ้าง ดับบ้าง ลุกขึ้นมาใหม่บ้าง แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ซักวันสิ่งที่เราทำจะออกดอกออกผลให้เราและคนที่เคยดูแคลนหรือไม่เห็นด้วยกับเราเห็นอย่างแน่นอน แค่ช้าหรือเร็วเท่านั้นแหล่ะค่ะ <br/><font size="3"><br style="font-weight: bold;"/></font><font size="3"><span style="font-weight: bold;">ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะค่ะ....*^o^*</span></font><br/><br/>(ป.ล. ขออภัยที่เรียกลำดับญาติวุ่นวายไปหน่อยค่ะ ใส่ทั้งไทยทั้งแต้จิ๋ว...ไม่รู้คนอ่านจะงงไม๊น๊า)<br/>
อี้หมิง...เร่ิ่มมาเรื่อยๆแล้วคร๊าบ
tag:go2pasa.ning.com,2010-09-16:2456660:BlogPost:411792
2010-09-16T04:37:01.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
อี้หมิง(หนึ่งขวบสี่เดือนครึ่ง) เริ่มจะขี้โม้ขึ้นเรื่อยๆแล้วค่ะ ส่วนใหญ่ก็บ่นไปตามภาษาเด็ก คนโตฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ แต่ก็ถือว่าเค้าพยายามจะพูด..หม่าม๊าก็ไม่ซีเรียสอะไร แต่ถ้าที่เห็นได้ชัดก็คือคำศัพท์อังกฤษเค้าจะได้มากขึ้น เวลาเราสอนก็จะบอกให้เค้าดูปากเรา ถ้าเป็นคำง่ายๆเค้าก็จะพยายามออกเสียงตาม แต่ถ้าคำไหนออกเสียงได้ไม่ได้ ป้อก็ไม่ซีเรียส ให้เค้าทำเท่าที่เด็กวัยนี้จะทำได้เป็นพอ<div><br></br></div>
<div>หลายๆคนรอบข้างเริ่มชื่นชมความสามารถของหมิงขึ้นเรื่อยๆ…</div>
อี้หมิง(หนึ่งขวบสี่เดือนครึ่ง) เริ่มจะขี้โม้ขึ้นเรื่อยๆแล้วค่ะ ส่วนใหญ่ก็บ่นไปตามภาษาเด็ก คนโตฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ แต่ก็ถือว่าเค้าพยายามจะพูด..หม่าม๊าก็ไม่ซีเรียสอะไร แต่ถ้าที่เห็นได้ชัดก็คือคำศัพท์อังกฤษเค้าจะได้มากขึ้น เวลาเราสอนก็จะบอกให้เค้าดูปากเรา ถ้าเป็นคำง่ายๆเค้าก็จะพยายามออกเสียงตาม แต่ถ้าคำไหนออกเสียงได้ไม่ได้ ป้อก็ไม่ซีเรียส ให้เค้าทำเท่าที่เด็กวัยนี้จะทำได้เป็นพอ<div><br/></div>
<div>หลายๆคนรอบข้างเริ่มชื่นชมความสามารถของหมิงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีประสบการณ์ตรง</div>
<div><br/></div>
<div>วันก่อนเค้าเห็นถ้วยน้ำมีรูปม้าลายของป้า หมิงก็ "(ze)bra bra bra bra" ไม่หยุดเลย ป้าก็ชมใหญ่ว่าเก่งจัง</div>
<div>เวลาจะกินกล้วยก็พูดใหญ่เลย "na na na" เพิ่งสอน papaya ไป เค้าก็พูดได้ "ya ya"</div>
<div>เวลาเราสั่งให้เค้าทำอะไรเป็นภาษาอังกฤษเค้าก็สามารถทำได้ถูกต้อง ญาติๆก็เริ่มเห็นแล้วว่ามันได้ผลจริงๆแฮะ</div>
<div><br/></div>
<div>ส่วนเมื่อเช้านี้สดๆร้อนๆเลยค่ะ หม่าม๊าหยิบไข่ออกจากตู้เย็นเตรียมทำกับข้าวให้หมิง หมิงเดินมาเห็นเข้าก็พูดว่า "egg egg" ขอบอกว่าชัดมากเลยค่ะ ป้อดีใจม๊ากมาก ได้ยินแล้วชื่นใจสุดๆเลย ป่าป๊าก็ยิ้มไปด้วย</div>
<div><br/></div>
<div>แต่ก็มีบางทีที่หมิงก็ยังงงอยู่ อย่างวันก่อนให้เค้าดูรูปรถแล้วบอกเค้าว่า "hatchback" สงสัยหม่าม๊าจะออกเสียงไม่ชัด คุณลูกได้ยินปุ๊บก็ตบๆหัวตัวเองเบา นึกว่าเราบอกว่า hat....เป็นงั้นไป</div>
<div><br/></div>
<div>คืนก่อนจะให้เค้านอนก็เปิดแผ่น Mommy&Me: Lullaby&goodnight. สองเพลงแรกก็ซบบ่าเราดี นึกว่าใกล้หลับแล้ว แต่พอเค้าได้ยินเพลง This is the way we wash our hands เท่านั้นแหล่ะ ลุกขึ้นมาถูมือ ทำท่าล้างมืออะค่ะ แถมส่งยิ้นหวานให้อีกต่างหาก...ต้องกล่อมกันใหม่อีกรอบ</div>
<div><br/></div>
<div><span class="Apple-style-span" style="font-size: 13.3333px;"><span class="Apple-style-span" style="font-size: 13.3333px;">ตอนนี้หมิงชอบร้องเพลง baa baa black sheep มากเลยค่ะ มันจะมีคลิปอันนึงจาก youtube ที่ออกเสียง baa baa ตามจังหวะทั้งเพลง(ไม่ได้ร้องเป็นเนื้อเพลงอะค่ะ) เค้าก็จะร้อง baa baa baa ของเค้าตามจังหวะไปเรื่อยหล่ะค่ะ พร้อมกับหมุนซ้ายหมุนขวาเต้นไปด้วย เวลาฟังเพลง ABC ที่มี phonics "apple apple a a a" เค้าก็พยายามจะออกเสียงตามไปด้วย ช่วงนี้ก็เลยกระหน่ำเพลง</span></span> <span class="Apple-style-span" style="font-size: 13.3333px;">phonics เยอะหน่อยเพราะอยากให้เค้าได้พื้นฐานที่ถูกต้องจริงๆ</span></div>
<div><span class="Apple-style-span" style="font-size: 13.3333px;"><br/></span></div>
<div><span class="Apple-style-span" style="font-size: 13.3333px;">ส่วนตัวค่อนข้างเปิดเพลงให้ฟังเยอะ ไม่ค่อยเน้นพวกบทสนทนาเหมือนพวก caillou เท่าไหร่ แต่กำลังคิดว่าควรเปิดพวกที่เป็นสนทนาให้เค้าฟังให้มากเหมือนกันเพราะจะได้คุ้นกับรูปประโยคและการออกเสียงในรูปแบบประโยค(ไม่ใช่คำเดี่ยวๆเหมือนเวลาที่เราสอน) ก็กำลังเสริมๆกันไปอยู่ค่ะ</span></div>
<div><span class="Apple-style-span" style="font-size: 13.3333px;"><br/></span></div>
<div><span class="Apple-style-span" style="font-size: 13.3333px;">บ่อยครั้งที่ต้องคอยกระตุ้นถามเพื่อให้เค้าตอบ เพราะเค้ายังไม่ยอมเริ่มพูดเองเท่าไหร่ จะมีก็ bra กับ egg นี่แหล่ะค่ะที่ยอมพูดเอง ก็คงต้องรอลุ้นกันต่อหล่ะค่ะ ใครมีเทคนิคกระตุ้นให้ลูกพูดเองบ้างไม๊ค่ะ นอกจากเอาของกินมาหลอกล่อแล้วเนี่ย วิธีอื่นดูจะไม่ค่อยได้ผลอะค่ะ ... อี้หมิงไม่ได้ตะกละนะค่ะ แต่ชอบกินทุกอย่างเฉยๆ...อิอิ</span></div>
เอาแล้วไง...งานเข้า
tag:go2pasa.ning.com,2010-08-19:2456660:BlogPost:375903
2010-08-19T16:35:22.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
<p>หลังจากที่อิงอิงไปรร.มาได้สองสามเดือน ภาษาอังกฤษก็ดูจะไปได้เร็วขึ้น ที่ว่าเร็วนี่หมายถึง บางส่วนที่เราไม่ได้สอน เค้าก็ไปได้จากรร.ด้วยอะค่ะ ฟังดูดีใช่ไม๊ค่ะ แต่มันก็ไม่เชิงแฮะ (อ่านแล้วงงไม๊คะเนี่ย)</p>
<p></p>
<p>เรื่องมีอยู่ว่าบางส่วนที่เราไม่ได้สอนเนี่ย เค้าไปได้จากครูฟิลิปปินส์(ซึ่งมันก็สำเนียงเพี้ยนๆอะนะค่ะ) ทำให้คุณแม่งานเข้า ต้องมาปรับคุณลูก นี่ยังไม่รวมภาษาอังกฤษที่สอนโดยครูไทย(A-Z) ที่สำเนียงไทยแท้แต่โบราณเลยค่ะ แถมคุณลูกสาวก็เชื่อครูสุดๆ ก็มีเถียงๆกันไปพักหนึ่งเรื่องสำเนียงจากคุณครู…</p>
<p>หลังจากที่อิงอิงไปรร.มาได้สองสามเดือน ภาษาอังกฤษก็ดูจะไปได้เร็วขึ้น ที่ว่าเร็วนี่หมายถึง บางส่วนที่เราไม่ได้สอน เค้าก็ไปได้จากรร.ด้วยอะค่ะ ฟังดูดีใช่ไม๊ค่ะ แต่มันก็ไม่เชิงแฮะ (อ่านแล้วงงไม๊คะเนี่ย)</p>
<p></p>
<p>เรื่องมีอยู่ว่าบางส่วนที่เราไม่ได้สอนเนี่ย เค้าไปได้จากครูฟิลิปปินส์(ซึ่งมันก็สำเนียงเพี้ยนๆอะนะค่ะ) ทำให้คุณแม่งานเข้า ต้องมาปรับคุณลูก นี่ยังไม่รวมภาษาอังกฤษที่สอนโดยครูไทย(A-Z) ที่สำเนียงไทยแท้แต่โบราณเลยค่ะ แถมคุณลูกสาวก็เชื่อครูสุดๆ ก็มีเถียงๆกันไปพักหนึ่งเรื่องสำเนียงจากคุณครู "เอ-แอ๊น-มด" คุณแม่ได้ยินก็ โอ้มายก็อด รีบสวนทันที "เอ(ย)-แอ้นท์" (ไม่ยอมแปลว่า มด เหมือนคุณครู) คุณลูกบอกแม่มาว่า "หม่าม๊า ไม่ใช่ๆ เดี๋ยวอิงอิงสอนหม่าม๊าเองนะ มา มา"...เป็นงั้นไป</p>
<p></p>
<p>ตรงไหนที่เค้าสำเนียงเพี้ยนๆ ก็พยายามย้ำๆกับเค้า เพื่อหวังว่าความถี่จากคุณแม่จะไปกลบหน่วยความจำที่ได้มาจากคุณครู แต่เราก็เดาไม่ได้หรอกนะค่ะ ว่าเค้าเรียนอะไรมามากน้อยแค่ไหน ตอนนี้ก็เลยเอาส่วนที่เค้าเรียนรู้จากเราให้ได้ถูกต้องใกล้เคียงมากที่สุดไปก่อน</p>
<p></p>
<p>จะว่าไปที่อิงอิงได้รับอิทธิพลจากที่รร.เยอะ คิดว่าส่วนนึงเพราะเค้าไม่ค่อยได้ฟังเสียงต้นฉบับจากพวกสื่อทั้งหลายเท่าไหร่ พวกดีวีดีนี่ก็ดูน้อยยยยมากกกก ส่วนใหญ่ก็ได้ดูวันอาทิตย์ซึ่งเค้าก็สนใจบ้างไม่สนใจบ้าง ส่วนการสนทนาระหว่างคุณแม่และคุณลูกก็ขึ้นๆลงๆ บางทีเหนื่อยทั้งคู่ก็เลยพูดอังกฤษกันน้อยไปบ้าง เฮ้อ..คงต้องเพิ่มความเข้มข้นกันอีกรอบแล้วหล่ะค่ะ (จะเรียกว่าการสนทนาดีไม๊เนี่ย ตอนนี้เหมือนจะเป็นหม่าม๊าพูดนำซะเยอะ..555)</p>
<p></p>
<p>ตอนนี้ป้อก็รอไปร่วมเวิร์คชอปอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ...ยังอีกตั้งอาทิตย์กว่าๆ... ไม่ใช่อะไรหรอกนะค่ะ จะได้เติมไฟ+ได้เคล็ดลับดีๆมาใช้กับลูกๆ</p>
<p></p>
<p>สู้ต่อไปค่ะ</p>
ถึงคราวน้องอี้หมิงบ้าง
tag:go2pasa.ning.com,2010-07-20:2456660:BlogPost:340276
2010-07-20T04:30:27.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
<p>ส่วนใหญ่จะเล่าแต่ความคืบหน้าของอาเจ้อิงอิง ไม่ค่อยพูดถึงน้องชายเท่าไหร่ ก็เพราะน้องยังพูดไม่ได้ก็เลยไม่รู้จะเล่าอะไรดี แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีความคืบหน้ามาให้เห็นบ้างแล้วค่ะ ป้อเริ่มพูดอังกฤษกับหมิงตั้งแต่4เดือนครึ่ง ตอนนี้หมิงก็1ขวบ2เดือนแล้วค่ะ คำสั่งภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ก็ฟังได้(แต่ชอบทำเป็นเฉไฉไม่ทำตาม) แต่ก็มีเรื่องขำๆอยู่เนื่องจากคนอื่นๆในครอบครัวก็ยังพูดแต้จิ๋วด้วยเหมือนกัน</p>
<p></p>
<p>เมื่อวานตอนคุณพ่อป้อนข้าวหมิง อี้หมิงไม่ยอมนั่งลง คุณพ่อก็พูด "หมิง จ๋อ จ๋อ"(จ๋อ แต้จิ๋วแปลว่า นั่ง)…</p>
<p>ส่วนใหญ่จะเล่าแต่ความคืบหน้าของอาเจ้อิงอิง ไม่ค่อยพูดถึงน้องชายเท่าไหร่ ก็เพราะน้องยังพูดไม่ได้ก็เลยไม่รู้จะเล่าอะไรดี แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีความคืบหน้ามาให้เห็นบ้างแล้วค่ะ ป้อเริ่มพูดอังกฤษกับหมิงตั้งแต่4เดือนครึ่ง ตอนนี้หมิงก็1ขวบ2เดือนแล้วค่ะ คำสั่งภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ก็ฟังได้(แต่ชอบทำเป็นเฉไฉไม่ทำตาม) แต่ก็มีเรื่องขำๆอยู่เนื่องจากคนอื่นๆในครอบครัวก็ยังพูดแต้จิ๋วด้วยเหมือนกัน</p>
<p></p>
<p>เมื่อวานตอนคุณพ่อป้อนข้าวหมิง อี้หมิงไม่ยอมนั่งลง คุณพ่อก็พูด "หมิง จ๋อ จ๋อ"(จ๋อ แต้จิ๋วแปลว่า นั่ง) พูดจนเหนื่อยคุณพ่อก็เลยเปลี่ยนโหมดเป็นอังกฤษ "หมิง sit down" เท่านั้นแหล่ะ หมิงก็นั่งเรียบร้อยเลย....คุณพ่อได้แต่ส่ายหัว รู้งี้พูดอังกฤษแต่แรกก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว</p>
<p></p>
<p>หลายเดือนก่อน ตอนพยายามป้อนข้าวหมิง คุณอาเค้าอยากให้หมิงกินฟักทองนึ่งที่ทำไว้ ก็เรียก "หมิง ฟักทอง ฟักทอง" ลูกชายก็ซนหันไปหันมาไปเรื่อยไม่สนใจ แต่พอคุณอาพูดว่า "pumpkin pumpkin" เท่านั้นแหล่ะ หันขวับมาแล้วทำเสียง "หม่ำ หม่ำ"</p>
<p></p>
<p>เมื่อวานนี้เค้าเห็นเรากินเค้ก เค้าก็อยากกินบ้างก็ "หม่ำ หม่ำ หม่ำ"รัวเลย เห็นกินข้าวเสร็จก็จะแบ่งให้เค้ากิน แต่เค้ายังไม่กินน้ำ พี่เลี้ยงพยายามป้อนน้ำให้ เค้าก็หันหนีท่าเดียว พอเราบอกว่า Ming, have some water and I'll give you some cake. เท่านั้นแหล่ะค่ะ ดูดน้ำแต่โดยดีเลย...จะบอกว่าไม่รู้เรื่องก็คงไม่ได้อะนะค่ะ</p>
<p></p>
<p>การออกเสียงของหมิง ณ ตอนนี้ส่วนใหญ่จะได้ภาษาไทย หม่ำ ไป ปลา ป๊า ม๊า ม่า บาย ภาษาอังกฤษที่พอจะได้ก็มี (ap)ple (ze)bra bababa(เป็นbananaเวอร์ชั่นหมิงค่ะ) เสียงที่พยายามจะออกให้ได้ก็มี key cake orange ตอนนี้คุณแม่นึกออกแค่นี้แหล่ะค่ะ ส่วนใหญ่ต้องกระตุ้นให้พูด เค้ายังไม่ค่อยเริ่มพูดเอง ถ้าชี้รูปแล้วถาม บางทีก็ตอบบางทีก็ไม่ยอมตอบ</p>
<p></p>
<p>ตอนนี้ก็พยายามให้เค้าดูปากเราเวลาพูด แล้วก็สอนแบบโฟนิค เช่นคำว่า ball เราก็จะ เบอะ-ออล ... ก็คงต้องรอดูผลกันต่อไปค่ะ เฮ้อ...เห็นคุณแม่หลายๆคนที่ลูกเริ่มพูดมาให้ชื่นใจ เราก็เลยอยากเร่งคุณลูกเราบ้างอะ...แต่ห้ามใจร้อนใช่ไม๊ค่ะ คอนเซปของครอบครัวสองภาษา ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ</p>
ภาษาอังกฤษที่อิงอิงค่อยๆซึมซับ
tag:go2pasa.ning.com,2010-06-21:2456660:BlogPost:305177
2010-06-21T04:53:46.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
<p>บล็อกนี้จะเน้นเป็นการบันทึกความทรงจำ(ก่อนที่หม่าม๊าจะลืมไปซะก่อน)ของการสร้างอิงอิง2ภาษา...ป้อเริ่มมานานมากแล้วค่ะ ตั้งแต่อิงอิงอายุแค่2.4ปี ตอนนี้3.2ปีแล้ว (จะว่าไปก็เอ้อระเหยไปหน่อยค่ะ เสียดายเวลาเหมือนกัน)</p>
<p></p>
<p>หลังจากอ่านหนังสือสองภาษาฯ1จบ ก็ยิงรัวกับลูกเป็นอังกฤษเลยค่ะ คุณลูกหันหลังไม่เอาท่าเดียว เพราะเค้าไม่เข้าใจที่ป้อพูดแม้แต่นิดเดียว เค้าไม่มีคลังคำศัพท์อังกฤษเลยไงค่ะ จะรู้ก็แต่เพลงอังกฤษที่เปิด+ร้องให้ฟังตั้งแต่เด็ก ก็ต้องค่อยๆเพิ่มศัพท์กันทีละนิดทีละหน่อย…</p>
<p>บล็อกนี้จะเน้นเป็นการบันทึกความทรงจำ(ก่อนที่หม่าม๊าจะลืมไปซะก่อน)ของการสร้างอิงอิง2ภาษา...ป้อเริ่มมานานมากแล้วค่ะ ตั้งแต่อิงอิงอายุแค่2.4ปี ตอนนี้3.2ปีแล้ว (จะว่าไปก็เอ้อระเหยไปหน่อยค่ะ เสียดายเวลาเหมือนกัน)</p>
<p></p>
<p>หลังจากอ่านหนังสือสองภาษาฯ1จบ ก็ยิงรัวกับลูกเป็นอังกฤษเลยค่ะ คุณลูกหันหลังไม่เอาท่าเดียว เพราะเค้าไม่เข้าใจที่ป้อพูดแม้แต่นิดเดียว เค้าไม่มีคลังคำศัพท์อังกฤษเลยไงค่ะ จะรู้ก็แต่เพลงอังกฤษที่เปิด+ร้องให้ฟังตั้งแต่เด็ก ก็ต้องค่อยๆเพิ่มศัพท์กันทีละนิดทีละหน่อย เพิ่มนานไปหน่อยจนผ่านมา 6-7เดือนได้แล้วค่ะ...</p>
<p></p>
<p>ตอนแรกที่อ่านหนังสือ เห็นคุณบิ๊กแนะนำดีวีดีเทพทั้งหลายในหนังสือ ป้อก็สั่งซื้อดีวีดีเทพมาเป็นตั้ง หวังว่าจะช่วยให้เค้าคุ้นกับภาษาอังกฤษมากขึ้น แต่กลายเป็นว่าอิงอิงจะไม่ยอมดูดีวีดีอะไรเลยนอกจากที่มีเพลง มีเด็กเต้น ก็จะดูแต่ Mommy&Me เท่านั้น ใจก็อยากให้ดูCaillou ม๊ากมาก(จะได้ฝึกคำศัพท์+สำเนียง) ยังไง๊ยังไงก็ไม่ยอมดู จะยอมดูก็แค่ Theme Song เท่านั้น จะว่าเสียดายก็เสียดายแต่ทำไงได้หล่ะค่ะ เธอไม่ยอมดูนี่ ก็ได้แค่หาเนื้อเพลงมาสอนเค้าร้องให้ถูกต้องอะค่ะ (ป้อไม่เคยให้ดูทีวีก่อน2ขวบ ไม่รู้จะเกี่ยวมั๊ยที่เค้าไม่ค่อยชอบดูดีวีดีที่เป็นเนื้อเรื่อง จะชอบฟังเพลงแล้วก็เต้นมากกว่า หรือเพราะว่าเป็นเด็กผู้หญิง ซึ่งมีหลายๆคนที่มีลูกสาวก็จะชอบดูแต่เพลงเหมือนกัน)</p>
<p></p>
<p>แต่แล้วเมื่อไม่นานมานี้ อิงอิงก็เริ่มเปิดรับมากขึ้น อาจเพราะโตขึ้นด้วยมั๊งค่ะ ก็เริ่มยอมดู Caillou บ้างงงง (ยอมดูตอน Caillou at Daycare เพราะมันเนื้อหาใกล้กับการไปรร.ของเค้า) แล้วก็มี Little Einsteins ซึ่งจริงๆที่ดูก็เพราะ Theme Song อีกหล่ะค่ะ อาทิตย์แรกที่เปิดให้ดูก็จะฟังแต่Theme Songอย่างเดียว เนื้อเรื่องไม่เอาค่ะ คุณแม่เลยต้องไปหาเนื้อเพลงมาสอนร้องให้เป็นกิจจะลักษณะ ถือโอกาสเรียนอังกฤษจากเพลงอีกแล้ว แต่แล้วเมื่อวานอิงอิงก็ยอมดู Little Einsteins แต่โดยดี(หม่าม๊าเอาเพลงมาล่อไงค่ะ เดี๋ยวเปิดเพลงให้ฟังแล้วก็เลยตามเลยไป) นอกจากนั่งดูอิงอิงยังพยายามเลียนเสียงบทพูดตัวการ์ตูนด้วย นับเป็นความก้าวหน้าก้าวใหม่ค่ะ แต่จะว่าไปช่วงนี้เวลาที่ป้อพูดอะไรกับน้องอี้หมิง เค้าก็จะพูดตามจะเลียนแบบ เหมือนเค้าเริ่มซึมซับภาษาอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆ</p>
<p></p>
<p>หลังจากที่พยายามทำระบบ2ภาษาให้เข้มข้นขึ้น อิงอิงก็ดูจะตอบรับดีค่ะ ไม่มีโยเยไม่เอาอังกฤษ แต่เค้ายังไม่ค่อยเริ่มพูดเองเป็นอังกฤษเองเท่าไหร่ ต้องคอยกระตุ้น อย่างเวลาจะให้อุ้ม เค้าต้องพูดว่า Hold me please! เค้าก็จะพูดว่า อุ้มค่ะ อุ้มค่ะ เราก็กระทุ้งเค้านิดนึงว่าหม่าม๊าเคยบอกแล้วว่าถ้าจะให้อุ้มต้องพูดว่ายังไงค่ะ ซึ่งเค้าก็รู้และยอมพูด Hold me please! แต่โดยดี แต่บางทีก็มีเรื่องให้แปลกใจเหมือนกัน วันก่อนเค้าจะกินปลาหมึก เราก็สอนเค้า squid เค้าบอกว่าเค้าจะเอา squid อีก เราก็บอกต้องพูดว่ายังไงค่ะ Can..... แล้วให้เค้าเติมเอง แปลกใจมากที่เค้าสามารถเติม squid ลงในประโยคเองได้ Can I have some squid, please?</p>
<p></p>
<p>เมื่อวานเค้าเล่นกับป๊า ป๊าเค้าทำท่าแมวให้ดูแล้วให้เค้าทายว่าเป็นตัวอะไร เค้าตอบว่า Cat ไม่ตอบเป็นไทยว่าแมว เวลาเค้าเห็นวัวเค้าก็พูดว่า Cow ไม่เรียกว่าวัวหรอกค่ะ ก็หวังว่าจะเป็นการแทรกโหมดอังกฤษเข้าไปในสมองเค้าได้มากขึ้นเรื่อยๆ</p>
<p></p>
<p>จะมีบางทีที่เค้ามึนๆเอาแต้จิ๋วมาผสมก็มีนะค่ะ (ตอนเค้าเล็กๆจะเน้นพูดแต้จิ๋วกับเค้าค่ะ) Can I have some orange จุ้ย please? คำว่า จุ้ย ในภาษาแต้จิ๋วแปลว่าน้ำ ซึ่งเผอิญมาใกล้เคียงกับคำว่า juice ซะได้ พยายามจะแก้เค้าเหมือนกันค่ะ แต่ก็ลำบากนิดนึงเพราะเค้ายังออกคำว่า juice ได้ไม่ดีนัก จะมาแบบสั้นๆ ซึ่งบางทีก็เดาไม่ค่อยออกว่าเค้าพูด จุ้ย หรือ juice...555</p>
<p></p>
<p>ณ ตอนนี้ก็คงเรียกได้ว่ามีความก้าวหน้ามาให้หม่าม๊าชื่นใจได้เรื่อยๆ ก็มีกำลังใจมากขึ้นค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าไม่เห็นไปไหนเลย ก็ท้อๆเหมือนกัน แต่เวลาที่เค้าพร้อมแล้ว ก็จะมีอะไรแปลกใหม่มาเรื่อยๆหล่ะค่ะ</p>
ลูกละเมอเป็นอังกฤษกับเค้าบ้างแล้วค่า
tag:go2pasa.ning.com,2010-06-18:2456660:BlogPost:300688
2010-06-18T06:33:23.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
<p>เมื่อคืนอิงอิงละเมอว่า "hold me please" คงเนื่องจากใช้ประโยคนี้บ่อยสุดๆ(อ้อนจะให้แม่อุ้มตลอด) เลยละเมอประโยคนี้ ดีนะที่แม่สะลึมสะลือได้ยินพอดี...แอบยิ้มแล้วหลับต่อค่ะ...อิอิ</p>
<p></p>
<p>ช่วงนี้พยายามเน้นการออกเสียงให้ชัดๆ เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยได้สนใจ (จริงๆลูกก็ยังไม่ได้พูดอังกฤษได้มากมายหรอกค่ะประมาณว่าแม่ใจร้อนอยากให้ลูกโต้ตอบได้เร็ว) ไม่คิดว่ามันจะยากนะค่ะ คงเพราะเค้าพูดไทยได้แล้วด้วยมั๊งค่ะ คำบางคำเนี่ยเน้นกันหลายทีก็ยังไม่ได้ เช่นคำว่า please เนี่ย คุณลูกออกเสียงไม่ได้ซะที ทีแรกมี L…</p>
<p>เมื่อคืนอิงอิงละเมอว่า "hold me please" คงเนื่องจากใช้ประโยคนี้บ่อยสุดๆ(อ้อนจะให้แม่อุ้มตลอด) เลยละเมอประโยคนี้ ดีนะที่แม่สะลึมสะลือได้ยินพอดี...แอบยิ้มแล้วหลับต่อค่ะ...อิอิ</p>
<p></p>
<p>ช่วงนี้พยายามเน้นการออกเสียงให้ชัดๆ เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยได้สนใจ (จริงๆลูกก็ยังไม่ได้พูดอังกฤษได้มากมายหรอกค่ะประมาณว่าแม่ใจร้อนอยากให้ลูกโต้ตอบได้เร็ว) ไม่คิดว่ามันจะยากนะค่ะ คงเพราะเค้าพูดไทยได้แล้วด้วยมั๊งค่ะ คำบางคำเนี่ยเน้นกันหลายทีก็ยังไม่ได้ เช่นคำว่า please เนี่ย คุณลูกออกเสียงไม่ได้ซะที ทีแรกมี L ก็ไม่มีเสียง S ตอนท้าย แต่พอได้เสียง S เสียงตัว L ก็ดันหายไป คงต้องฝึกกันต่อไปค่ะ</p>
<p></p>
<p>ช่วงนี้คุณแม่ไฟแรงมากเลย ลุยเต็มที่(แต่ไม่ใช่ตลอดเวลาหรอกนะค่ะ) ไม่อยากเสียเวลาแล้วค่ะ คิดแล้วยิ่งเสียดายเพราะไม่ได้ทำจริงๆจังๆปล่อยให้โอกาสมันผ่านไปตั้งเกือบปีแล้ว มัวแต่เพิ่มคำศัพท์(แบบไม่ค่อยจริงจัง) ตอนนี้ก็เลยเดินเครื่องเต็มที่ค่ะ</p>
<p>สู้ๆค่ะ</p>
"เราลืมอะไรกันไปหรือเปล่า"
tag:go2pasa.ning.com,2010-03-01:2456660:BlogPost:199498
2010-03-01T09:52:19.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
<p style="TEXT-ALIGN: left">หลังจากเริ่มพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ(บางเวลา)มาได้ซัก 3 เดือน อยู่มาวันนึง คุณสามีก็ถามคำถามที่โดนใจขึ้นมา</p>
<p><strong>"ม๊า ทำไมเราเน้นแต่เรื่องภาษากับลูก เราลืมอะไรกันไปหรือเปล่า อย่างพวกคณิตศาสตร์ พวกวิทยาศาสตร์ ไม่มีใครเค้าแนะนำหรือสอนเหมือนหนังสือเรื่องเด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้บ้างหรือ"</strong> เราฟังแล้วก็คิด อืมก็จริงนะ แต่ก็ไม่ได้ขวนขวายหาข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด</p>
<p></p>
<p>แต่แล้วก็เหมือนฟ้าบันดาล วันนึงได้รับเมลเรื่องหนังสือราคาพิเศษ…</p>
<p style="TEXT-ALIGN: left">หลังจากเริ่มพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษ(บางเวลา)มาได้ซัก 3 เดือน อยู่มาวันนึง คุณสามีก็ถามคำถามที่โดนใจขึ้นมา</p>
<p><strong>"ม๊า ทำไมเราเน้นแต่เรื่องภาษากับลูก เราลืมอะไรกันไปหรือเปล่า อย่างพวกคณิตศาสตร์ พวกวิทยาศาสตร์ ไม่มีใครเค้าแนะนำหรือสอนเหมือนหนังสือเรื่องเด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้บ้างหรือ"</strong> เราฟังแล้วก็คิด อืมก็จริงนะ แต่ก็ไม่ได้ขวนขวายหาข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด</p>
<p></p>
<p>แต่แล้วก็เหมือนฟ้าบันดาล วันนึงได้รับเมลเรื่องหนังสือราคาพิเศษ มีหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ <strong>"คณิตศาสตร์เรื่องง่าย สอนได้ก่อนอนุบาล"</strong> โดย พ่อธีร์-แม่ภุชงค์ ของ รักลูกบุ๊กส์ เห็นปุ๊บก็รีบไปตามล่าหามาหนึ่งเล่ม เป็นหนังสือที่น่าสนใจทีเดียว มีคำแนะนำและเกร็ดความความรู้ที่เราสามารถใช้ปูพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ให้กับลูกๆได้ แต่ตอนนี้ยังอ่านไม่จบหรอกนะค่ะ ต้องสารภาพว่าอ่านไปงงไปค่ะ (ความสามารถทางเลขของป้อเนี่ยก็แค่พื้นๆอะค่ะ) ถ้าใครไม่ค่อยถนัดเรื่องเลขเนี่ย อ่านแล้วคงมึนๆหน่อยนะค่ะ</p>
<p></p>
<p>บางท่านอาจจะเคยเห็นเคยอ่านเรื่องนี้มาก่อนเพราะจุดเริ่มของหนังสือเล่มนี้มาจากกระทู้ในเว็บบอร์ดรักลูกของพ่อธีร์ ผู้ซึ่งมีความสามารถทางคณิตศาสตร์และต้องการปูพื้นฐานทางด้านนี้ให้กับลูกสาว โดยไม่ต้องพึ่งพาสถาบันสอนคณิตศาสตร์ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน</p>
<p></p>
<p>ถ้ายังไงก็ลองดูกันนะค่ะ เผื่อจะมีใครตั้งคำถามเหมือนที่สามีป้อเคยถาม จะได้หาคำตอบได้</p>
<p>(ป้อไม่ได้ค่านายหน้าจากสำนักพิมพ์หรือเจ้าของหนังสือใดๆทั้งสิ้นนะค่ะ แค่อยากแบ่งปันให้คนที่เป็นพ่อเป็นแม่เหมือนกัน)</p>
<p></p>
<p><img alt="" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975950356?profile=original"/></p>
<p></p>
<p></p>
ทีละคำสองคำ...ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
tag:go2pasa.ning.com,2010-01-20:2456660:BlogPost:170946
2010-01-20T07:21:45.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
เนื่องจากอิงอิง ลูกสาวเริ่มไปเนอสเซอรี่มา3-4เดือน ไม่สบายตลอด พอไม่สบายก็หงุดหงิดพาลอารมณ์เสีย เราก็เหนื่อยเพราะต้องดูลูกสองคนที่ผลัดกันไม่สบายเพราะติดกันไปติดกันมา(ถึงจะมีพี่เลี้ยงช่วยด้วยก็เถอะค่ะ เวลาไม่สบายก็หาแต่แม่เท่านั้น) งานนี้ก็เลยอาศัยเพิ่มคำศัพท์ให้ลูกไปพลางๆก่อนที่จะพูดกับเค้าเป็นวลีหรือประโยค ถ้าจะให้พูดตามครงก็ไม่ได้หวังผลอะไรมากหรอกค่ะ แต่ปรากฏว่าลูกสาวก็มีความก้าวหน้ามาให้แปลกใจอยู่เรื่อยๆ<br />
<br />
ทุกวันกลับถึงบ้านก็มืดแล้ว อิงอิงก็จะวิ่งไปดูท้องฟ้าว่าวันนี้เห็นดาวหรือเปล่า…
เนื่องจากอิงอิง ลูกสาวเริ่มไปเนอสเซอรี่มา3-4เดือน ไม่สบายตลอด พอไม่สบายก็หงุดหงิดพาลอารมณ์เสีย เราก็เหนื่อยเพราะต้องดูลูกสองคนที่ผลัดกันไม่สบายเพราะติดกันไปติดกันมา(ถึงจะมีพี่เลี้ยงช่วยด้วยก็เถอะค่ะ เวลาไม่สบายก็หาแต่แม่เท่านั้น) งานนี้ก็เลยอาศัยเพิ่มคำศัพท์ให้ลูกไปพลางๆก่อนที่จะพูดกับเค้าเป็นวลีหรือประโยค ถ้าจะให้พูดตามครงก็ไม่ได้หวังผลอะไรมากหรอกค่ะ แต่ปรากฏว่าลูกสาวก็มีความก้าวหน้ามาให้แปลกใจอยู่เรื่อยๆ<br />
<br />
ทุกวันกลับถึงบ้านก็มืดแล้ว อิงอิงก็จะวิ่งไปดูท้องฟ้าว่าวันนี้เห็นดาวหรือเปล่า วันนึงเค้าวิ่งไปดูแล้วก็บอกเราว่า "หม่าม๊า วันนี้มี star เต็มเลย.. " ฟังแล้วยิ้มเลยค่ะ<br />
<br />
มีวันนึง อิงอิงเห็นคนอื่นกินแตงโม เค้าก็อยากกินบ้าง เราก็ถามเค้าว่า นี่เรียกว่าอะไร คือในใจก็รอว่าต้องตอบว่าแตงโมแน่ๆ แต่เค้าตอบมาว่า "watermelon" งานนี้ก็อดยิ้มไม่ได้อีกค่ะ<br />
<br />
อิงอิงมีน้องชายวัน8เดือนชื่ออี้หมิงที่ชอบเอานิ้วเข้าปากอยู่บ่อยๆ เราก็จะบอกอี้หมิง Finger out! ก็สอนอิงอิงหลายทีแล้วว่าให้พูดแบบนี้เค้าก็เฉยๆไม่พูด บอกแต่ว่าอี้หมิงไม่เอานิ้วเข้าปากค่ะ แล้วเมื่อวันก่อน อยู่ดีๆอิงอิงก็ค่อยๆจับมือน้องไม่ให้เอานิ้วเข้าปากแล้วก็พูดว่า Finger out!<br />
(กับอี้หมิงป้อจะพูดภาษาอังกฤษกับเค้ามากกว่าไทย บางทีก็เลยทำให้อิงอิงได้ฟังอยู่เรื่อยๆเหมือนกัน ก็ถือเป็นการสอนพี่ทางอ้อมไปในตัวด้วยค่ะ)<br />
<br />
ทั้งหมดที่เล่ามานี่ก็อาจจะเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่หลายๆคนที่ไม่สามารถใช้ระบบ OPOL กับลูกได้ ความพยายามที่พูดคุยกับลูกมันไม่หายไปไหนหรอกค่ะ แต่อาจจะมาช้ากว่าครอบครัวที่ใช้ระบบ OPOL ซักหน่อย ก็คงต้องรอ รอ รอ แล้วก็รอหล่ะค่ะ<br />
สู้ๆนะค่ะ
ค่อยเป็นค่อยไปกับลูกทั้งสองคน
tag:go2pasa.ning.com,2009-11-20:2456660:BlogPost:136909
2009-11-20T08:14:47.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
อิงอิงเป็นเด็กที่มีโอกาสได้ยิน(ฟัง)ภาษาหลากหลายมาแต่เด็ก ที่บ้านจะพูดภาษาไทยและจีนแต้จิ๋ว ป้อก็จะเปิดเพลงภาษาอังกฤษให้ฟังตั้งแต่เด็ก เวลาอยู่กับคุณปู่ก็จะได้ยินภาษาจีนกลางจากสถานีข่าวCCTVอยู่เนืองๆ ถ้าจะว่าไปโอกาสทางด้านภาษาของอิงอิงคงมีมากกว่าเด็กหลายๆคนอย่างแน่นอน แต่ป้อก็ไม่เคยคิดว่าจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่นี้มันยังไม่เพียงพอที่จะพัฒนาความสามารถทางด้านภาษาของอิงอิง จนกระทั่งได้อ่านหนังสือ"เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้" ต้องยอมรับว่าหนังสือเล่มนี้ได้จุดประกายอยากให้ลูกสาวพูดภาษาอื่นเก่ง…
อิงอิงเป็นเด็กที่มีโอกาสได้ยิน(ฟัง)ภาษาหลากหลายมาแต่เด็ก ที่บ้านจะพูดภาษาไทยและจีนแต้จิ๋ว ป้อก็จะเปิดเพลงภาษาอังกฤษให้ฟังตั้งแต่เด็ก เวลาอยู่กับคุณปู่ก็จะได้ยินภาษาจีนกลางจากสถานีข่าวCCTVอยู่เนืองๆ ถ้าจะว่าไปโอกาสทางด้านภาษาของอิงอิงคงมีมากกว่าเด็กหลายๆคนอย่างแน่นอน แต่ป้อก็ไม่เคยคิดว่าจากสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่นี้มันยังไม่เพียงพอที่จะพัฒนาความสามารถทางด้านภาษาของอิงอิง จนกระทั่งได้อ่านหนังสือ"เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้" ต้องยอมรับว่าหนังสือเล่มนี้ได้จุดประกายอยากให้ลูกสาวพูดภาษาอื่นเก่ง ให้เป็นธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษา แต่ก็ยังไม่สามารถนำระบบ OPOL มาใช้กับลูกซักที<br />
<br />
ต้องยอมรับว่าชื่นชมคุณแม่หลายๆคนที่เป็นสมาชิกเว็บ 2ภาษา ที่มีความพยายามอย่างมาก ทั้งหาข้อมูล ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก ตัวป้อเองซะอีกที่พอจะมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษแต่ก็ยังไม่ได้ใช้โอกาสอย่างเต็มที่ คงเพราะว่าต้องดูลูกสองคนทำให้ยังไม่พร้อมที่จะคุยกับลูก(รวมถึงสอน/ดุในหลายๆโอกาส เพราะลูกสาวซนและดื้อเหลือเกิน) ตอนนี้ก็เลยพูดภาษาอังกฤษกับอิงอิงในบางโอกาสเท่านั้น แต่สำหรับอี้หมิง ลูกชายอายุ6เดือนกว่าๆนั้น โซโล่ภาษาอังกฤษเกือบจะอย่างเดียวค่ะ(ยกเว้นเวลาอยู่กับอาม่าก็ยังมีแต้จิ๋วอยู่และเวลาที่นึกภาษาอังกฤษไม่ออก)<br />
<br />
สำหรับอิงอิง เวลาพูดกับเค้าเป็นภาษาอังกฤษเค้าก็เข้าใจแต่ยังไม่สามารถตอบเรากลับมาได้ ก็พยายามเพิ่มคลังคำศัพท์ให้เค้าให้มากที่สุด พยายามสร้างเงื่อนไขให้เค้าเวลาเค้าต้องการอะไรบ้างอย่าง อย่างเวลานั่งรถกลับบ้าน เค้าจะต้องนั่งcarseat และก็จะจับมือป้อไว้ แรกๆก็จะสอนให้พูด hand, please สอนอยู่ซักพักก็ได้ผล ทุกวันเวลาขึ้นรถนั่งcarseat เรียบร้อย อิงอิงก็จะบอกว่า hand, please ขนาดว่าวันก่อนร้องไห้งอแงก็ยังคงพูดว่า hand, please (ต้องยอมรับว่าชื่นใจค่ะ ถึงจะงอแงก็ยังพูดภาษาอังกฤษ)<br />
<br />
มีวันหนึ่งสอนอิงอิงเรียก moon เค้าก็เถียงเราว่า พระจันทร์ เถียงกันไปมาอยู่ซักพัก เค้าก็เงียบไป แล้วก็ตอบเราว่า "ไม่ใช่moon หง่วยเนี๊ย(พระจันทร์ในภาษาแต้จิ๋วค่ะ)" ป้อกับแฟนก็งงค่ะเพราะไม่เคยสอน ไปถามน้องสาวป้อได้ความมาว่า เคยเกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้ระหว่างอิงอิงกับคุณยาย แต่ว่าคุณยายสอนให้เรียกเป็นภาษาแต้จิ๋วว่า หง่วยเนี๊ย ทุกวันนี้เวลานั่งรถกลับบ้านแล้วถามเค้า Can you see the moon tonight? เค้าก็จะมองหาพระจันทร์บนท้องฟ้าค่ะ แต่ก็ยังคงตอบกลับมาเป็นไทยอยู่<br />
<br />
ณ ตอนนี้ป้อยังคงต้องใช้เวลาสอนลูกให้มากขึ้นเพื่อหวังว่าซักวันเค้าจะสามารถพูดและสื่อสารได้คล่องเหมือนน้องเพ่ยเพ่ย น้องเนย และเด็กอีกหลายๆคนที่ได้รับโอกาสจากคุณพ่อคุณแม่ ก็คงต้องมาคอยหาแรงบันดาลใจ+กำลังใจจากเพื่อนๆในเว็บ2ภาษานี้ต่อไปค่ะ
ทำยังไงดีค่ะ อ่านนิทานภาษาอังกฤษแล้วลูกไม่ยอมฟัง
tag:go2pasa.ning.com,2009-10-20:2456660:BlogPost:118275
2009-10-20T10:15:05.000Z
ปาจรียา(แม่ป้อของอิง+หมิง+หลง)
http://go2pasa.ning.com/profile/33t2nng91tohl
ปกติจะอ่านนิทานภาษาไทยให้ลูกฟัง แต่เพิ่งได้หนังสือนิทานภาษาอังกฤษมา สีสันสดใส มาวันแรกก็เปิดรูปให้ดูแล้วก็เล่าตามรูปให้ฟังเป็นภาษาไทย พอหลังจากนั้นเค้าให้อ่านให้ฟังอีก ป้อก็อ่านเป็นอังกฤษตามในหนังสือ กำลังอ่านลูกสาวก็บอกว่า "หม่าม๊าอ่านให้อิงอิงฟังหน่อย" เราก็อ่านอยู่หน่ะแหล่ะค่ะแต่เค้าไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเค้าก็พูดแต่ว่าให้อ่านให้ฟังๆ จนเค้าโมโหไม่ฟังเลย ใครมีเทคนิคให้ลูกยอมฟังนิทานภาษาอังกฤษบ้างค่ะ (ก็พยามยามอ่านให้ตื่นเต้นอยู่นะค่ะ แต่ลูกก็ยังไม่สนใจ) ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ
ปกติจะอ่านนิทานภาษาไทยให้ลูกฟัง แต่เพิ่งได้หนังสือนิทานภาษาอังกฤษมา สีสันสดใส มาวันแรกก็เปิดรูปให้ดูแล้วก็เล่าตามรูปให้ฟังเป็นภาษาไทย พอหลังจากนั้นเค้าให้อ่านให้ฟังอีก ป้อก็อ่านเป็นอังกฤษตามในหนังสือ กำลังอ่านลูกสาวก็บอกว่า "หม่าม๊าอ่านให้อิงอิงฟังหน่อย" เราก็อ่านอยู่หน่ะแหล่ะค่ะแต่เค้าไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเค้าก็พูดแต่ว่าให้อ่านให้ฟังๆ จนเค้าโมโหไม่ฟังเลย ใครมีเทคนิคให้ลูกยอมฟังนิทานภาษาอังกฤษบ้างค่ะ (ก็พยามยามอ่านให้ตื่นเต้นอยู่นะค่ะ แต่ลูกก็ยังไม่สนใจ) ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ