แม่น้องเนย's Posts - หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้
2024-03-29T15:44:32Z
แม่น้องเนย
http://go2pasa.ning.com/profile/26b7l699ty6mm
http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1959213767?profile=RESIZE_48X48&width=48&height=48&crop=1%3A1
http://go2pasa.ning.com/profiles/blog/feed?user=26b7l699ty6mm&xn_auth=no
7 ปี กับเส้นทางเด็กสองภาษา
tag:go2pasa.ning.com,2016-03-14:2456660:BlogPost:1307086
2016-03-14T00:13:16.000Z
แม่น้องเนย
http://go2pasa.ning.com/profile/26b7l699ty6mm
<p>วันนี้เป็นวันครบรอบ 7 ปี ที่เล็กพูดภาษาอังกฤษกับลูก</p>
<p>ก็ถือเป็นภาระกิจที่เราทำติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนานทีเดียว</p>
<p>ไม่เคยคิดว่าจะสามารถประคองมาจนถึงวันนี้</p>
<p></p>
<p><img class="align-full" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975965187?profile=original" width="402"></img></p>
<p></p>
<p></p>
<p>ยังนั่งคิดอยู่ว่า ถ้าวันนั้น "เราไม่กล้าที่จะเริ่มต้น... วันนี้จะเป็นอย่างไร"</p>
<p></p>
<p>มองย้อนกลับไป วันแรกที่เราเริ่มต้น ก็คงเหมือนเพื่อนๆ</p>
<p>คือซื้อหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" มาอ่าน</p>
<p>แล้วเกิดแรงบันดาลใจ ไฟลุก พรึบพรับ..</p>
<p></p>
<p>ลึกๆยังคิดว่า…</p>
<p>วันนี้เป็นวันครบรอบ 7 ปี ที่เล็กพูดภาษาอังกฤษกับลูก</p>
<p>ก็ถือเป็นภาระกิจที่เราทำติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนานทีเดียว</p>
<p>ไม่เคยคิดว่าจะสามารถประคองมาจนถึงวันนี้</p>
<p></p>
<p><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975965187?profile=original" width="402" class="align-full"/></p>
<p></p>
<p></p>
<p>ยังนั่งคิดอยู่ว่า ถ้าวันนั้น "เราไม่กล้าที่จะเริ่มต้น... วันนี้จะเป็นอย่างไร"</p>
<p></p>
<p>มองย้อนกลับไป วันแรกที่เราเริ่มต้น ก็คงเหมือนเพื่อนๆ</p>
<p>คือซื้อหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" มาอ่าน</p>
<p>แล้วเกิดแรงบันดาลใจ ไฟลุก พรึบพรับ..</p>
<p></p>
<p>ลึกๆยังคิดว่า "คุณบิ๊ก (ผู้แต่งหนังสือ) ไม่ได้จบเมืองนอก</p>
<p>ไม่ได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ยังทำได้ เราก็ต้องทำได้"</p>
<p></p>
<p>ไฟในใจลุก แต่สมองเรื่องภาษา ติดลบสุดๆ </p>
<p>1.ไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย นอกจากคำศัพท์เล็กๆน้อยๆ </p>
<p>2.พูดได้เล็กน้อย ตามประโยคที่เรียนมา ตามแกรมม่าสุดๆ </p>
<p>3.สำเนียงไทย แท้...แท้...แท้...</p>
<p></p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975967202?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975967202?profile=original" width="401" class="align-full"/></a></p>
<p></p>
<p>ใครที่เคยคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จในการสอนลูกเป็นเด็กสองภาษา</p>
<p>คือคนที่มีความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษดี ได้เปรียบ ขอบอกว่า "ผิด" </p>
<p></p>
<p>ส่วนใหญ่เป็นพวกที่แย่-ปานกลาง แต่มีความมุ่งมั่น สู้ไม่ถอย เพิ่มเติม เรียนไปพร้อมลูก</p>
<p></p>
<p>แต่ก็มีบางคน ที่มีพื้นฐานดีมาอยู่แล้ว ก็ต่อยอดไปได้ง่ายกว่า</p>
<p>อันนี้ยอมรับว่า โชคดี แต่ก็ต้องอาศัยความต่อเนื่องเหมือนกัน</p>
<p></p>
<p>เนื่องจากเรามีพื้นฐานมาไม่เท่ากัน เล็กขอพูดในประสบการณ์ที่ผ่านมาของเล็ก</p>
<p>ที่ผ่าฟันมาแบบไหน หลายคนอาจจะคิดว่าเล็กมาแบบสบายๆ</p>
<p>เพราะว่ามาเจอน้องเนย ตอนที่พูดอังกฤษลื่นไหลแล้ว มาดูความจริงกันค่ะ</p>
<p></p>
<p>เราเริ่มพูดอังกฤษกันตอนที่ลูกอายุ 2 ขวบครึ่ง ดังนั้นเค้าโตพอ</p>
<p>ที่จะพูดภาษาไทยคล่องแล้ว จึงทำให้เกิดอาการต่อต้าน แต่เราก็ค่อยๆปรับเค้าไปค่ะ</p>
<p></p>
<p>-ระหว่างวันฝึกพูดกับลูก พูดไปหยุดไป ตะกุกตะกัก (คิดไม่ออก)</p>
<p>-อ่านนิทาน อ่านๆ หยุดๆ (ออกเสียงไม่ถูก)</p>
<p>-เปิดดิกชั่นนารี่ออนไลน์ เช็คการออกเสียงคำศัพท์</p>
<p>-เข้าเวป <a href="http://www.2pasa.com">www.2pasa.com</a> ที่ห้องอังกฤษ </p>
<p>-ตั้งคำถาม ว่าพูดแบบนี้ ต้องพูดอย่างไร</p>
<p>-รอคำตอบจากท่านผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์</p>
<p>-เอาประโยคเหล่านั้นมาพูดให้คล่อง 5-10 รอบ</p>
<p>-เอาประโยคนั้น ไปพูดกับลูกบ่อยๆ</p>
<p>-เข้า Youtube เปิดนิทานฟังเองก่อน</p>
<p>-เปิด DVD นิทานให้ลูกฟัง ฟังพร้อมกัน (ยังฟังไม่ออก)</p>
<p>-Copy MP3 บทสนทนามาฟังเอง</p>
<p>-ไปห้องสมุด หาหนังสือมาอ่านเพิ่ม</p>
<p>-จดประโยคภาษาอังกฤษทุกที่มาพูด เช่นรถไฟฟ้า, ป้ายโฆษณา</p>
<p>-ฝึกอ่านนิทาน เปิดดิก ก่อนที่จะอ่านให้ลูกฟัง</p>
<p>-อ่านนิทานให้ลูกฟัง ก็ค่อยๆคล่องขึ้น</p>
<p></p>
<p>ระหว่างทางที่เดินไป มีทั้งน้ำตา และเสียงหัวเราะ</p>
<p>น้ำตาทำให้เราอ่อนแอ เกือบจะเลิกภาระกิจ</p>
<p>แต่เสียงหัวเราะของลูกตอนละเมอเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้เราแปลกใจ และ ฮึดสู้...</p>
<p></p>
<p>งงไหมคะ เด็กสามารถละเมอเป็นภาษาอังกฤษได้</p>
<p>ซึ่งเด็กทุกคนผ่านจุดนี้มาแล้ว ถามกันได้เลยค่ะ </p>
<p></p>
<p>มาถึงวันนี้ อยากจะบอกว่า อยากให้เริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูกที่บ้าน</p>
<p>ตั้งแต่เด็กยังอยู่ในท้องได้ยิ่งดี หรือตั้งแต่คลอดออกมา</p>
<p></p>
<p>เพราะว่าเด็กสามารถรับรู้และจดจำได้ถึง โทนเสียงที่ผู้เป็นแม่เปล่งออกมา</p>
<p>แม้เค้าจะไม่รู้ว่า นั่นคือ ภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ</p>
<p></p>
<p>ถ้าเรามาเริ่มต้นตอนที่เค้าโตแล้ว</p>
<p>1.การเรียนแบบแปลในโรงเรียนจะทำให้เค้าปฎิเสธเรา</p>
<p>2.กิจกรรมมาก ทำให้เราไม่มีสมาธิสอนลูก</p>
<p>3.การบ้านมาก ทำให้เราต้องพูดไทย</p>
<p>4.ลูกเริ่มไม่พึ่งแม่มาก เค้าจะไม่อยู่กับเรา</p>
<p>5.ประโยคที่เราใช้ก็จะเปลี่ยนไป</p>
<p></p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975967274?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975967274?profile=original" width="499" class="align-full"/></a></p>
<p></p>
<p>สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า การหวังพึ่งโรงเรียน ให้โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ</p>
<p>ให้ลูกพูดได้ ควรเป็นคำตอบสุดท้าย หรือ ไม่ควรพึ่งเลย</p>
<p></p>
<p>ด้วยจำนวนนักเรียนมากมาย ครูอาจจะสอนได้ไม่ทั่วถึง</p>
<p>ทักษะการฟังอาจจะได้ แต่ทักษะการพูด "ต้องเริ่มที่บ้าน" นะคะ</p>
<p></p>
<p>วันก่อนเพิ่งได้เจอคุณแม่ที่โรงเรียนอินเตอร์แห่งหนึ่ง</p>
<p>ที่ไปออกบู๊ทขายหนังสือนิทานภาษาอังกฤษที่นั่น</p>
<p></p>
<p>คุณแม่ท่านนี้ เคยไปเข้าเวิร์คช๊อป เด็กสองภาษา เมื่อ 5 ปีก่อน</p>
<p>ตอนลูกอยู่ในท้อง คนที่พูดภาษาอังกฤษกับลูก คือคุณพ่อ</p>
<p>เค้าพูดกันมาตั้งแต่เกิด และส่งลูกมาต่อยอดเรียนที่โรงเรียนอินเตอร์</p>
<p></p>
<p>เธอบอกว่า เธอมั่นใจที่จะบอกใครๆว่า</p>
<p>การสอนหรือพูดอังกฤษที่บ้านตั้งแต่ยังเล็ก</p>
<p>มีผลดีมากกว่า จะมาหวังเอาที่โรงเรียน </p>
<p></p>
<p>ถ้าเปรียบเทียบลูกเธอ กับ ลูกคนอื่น ครูบอกว่า</p>
<p>ลูกเธอมีทักษะการพูดที่ดีกว่า เข้าใจ และโต้ตอบได้ดีกว่า ทั้งๆที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน</p>
<p></p>
<p>ไม่ต้องสงสัยแล้วค่ะ เริ่มกันเลย ถ้าจะรอให้พูดได้ดี</p>
<p>สมบูรณ์ ลื่นไหล แล้วค่อยมาสอนลูก คงไม่ทันแน่ๆ</p>
<p>เริ่มเลยค่ะ เริ่มไปก่อน ให้สมองเราได้สั่งงานก่อน</p>
<p> แล้วค่อยๆปรับกัน เอาใจช่วย สู้สู้ กันนะคะ </p>
<p></p>
<p>สุดท้ายขอขอบคุณครอบครัวคุณบิ๊ก</p>
<p>ที่เป็นผู้จุดประกาย มอบสิ่งดีๆ ให้บ้านเรามากมาย ขอบคุณค่ะ</p>
<p></p>
<p>ร้านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษ ฟาร์มฝันบุ๊ค</p>
<p><a href="http://www.facebook.com/farmfunbook" target="_blank">www.facebook.com/farmfunbook</a></p>
<p></p>
<p>คลิปเนยล่าสุด</p>
<p><a href="https://www.youtube.com/watch?v=jaPK9IUzViQ" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=jaPK9IUzViQ</a></p>
ครบรอบ 6 ปีพูดหนึ่งภาษา(อังกฤษ)
tag:go2pasa.ning.com,2015-03-14:2456660:BlogPost:1283318
2015-03-14T00:00:00.000Z
แม่น้องเนย
http://go2pasa.ning.com/profile/26b7l699ty6mm
<p><span style="font-size: 13px;">เข้ามาอัพเดท ความเป็นไปของการพูดภาษาอังกฤษกับลูกมาครบ 6 ปี </span><span style="font-size: 13px;">ขณะนี้น้องเนยอายุ 8 ปีกว่าๆ</span></p>
<p><span style="font-size: 13px;"><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975964800?profile=original" target="_self"><img class="align-full" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975964800?profile=original" width="500"></img></a></span></p>
<p></p>
<p><span style="font-size: 13px;">ในวันนี้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว บุรุษไปรษณีย์มาส่งหนังสือเล่มส้มๆ</span></p>
<p>"เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้" ให้ที่บ้าน…</p>
<p><span style="font-size: 13px;">เข้ามาอัพเดท ความเป็นไปของการพูดภาษาอังกฤษกับลูกมาครบ 6 ปี </span><span style="font-size: 13px;">ขณะนี้น้องเนยอายุ 8 ปีกว่าๆ</span></p>
<p><span style="font-size: 13px;"><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975964800?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975964800?profile=original" width="500" class="align-full"/></a></span></p>
<p></p>
<p><span style="font-size: 13px;">ในวันนี้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว บุรุษไปรษณีย์มาส่งหนังสือเล่มส้มๆ</span></p>
<p>"เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้" ให้ที่บ้าน รีบเปิดอ่านและทำเลย</p>
<p>ล้มลุกคลุกคลานกันน่าดู</p>
<p></p>
<p><span style="font-size: 13px;">ถึงวันนี้เราก็ยังรู้สึกขอบคุณคุณบิ๊กและครอบครัว</span></p>
<p>ที่ทำหนังสือเล่มนี้ออกมา ทำให้ครอบครัวเรารู้สึกว่า</p>
<p>"คนธรรมดาๆอย่างเราก็ทำได้นะ"</p>
<p>แล้วคุณล่ะ ทำหรือยัง?</p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975966854?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975966854?profile=original" width="300" class="align-full"/></a></p>
<p></p>
<p>"ยังพูดภาษาอังกฤษกันอยู่ไหม" คือคำถามที่ได้รับจากพ่อแม่หลายครอบครัว</p>
<p>ที่อาจจะถามเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองว่า ยังมีคนที่สอนลูกพูดภาษาอังกฤษได้จริง</p>
<p>และยังคงพูดอยู่จนปัจจุบัน</p>
<p></p>
<p>ครอบครัวเรายังพูดภาษาอังกฤษกันอยู่เหมือนเดิม โดยใช้ "ความเคยชิน"</p>
<p>ที่เคยสอนกันมาตอนเด็กๆ เล็กสังเกตว่าสิ่งที่พูดหรือสอนลูกไป</p>
<p>ถ้าแม่อย่างเราไม่ขยับเติมให้มากขึ้น มันก็จะเท่าเดิม และคอยลดลงเรื่อยๆ</p>
<p></p>
<p>ช่วงปีที่ผ่านมานี้เล็กอาจจะละเลยการเพิ่ม เติม เสริม ให้ลูกตามที่บอก</p>
<p>ภาษาอังกฤษของลูกก็ ทรงๆ ทรุดๆ สำเนียงหายไปเรื่อยๆเมื่อพูดกับแม่</p>
<p>ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าลูกเลียนแบบตามโรงเรียน</p>
<p>อีกส่วนหนึ่งเค้าก็ไม่ค่อยได้ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษมาก</p>
<p>เพราะว่าแต่ละวันการบ้านก็เอาเวลาไปเกือบหมดแล้ว</p>
<p>และส่วนที่สำคัญเลยคือต้นแบบ (แม่) ไม่ได้ฝึกฝนให้มากพอ</p>
<p></p>
<p>แต่เรื่องนี้เล็กคิดว่าเราพื้นฟูได้อยู่แล้ว เรื่องสำเนียงไม่ค่อยเป็นสิ่งสะกิดใจเล็ก</p>
<p>เท่ากับเรื่องที่ลูกพูดๆ หยุดๆ คิดๆ มันไม่ลื่นไหลเหมือนตอน 3-4 ขวบจริงๆ</p>
<p>ซึ่งเล็กเองก็เป็นเหมือนกัน แต่คิดว่าสามารถกู้คืนได้โดยใช้เวลาช่วงปิดเทอมนี้แหละ</p>
<p>อยู่กันตลอดเหมือนตอนเด็กๆเลย</p>
<p>(เพราะตอนนี้เล็กทำงานในร้านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษของตัวเอง <span style="font-size: 13px;">ไม่ได้ทำงานประจำแล้ว)</span></p>
<p><span style="font-size: 13px;">ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า พูด พูด พูด กัน</span></p>
<p></p>
<p>มีหลายครอบครัวเริ่มต้น และพบกับความสำเร็จ</p>
<p>หลายครอบครัวเริ่มต้นแล้วก็เลิกไปในที่สุด</p>
<p>อะไรที่ทำให้ครอบครัวทั้งสองแบบแตกต่างกัน</p>
<p>หลายคนคงคิดว่าเล็กจะบอกว่า "พื้นฐานภาษาอังกฤษ" เป็นสาเหตุล่ะซิ</p>
<p>ไม่ใช่แน่นอน พื้นฐานเรื่องภาษาไม่ได้เป็นสาเหตุให้สอนภาษาลูกไม่ได้</p>
<p>แต่สิ่งที่แตกต่างกันที่เล็กสรุปได้คือ</p>
<p></p>
<p>1.<strong><span style="text-decoration: underline;">การจัดลำดับความสำคัญ</span></strong><br/> ถ้าเราจัดความสำคัญในการพูดภาษาอังกฤษกับลูกไว้อันดับต้นๆ</p>
<p>เราก็จะรู้สึกว่ามันเป็นงานอีกชนิดหนึ่งที่ "ต้องทำ"</p>
<p>แล้วสมองจะสั่งให้เราคอยหาความรู้เพิ่มเติมเองและพยายามพูดกับลูกทันทีที่นึกได้</p>
<p><br/> <br/> 2.<strong><span style="text-decoration: underline;">การกำหนดเป้าหมาย</span></strong><br/> เมื่อตั้งใจที่จะทำแล้ว ลองวาดความสำเร็จไว้เลยว่า</p>
<p>"ลูกจะต้องพูดภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ"</p>
<p>ซึ่งตรงนี้เราสามารถดูตัวอย่างจากหลายๆบ้านที่ทำมาแล้ว</p>
<p>(มันไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อม)</p>
<p></p>
<p>3.<span style="text-decoration: underline;"><strong>ความมุ่งมั่น ตั้งใจ</strong></span><br/> ถึงขั้นตอนลงมือปฏิบัติ ก็ต้องเต็มที่ ทำไม่ถอย แม้ว่าจะ</p>
<p>"ท้อมากกกก" ขอลากยาวหน่อย เพราะว่าเคยผ่านจุดนี้มาแล้ว เข้าใจดีค่ะ</p>
<p></p>
<p>4.<span style="text-decoration: underline;"><strong>ความอดทน</strong></span><br/> ทำไปอย่างใจเย็น เรื่อยๆ ไม่ต้องหวังผลในระยะสั้น</p>
<p>ไม่กดดันตัวเอง ต้องเตือนตัวเองเสมอว่า มันต้องทำได้อยู่แล้ว</p>
<p>เพียงแต่ว่าต้องพยายามอีกนิด อีกนิด</p>
<p></p>
<p>5.<span style="text-decoration: underline;"><strong>งานระยะยาว</strong></span><br/> มันไม่เหมือนโครงการหรืองานที่เราเคยทำ</p>
<p>เพราะว่ามันไม่มีระยะเวลากำหนด คือทำพูดไปเรื่อยๆ</p>
<p>อาศัยความถี่เท่านั้นที่จะทำได้สำเร็จ</p>
<p></p>
<p>มีหลายบ้านมาปรึกษาเล็กว่า ตอนนี้ลูกเป็นแบบนี้แล้ว ถูกไหม ใกล้หรือยัง</p>
<p>เล็กก็ให้ข้อแนะนำว่าอีกนิดเดียวลูกก็จะสามารถโต้ตอบได้แล้ว</p>
<p>แต่แล้วก็หายไปเลย คือไม่สามารถผ่านจุดนั้นได้</p>
<p>อยากบอกว่าถ้าเรามุ่งมั่น ต้องอย่าถอยค่ะ "อีกนิดเดียว" ท่องไว้ค่ะ อิอิ</p>
<p><br/> <br/> ระหว่างที่สอนลูกพูดภาษาอังกฤษ</p>
<p>เราก็อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังทุกวัน</p>
<p>จนเค้าชอบอ่านมาก แต่ไม่อ่านเอง</p>
<p>ให้เราอ่านให้ฟังฝ่ายเดียว (ซึ่งต่างกับภาษาไทย ที่เค้าชอบอ่านเองมากกว่า)</p>
<p>เราก็เฝ้ารอคอยอีกว่า เมื่อไรเค้าจะอ่านเองซักที</p>
<p></p>
<p></p>
<p>ณ วันนี้ วันที่รอคอยมาถึงแล้ว ลูกหยิบหนังสือภาษาอังกฤษมาอ่านเอง</p>
<p><span style="font-size: 13px;">แบบอ่านจริงๆ ไม่ได้ดูรูปอย่างเดียวเหมือนที่เคยเป็น</span></p>
<p>อ่านโดยไม่ต้องรอเรา บางคำที่อ่านไม่ออกก็จะมาถามว่าอ่านว่าอย่างไร</p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975966906?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975966906?profile=original" width="500" class="align-full"/></a></p>
<p></p>
<p></p>
<p>และหัดเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษ</p>
<p>ความชื่นใจเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นทำให้เรามีความสุขจริงๆ</p>
<p></p>
<p>ลูกใช้เวลาอยู่กับหนังสือมากกว่าไอแพด ทีวี </p>
<p>อยากบอกว่าให้ส่งเสริมเด็กแต่เล็กๆให้รักการอ่านนะคะ</p>
<p>แล้วเมื่อโตขึ้น เราจะเหนื่อยน้อยลงค่ะ</p>
<p></p>
<p>ลองมาให้ของขวัญลูกกัน ด้วยการปลูกฝังการพูดภาษาอังกฤษกับเค้า</p>
<p>ในช่วงตั้งแต่เด็กๆ ยิ่งเริ่มตอนแรกเกิดได้ยิ่งดีค่ะ ขอย้ำว่า สอนตั้งแต่เด็กๆ</p>
<p>ได้ผลมากกว่ามาสอนตอนเด็กเริ่มเข้า รร.ค่ะ</p>
<p></p>
<p>สมมุติว่าของขวัญชิ้นนี้มีคุณค่ามาก</p>
<p>เราต้องพยายามเอามันมาให้ลูกให้ได้</p>
<p>เราก็จะทำสุดความสามารถ</p>
<p>และถือว่ามันมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ</p>
<p>ถือเป็นงานที่ต้องทำอันดับแรกๆ</p>
<p>แล้วเราก็จะสู้ไม่ถอย สู้ไปด้วยกันค่า</p>
<p></p>
<p>ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ</p>
<p>เล็ก</p>
<p><a href="http://www.facebook.com/farmfunbook" target="_blank">www.facebook.com/farmfunbook</a><br/> line id : lek-noey</p>
<p><br/> เล็กได้เขียนบล็อกไว้เมื่อปีที่แล้ว และมีข้อสรุปมาฝากกัน (เผื่อยังไม่ได้อ่าน) </p>
<p><a href="http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/5-4" target="_self">http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/5-4</a></p>
<p></p>
ห้องภาษาอังกฤษ
tag:go2pasa.ning.com,2014-06-23:2456660:BlogPost:1256478
2014-06-23T02:06:29.000Z
แม่น้องเนย
http://go2pasa.ning.com/profile/26b7l699ty6mm
<p>ย้อนไปเมื่อ 5 ปี ที่แล้วเล็กเริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูก</p>
<p>บ้านเราเริ่มต้นผิดๆถูกๆ ปนเปกันไปพร้อมกับ</p>
<p>ความไม่แน่ใจว่าจะไปรอด สิ่งหนึ่งที่ช่วยพยุงและ</p>
<p>ต่อลมหายใจของบ้านเราคือ เวป "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้"</p>
<p><a href="http://www.2pasa.com">www.2pasa.com</a> ที่นี่เป็นที่รวมตัวของเหล่าแม่ๆ</p>
<p>ที่กำลังมีความคิดเดียวกัน ที่ต้องการมอบของขวัญด้านภาษาให้กับลูก</p>
<p>เพื่อเป็นความสามารถพิเศษติดตัวเค้าไปเมื่อโตขึ้น</p>
<p>โดยเฉพาะห้องภาษาอังกฤษ…</p>
<p>ย้อนไปเมื่อ 5 ปี ที่แล้วเล็กเริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูก</p>
<p>บ้านเราเริ่มต้นผิดๆถูกๆ ปนเปกันไปพร้อมกับ</p>
<p>ความไม่แน่ใจว่าจะไปรอด สิ่งหนึ่งที่ช่วยพยุงและ</p>
<p>ต่อลมหายใจของบ้านเราคือ เวป "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้"</p>
<p><a href="http://www.2pasa.com">www.2pasa.com</a> ที่นี่เป็นที่รวมตัวของเหล่าแม่ๆ</p>
<p>ที่กำลังมีความคิดเดียวกัน ที่ต้องการมอบของขวัญด้านภาษาให้กับลูก</p>
<p>เพื่อเป็นความสามารถพิเศษติดตัวเค้าไปเมื่อโตขึ้น</p>
<p>โดยเฉพาะห้องภาษาอังกฤษ ที่เป็นแหล่งความรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด</p>
<p>เกิดจาก "คนถามที่ไม่รู้" และ "คนตอบที่รู้มากกว่า"</p>
<p>แสดงความเอื้ออาทร แบ่งปัน แชร์ความรู้ ประสบการณ์</p>
<p>ความคิดเห็น จนได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด</p>
<p></p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975964095?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975964095?profile=original" width="400" class="align-full"/></a></p>
<p>ในฐานะของ "คนถาม" มือวางอันดับหนึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้วนั้น</p>
<p>อยากบอกความในใจและความรู้สึกเมื่อถามคำถามไปว่า</p>
<p>ประโยคแบบนี้ต้องพูดว่าอย่างไร แล้วได้รับคำตอบมา คือ</p>
<p>"รู้สึกดีใจ" และ "ตื้นตันใจ" ว่ามีคนช่วยแล้ว</p>
<p>ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เค้ามาช่วย ทำให้เรารู้สึกดีกับที่นี่มาก</p>
<p>ทุกคนที่เข้ามา แต่ละคนก็จะมีมุมมองการใช้ภาษาที่แตกต่างกัน</p>
<p>เพราะว่าภาษาไม่คงที่ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ได้ตลอดเวลา</p>
<p>ยิ่งคนเยอะ ยิ่งมีมุมมองที่ต่างกันไป จะได้คำตอบที่ดีที่สุด</p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975966164?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975966164?profile=original" width="400" class="align-full"/></a></p>
<p></p>
<p>ขณะนี้จะเห็นว่าเล็กได้เข้าไปถามคำถามน้อยลงมากๆ</p>
<p>และก็มีคนใหม่ๆผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาถามคำถาม</p>
<p>ในห้องภาษาอังกฤษหลากหลายคน ส่วนคนตอบ</p>
<p>(ครูอาจารย์ของพวกเรา) ก็หมุนเวียนกันไปแล้วแต่เวลาที่เอื้ออำนวย</p>
<p>อยากจะบอกว่าไม่ใช่ว่าเก่งแล้วเลยไม่ถามแล้ว</p>
<p>แต่รู้สึกว่าเรามีประสบการณ์มากขึ้นในการหาคำตอบ</p>
<p>จากหลากหลายทาง เช่น เมื่อเล็กมีคำถามเกิดขึ้นว่า</p>
<p></p>
<p>1.อยากพูดคำภาษาไทยคำนี้ จะพูดอย่างไรเป็นภาษาอังกฤษ</p>
<p>-เล็กจะเปิด Dictionary ออนไลน์ไทย-อังกฤษ ก่อนเป็นอันดับแรก</p>
<p>จะได้เห็นทั้งประเภทของคำ , ตัวอย่างประโยคสั้นๆ</p>
<p>-เปิด Dictionary ออนไลน์ อังกฤษ-อังกฤษ</p>
<p>เพื่อฟังการออกเสียงคำนั้นๆ และได้เห็นตัวอย่างประโยคการใช้ที่มากขึ้น</p>
<p></p>
<p>2.อยากรู้ว่าทั้งประโยคออกเสียงอย่างไร</p>
<p>เล็กจะเข้าไป <a href="http://text-to-speech.imtranslator.net/">http://text-to-speech.imtranslator.net/</a></p>
<p>วางประโยคไว้แล้วกด "Say it"</p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975968035?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975968035?profile=original" width="400" class="align-full"/></a></p>
<p></p>
<p>3.อยากรู้ว่าสถานการณ์นี้ควรใช้อย่างไร </p>
<p>เล็กจะเข้าที่ <a href="http://www.2pasa.com">www.2pasa.com</a> ด้านบนมุมขวา</p>
<p>จะมีแว่นขยาย ช่องที่เขียนว่า Search Social Network </p>
<p>เล็กพิมพ์คำที่ต้องการสั้นๆ เช่น ได้เปรียบ , พิรุธ, แกล้ง,</p>
<p>จะมีกระทู้เดิมๆที่มีคนเคยถามแล้วมาให้อ่านมากมาย</p>
<p>กรณีที่หาไม่เจอก็เข้าไปตั้งกระทู้ใหม่</p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975968045?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975968045?profile=original" width="400" class="align-full"/></a></p>
<p></p>
<p>4.ตั้งกระทู้ใหม่ในห้องภาษาอังกฤษ</p>
<p>ควรตั้งหัวข้อให้สั้น กระชับ เป็นคำ</p>
<p>เพื่อว่าต่อไปคนอื่นจะได้หาเจอ อย่าตั้งว่า</p>
<p>"ช่วยหน่อยค่ะ" ไม่นานจะมีผู้รู้มาช่วยตอบ</p>
<p></p>
<p>5.หลังจากได้ประโยคที่ต้องการแล้ว</p>
<p>ก็นำไปพูดกับลูก ครั้งแรกอาจจะจำไม่ได้</p>
<p>ต้องกลับมาดูโพย จะพูดอีก จำไม่ได้อีก</p>
<p>แนะนำให้พูดกับตัวเองประมาณ 10 รอบก่อน</p>
<p>การดูบ่อยๆจะฝึกสมองให้จำได้ดีขึ้น</p>
<p></p>
<p>6.การฝึกแบบนี้เป็นประจำทำให้เกิดความเคยชิน</p>
<p>และติดเป็นนิสัย ต้องพยายามฝึกและพูดกับลูก</p>
<p>อย่างสม่ำเสมอ การดูการ์ตูนแล้ว</p>
<p>นำประโยคมาพูดกับลูกก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้</p>
<p>จะได้ตัวอย่างประโยคที่เค้าใช้กันจริงๆ</p>
<p></p>
<p>การเรียนภาษาอังกฤษสมัยนี้ไม่ยากเหมือนเดิมแล้ว</p>
<p>เพราะว่ามีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น ทุกคนสามารถเรียนได้</p>
<p>ไม่ว่าจะรวยล้นฟ้า หรือ จนติดดิน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะพยายาม</p>
<p>มากพอหรือไม่ มีเวลาจดจ่อกับสิ่งที่มุ่งมั่นตั้งใจแค่ไหน</p>
<p>ถ้าบอกว่าไม่ค่อยมีเวลา นั่นแหละคือยังพอมีอยู่บ้างค่ะ</p>
<p>ใช้เวลาที่น้อยนิดแต่ละวันสะสมหาความรู้ไปเรื่อยๆ</p>
<p>ก็ยังดีกว่ารอให้พร้อมแล้วค่อยทำ</p>
<p>เพราะว่าจะไม่มีวันพร้อมสำหรับเราเลย</p>
<p>เริ่มเลย ทำเลย วันนี้นะคะ</p>
5 ปี กับการเดินบนเส้นทางสองภาษา
tag:go2pasa.ning.com,2014-03-16:2456660:BlogPost:1242039
2014-03-16T23:30:00.000Z
แม่น้องเนย
http://go2pasa.ning.com/profile/26b7l699ty6mm
<p>สวัสดีค่ะ เล็ก-แม่น้องเนย รายงานตัวครบรอบ 5 ปี ที่หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้</p>
<p>ณ.วันที่ 17 มีนาคม 2557 เวลา 6.35 น. ตอนนี้น้องเนยอาุยุประมาณ 7 ขวบครึ่ง</p>
<p>แทบไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะสามารถประคองการพูดภาษาอังกฤษกับลูกมาได้ยาวนานกว่า 5 ปี</p>
<p>จากวันแรกที่พูดภาษาัอังกฤษกับลูก (ตอนนั้นลูกอายุ 2 ขวบครึ่ง)</p>
<p>สามีส่งสายตาแสดงออกถึงความไม่แน่ใจว่าจะไปรอด</p>
<p>เนื่องจากภาษาอังกฤษแย่แบบไม่มีอะไรอยู่ในหัว แล้วยังบังอาจจะพูดอังกฤษกับลูกอีกต่างหาก…</p>
<p></p>
<p>สวัสดีค่ะ เล็ก-แม่น้องเนย รายงานตัวครบรอบ 5 ปี ที่หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้</p>
<p>ณ.วันที่ 17 มีนาคม 2557 เวลา 6.35 น. ตอนนี้น้องเนยอาุยุประมาณ 7 ขวบครึ่ง</p>
<p>แทบไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะสามารถประคองการพูดภาษาอังกฤษกับลูกมาได้ยาวนานกว่า 5 ปี</p>
<p>จากวันแรกที่พูดภาษาัอังกฤษกับลูก (ตอนนั้นลูกอายุ 2 ขวบครึ่ง)</p>
<p>สามีส่งสายตาแสดงออกถึงความไม่แน่ใจว่าจะไปรอด</p>
<p>เนื่องจากภาษาอังกฤษแย่แบบไม่มีอะไรอยู่ในหัว แล้วยังบังอาจจะพูดอังกฤษกับลูกอีกต่างหาก</p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975965086?profile=original" target="_self"><img src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975965086?profile=original" width="400" class="align-full"/></a></p>
<p>มาถึงวันนี้เวลาได้พิสูจน์แล้วว่า คนเราสามารถพัฒนาตัวเองได้อยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ว่า</p>
<p>ที่ผ่านมามักจะมีความคิดทางด้านลบฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกว่า</p>
<p>"เราทำไม่ได้หรอก"</p>
<p>"มันยากเกินไปสำหรับเรา"</p>
<p>"ตัวเองยังไม่รอดแล้วจะสอนลูกได้อย่างไร"</p>
<p>"เราไม่เก่งเท่าคนอื่น"</p>
<p>"เราเรียนมาน้อยกว่าคนอื่น"</p>
<p>ความคิดอะไรแบบนั้นก็เคยอยู่ในหัวของเล็กเหมือนกันค่ะ</p>
<p>แต่เพราะว่า "ลูก" คือคำตอบของความกังวลทั้งหมด</p>
<p>ลูกคือแรงบันดาลใจให้เรากล้าทำสิ่งต่างๆมากมาย</p>
<p>กล้าจะฝ่าฟันอุปสรรคที่ต่างรุมเข้ามาหาเรา</p>
<p>เล็กอยากส่งเสริมให้ลูกมีความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษเป็นธรรมชาติ</p>
<p>โดยไม่ต้องคิดแปลกลับไปกลับมาเหมือนที่เล็กเป็นอยู่ </p>
<p>ซึ่งขณะนี้เอง บางครั้งเล็กก็ยังเป็นอยู่ เวลาพูดกับฝรั่ง ซึ่งมันติดฝังแน่นมาก</p>
<p> </p>
<p>เมื่อก่อนมีความคิดว่าลูกจะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ก็มีอยู่ไม่กี่วิธี</p>
<p>ซึ่งเราไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว เนื่องจากเราเป็นครอบครัวฐานะปานกลาง</p>
<p>1.ส่งลูกเข้า รร.อินเตอร์ </p>
<p>2.จ้างครูมาสอนโดยตรง</p>
<p>3.ส่งลูกไปเรียนเมืองนอก</p>
<p>เล็กเพิ่งมาเจอแนวความคิด "เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้" เมื่อ 5 ปีที่แล้ว</p>
<p>ซึ่งจะไม่ขอเล่ารายละเอียดมากเพราะว่าได้เคยเขียนบล็อกไว้แล้วที่นี่ ลองอ่านดูค่ะ</p>
<p><a href="http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:76190">http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:76190</a></p>
<p>เมื่อกลับไปอ่านบล็อกที่เคยเขียนไว้</p>
<p>ก็ทำให้คำถามที่เคยสงสัยเมื่อ 5 ปีก่อนกลายเป็นคำตอบในวันนี้</p>
<p> </p>
<p>ระหว่างทางที่เราประคองการพูดภาษาอังกฤษกับลูก</p>
<p>เล็กได้สังเกตและเก็บข้อมูลมาได้ดังนี้ </p>
<p> </p>
<p>1.เล็กเห็นว่าเด็กช่วงระยะเด็ก 2-4 ขวบ เป็นช่วงที่เค้ามีพัฒนาการการพูด</p>
<p>การเลียนแบบได้มากที่สุด อาจเป็นเพราะหลังจากที่เริ่มพูดได้คล่อง เด็กอยาก</p>
<p>เลียนรู้อะไรใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ถ้าพ่อแม่ป้อนทุกอย่างให้ลูกในตอนนี้</p>
<p>มันจะเป็นคลังความรู้ที่สะสมอยู่กับเค้าตลอดชีวิต อีกอย่างหนึ่งคือ</p>
<p>ช่วงขวบปีที่ 2 เค้ายังติดแม่อยู่ ดังนั้นแม่มีบทบาทสำคัญอย่างมาก</p>
<p>ในการเป็น "ต้นแบบ" ที่เค้าจะเลียนแบบ </p>
<p>หลังจากนั้นเด็กจะเริ่มเข้ารร.อนุบาล เค้าจะได้เจอคนมากขึ้น</p>
<p>กิจกรรมต่างๆเริ่มมากขึ้น ต้องประคองผ่านไปให้ได้</p>
<p></p>
<p>2.หลังจากส่งลูกเข้าอนุบาล เล็กออกไปทำงาน ความเข้มข้น</p>
<p>และความถี่ในการใช้ภาษาเบาบางลงระดับหนึ่ง</p>
<p>เล็กยังคงพูดภาษาอังกฤษ 100% กับลูกอยู่ตลอดเวลาในตอนนั้น</p>
<p>เราคุยกันตั้งแต่ตื่นนอน ส่งลูกไปรร. หลังเราเลิกงาน ถึงก่อนนอน</p>
<p>แต่จะเห็นว่าความถี่ลดลง จากที่อยู่กัน 24 ชม.ลงลง 6 ชม.(ช่วงที่ไป รร.)</p>
<p>ลูกก็ยังคงพูดอังกฤษกับเรา แต่จะมีเรื่องเกี่ยวกับ "การแปล"</p>
<p>ที่ รร.สอนไว้ ติดมาบ้างเหมือนกัน เราต้องคอยดึงให้ลูกกลับมา</p>
<p>อยู่ในโหมดที่เราสร้างไว้ คือ "ไม่แปล"</p>
<p> </p>
<p>3.เมื่อลูกเข้า ป.1 ผลกระทบก็มากขึ้น เล็กเห็นความแตกต่างอย่างมาก</p>
<p>ระหว่างช่วงก่อนเข้าเรียนและ ช่วงเริ่มเข้าเรียนประถม</p>
<p>พบว่าหลังจากเข้า ป.1 ทั้งแม่และลูกพูดกระท่อนกระแท่น</p>
<p>ติดๆขัดๆ เนื่องจากความถี่ลดลงจากการให้เวลาทำการบ้านที่มากขึ้น</p>
<p>ซึ่งการบ้านภาษาไทย,คณิตศาสตร์ เล็กพูดไทยกับเค้า</p>
<p>และเรื่อง "วิชาภาษาัอังกฤษ" ที่โรงเรียนเ้น้นเรื่อง</p>
<p>"การแปล"และ "ไวยากรณ์"</p>
<p>ชีทที่ใช้สอนก็จะมีเขียนอธิบายเลยว่า</p>
<p>is เป็น verb to be ใช้ตามหลังประธานเอกพจน์</p>
<p>และก็มีตัวอย่างประกอบ</p>
<p> </p>
<p>มองในแง่ดีเรื่องการเอาตัวรอดใน รร.</p>
<p>ลูกโชคดีที่มี "การพูดค้ำการอ่าน"</p>
<p>เหมือนที่ผู้ใหญ่บิ๊กเคยเขียนไว้ในหนังสือ</p>
<p>คือเค้าจะไม่ต้องมานั่งท่องแบบนี้</p>
<p>เพราะว่าพอเค้าอ่านประโยคแล้วมันไม่คุ้น</p>
<p>เค้าก็รู้ว่ามันผิด เช่น</p>
<p>They is a girl. ไม่ได้ ไม่คุ้น แม่ไม่เคยพูดแบบนี้</p>
<p> </p>
<p>แต่เมื่อมองอีกแง่หนึ่ง มันเป็นการทำร้ายเด็กชัดๆ</p>
<p>ลูกก็เริ่มคิดมากเวลาพูด คิดไม่ออกบ้าง (เพราะความถี่น้อยลง)</p>
<p>อาจจะคิดเป็นไทยมากขึ้นเวลาพูด ไม่ค่อยธรรมชาติเหมือนก่อน</p>
<p> </p>
<p>4.สำเนียง เป็นสิ่งที่ฝึกได้ อันนี้ยืนยันว่าจริง</p>
<p>ตอนเริ่มต้นใหม่ๆ กังวลว่าลูกจะได้สำเนียงไทยๆแบบเราไป</p>
<p>แต่ที่จริงแล้วเด็กมีความสามารถในการพูดได้เหนือกว่าที่เราคิดไว้</p>
<p>เค้าสามารถเลียนแบบภาษาจากสื่อต่างๆได้ดีกว่าเรา</p>
<p>ซึ่งสื่อพวกนี้มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า การที่เราควรหัดพูดให้ชัด</p>
<p>และมีสำเนียงแบบนั้นไปด้วย ลูกจะได้ชิน</p>
<p>มีหลายคนยืนยันว่า เด็กจะปรับระดับสำเนียงของตัวเอง</p>
<p>ให้เข้ากับคนที่จะพูดด้วยไ้ด้</p>
<p> </p>
<p>5.เมื่อเด็กโตขึ้น การพูดจะน้อยลง ไม่รู้ว่าเป็นกันไหมคะ</p>
<p>คือขอใช้คำว่า "ไม่ช่างพูดเหมือนเ่ก่า" อาจเป็นเพราะว่าเค้า</p>
<p>เริ่มมีความคิดของตัวเอง มีช่วงเวลาส่วนตัวที่จะทำอะไรเีงียบๆเอง</p>
<p>บางครั้งอาจจะไม่ได้ฟังที่เราพูด ไ่ม่ได้ทำตามที่เราบอก </p>
<p></p>
<p>6.ตอนที่ฝ่าพันอุปสรรคเรื่องลูกต่อต้านตอนเด็กๆ </p>
<p>เล็กหาตัวช่วยเป็น "หนังสือนิทานภาษาอังกฤษ"</p>
<p>จากจุดเริ่มต้นในวันนั้น ลูกกลายเป็นเด็กรักการอ่าน</p>
<p>ทำให้เล็กไ้ด้อาชีพเสริมอีกอย่างหนึ่งที่ทำควบคู่กับงานประจำคือ</p>
<p>"แม่ค้าขายนิทานภาษาอังกฤษเด็ก" ซึ่งต้องบอกว่า</p>
<p>ได้รับความช่วยเหลือและสนันสนุนมาโดยตลอดจาก</p>
<p>ครอบครัว "ผู้ใหญ่บิ๊ก" ต้องขอบคุณมากๆอีกครั้งและหลายๆครั้งค่ะ</p>
<p><a href="http://go2pasa.ning.com/group/shopping/forum/topics/2456660:Topic:1247182?xg_source=activity">http://go2pasa.ning.com/group/shopping/forum/topics/2456660:Topic:1247182?xg_source=activity</a></p>
<p> </p>
<p>7.เล็กลาออกจากงานประจำ ตอนสิ้นปี 2556</p>
<p>เพื่อจุดประสงค์หลายอย่าง</p>
<p>7.1 ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง</p>
<p>โดยการเปิดร้านขายหนังสือนิทานภาษาอังกฤษให้เป็นรูปเป็นร่าง</p>
<p>ซึ่งในที่สุด วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 เล็กก็สามารถเปิดร้านหนังสือได้</p>
<p>7.2 สังคายนา ปรับปรุง การพูดภาษาอังกฤษกับลูกใหม่ </p>
<p>แก้ไขบางจุดที่ยังบกพร่องทั้งแม่และลูก เรียนกันใหม่หมด</p>
<p>ทั้งเรื่องการออกเสียง โฟนิกส์ การเริ่มหัดอ่านหนังสือ</p>
<p>7.3 ตั้งใจว่าจะเรียนรู้ภาษาจีนกันอีกครั้ง หลังจากที่เริ่มกันนานหลายปี</p>
<p>ยังไม่ไปไหนซักที เพราะข้ออ้างว่า "ไม่มีเวลา" แต่เมื่อมีเวลาแล้ว</p>
<p>และผ่านไป 3 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ไปไหนเหมือนเดิม 555555</p>
<p>มีข้ออ้างมาแก้ตัวอีกแล้วค่ะว่า ต้องการให้อังกฤษดีขึ้นก่อน ค่อยเริ่มจีน โฮะ..โฮะ</p>
<p>7.4 มีเวลาให้กับลูกและครอบครัวมากขึ้น อันนี้สำคัญเพราะว่า</p>
<p>เวลาเล็กตั้งใจทำอะไร เล็กจะทำเต็มที่ ซึ่งจะให้ดีต้องใช้ "เวลา"</p>
<p>7.5 ต้องการแบ่งปันเรื่องเกี่ยวกับ "หนังสือนิทาน" ให้เด็กๆได้โตมากับการอ่าน</p>
<p>โดยเล็กเขียนรีวิวหนังสือนิทานภาษาอังกฤษ เกือบทุกวันในเฟสบุ๊ค</p>
<p><a href="http://www.facebook.com/farmfunbook">www.facebook.com/farmfunbook</a> และที่</p>
<p><a href="http://www.kidbooksblog.blogspot.com">www.kidbooksblog.blogspot.com</a></p>
<p>เพื่อชี้ให้พ่อแม่เห็นว่าหนังสือแต่ละเล่มมันมีอะไรแฝงอยู่บ้าง </p>
<p>เป็นแนวทางในการเลือกซื้อหนังสือ</p>
<p> </p>
<p>8.คนที่เพิ่งเคยพบกันและได้ยินเราสองแม่ลูกพูดกัน</p>
<p>ชอบทักว่า "คุณแม่คงเก่งภาษาอังกฤษมาก่อนนะคะถึงทำได้"</p>
<p>เรามาดูคลิปวีดีโอที่เคยถ่ายไว้เมื่อเริ่มต้นพูดกับลูก</p>
<p>ได้ประมาณ 6 เดือนนะคะ ว่าภาษาอังกฤษของเราแย่แค่ไหน</p>
<p>แกรมม่า แกรมมั่วเต็มไปหมด คิดไม่ทันลูก น่าอายจัง</p>
<p>ส่วนลูกเล่าได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ธรรมชาติ แต่การออกเสียงแต่ละคำไม่ถูกต้อง</p>
<p>สำเนียงไทยๆ ห้วนๆ เนื่องจากเลียนแบบแม่จริงๆ</p>
<p>ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่า "ใจร้อน" รีบสอน อยากให้ลูกพูดได้เร็วๆ</p>
<p>ลืมเรื่อง "การออกเสียง" ให้ชัด ไปสนิทเลยค่ะ</p>
<p><a href="http://www.youtube.com/watch?v=eeGIHzIp8BY">http://www.youtube.com/watch?v=eeGIHzIp8BY</a></p>
<p> </p>
<p>9.หลังจากผ่านไป 5 ปี การฝึกพูดอังกฤษกับลูกช่วยให้</p>
<p>ฟอร์มการพูดเิิริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น</p>
<p>เนื่องจากเราใช้ความถี่ ซ้ำๆ ย้ำๆ ที่มากพอ</p>
<p>และการเน้นย้ำบางคำให้ชัดๆ</p>
<p>แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า 5 ปี ดีแล้ว พอแล้วกับความพยายาม</p>
<p>เปล่าเลยเพราะว่าเรายังปรับกันอีกเยอะ</p>
<p>ยังมีอีกหลายครอบครัวที่ทำได้ดีกว่าเราอีกมากค่ะ แต่อาจจะไม่ค่อยได้</p>
<p>นำมาเรียบเรียงเป็นเรื่องราว</p>
<p>ส่วนเล็กยังต้องพัฒนาอีกเยอะ</p>
<p>เนื่องจากพื้นฐานเราแย่มาก่อน ต้องพยายามมากกว่าคนอื่น</p>
<p><a href="http://www.youtube.com/watch?v=UDnjp1Rqnko">http://www.youtube.com/watch?v=UDnjp1Rqnko</a></p>
<p>.</p>
<p>10.ขณะนี้เล็กมีความสุขอยู่กับงานที่รัก มีเวลาอยู่กับลูกมากขึ้น</p>
<p>จะเห็นว่าการสอนเด็กสองภาษา ให้อะไรมากกว่าที่คิด.......</p>
<p>ผู้ที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เริ่มกันหรือยังคะ....... </p>
<p>อย่ามัวลังเล หรือสงสัยอยู่เลยค่ะ</p>
<p>เริ่มทำเลย ผิดถูก ค่อยๆแก้กันไป </p>
<p>หนทางนี้อีกยาวไกล</p>
<p>เป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ</p>
<p></p>
<p>เล็ก-แม่น้องเนย</p>
<p>Facebook : <a href="http://www.facebook.com/farmfunbook">www.facebook.com/farmfunbook</a></p>
<p>Blog : <a href="http://www.kidbooksblog.blogspot.com">www.kidbooksblog.blogspot.com</a></p>
<p>E-mail : leknoey@gmail.com</p>
<p>Line id : lek-noey</p>
<p> </p>
เรื่องเล่าหลังออกไปทำงานนอกบ้าน
tag:go2pasa.ning.com,2011-04-21:2456660:BlogPost:647501
2011-04-21T23:30:00.000Z
แม่น้องเนย
http://go2pasa.ning.com/profile/26b7l699ty6mm
<p>เล็กพูดภาษาอังกฤษกับลูกตามแนวคิดเด็กสองภาษามาร่วม 2 ปี 1 เดือน แล้วค่ะ</p>
<p>เราเลือกใช้ระบบ OPOL หนึ่งคนหนึ่งภาษา</p>
<p> </p>
<p>ช่วงแรกเราลำบากกันทั้งแม่ทั้งลูก ท้อ ฮึด อยู่อย่างนั้น</p>
<p><a href="http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:76190">http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:76190</a></p>
<p> </p>
<p>ผ่านไป 6 เดือน-1 ปี เนยเริ่มพูดคล่องขึ้น แต่แม่ละเลยไม่ได้เน้นเรื่องการออกเสียงให้ชัด…</p>
<p></p>
<p>เล็กพูดภาษาอังกฤษกับลูกตามแนวคิดเด็กสองภาษามาร่วม 2 ปี 1 เดือน แล้วค่ะ</p>
<p>เราเลือกใช้ระบบ OPOL หนึ่งคนหนึ่งภาษา</p>
<p> </p>
<p>ช่วงแรกเราลำบากกันทั้งแม่ทั้งลูก ท้อ ฮึด อยู่อย่างนั้น</p>
<p><a href="http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:76190">http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:76190</a></p>
<p> </p>
<p>ผ่านไป 6 เดือน-1 ปี เนยเริ่มพูดคล่องขึ้น แต่แม่ละเลยไม่ได้เน้นเรื่องการออกเสียงให้ชัด</p>
<p><a href="http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:191122">http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:191122</a></p>
<p> </p>
<p>เราก็เริ่มปรับกันใหม่ ทำการบ้านเด็กสองภาษาออกเสียงเป็นคำๆให้ชัด</p>
<p><a href="http://go2pasa.ning.com/video/2456660:Video:202355">http://go2pasa.ning.com/video/2456660:Video:202355</a></p>
<p> </p>
<p>หลังจากที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกและก็พูดอังกฤษกับลูกได้ 1 ปี เล็กก็ออกไปทำงานนอกบ้านค่ะ</p>
<p>มีความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลายอย่าง</p>
<p> </p>
<p>1.ความคล่องในการใช้ภาษา</p>
<p>จากที่พูดภาษาอังกฤษกับลูกตอนที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก รอลูกกลับจากโรงเรียน</p>
<p>ประมาณวันละ 6 ชม. เหลือ วันละ 2-3 ชม. จะรู้สึกได้เลยว่าทั้งแม่และเนย</p>
<p>พูดติดๆขัดๆ ไม่ค่อยคล่องเหมือนเดิม (คล่องในที่นี้ก็คลำๆกันไป ไม่ได้หรูหราอะไรค่ะ)</p>
<p>เวลาพูดต้องคิดนิดหนึ่ง ค่อยๆพูดออกมา ผิดๆถูกๆ ก็แก้กันไป</p>
<p>ที่เขียนนี้ไม่ได้หมายความว่าแม่ทำงาน สอนภาษาลูกไม่ได้ผลนะคะ</p>
<p>แต่จะบอกว่า <strong>"ความถี่ มีผลอย่างมากกับการใช้ภาษาอังกฤษ"</strong></p>
<p>ดังนั้นทำให้เต็มที่กับเวลาที่เรามีอยู่ ไม่ต้องไปกดดัน ไม่ต้องไปเร่ง<strong><br/></strong></p>
<p>เคยพูดกับผู้ใหญ่บิ๊ก ผู้ใหญ่บิ๊กบอกว่า ต้อง ทำใจ!!! อืม...จริง ด้วยค่ะ</p>
<p>เล็กก็เลยต้องใช้เวลาที่มีอยู่หลังเลิกงานกับลูกให้มากที่สุดจริงๆค่ะ</p>
<p>ตอนนี้เราก็ปรับตัวกันแบบนี้มาได้ 1 ปีแล้วค่ะ</p>
<p> </p>
<p>2.เนยพูดภาษาอังกฤษกับพ่อมากขึ้น OTOL</p>
<p>จากที่ตอนแรกพ่อของเนย คิดในใจว่าแม่มันจะไปรอดไหมเนี่ย</p>
<p>ตัวเค้าเองไม่พูดภาษาอังกฤษกับลูกอยู่แล้ว เพราะไม่ถนัดเลย ให้ภาระแม่มันไป</p>
<p>กลับเป็นว่าเนยชวนพ่อพูดมากขึ้น พ่อกลับต้องมาพูดอังกฤษกับลูก</p>
<p>แล้วพ่อก็คล่องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยิงปืนนัดเดียว ได้นก 2 ตัว เอ๊ะ..ไม่สิ</p>
<p>3 ตัว เห็นจะได้ เพราะอาม่า ก็พูดอังกฤษได้นิดหน่อย เพราะฟังจากเนยพูดกับแม่..อิอิ</p>
<p> </p>
<p>3.เริ่มทักทายฝรั่งก่อน</p>
<p>เวลาเราไปไหน เจอฝรั่งเราจะพยายามเข้าไปใกล้ แล้วพยายามทักก่อน</p>
<p>ให้เนยทักก่อนด้วย จะได้ชินกับการพูดกับฝรั่ง (ทั้งๆที่จริงๆแอบหวั่นใจว่าจะฟังออกไหมหว่า..)</p>
<p>มีเรื่องน่าดีใจอยู่เรื่องหนึ่งค่ะ (อาม่ากับเนยเล่าให้ฟัง) เมื่อวานนี้ เนยอยู่กับอาม่าที่ร้าน 2 คน</p>
<p>ฝรั่ง 2 คน เข้ามาจะซื้อของ เนยกับอาม่านั่งอยู่หน้าร้าน ฝรั่งเดินเข้าไปในร้านแล้ว</p>
<p>อาม่าคิดในใจว่าทำไงดีหว่า พูดไม่เป็น</p>
<p>เนยค่ะ....เดินเข้าไปในร้านค่ะ ....Hello.....</p>
<p>ฝรั่งหันมามอง ไม่เห็นใคร ได้ยินอีกทีนึง ก็เลยมองต่ำลงมา เด็กทักนี่หว่า...อิอิ</p>
<p>แล้วฝรั่งก็คุยกับเนยใหญ่เลย (อาม่าเล่าให้ฟัง) คงจะถาม ชื่อ อายุ เรียนที่ไหน ประมาณนี้น่ะค่ะ</p>
<p>เห็นว่าคุยกันนานมาก คุยไปหัวเราะไป ในที่สุดฝรั่งก็เดินออกจากร้าน bye bye ไม่ได้ซื้ออะไรค่ะ 55555</p>
<p>สงสัยคุยกับเนย จนลืมว่าจะซื้ออะไร 55555</p>
<p> </p>
<p>นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รู้ว่า เค้าเริ่มต้นทักชาวต่างชาติก่อนโดยที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย</p>
<p>แค่นี้เราก็ดีใจแล้วค่ะ ถึงแม้ว่าลูกจะยังพูดไม่ชัดมาก ติดๆขัดๆ ไม่มี accent ที่ดีเหมือนฝรั่ง</p>
<p>แต่เค้าสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ แค่นี้คนเป็นแม่ก็ดีใจแล้วค่ะ</p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
1 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก
tag:go2pasa.ning.com,2010-03-06:2456660:BlogPost:191122
2010-03-06T13:30:00.000Z
แม่น้องเนย
http://go2pasa.ning.com/profile/26b7l699ty6mm
หลังจากเริ่มเป็นแม่-ลูกสองภาษาผ่านมาได้ร่วม 1 ปี<br></br>มาจนถึงวันนี้ กาลเวลาได้เป็นเครื่องพิสูจน์ความกังวลใจอะไรหลายๆอย่าง <br></br>ที่เราเคยสงสัยไว้ตั้งแต่ที่เขียนบล๊อก "ฤกษ์งามยามดี" เมื่อ 7 เดือนก่อน<br></br><br></br><span style="text-decoration: underline;">เรื่องกังวลที่เกิดขึ้น</span><br></br>1.เราจะทำได้ไหม<br></br>2.ลูกจะสับสนไหม<br></br>3.การเข้าเรียน รร.ไทย<br></br>4.สำเนียงไท๊ย ไทย<br></br>5.ลูกจะลืมไหม …<br></br><br></br>
หลังจากเริ่มเป็นแม่-ลูกสองภาษาผ่านมาได้ร่วม 1 ปี<br/>มาจนถึงวันนี้ กาลเวลาได้เป็นเครื่องพิสูจน์ความกังวลใจอะไรหลายๆอย่าง <br/>ที่เราเคยสงสัยไว้ตั้งแต่ที่เขียนบล๊อก "ฤกษ์งามยามดี" เมื่อ 7 เดือนก่อน<br/><br/><span style="text-decoration: underline;">เรื่องกังวลที่เกิดขึ้น</span><br/>1.เราจะทำได้ไหม<br/>2.ลูกจะสับสนไหม<br/>3.การเข้าเรียน รร.ไทย<br/>4.สำเนียงไท๊ย ไทย<br/>5.ลูกจะลืมไหม <br/><br/><span style="text-decoration: underline;">คำถามที่มีคนถามบ่อย</span><br/>1.ลูกพูดไทยได้ไหม<br/>
2.ลูกเรียนอินเตอร์หรือเปล่า<br/>
3.ลูกเรียนโรงเรียนอะไร<br/>
4.พ่อเป็นคนต่างชาติหรือเปล่า<br/><br/>หลังจากผ่านระยะทาง 6 เดือนแรกมา ที่เราและทุกคนในเวปที่เริ่มพร้อมๆกัน<br/>ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาได้ เหมือนรู้สึกว่าประสบความสำเร็จอย่างไรอย่างนั้น<br/>อะไรก็ดูเหมือนจะดีขึ้น ทั้งตัวเราเองที่เริ่มจะพูดคล่องขึ้น บ่นเก่งขึ้นและลูกที่่โต้ตอบกับเราได้มากขึ้น<br/>ความชื่นใจที่เกิดขึ้น ทำให้เราเริ่มมั่นใจมากขึ้น และลืมฉุกคิดสิ่งนึง<br/><br/>จนมาวันนึง มีสิ่งให้ฉุกคิดขึ้นมาว่าเราและลูกพูดไม่ค่อยชัด ฝรั่งอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง<br/>เพราะไม่มี final sound <br/>และนั่นเป็นอีกจุดเริ่มต้นอีกอันนึง เป็นอะไรที่้ท้าทายมาก <br/>เหมือนเป็นอีกจุดมุ่งหมายนึงในการฝึกฝนภาษา<br/> <br/>ตอนนั้นได้เจอคุณบิ๊กในงานเวิร์คช๊อป และ คุณอรนัย ได้ให้กำลังใจ<br/>และคำแนะนำมากมาย เจอกันทีไร มีอะไรใหม่ๆให้เล่น ให้ตื่นเต้น ให้ฝึก ให้ทำทุกที<br/>ไม่เคยสงสัยกับคำแนะนำคุณบิ๊กเลยค่ะ สิ่งใดที่ผู้ใหญ่บ้านคิดจะนำเสนอ ส่วนมาก<br/>ได้กลั่นกรองมาอย่างดีแล้ว ทำตามเลย ไม่ต้องสงสัย ติดใจให้มากความ<br/>นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการทำ "การบ้านเด็กสองภาษา"<br/><br/>หลังจากฝึกการออกเสียงที่ถูกต้อง ศึกษาเรื่องคลิปต่างๆที่คุณบิ๊กโพสต์ไว้ ทำการบ้านเด็กสองภาษา<br/>ลองพูดให้ชัดๆ ก็ผ่านมาประมาณ 4 เดือนแล้ว เนยก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ<br/>เราเริ่มเสียง k ก่อนเลย เพราะง่ายสุด walk look like week<br/>ตามมาด้วยเสียง s เช่น snake (อันนี้อ๊อบให้เคล็ดลับการออกเสียงที่เนยจำแม่น เพราะเห็นฟันสวยๆของอ๊อบ อิอิ)<br/>ตามมาด้วย ch, sh เช่น which finish<br/><br/>ตอนนี้เองก็ักำลังเอาคำใหม่ๆที่มักออกเสียงผิด หรือออกเสียงไม่ชัด มาฝึกกันเพิ่มขึ้น<br/>ยังมีอีกเยอะจริงๆ แต่ก็จะทำกันไปเรื่อยๆ สนุกดีค่ะ <br/><br/>ส่วนจุดมุ่งหมาย หรือ ป้อมปราการอันถัดไปที่เล็กขอตั้งไว้ก็เป็นเรื่อง "สำเนียง"<br/>อันนี้คิดว่ายากเหมือนกันนะ พยายามดู dvd เทพทั้งหลาย ภาพยนต์เกี่ยวกับเด็กๆ <br/>และเลียนแบบพร้อมกันกับลูกด้วย แต่รู้สึกว่ามันซึมช้ามาก อิอิ ต้องจับทีละประโยค<br/>แล้วเอามาพูดให้มันชินปาก กว่าจะิชินกับประโยคนึงก็หลายอาทิตย์นะ<br/><br/>อันสุดท้ายที่ตั้งเป้าไว้ ขอเป็นเรื่อง "แกรมม่า" อันนี้ต้องเอาไว้อันสุดท้ายจริงๆ<br/>เพราะว่าคิดไม่ค่อยทัน คงต้องค่อยๆคิด ค่อยๆปรับกันไป<br/><br/>ทุกอย่างใช้เวลาจริงๆค่ะ แต่ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่า "<span style="font-weight: bold;">คุณก็ทำได้</span>"<br/><br/>สำหรับคนที่เพิ่งเิริ่มต้น เล็กคิดว่าช่วงแรกอาจจะอึดอัดหน่อยนะคะ<br/>แต่เมื่อทำไปเรื่อยๆ ความเคยชินจะเข้ามาแทนที่ แล้วเราก็จะ<br/>สามารถทำให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองในครอบครัวเราได้อย่างธรรมชาติค่ะ<br/><br/>สุดท้ายก็ต้องไม่ลืมที่จะขอบคุณเช่นเคย ผู้สนับสนุนรายการ เอ้ย! ไม่ใช่<br/>แรงหนุน กองหลัง กองเชียร์ ทุกๆคนนะคะ คุณบิ๊ก-พี่ตุ๊กตา <br/>แพท / อ๊อบ / พี่เก๋ / รี / ดา / โอ / ภา / อ๋อ / รัตน์ / กว้าง / นุ้ย / คุณป๊อป / คุณอ้อย / คุณกุ๊ก / คุณจู / หญิง-แม่น้องกาตาร์<br/>โอ้ย!!! ทำไมเยอะจังเลยอ่ะ ถ้าตกขาดใคร อย่าเคืองกันนะ<br/> <br/>ใครอ่านแล้วมีคำแนะนำอย่างไร ก็เชิญเลยค่ะ<br/><br/> <br/><br/><br/><br/>
ฤกษ์งามยามดี
tag:go2pasa.ning.com,2009-11-13:2456660:BlogPost:76190
2009-11-13T01:38:24.000Z
แม่น้องเนย
http://go2pasa.ning.com/profile/26b7l699ty6mm
เริ่มจากที่ได้อ่านหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" และได้เริ่มต้นพูดกับลูกในวันถัดไป<br />
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2552 ขณะนั้นเนยอายุได้ 2.6 ปี มาถึงวันนี้ก็ประมาณ 5 เดือนนิดๆ<br />
ก็เลยอยากจะเขียนแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างค่ะ<br />
<br />
หวังว่าข้อความที่เขียนมาจะเป็นกำลังใจและแนวทางให้กับผู้ที่เริ่มต้นไม่มากก็น้อย<br />
เพราะจากการที่เราเริ่มต้นที่นี่ ท้อ และมีกำลังใจขึ้นมาก็จากที่นี่ ก็เลยอยากแบ่งปัน<br />
ความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นให้กับผู้ที่เกิดความรู้สึกท้อ หรือยังสับสน(ในชีวิต)อยู่ค่ะ อิอิ<br />
<br />
ขอเตือน อาจปวดตาบ้าง…
เริ่มจากที่ได้อ่านหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" และได้เริ่มต้นพูดกับลูกในวันถัดไป<br />
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2552 ขณะนั้นเนยอายุได้ 2.6 ปี มาถึงวันนี้ก็ประมาณ 5 เดือนนิดๆ<br />
ก็เลยอยากจะเขียนแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างค่ะ<br />
<br />
หวังว่าข้อความที่เขียนมาจะเป็นกำลังใจและแนวทางให้กับผู้ที่เริ่มต้นไม่มากก็น้อย<br />
เพราะจากการที่เราเริ่มต้นที่นี่ ท้อ และมีกำลังใจขึ้นมาก็จากที่นี่ ก็เลยอยากแบ่งปัน<br />
ความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นให้กับผู้ที่เกิดความรู้สึกท้อ หรือยังสับสน(ในชีวิต)อยู่ค่ะ อิอิ<br />
<br />
ขอเตือน อาจปวดตาบ้าง ต้องขออภัย เพราะมันยาวจริงๆนะ (แค่ 5 เดือนยังขนาดนี้)<br />
<br />
ประวัติ<br />
1.จบปริญญาตรี ตอนเรียนชอบเรียนภาษาอังกฤษนะ<br />
2.แต่ฟังฝรั่งพูดไม่ค่อยออก<br />
3.พูดกับฝรั่งก็กระท่อนกระแท่น<br />
4.ไม่มีฝรั่งให้พูดด้วยมาก<br />
5.ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอีกเลยหลังจากจบ.มหาวิทยาลัย<br />
6.ไม่ได้ทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ<br />
7.ทำงานอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปพบปะผู้คนมากมาย<br />
<br />
เริ่มต้น<br />
1.เห็นหนังสือเล่มสีส้มๆเด่นๆนี้ จากเวปทางอินเตอร์เนทที่ซื้อประจำ สั่งเลย<br />
เคยอ่านหนังสือแนวนี้มาก็เยอะ แต่เล่มอื่นไม่ละเอียด และก็อยู่ไกลเกินที่เราจะหวัง<br />
แต่หนังสือเวทมนต์เล่มนี้ ขอบอกว่าเป็นอะไรที่มีขั้นตอน ดูง่ายๆ อ่านแล้วดูเหมือนว่า<br />
เราก็น่าจะทำได้นะ....ฮึฮึ<br />
<br />
2.อ่านเสร็จในวันเดียว และเคี่ยวเข็ญให้สามีอ่านในวันถัดมา ยังดีที่สามีไม่ได้ว่าอะไร<br />
แต่ก็ต้องเป็นเราอยู่แล้วที่จะพูดอังกฤษกับลูก เพราะสามีไม่เอาอยู่แล้ว<br />
(ตอนหลังแอบถาม เค้าบอกว่าไม่เชื่อหรอกว่าเราจะพูดกับลูกได้ตลอด เดี๋ยวก็เลิก)<br />
ฮึ่ม..ฮึ่มม<br />
<br />
3.คืนนั้นเข้าเวป <a href="http://www.2pasa.com">www.2pasa.com</a> เลย สมัครสมาชิก ตอนนั้นเวปเพิ่งเปิดได้ไม่เท่าไรมั๊ง<br />
เข้าไปอ่านก่อนเลย ไล่อ่านทุกกระทู้ เออ..มีคนเริ่มเหมือนเราแฮะ<br />
มีรูปคนสีฟ้าๆ ชื่อคุณอรนัย แกเข้ามาทุกวันเหมือนกันแฮะ เออ..ดี..มีเพื่อน<br />
มีคุณแพท ที่ช่วยตอบคำถามให้ด้วยวุ๊ย น่าสนใจ คือมันมีการเคลื่อนไหว<br />
น่าสนใจมีที่พึ่ง เพราะถ้าอ่านหนังสือ แล้วเริ่มพูดกับลูก<br />
ติดขัด จะปรึกษาใครล่ะเนี่ย<br />
<br />
4.เริ่มต้นพูดกับลูกในวันถัดมา เกือบทุกคำ ติดทุกคำ จดทุกคำ หงุดหวิดวุ๊ย<br />
<br />
4.1 แม่..ทำไมต้องพูดภาษาอังกฤษด้วย ฟังไม่รู้เรื่องเลย พูดไทยกันดีกว่า<br />
<br />
4.2 อ่านนิทานสองภาษา (ที่เคยอ่านแต่ภาษาไทย)<br />
แม่..นี่มันหนังสือภาษาไทยนะ นี่ไงภาษาไทย (เอามือชี้)<br />
ทำไมต้องอ่านภาษาอังกฤษด้วย ไม่เข้าใจเลย เดินหนีไป<br />
<br />
4.3 ร้องเพลงภาษาอังกฤษ เออ..ค่อยยังชั่ว..ลูกยังชอบเพลง<br />
<br />
4.4 นิทานมีแต่สองภาษา หรือภาษาไทย นี่หว่า ทำไงดี ลูกปฏิเสธหมดเลย??<br />
<br />
4.5 ก่อนนอนต้องอ่านนิทาน ลูกไม่ให้อ่านภาษาอังกฤษ ยังคงอ่านภาษาไทยไป<br />
และลูกก็ไม่ยอมให้พ่ออ่านให้ฟังด้วย ต้องแม่เท่านั้นก่อนนอน<br />
<br />
4.6 ผ่านไป 2-3 วัน ตัวแม่เองก็เริ่มแย่แล้ว พูดกับลูกได้น้อยลง<br />
อยากจะพูดอะไรหลายๆอย่าง ที่เวลาเราพูดภาษาไทย เราก็จะยาวเลย ก็ทำไม่ได้<br />
อยากจะอธิบายเรื่อง ทำไมลูกโป่งถึงลอยได้ ก็ไม่เป็น (ตอนนี้ก็ยังติดๆอยู่นะ แต่พอไปได้)<br />
อยากจะห้าม เตือนอะไร ก็นึกไม่ทัน<br />
อยากจะ.....................................<br />
ทำไม มีอะไรที่จะต้องพูดเยอะแยะขนาดนี้<br />
เฮ้ย..ทำไมลูกฟังไม่ออก ปฏิเสธตลอด<br />
เราทำอะไรผิดไป ลูกเราผิดปกติหรือเปล่า<br />
<br />
5.ต้องหาผู้ช่วยแล้ว<br />
5.1 ซื้อDVD ตามที่หนังสือแนะนำ โดยทยอยซื้อนะคะ ทุกเรื่องเลย<br />
บางเรื่องซื้อไว้แล้วดูเอง เพราะเด็กดูเรื่องใดแล้วก็จะดูแต่เรื่องนั้นเป็นเดือนเลย<br />
<br />
5.2 ซื้อนิทานภาษาอังกฤษ(ล้วน) และนิทานสองภาษาเล่มใหม่<br />
โดยซื้อมาใหม่ต้องให้แม่อ่านภาษาอังกฤษก่อนนะ อย่าให้ใครมาอ่านไทยให้ฟังก่อน<br />
<br />
5.3 เปิดดีวีดีให้ดู ลูกชอบ Caillou (แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว) เลียนแบบ<br />
Caillou fall down.!!! ตลอด<br />
<br />
5.4 สร้างแรงบันดาลใจ ถ้าอยากจะรู้ว่า Caillou พูดอะไร ก็ต้อง<br />
ฝึกภาษาอังกฤษกับแม่ เพราะ Caillou พูดไทยไม่ได้<br />
<br />
5.5 เข้า English Club ทุกวันเท่าที่เวลาอำนวย เพราะตอนนั้นลูกยังไม่ได้เข้ารร.<br />
ต้องเล่นกับเค้าตลอด มีกิจกรรมตลอด<br />
<br />
5.6 จดคำถาม แล้วเข้ามาถามตลอด และก็ได้คำตอบทุกครั้ง<br />
ย้ำว่าทุกครั้งจริงๆ เพราะจะมีคนใจดี สวยๆ มาตอบให้<br />
<br />
6.ช่วงเดือนแรกมีคำถามมาก เพราะท้อค่ะ<br />
<br />
6.1 มันจะได้ผลไหมเนี่ยกับลูกเรา<br />
<br />
6.2 เรายังพยายามไม่พอใช่ไหม<br />
<br />
6.3 ถ้าเราเป็นแม่ที่เก่งกว่านี้ก็คงดี<br />
<br />
6.4 แล้วต้องพูดอังกฤษกับลูกจนถึงเมื่อไรเนี่ย<br />
<br />
6.5 แล้วถ้าเราหยุดพูดอังกฤษ หลังจากที่พูดมาเป็นปี แล้วลูกจะลืมหรือเปล่า<br />
<br />
6.6 เด็กลืมง่ายอยู่แล้วนี่ ถ้าเราหยุด เค้าก็ลืม แล้วเราจะทำไปทำไมฟะ<br />
<br />
6.7 ออกไปข้างนอกพูดภาษาอังกฤษกับลูกก็อายเค้าจัง กระท่อนกระแท่น ผิดๆถูกๆ<br />
<br />
7. ปรึกษากับสามี อืมม..สามีก็ให้กำลังใจบอกว่า คุณบิ๊ก(คุณพงษ์ระพี) เค้าพูดกับลูก<br />
มาตั้งแต่เกิดแล้ว ผ่านมา 3 ปีกว่าแล้ว เธอเริ่มมาแค่ไม่กี่วัน จะเอาอะไรนักหนา<br />
ลูกฟังเข้าใจก็ดีถมแล้ว เดี๋ยวให้เค้าปรับตัวหน่อยหน่า พบสัจธรรม<br />
7.1 แม่อย่าเครียดมาก<br />
7.2 อย่าตั้งความหวังสูงมากนัก ว่าคนอื่นไปถึงไหนแล้ว<br />
7.3 ไม่ต้องรีบ ไม่ได้ไปแข่งกับใคร<br />
7.4 อย่าสร้างความกดดันให้ลูก เน้นภาษาในการเล่น แล้วลูกจะสนุก ร่วมมือ<br />
<br />
8. พัฒนาการ<br />
เดือนที่ 1เราพูดอังกฤษ ลูกจะแปลเป็นไทยทันที ถามว่าใช่ป่ะ เราก็ตอบกลับเป็นอังกฤษไม่มีการแปล<br />
เดือนที่ 2 ถามเอง ตอบเอง เพราะถ้าไม่ตอบเอง ลูกจะพูดคำถามตามเรา เช่น Are you hungry? Yes.I am.<br />
แล้วเอาอาหารมาเซิร์ฟ (ถ้าไม่พูด Yes,I am ลูกจะพูดตามว่า Are you hungry?)<br />
เดือนที่ 3 ต้องพูดถึงจะได้ เช่น แม่หนูหิวน้ำ You should say may I have some water please. เอาน้ำยื่นให้<br />
เดือนที่ 4 แกล้งโง่ ฟังลูกไม่ออก (เกือบจะโง่จริงแล้ว อิอิ) ให้ลูกได้เริ่มบทสนทนาก่อน<br />
เดือนที่ 5 เถียงและโต้ตอบได้บ้าง แต่ไม่ตลอด<br />
แม่ : Do you want to take a bath first or have breakfast first?<br />
ลูก : Play first!!! ฮึ่มๆๆ<br />
<br />
อีกเหตุการณ์นึง<br />
แม่ : It's the time to take a bath.<br />
ลูก : Wait a minute please. Let me play a bit longer.<br />
<br />
9.แล้วก็ได้คำตอบสำหรับคำถามในข้อ6<br />
9.1 มันจะได้ผลไหมเนี่ยกับลูกเรา ตอบว่า ก็ได้ผลนะว่ามะ<br />
<br />
9.2 เรายังพยายามไม่พอใช่ไหม ตอบว่า ใช่ๆ ต้องพยายามต่อไปอีก ทางแสนยาวไกล<br />
<br />
9.3 ถ้าเราเป็นแม่ที่เก่งกว่านี้ก็คงดี ตอบว่า เปลี่ยนแม่ไม่ได้แล้วลูกเอ๋ย..ยังไงก็ต้องยัยแม่มดคนนี้แหละ<br />
<br />
9.4 แล้วต้องพูดอังกฤษกับลูกจนถึงเมื่อไรเนี่ย ตอบว่า พูดไปเรื่อยๆก็ได้ ได้เรียนรู้ไปพร้อมกับลูกด้วย ยังมีอะไรอีกเยอะให้เรียนรู้<br />
<br />
9.5 แล้วถ้าเราหยุดพูดอังกฤษ หลังจากที่พูดมาเป็นปี แล้วลูกจะลืมหรือเปล่า<br />
ตอบว่า ถ้าหยุดจริง ก็คิดว่าลูกจะต้องซ่อนความสามารถทางภาษาที่เราได้ปลูกฝังไว้ ไม่มากก็น้อยค่ะ<br />
<br />
9.6 เด็กลืมง่ายอยู่แล้วนี่ ถ้าเราหยุด เค้าก็ลืม แล้วเราจะทำไปทำไมฟะ<br />
ตอบว่า ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเพื่อลูกจริงๆไหมคะ<br />
<br />
9.7 ออกไปข้างนอกพูดภาษาอังกฤษกับลูกก็อายเค้าจัง กระท่อนกระแท่น ผิดๆถูกๆ<br />
ตอบว่า เดี๋ยวนี้ดีขึ้นค่ะ มั่นใจมากขึ้น เพราะว่าส่วนมากเป็นประโยคซ้ำๆ ไม่เห็นต้องอายใคร<br />
<br />
ถึงขณะนี้ลูกจะยังไม่เก่งมาก แต่เราก็ภูมิใจอ่ะนะ (คนเป็นแม่) ว่าเค้าสามารถโต้ตอบกับเราได้<br />
และเค้าก็พยายามคิดคำศัพท์ออกมาโต้ตอบมากขึ้น บางครั้งเราก็รอลุ้นให้เค้าพูดออกมาจนเหนื่อยเลยนะ<br />
รู้ว่าเค้าคิดประมวลออกมาเป็นคำพูดอยู่<br />
<br />
ส่วนตัวเราเองก็ต้องพัฒนาอีกเยอะค่ะ<br />
1. มีคำถามมาถามทุกวัน จนบางวันคุณอ๊อบ มารอตอบให้ รู้หน้าที่ดีจริงๆ<br />
2.เข้าเวปทุกวัน เช็คการออกเสียงก่อนพูดกับลูก<br />
3.อ่านหนังสือภาษาอังกฤษเพิ่มพูนความรู้ที่มีอันน้อยนิด<br />
4.พยายามดูดีวีดีการ์ตูน และหนังเด็กๆ ที่พอมีประโยคให้ใช้ได้ (นอกจากดีวีดีเทพ)<br />
<br />
ได้ความคิดใหม่ว่า เราต้องมองบวกเข้าไว้<br />
อย่าคิดว่าเราทำไม่ได้ ต้องคิดว่าเราต้องทำได้ซิน่า<br />
ถ้าเราคิดดีแล้ว เราจะฝ่าฟันอุปสรรคการเริ่มต้นไปได้<br />
แหม..เขียนซะ..ตัวเอง ประสบความสำเร็จแล้วงั้นแหละ...<br />
ไม่ใช่หรอกค่ะ... ก็เพิ่งเริ่มต้นเหมือนกัน<br />
แต่อยากมาแชร์ให้ ผู้ที่กำลังเริ่มต้นรู้ว่า<br />
มันมีแบบแผนแบบนี้นะ กี่เดือนเป็นแบบนี้<br />
มีคนทำก่อนแล้ว แล้วได้ผล อย่ารอเลย ทำเลย<br />
<br />
สุดท้ายนี้ขอบอกว่าใช้เวลาเขียนบล๊อกนี้นานมาก ประมาณ2 ชม.<br />
เขียนไปลบไป กลัวคนอ่านเบื่อ และปวดตา<br />
หวังว่าข้อความนี้จะเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆคน<br />
ได้ทำตามความฝันที่วางไว้ ให้เป็นจริงค่ะ<br />
เริ่มกันได้เลย "พ่อแม่สองภาษา สร้างลูกได้"<br />
เอ้ย...ไม่ใช่ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้"<br />
<br />
****************************************************************<br />
<br />
8 พฤศจิกายน 2552 เวลา 08.04 น.<br />
<br />
ขอเอาคลิปมารวมกันในบล๊อกนี้นะคะ<br />
เพราะตอนนี้เริ่มกระจัดกระจายแล้ว<br />
เผื่อว่ามีบางท่านหาไม่เจอค่ะ<br />
เป็นพัฒนาการตอน 6.5 เดือนและ 7.5 เดือน<br />
<br />
<a href="http://go2pasa.ning.com/video/2456660:Video:95594">http://go2pasa.ning.com/video/2456660:Video:95594</a><br />
<br />
<a href="http://go2pasa.ning.com/video/the-farmer-and-the-snake">http://go2pasa.ning.com/video/the-farmer-and-the-snake</a><br />
<br />
*****************************************************************<br />
<br />
13 พฤศจิกายน 2552 เวลา 08.32 น.<br />
<br />
อยู่ๆก็คิดขึ้นมาว่าเอากระทู้ที่โพสไว้เมื่อก่อน<br />
ที่ห้องพัฒนาการมารวมกันไว้ที่นี่ดีกว่า<br />
เพื่อหวนรำลึกความหลัง<br />
<br />
พัฒนาการตอน 2 เดือน<br />
<a href="http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/play-on-the-table">http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/play-on-the-table</a><br />
<a href="http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/did-you-hear-that">http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/did-you-hear-that</a><br />
<br />
พัฒนาการตอน 3 เดือนกว่า<br />
<a href="http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/wait-a-minute-please">http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/wait-a-minute-please</a><br />
<br />
พัฒนาการตอน 4 เดือน<br />
<a href="http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/2456660:Topic:60536">http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/2456660:Topic:60536</a><br />
<a href="http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/wait-a-minute-please">http://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/wait-a-minute-please</a>