พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น's Posts - หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้
2024-03-28T23:41:43Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1959326626?profile=RESIZE_48X48&width=48&height=48&crop=1%3A1
http://go2pasa.ning.com/profiles/blog/feed?user=14suivdzcnmza&xn_auth=no
หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์แม่
tag:go2pasa.ning.com,2014-12-30:2456660:BlogPost:1275187
2014-12-30T04:30:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p> <span style="color: #0000ff;"> <span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;">จากวันที่เริ่มสร้างเด็ก 2 ภาษาคนแรกที่ชื่อฟ้าใส นี่ก็ผ่านมาจะ 5 ปีแล้วสินะ ผลงานของแม่ยังสวยงาม ฟ้าใสเป็นเด็ก 2 ภาษาเต็มตัวตั้งแต่ 2 ปีแรก เป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลายครอบครัวที่ได้รู้จักเรา มีหลายคนที่คิดว่าเราไม่ใช่คนไทย (ทั้งๆที่สำเนียงก็ออกบ้านๆ ไม่เปลี่ยนแปลง)</span></span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif; color: #0000ff;"> …</span></p>
<p> <span style="color: #0000ff;"> <span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;">จากวันที่เริ่มสร้างเด็ก 2 ภาษาคนแรกที่ชื่อฟ้าใส นี่ก็ผ่านมาจะ 5 ปีแล้วสินะ ผลงานของแม่ยังสวยงาม ฟ้าใสเป็นเด็ก 2 ภาษาเต็มตัวตั้งแต่ 2 ปีแรก เป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลายครอบครัวที่ได้รู้จักเรา มีหลายคนที่คิดว่าเราไม่ใช่คนไทย (ทั้งๆที่สำเนียงก็ออกบ้านๆ ไม่เปลี่ยนแปลง)</span></span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif; color: #0000ff;"> มาวันนี้ครอบครัวเรามีสมาชิกใหม่แล้วค่ะ จะเป็นผลงานชิ้นใหม่ของแม่อ้อให้ได้พิสูจน์ฝีมือกันอีกครั้ง เจ้าตัวเล็กของเราตอนนี้อายุเกือบ 9 เดือนแล้วค่ะ ชื่อน้องไออุ่น เป็นสาวน้อยอารมณ์ดี ยิ้มเก่ง หัวเราะง่าย ท่าทางจะช่างคุยเอามากๆเลยค่ะ แม่อ้อและพี่ฟ้าใสเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้ตั้งแต่เกิด มีพ่อและย่าเป็นครูภาษาไทย ตอนนี้น้องไออุ่นยังพูดภาษาต่างดาวอยู่เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าที่แม่กับพี่ฟ้าใสสอนอยู่ทุกวันน้องจะเข้าใจมั้ย แต่เราก็เชื่อมั่นว่าเมล็ดพืช 2 ภาษาน้อยๆเม็ดนี้จะค่อยๆงอกงาม เป็นความชื่นใจของครอบครัว เป็นแรงบันดาลใจให้ครอบครัวที่มีลูกเล็กๆอย่างครอบครัวเราได้สร้างเด็ก 2 ภาษาด้วยมือของเราเอง</span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif; color: #0000ff;"> เชิญติดตามพัฒนาการของเมล็ดพืช 2 ภาษาคนใหม่ของเราได้นะคะ มีตัวอย่างประโยค คลิปการสอนภาษาอังกฤษจากสถานการณ์จริง หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับครอบครัว 2 ภาษามือใหม่ค่ะ</span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif; color: #0000ff;"> มาร่วมเดินไปบนเส้นทางเด็ก 2 ภาษาด้วยกันนะคะ เราจะเป็นกำลังใจให้กันและกัน</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;"> </span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif; color: #0000ff;">แม่อ้อ</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif; color: #ff00ff;">Facebook Fanpage : พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น</span></p>
<p><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975964953?profile=original" target="_self"><img class="align-full" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975964953?profile=original" width="720"/></a></p>
ขั้นตอนการสร้างเด็ก 2 ภาษาด้วยมือเราเอง
tag:go2pasa.ning.com,2013-02-19:2456660:BlogPost:1145174
2013-02-19T12:00:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p>ในที่นี้ ภาษาแม่หมายถึงภาษาไทย ภาษาที่ 2 หมายถึงภาษาอังกฤษ</p>
<p> </p>
<p><b><u>วิธีที่ 1</u></b></p>
<p> หากเป็นไปได้ พ่อแม่ ผู้ปกครองควรสอนภาษาแม่และภาษาที่ 2 ไปพร้อมๆ กัน โดยวิธีที่ดีที่สุดคือให้พ่อและแม่พูดกับลูกคนละภาษา เช่น พ่อพูดไทย แม่พูดอังกฤษ โดยทำเป็นประจำตั้งแต่แรกเกิด ลูกจะสามารถเข้าใจ 2 ภาษาเท่าๆ กัน โดยที่เราไม่ต้องแปลให้ลูก</p>
<p> ตัวอย่าง เมื่อพ่อเห็นนก พ่อชี้ให้ลูกดูแล้วพูดว่า“นก” และเมื่อแม่เห็นนก แม่พูดว่า“bird” ทุกครั้งที่ลูกเห็นเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ…</p>
<p>ในที่นี้ ภาษาแม่หมายถึงภาษาไทย ภาษาที่ 2 หมายถึงภาษาอังกฤษ</p>
<p> </p>
<p><b><u>วิธีที่ 1</u></b></p>
<p> หากเป็นไปได้ พ่อแม่ ผู้ปกครองควรสอนภาษาแม่และภาษาที่ 2 ไปพร้อมๆ กัน โดยวิธีที่ดีที่สุดคือให้พ่อและแม่พูดกับลูกคนละภาษา เช่น พ่อพูดไทย แม่พูดอังกฤษ โดยทำเป็นประจำตั้งแต่แรกเกิด ลูกจะสามารถเข้าใจ 2 ภาษาเท่าๆ กัน โดยที่เราไม่ต้องแปลให้ลูก</p>
<p> ตัวอย่าง เมื่อพ่อเห็นนก พ่อชี้ให้ลูกดูแล้วพูดว่า“นก” และเมื่อแม่เห็นนก แม่พูดว่า“bird” ทุกครั้งที่ลูกเห็นเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ ที่มีปีก บินได้ ลูกจะเข้าใจเองว่ามันเรียกว่าอะไร โดยที่เราไม่ต้องบอกลูกว่า “bird แปลว่า นก”</p>
<p> หากปฏิบัติเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เมื่อลูกอายุ 2-3 ขวบ จะสามารถสื่อสาร 2 ภาษาได้เท่าเทียมกัน อาจจะนำ 2 ภาษามาปนกันบ้างใน 1 ประโยค คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวล ถ้าลูกพูดผิด เราแค่พูดประโยคที่ถูกต้องให้ลูกฟังแล้วพูดตาม ทำซ้ำๆ จนความผิดพลาดค่อยๆ หายไป</p>
<p> </p>
<p><b><u>วิธีที่ 2</u></b></p>
<p> หากคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้สอนภาษาที่ 2 ให้ลูกตั้งแต่แบเบาะ อย่าเพิ่งกังวลค่ะว่าจะสร้างเด็ก 2 ภาษาไม่ได้ วิธีการคล้ายๆ กับการสอนตั้งแต่แบเบาะค่ะ แต่ต้องใจเย็นกว่า เพราะมีอุปสรรคเพิ่มขึ้นมา คือ ลูกต่อต้าน ไม่ยอมฟัง ไม่ยอมพูดภาษาที่ 2 เพราะมีภาษาแม่เป็นกำแพงกั้น</p>
<p>วิธีการสอนเมื่อลูกโตขึ้นมาอีกนิด มีดังนี้ค่ะ</p>
<p>- ค่อยๆ สอนคำศัพท์อย่างช้าๆ เน้นคำศัพท์รอบๆ ตัวก่อน เช่น bird, cat, dog แล้วขยับเป็นวลีสั้นๆ เช่น stand up, sit down, come on ฯลฯ</p>
<p>- สอนซ้ำๆ ให้ลูกพูดตาม หรือทำตามคำสั่งง่ายๆ ไปสักระยะ วันละ 15 นาที ขยับไปเป็นครึ่งชั่วโมง และมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสามารถพูดภาษาที่ 2 เฉพาะพ่อหรือแม่ หรือทั้งพ่อและแม่ก็ได้</p>
<p>- เมื่อลูกเข้าใจศัพท์และวลีสั้นๆ แล้ว ค่อยๆ พูดประโยคยาวขึ้น ให้ลูกพูดตาม หรือถาม เช่น ถามลูกว่า “What is this?” ยกของชิ้นหนึ่งขึ้นมาให้ลูกตอบ หรือถามลูกว่า “What are you doing?” ลูกกำลังกินขนม ตอบว่า “I’m eating some snack.”</p>
<p>ทุกขั้นตอนขอให้ทำอย่างช้าๆ และสนุกสนาน หากลูกไม่นึกสนุก ขอให้หยุดก่อน แล้วทำกิจกรรมอื่นๆ แทน</p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
<p><b><u>อุปสรรคต่างๆในการสร้างเด็ก 2 ภาษาและทางแก้</u></b></p>
<p><b>1.พ่อแม่ไม่ชำนาญการใช้ภาษาอังกฤษ</b></p>
<p><u>วิธีแก้ไข</u> – หมั่นท่องศัพท์และประโยค โดยค้นคว้าจาก <a href="http://www.2pasa.com">www.2pasa.com</a> หรือเว็บอื่นๆ โดยจดจำศัพท์และประโยคที่ต้องการใช้ทีละน้อยๆ ไม่ต้องจำทั้งหมด นำมาพูดกับลูกทุกๆ วันจนจำได้ แล้วจึงท่องคำใหม่ๆ ต่อไป</p>
<p> </p>
<p><b>2. ลูกต่อต้าน</b> จะเกิดขึ้นกรณีสอนลูกที่พูดภาษาแม่ได้แล้ว อายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป</p>
<p><u>วิธีแก้ไข</u></p>
<p>- ถ้าลูกยังเล็ก อายุ 2 ขวบ หาเกมคำศัพท์ เพลงภาษาอังกฤษมาทำกิจกรรมร่วมกัน</p>
<p>- ลูกอายุ 3-4 ขวบ ต่อต้านภาษาที่ 2 มากขึ้น พ่อแม่ต้องมีกลวิธีในการหลอกล่อ ทำกิจกรรมที่สามารถสอดแทรกภาษาอังกฤษให้สนุกสนาน มีรางวัล สร้างแรงบันดาลใจ เช่น ถ้ายอมพูดภาษาอังกฤษจะได้ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษในเน็ตรู้เรื่อง ถ้าพูดได้จะเก่ง หรือจะพาไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ ทั้งนี้ การหาสิ่งล่อใจขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของพ่อแม่ พยายามอย่าให้มากเกินไปนะคะ เอาแต่พอดี อาจจะเป็นแค่คำชม การกอด การหอมก็ได้</p>
<p>- ลูก 5 ขวบขึ้นไป เริ่มเข้าใจเหตุผล พ่อแม่สามารถอธิบายให้ลูกเข้าใจได้ว่าเหตุใดจึงจำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษได้ พูดได้แล้วดีอย่างไร ทำให้ลูกภูมิใจค่ะว่าตัวเขาเก่ง เขาทำได้ ให้กำลังใจลูกอย่างสม่ำเสมอ</p>
<p><b> </b></p>
<p><b>3. ไม่มีเวลา</b> ข้อนี้สำคัญมากค่ะ พ่อแม่ที่คิดว่าตัวเอง “ไม่มีเวลา” คำนี้จะไปหยุดทุกสิ่งทุกอย่าง</p>
<p><u>วิธีแก้ไข</u> – เปลี่ยนคำว่า “ไม่มีเวลา” เป็น “มีเวลาน้อย” และจัดสรรเวลาที่มีอยู่น้อยให้เป็นเวลาที่มีคุณภาพสำหรับลูก ถ้าวันหนึ่งๆ มีเวลาอยู่กับลูกครึ่งชั่วโมงก่อนนอน ขอให้เป็นครึ่งชั่วโมงเต็มๆ ที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ยังมีพ่อแม่อีกมากมายที่มีเวลาเหลือเฟือ แต่ไม่รู้ว่าจะจัดสรรเวลานั้นอย่างไร</p>
<p> </p>
<p> เด็กแต่ละคนชอบและถนัดไม่เหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่พยายามอย่าสร้างความกดดันให้ตัวเองและลูก หรือคาดหวังในตัวลูกมากเกินไปนะคะ ค่อยเป็นค่อยไป ทำด้วยความรัก หากปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลา 1 ปีจะเห็นผลค่ะ</p>
<p> ขอให้ทุกครอบครัวมีความสุขกับการสร้างเด็ก 2 ภาษาด้วยมือของเราเองนะคะ ติดปัญหาหรือสงสัยอะไร ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ</p>
<p> </p>
<p align="center">...แม่อ้อ...</p>
<p align="center"><br/><a href="https://www.facebook.com/AorWeenaFasaiMom">https://www.facebook.com/AorWeenaFasaiMom</a></p>
<br />
facebook fanpage : พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
เมื่อลูกกลายเป็นเด็กต่างชาติในสายตาคนทั่วไป
tag:go2pasa.ning.com,2011-10-05:2456660:BlogPost:913556
2011-10-05T02:30:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p><span class="font-size-5" style="color: #0000ff;"> <span style="font-family: andale mono,times;">กาลเวลาล่วงเลยมาแล้ว 1 ปี 8 เดือน สำหรับภาระกิจสร้างเด็ก 2 ภาษา 1 คน ที่ชื่อ “ฟ้าใส” เรายังไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ 100 % เพราะมีบางคำที่ลูกยังไม่รู้ ก็ต้องสอนภาษาไทยกันบ้าง แต่โดยรวมแล้วแม่จะพูดภาษาอังกฤษกับลูกประมาณ 95 % ส่วนคุณพ่อแล้วแต่สะดวก อยากจะพูดภาษาอะไรก็ตามใจ เพราะไม่ว่าพ่อจะพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ หนูก็สลับโหมดได้ทันทีไม่มีติดขัด…</span></span></p>
<p></p>
<p><span class="font-size-5" style="color: #0000ff;"> <span style="font-family: andale mono,times;">กาลเวลาล่วงเลยมาแล้ว 1 ปี 8 เดือน สำหรับภาระกิจสร้างเด็ก 2 ภาษา 1 คน ที่ชื่อ “ฟ้าใส” เรายังไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ 100 % เพราะมีบางคำที่ลูกยังไม่รู้ ก็ต้องสอนภาษาไทยกันบ้าง แต่โดยรวมแล้วแม่จะพูดภาษาอังกฤษกับลูกประมาณ 95 % ส่วนคุณพ่อแล้วแต่สะดวก อยากจะพูดภาษาอะไรก็ตามใจ เพราะไม่ว่าพ่อจะพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ หนูก็สลับโหมดได้ทันทีไม่มีติดขัด</span></span></p>
<p><span class="font-size-5" style="color: #0000ff;"><span style="font-family: andale mono,times;"> </span></span></p>
<p><span class="font-size-5" style="color: #0000ff; font-family: andale mono,times;"> ภาพ 2 แม่ลูกไปซื้อกับข้าวที่ตลาดคงเป็นภาพที่ชินตาสำหรับคนแถวบ้าน ทุกครั้งที่เราคุยกันด้วยภาษาอังกฤษ คนก็จะหันมามอง คงคิดในใจ แม่ลูกคู่นี้เป็นชาวประเทศอะไรกันนะ หน้าตาแบบนี้ เหมือนคนไทยเลย เรามักจะได้ยินคำถามว่า “น้องพูดไทยได้มั้ย คุณพ่อเป็นชาวอะไร” บรรดาแม่ค้าต่างก็แปลกใจเมื่อเราบอกว่า “พูดไทยได้ค่ะ เป็นคนไทย พ่อก็เป็นคนไทยค่ะ” อีก 1 คำถามที่ตามมาคือ “น้องเรียนโรงเรียนอินเตอร์เหรอคะ” คงยังไม่ค่อยมีใครคาดคิดว่าเด็กไทยแท้ พ่อแม่ก็ไทยจะสามารถพูดอังกฤษได้เป็นไฟขนาดนี้ เรามักจะบอกต่อถึงวิธีการทำให้ลูกเป็นเด็ก 2 ภาษาด้วยมือของพ่อแม่ไทยแท้ 100% หลายคนรับเอาไว้พิจารณา แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่บอกว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษ ทำไม่ได้หรอก</span></p>
<p><span class="font-size-5" style="color: #0000ff; font-family: andale mono,times;"> </span></p>
<p><span class="font-size-5" style="color: #0000ff; font-family: andale mono,times;"> อยากบอกทุกๆ ครอบครัวนะคะว่าคนเราไม่ได้เก่งมาตั้งแต่กำเนิด เราไม่สามารถเปลี่ยนเชื้อชาติได้ แต่เราสามารถสร้างอนาคตให้ลูกได้ค่ะ ขอแค่พยายาม เพราะหากเก่งแต่ขี้เกียจ เก่งแต่ไม่ทำ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ตัวอ้อเองแรกเริ่มเดิมทีก็พูดภาษาอังกฤษได้บ้าง ตามมาตรฐานของโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ไม่ได้สอบได้ A ภาษาอังกฤษ ไม่ได้ทำงานที่ต้องคุยกับชาวต่างชาติแม้แต่นิดเดียว แต่อ้อเชื่อว่าอ้อทำได้ อ้อต้องสร้างเด็ก 2 ภาษาได้ด้วยมือของอ้อเองโดยไม่ต้องส่งไปเรียนเมืองนอกให้เปลืองเงิน และแล้วผลก็ปรากฏ</span></p>
<p><span class="font-size-5"><span style="color: #0000ff; font-family: andale mono,times;"> </span></span></p>
<p><span class="font-size-5" style="color: #0000ff; font-family: andale mono,times;"> เชื่อเถอะค่ะว่าคนธรรมดานี่แหละจะสร้างเด็ก 2 ภาษาได้ด้วยมือของเราเอง ไม่ว่าจะดีในระดับใดก็ตาม เราต้องทำได้ อย่าคิดว่ามันยากเกินไป เพราะหากคิดแบบนี้ตั้งแต่ต้น มันคือการปิดความคิดของตัวเอง ปิดโอกาสของลูกด้วย ขอให้ทุกครอบครัวพยายามต่อไปนะคะ วันนี้ยังไม่สำเร็จ วันต่อๆ ไป ปีต่อๆ ไปก็ต้องทำสำเร็จจนได้ หากเราไม่ละความพยายาม</span></p>
<p><span class="font-size-5" style="color: #0000ff; font-family: andale mono,times;"> </span></p>
<p><span class="font-size-5" style="color: #0000ff; font-family: andale mono,times;"> </span></p>
กว่าจะเป็นเด็ก 2 ภาษา
tag:go2pasa.ning.com,2011-04-27:2456660:BlogPost:652637
2011-04-27T06:30:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p> บล็อคนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของตัวเองที่เป็นสมาชิกหมู่บ้านนี้มาเป็นเวลา 1 ปี 3 เดือน และได้เริ่มสอนภาษาที่ 2 ให้ลูกตอนอายุ 3 ขวบพอดี นำมาแบ่งปัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ครอบครัวอื่นๆ ที่เพิ่งเริ่มใหม่ หรือติดปัญหาต่างๆ ค่ะ</p>
<p> ขอออกตัวก่อนนะคะว่าอ้อเองก็ยังไม่ได้เก่งมากมาย ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ</p>
<p> </p>
<p> มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ทำอย่างไรจึงจะทำให้ลูกของเราเป็นเด็ก 2 ภาษาได้ และพ่อแม่เองก็มีความสุขที่ได้สอนลูกด้วยตัวเอง</p>
<p> </p>
<p>1.…</p>
<p> บล็อคนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ของตัวเองที่เป็นสมาชิกหมู่บ้านนี้มาเป็นเวลา 1 ปี 3 เดือน และได้เริ่มสอนภาษาที่ 2 ให้ลูกตอนอายุ 3 ขวบพอดี นำมาแบ่งปัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ครอบครัวอื่นๆ ที่เพิ่งเริ่มใหม่ หรือติดปัญหาต่างๆ ค่ะ</p>
<p> ขอออกตัวก่อนนะคะว่าอ้อเองก็ยังไม่ได้เก่งมากมาย ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ</p>
<p> </p>
<p> มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ทำอย่างไรจึงจะทำให้ลูกของเราเป็นเด็ก 2 ภาษาได้ และพ่อแม่เองก็มีความสุขที่ได้สอนลูกด้วยตัวเอง</p>
<p> </p>
<p>1. สำรวจตัวเราก่อนค่ะว่าความสามารถในการพูดภาษาที่ 2 ซึ่งในที่นี่หมายถึงภาษาอังกฤษของเราอยู่ในระดับใด แย่ พอใช้ ดี หรือดีมาก</p>
<p> ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใดไม่ต้องกังวลค่ะ เมื่อรู้แล้วก็ต้องพัฒนาตนเอง เริ่มจากตัวผู้สอนก่อนค่ะ</p>
<p> </p>
<p>2. เลือกระบบในการสอน ไม่ว่าจะเป็น 1 คน 1 ภาษา หรือ 1 เวลา 1 ภาษา เลือกให้เหมาะกับตัวเอง</p>
<p> </p>
<p>3. ท่องศัพท์ เตรียมประโยคพื้นฐานที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าคำไหน ประโยคไหนไม่รู้ เข้ามาค้นคำได้ที่ห้อง English Club มีให้เราศึกษามากมายค่ะ มากจนบางคนตั้งคำถามว่า แล้วเราจะเริ่มจากตรงไหนดี ง่ายๆ ค่ะ เอาที่ต้องใช้ก่อน ไม่ต้องท่องทั้งหมด</p>
<p> </p>
<p>4. นำคำศัพท์ต่างๆ ไปสอนและพูดกับลูก แนะนำว่าเริ่มจากคำสั้นๆ ง่ายๆ ก่อนค่ะ เช่น cat rat dog tree snack table hand foot shoe ฯลฯ ออกเสียงทุกคำให้ชัดแบบฝรั่ง มีคำท้ายทุกคำ เข้าไปเช็คการออกเสียงได้ที่ <a href="http://www.thefreedictionary.com/">www.thefreedictionary.com</a> ค่ะ และไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทยให้นะคะ ข้อนี้คือกฎเหล็กที่คุณบิ๊กย้ำนักย้ำหนา ถ้าเรามัวแต่แปลให้ ลูกเราจะไม่สามารถเป็นเด็ก 2 ภาษาที่สมบูรณ์ได้ เหมือนเวลาเราดูหนัง soundtrack แล้วมีคำบรรยายเป็นภาษาไทย เราจะไม่ฟังว่าเค้าพูดว่าอะไร และตั้งหน้าตั้งตาอ่านลูกเดียวค่ะ</p>
<p> </p>
<p>5. สอนวลีต่างๆ เช่น stand up, sit down, brush your teeth, wash your face, give me some fruits. ฯลฯ</p>
<p> </p>
<p>6. เมื่อลูกเข้าใจคำศัพท์และประโยคสั้นๆ แล้ว ค่อยๆ เพิ่มปริมาณ มากขึ้น ยากขึ้นตามลำดับ พูดทุกวันนะคะ มากน้อยตามความเหมาะสม ให้ลูกได้มีโอกาสตอบโต้ด้วย ตอบ Yes, No ก็ยังดี ต้องต่อเนื่องนะคะ ถ้าหยุดไป เราเองก็จะขี้เกียจ พอมี 1 วัน มันก็มี 2 3 4 แล้วก็ขี้เกียจไปเรื่อยๆ สุดท้ายลูกเราก็อดเป็นเด็ก 2 ภาษาค่ะ</p>
<p> ลองคิดดูค่ะ เราพูดภาษาไทยวันละกี่ชั่วโมง ถ้าอยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ ก็ต้องพูดให้มากเท่าๆ กับภาษาไทย</p>
<p> </p>
<p>7. ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องเร่งนะคะ เหมือนเวลาที่เด็กหัดเดิน ก่อนจะเดินต้องคลานก่อน แล้วก่อนจะคลานได้ต้องหัดคว่ำ การเรียนภาษาก็ไม่ต่างกันค่ะ ข้ามขั้นไม่ได้ เดี๋ยวจะล้ม ใจเย็นๆ ค่ะ ทำอย่างมีความสุข ไม่ยัดเยียด ถ้าลูกไม่พร้อมวันนี้ เวลานี้ หยุดก่อน แล้วเริ่มใหม่ได้ทุกวัน</p>
<p> </p>
<p>8. ในกรณีที่สอนลูกตอนโต พูดไทยชัดแจ๋ว แล้วลูกถามอยู่ตลอดว่าคำนี้แปลว่าอะไร ขอให้เรายืนยันวิธีของเราค่ะ เราต้องไม่แปล ปล่อยไป ถ้าเราสอนเค้าอย่างต่อเนื่อง วันนึงเค้าจะรู้เองค่ะว่าคำนี้ในภาษาไทยแปลว่าอะไร</p>
<p> </p>
<p>9. ถ้าลูกพูดไม่ได้ เราต้องไม่ดุลูกนะคะ อย่าให้เค้ารู้สึกแย่กับภาษาที่ 2 เค้าอาจจะไม่พร้อมตอนนี้ ให้รอเวลาสักหน่อย หรือถ้าลูกทำได้ดี เราต้องชมมากๆ ให้กำลังใจลูกเสมอ อาจจะมีรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้ ซื้อหนังสือน่ารักๆ ให้สักเล่ม หรืออะไรก็ได้ที่ลูกชอบ สร้างบรรยากาศให้สนุกสนาน ไม่กดดัน การเรียนวิชานี้ไม่มีการสอบตกค่ะ จะช้าหรือเร็วก็ถึงจุดหมายได้เหมือนกัน</p>
<p> </p>
<p>10. เมื่อลองปฏิบัติไปได้สักพัก ลองแต่งประโยคมาให้สมาชิกช่วยตรวจในห้องภาษาอังกฤษ หรือเอาคลิปของลูกมาลง จะได้ช่วยกันวิจารณ์ เรียนคนเดียว ทำคนเดียวจะขาดพลังค่ะ</p>
<p> </p>
<p>11. ไม่ต้องไปแคร์สังคมให้มาก ใครหาว่ากระแดะ พูดแล้วคนมอง คนนินทาก็ช่าง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ต้องพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษค่ะ มากน้อยไม่ว่ากัน เอาเท่าที่เราทำได้ ให้ลูกชินกับการใช้ภาษาที่ 2 นอกบ้านด้วย ให้คิดแค่ว่าเราทำเพื่อลูก</p>
<p> </p>
<p>12. เหนื่อย เครียด ท้อแท้ เข้ามาระบายให้เพื่อนๆ ฟังได้ค่ะ จะได้ช่วยกันคิดหาวิธีแก้ หรือเป็นกำลังใจให้กัน</p>
<p> </p>
<p> บางครอบครัวใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือน บางครอบครัวใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่านั้นในการสร้างเด็ก 2 ภาษา ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง ได้แก่ พื้นฐานความรู้ของพ่อแม่ เวลา ความอดทน อุปสรรครอบข้าง</p>
<p> แต่ไม่มีสิ่งไหนที่อยู่เหนือความมุ่งมั่นและพยายามของเราหรอกค่ะ คิดไว้เสมอว่าเราต้องทำได้ มีพ่อแม่บางคนเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ หรือเคยเรียนเมืองนอก แต่ไม่สามารถสอนภาษาที่ 2 ให้ลูกได้ เพราะไม่มีความอดทนมากพอ</p>
<p> แล้วเราล่ะ จะสู้เพื่อลูก อดทนเพื่อลูกได้มั้ย คำตอบอยู่ในใจของพวกเราทุกคนอยู่แล้วค่ะ</p>
<p> </p>
<p>คลิปนี้ สำหรับคนที่กำลังท้อแท้ค่ะ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม</p>
<p><iframe src="http://www.youtube.com/embed/G03zvUzFmC0" frameborder="0" height="349" width="425"></iframe>
</p>
<p> </p>
บนเส้นทางแห่งนี้...1 ปี ในหมู่บ้านเด็ก 2 ภาษา
tag:go2pasa.ning.com,2011-01-28:2456660:BlogPost:564463
2011-01-28T02:00:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3" style="text-decoration: underline;">28 มกราคม 2554</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> และแล้วก็ได้เวลาฉลองครบรอบ 1 ปีสำหรับการเป็นสมาชิกของหมู่บ้านเด็ก 2 ภาษาของครอบครัวเรา</span></p>
<p><span class="font-size-3">...แม่อ้อ พ่ออาร์ต และฟ้าใส...</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> 1…</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span style="text-decoration: underline;" class="font-size-3">28 มกราคม 2554</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> และแล้วก็ได้เวลาฉลองครบรอบ 1 ปีสำหรับการเป็นสมาชิกของหมู่บ้านเด็ก 2 ภาษาของครอบครัวเรา</span></p>
<p><span class="font-size-3">...แม่อ้อ พ่ออาร์ต และฟ้าใส...</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> 1 ปีที่ผ่านมาเราทำอะไรกันบ้าง</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> 3 เดือนแรกพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า “มั่วมาก” สะเปะสะปะ พูดไทยคำ อังกฤษคำ แปลให้ลูกด้วยความหวังดี กลัวลูกไม่รู้เรื่อง และอื่นๆ อีกสารพัด แม้นักเรียนตัวน้อยของเราจะไม่เคยมีอาการต่อต้านภาษาที่ 2 ทั้งๆ ที่พ่อแม่เริ่มสอนตอนเค้าอายุ 3 ขวบเต็ม แต่การเรียนการสอนของเราก็แทบจะเรียกได้ว่าย่ำอยู่กับที่ คิดไม่ออกว่าจะพูดกับลูกว่าอะไร จนสุดท้ายตัดสินใจเข้าร่วม workshop 2 ภาษาของคุณบิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านของเรา จนเข้าใจขั้นตอนการสร้างเด็ก 2 ภาษาชัดเจนขึ้น จึงกลับมาเริ่มใหม่ ตั้งแต่อ่าน A B C นับ 1-10 ออกเสียงให้ชัด มีเสียงคำท้ายให้ครบ เรียนใหม่เกือบทั้งหมดค่ะ</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> เราเดินไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง ตามคำแนะนำของผู้ใหญ่บิ๊กและบรรดารุ่นพี่ในหมู่บ้านนี้ และแล้วผลก็เริ่มปรากฏ ฟ้าใสค่อยๆ พูดได้ทีละคำ 2 คำ ประโยค 2 ประโยค คุณพ่อคุณแม่ก็ยิ้มกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> ครอบครัวเราใช้ระบบ OTOL คือ หนึ่งเวลา หนึ่งภาษา หรือสะดวกตอนไหนก็พูดตอนนั้น ไม่ค่อยจะเข้มข้นเท่าไหร่ เอาแบบสบายๆ ไม่เครียด อาจจะหย่อนยานไปสักหน่อย แต่ผลก็ออกมาน่าพอใจค่ะ</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> เราจัดสิ่งแวดล้อมหลายๆ อย่างให้เอื้อต่อการเรียนภาษาอังกฤษของลูก ได้แก่ ดู Caillou, Wonder Pets, Mommy and Me, Phonic Kids อ่านหนังสือนิทานให้ฟัง เล่นเกมคำศัพท์ ดูการ์ตูนและเล่นเกมภาษาอังกฤษในอินเตอร์เน็ต ฟังเพลงภาษาอังกฤษในรถ โดยรวมคือให้ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษมากที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวลูกด้วยว่าเวลานั้นเค้าอยากพูดไทย อ่านหนังสือนิทานภาษาไทยหรือเปล่า เอาตัวเด็กเป็นศูนย์กลางค่ะ ไม่ใช่ความต้องการของพ่อแม่เพียงอย่างเดียว</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> เราไม่เคยลืมที่จะสอนภาษาไทยที่ถูกต้อง ยังให้ความสำคัญกับภาษาไทยมากค่ะ ถ้าเรายังพูดไทยไม่ชัด ออกเสียง ร เรือ ล ลิง ควบกล้ำไม่ได้ อย่างนี้ถือว่าไม่ผ่านค่ะ ตอนนี้ฟ้าใสเพิ่ง 4 ขวบเต็ม ภาษาไทยบางคำเค้าก็ยังไม่รู้จัก บ้านเราไม่สนับสนุนให้ใช้ไทยคำ อังกฤษคำ ถ้าช่วงไหนจะพูดภาษาไทยก็ไทยล้วน ถ้าจะอังกฤษก็อย่าเอาไทยมาปนให้เสียบุคลิก เพราะเราคิดว่าการพูดไทยคำ อังกฤษคำไม่ใช่เรื่องเท่ห์เลย แต่กลับเหมือนคนที่ทำอะไรไม่ดีสักอย่างมากกว่า</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> บางคนคงทราบว่าฟ้าใสเรียน 2 ภาษาที่โรงเรียนด้วย ทำให้พัฒนาการภาษาที่ 2 ไปเร็ว ใช่ค่ะ ครูต่างชาติที่โรงเรียนช่วยได้มากทีเดียว โดยเฉพาะทักษะการฟัง ส่วนการพูดคงต้องพึ่งที่บ้านเป็นหลัก เพราะครู 1 คนกับเด็ก 25 คนคงเทียบไม่ได้กับที่พ่อแม่สอนลูกแค่คนเดียว เรายังเชื่อมั่นว่าความเอาใจใส่ของพ่อแม่ยังสำคัญเป็นอันดับ 1 อย่ายกภาระให้ครูเพียงอย่างเดียว อย่าได้นิ่งนอนใจว่าลูกเราเรียน 2 ภาษาที่โรงเรียนแล้ว กลับบ้านมาพูดไทยอย่างเดียวก็ได้ เพราะเรื่องของภาษาต้องฝึกฝนและใช้อย่างสม่ำเสมอ</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> เราจะพูดคุยกับคุณครูชาวต่างชาติของฟ้าใสบ่อยๆ สอนควบคู่กันไป ทำให้ผลออกมาดี บางครั้งแม่ก็ถามในส่วนที่แม่ไม่รู้เอง ติดขัดตรงไหนก็ถามครูตลอด เหมือนกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง ครูพี่เลี้ยงและครูประจำชั้นบอกว่าฟ้าใสชอบคุยกับครูต่างชาติ เป็นเด็กที่มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก หรือแม้แต่ครูต่างชาติเองก็ชมว่าฟ้าใสเป็นเด็กที่พูดภาษาอังกฤษได้ชัดที่สุดในห้อง </span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> นี่คือคำบอกเล่าของคุณครูชาวต่างชาติของฟ้าใสที่มีต่อเพื่อนๆ ค่ะ (ตัดมาจาก facebook ของ teacher ค่ะ)</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"><b><u>Fasai makes her Teacher Anne proud of her</u></b></span></p>
<p><br/><span class="font-size-3"> ...she's a thai little girl who pronounces english words clearly..im sure mommy and daddy will be proud for having her as a daughter..and of course her Teacher Anne is really amaze of this wonder child</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"><a target="_self" href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975958431?profile=original"><img width="297" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975958431?profile=original" class="align-full"/></a></span></p>
<p><span class="font-size-3"> นับเป็นความภูมิใจของครอบครัวเรามากค่ะ</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"> ต้องขอบคุณบรรดารุ่นพี่และเพื่อนๆ ที่เดินร่วมทางกันมา ช่วยแก้ไขสิ่งผิด ช่วยติเพื่อก่อ เป็นกำลังใจกันมาตลอด และขอให้สมาชิกใหม่ๆ อย่าได้ท้อนะคะ หาจุดที่พอดีสำหรับครอบครัวเรา ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับครอบครัวอื่น ถ้าเราทำได้ไม่ดีเท่าเขาก็อย่าเครียด เพราะพื้นฐานและความพร้อมของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ขอให้เดินไปด้วยกัน ช้าบ้าง เร็วบ้าง อดทนเพื่อลูก และเรียนรู้ด้วยกันอย่างมีความสุขค่ะ</span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
<p><span class="font-size-3"><a target="_self" href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975958993?profile=original"><img width="482" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975958993?profile=original" class="align-full"/></a></span></p>
<p><span class="font-size-3"> </span></p>
รวมกระทู้
tag:go2pasa.ning.com,2011-01-17:2456660:BlogPost:553770
2011-01-17T04:30:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p><span class="font-size-2" style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;">get squiggling เรียนศิลปะจากการ์ตูน</span></p>
<p><span class="font-size-2" style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;"><a href="http://go2pasa.ning.com/forum/topics/get-squiggling">http://go2pasa.ning.com/forum/topics/get-squiggling</a></span></p>
<p> </p>
<p><span class="font-size-2" style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;">Caillou มี Caption…</span></p>
<p></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">get squiggling เรียนศิลปะจากการ์ตูน</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/forum/topics/get-squiggling">http://go2pasa.ning.com/forum/topics/get-squiggling</a></span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">Caillou มี Caption</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/caillou-caption">http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/caillou-caption</a></span></p>
<p><a href="http://go2pasa.ning.com/forum/topics/caillou-with-caption-79?groupUrl=library&id=2456660%3ATopic%3A521419&groupId=2456660%3AGroup%3A368518&page=1#comments">http://go2pasa.ning.com/forum/topics/caillou-with-caption-79?groupUrl=library&id=2456660%3ATopic%3A521419&groupId=2456660%3AGroup%3A368518&page=1#comments</a></p>
<p> </p>
<p>บัตรคำ ผลไม้ไทยๆ </p>
<p><a href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:479667?xg_source=activity">http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:479667?xg_source=activity</a></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">Peppa Pig</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/forum/topics/peppa-pig">http://go2pasa.ning.com/forum/topics/peppa-pig</a></span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">ฟังรายการ OK I Get It</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/forum/topics/ok-i-get-it">http://go2pasa.ning.com/forum/topics/ok-i-get-it</a></span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"> </span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">เพลงสำหรับฟังในรถ</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/forum/topics/mp3-file-fast-dvd-ripper?groupUrl=englishclub&id=2456660%3ATopic%3A188959&groupId=2456660%3AGroup%3A20240&page=3#comments">http://go2pasa.ning.com/forum/topics/mp3-file-fast-dvd-ripper?groupUrl=englishclub&id=2456660%3ATopic%3A188959&groupId=2456660%3AGroup%3A20240&page=3#comments</a></span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:341189">http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:341189</a></span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/caillou-songs">http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/caillou-songs</a></span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">เรียนออกเสียงพร้อมภาพประกอบ</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a target="_blank" href="http://www.languageguide.org/english/" class="parsedLink">http://www.languageguide.org/english/</a></span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">เรียน phonic สำหรับเด็ก</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://www.starfall.com">www.starfall.com</a></span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">นิทานและอื่นๆ</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://www.karn.tv">www.karn.tv</a></span></p>
<p> </p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">สอนลูกอ่านด้วย sight words</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/forum/topics/sight-words">http://go2pasa.ning.com/forum/topics/sight-words</a></span></p>
<p> </p>
<p>ทำยังไงถึงจะก้าวผ่านความเขินต่อคนรอบข้างได้</p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:244963">http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:244963</a></span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"> </span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">รวมประโยคสำหรับมือใหม่</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:206040">http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:206040</a></span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"> </span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">การใช้กลุ่มคำ "ระวัง" ในภาษาอังกฤษ</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:114074">http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topics/2456660:Topic:114074</a></span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"> </span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2">เรียนภาษาญี่ปุ่น</span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"><a href="http://go2pasa.ning.com/group/japaneseclub/forum/topics/2456660:Topic:468751?commentId=2456660%3AComment%3A902540&groupId=2456660%3AGroup%3A27936">http://go2pasa.ning.com/group/japaneseclub/forum/topics/2456660:Topic:468751?commentId=2456660%3AComment%3A902540&groupId=2456660%3AGroup%3A27936</a></span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"> </span></p>
<p><span style="font-family: arial,helvetica,sans-serif;" class="font-size-2"> </span></p>
เมื่อลูกไม้ 2 ภาษาของแม่เริ่มสุกงอม
tag:go2pasa.ning.com,2010-09-14:2456660:BlogPost:409116
2010-09-14T05:30:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p><font size="2">เราก็ก้าวผ่านเดือนที่ 7 ของการเป็นเด็ก 2 ภาษามาแล้วนะ ฟ้าใสของแม่สนุกสนานกับการพูดภาษาอังกฤษมากๆ บางวันแม่พูดไทยด้วยหนูก็ไม่ยอมพูด ใส่แต่ภาษาอังกฤษปนต่างดาว แม่ก็ขำ ทำเป็นเก่งนะลูกเรา ใจร้อนมากๆ ช้าๆ ก่อนก็ได้จ้ะ มั่วเหลือเกิน พูดมา 10 คำ มีภาษาอังกฤษที่ฟังออกซะ 2 คำ โธ่...ลูกเอ๊ย รอแม่ด้วย</font></p>
<p></p>
<p><font size="2">แม่ใจเย็น อยากไปช้าๆ แต่ลูกใจร้อน อยากพูดอังกฤษเป็นมากๆ</font></p>
<p><font size="2">และแล้วฝันก็เป็นจริง ความมั่วของลูกน้อยลง…</font></p>
<p><font size="2">เราก็ก้าวผ่านเดือนที่ 7 ของการเป็นเด็ก 2 ภาษามาแล้วนะ ฟ้าใสของแม่สนุกสนานกับการพูดภาษาอังกฤษมากๆ บางวันแม่พูดไทยด้วยหนูก็ไม่ยอมพูด ใส่แต่ภาษาอังกฤษปนต่างดาว แม่ก็ขำ ทำเป็นเก่งนะลูกเรา ใจร้อนมากๆ ช้าๆ ก่อนก็ได้จ้ะ มั่วเหลือเกิน พูดมา 10 คำ มีภาษาอังกฤษที่ฟังออกซะ 2 คำ โธ่...ลูกเอ๊ย รอแม่ด้วย</font></p>
<p></p>
<p><font size="2">แม่ใจเย็น อยากไปช้าๆ แต่ลูกใจร้อน อยากพูดอังกฤษเป็นมากๆ</font></p>
<p><font size="2">และแล้วฝันก็เป็นจริง ความมั่วของลูกน้อยลง ลูกเริ่มสร้างประโยคได้เอง</font></p>
<p></p>
<p><font size="2">แม่ - แม่ปวดฉี่</font></p>
<p><font size="2">ลูก - I want to pee too.</font></p>
<p><font size="2">................</font></p>
<p></p>
<p><font size="2">แม่ - Are you sleepy?</font></p>
<p><font size="2">ลูก - No. Color.</font></p>
<p><font size="2">แม่ - OK. Color first, then we go to sleep.</font></p>
<p><font size="2">ลูก - พยักหน้าหงึกๆ</font></p>
<p><font size="2">...............</font></p>
<p></p>
<p><font size="2">ลูก - Mommy, do you love Fasai?</font></p>
<p><font size="2">แม่ - (อึ้ง...ลูกพูดเป็นประโยคยาวเชียว ถูกหลักไวยากรณ์ซะด้วย)</font></p>
<p></p>
<p><font size="2">............</font></p>
<p></p>
<p><font size="2">เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแม่ตัดสินใจไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มกับ native speaker ชาวอเมริกัน</font></p>
<p><font size="2">ต้องขอบคุณแม่ป้อที่ช่วยติดต่ออาจารย์ให้พวกเราชาวระยอง 6 ชีวิต</font></p>
<p><font size="2">ฟ้าใสถามแม่ว่า "เด็กไปด้วยไม่ได้ใช่มั้ย" แม่เลยถามหนูว่า "แล้วหนูอยากไปด้วยมั้ย" ฟ้าใสอยากไปด้วยค่ะ เราเลยไปด้วยกัน</font></p>
<p></p>
<p><font size="2">หลังเรียนเรียนภาษาอังกฤษที่บ้านอาจารย์ 2 ชั่วโมงซึ่งฟ้าใสได้คลุกคลีอยู่ในห้องด้วย คงทำให้โดนมนต์สะกด หลังจากนั้นเราก็พูดอังกฤษใส่กันใหญ่เลย เหมือนอารมณ์ค้าง เจอภาษาอังกฤษล้วนๆ ที่บ้านอาจารย์ของแม่เข้าให้ มึนและเมากันไปเลย</font></p>
<p></p>
<p><font size="2">ลูกไม้ที่แม่คอยบ่มกำลังสุกงอมแล้วล่ะ กำลังน่ากินเลย อีกไม่นานลูกของแม่คงได้เป็นลูกครึ่งสมใจ เมื่อลูกพร้อมขนาดนี้ แม่ก็พร้อมเหมือนกันจ้ะ แม่จะพยายามเพิ่มปริมาณภาษาอังกฤษให้ลูกมากขึ้นทุกๆ วันนะจ๊ะ</font></p>
<p></p>
<p style="TEXT-ALIGN: left"><img alt="" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975956027?profile=original"/></p>
กระทู้ในดวงใจ เบื้องหลังความสำเร็จของครูจากห้อง English Club
tag:go2pasa.ning.com,2010-08-27:2456660:BlogPost:385570
2010-08-27T02:00:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p>เก็บกระทู้เก่ามาไว้ในบล็อกส่วนตัวค่ะ ได้สัมภาษณ์บรรดาครูบาอาจารย์แห่งห้อง English Club เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2553</p>
<p>แต่ละคนกว่าจะเก่งขึ้นมาได้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่กำเนิด ต้องใช้ความพยายามทั้งนั้น เก็บมาฝากสำหรับพ่อๆ แม่ๆ ที่กำลังท้อนะคะ</p>
<p></p>
<p>ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ค่ะ</p>
<p></p>
<h1>ขอสัมภาษณ์อาจารย์อ๊อบและอาจารย์รีออกไมค์ค่ะ</h1>
<ul class="navigation byline">
<li><a class="nolink"><font color="#000000">เริ่มโดย…</font></a></li>
</ul>
<p>เก็บกระทู้เก่ามาไว้ในบล็อกส่วนตัวค่ะ ได้สัมภาษณ์บรรดาครูบาอาจารย์แห่งห้อง English Club เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2553</p>
<p>แต่ละคนกว่าจะเก่งขึ้นมาได้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่กำเนิด ต้องใช้ความพยายามทั้งนั้น เก็บมาฝากสำหรับพ่อๆ แม่ๆ ที่กำลังท้อนะคะ</p>
<p></p>
<p>ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ค่ะ</p>
<p></p>
<h1>ขอสัมภาษณ์อาจารย์อ๊อบและอาจารย์รีออกไมค์ค่ะ</h1>
<ul class="navigation byline">
<li><a class="nolink"><font color="#000000">เริ่มโดย</font></a> <a href="http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza"><font color="#000000">แม่อ้อ - พ่ออาร์ต & ฟ้าใส</font></a> <a class="nolink"><font color="#000000">เมื่อ 14/04/2010 เวลา 11:34pm ใน</font></a> <a href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub"><font color="#000000">English Club</font></a></li>
</ul>
<p>ตอนแรกกะว่าจะถามเป็นการส่วนตัว แต่คิดว่าคำถามเราอาจมีประโยชน์สำหรับคนอื่นๆ จึงขออนุญาตถามออกไมค์นะคะ</p>
<p></p>
<p>หลายคนคงจะคุ้นเคยกับคุณพี่อ๊อบ (อรนัย) และคุณรี (MommyDearest) กันเป็นอย่างดี ไม่ว่าเราจะตั้งคำถามเรื่องอะไร 2 ปรมาจารย์นี้มักจะเป็นผู้มีอุปการะคุณเสมอ</p>
<p></p>
<p>วันนี้จึงขออนุญาตถามลึกถึงเบื้องหลังความสำเร็จหน่อยค่ะ (เหมือนสัมภาษณ์ดาราเลย)</p>
<p>ตอบเท่าที่ตอบได้นะคะ อยากรู้เพื่อนำไปพัฒนาตัวเองค่ะ</p>
<p></p>
<p>1. สมัยเรียน จบจากที่ไหน ด้านไหนคะ</p>
<p>2. เก่งภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กๆ หรือเปล่า</p>
<p>3.เคล็ดลับในการพัฒนาตัวเองให้เก่งภาษาอังกฤษมีอะไรบ้างคะ</p>
<p>4. ก่อนที่จะฝึกลูกให้เป็นเด็กสองภาษา ได้พูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันหรือเปล่า</p>
<p></p>
<p>คนอื่นๆ สามารถเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ได้นะคะ ไม่จำเป็นต้องเป็นพี่อ๊อบและคุณรีก็ได้ค่ะ</p>
<p>...........................</p>
<p></p>
<p>ตอบกลับโดย <a class="fn url" href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topic/listForContributor?user=2p7fzljpfu0o6"><font color="#000000">Mommy Dearest</font></a> เมื่อ <span class="timestamp">15/04/2010 เวลา 12:50am</span></p>
<p></p>
<div class="description" id="desc_2456660Comment237235">ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณมากเลยนะคะที่ให้เกียรติชมนะคะ รีเองไม่ได้เก่งอะไรหรอกค่ะ เรียนรู้จากชีวิตประจำวันเนี่ยแหละค่ะ<br/><br/>อายนะเนี่ยมาให้ตอบอย่างเนี้ยค่ะ<br/>เดี๋ยวตามพี่อ๊อบมาเป็นเพื่อนร่วมชตากรรมแล้วกันนะคะ<br/><br/>1. เรียนจบ มหาลัยเอกชนค่ะ เพราะสอบรัฐบาลไม่ติด ตอนนั้นสอบเทียบกำลังฮิต เลยสอบเทียบเอา ประจวบกับเป็นเด็กเกเร ไม่ตั้งใจเรียนค่ะ เรียนเอาผ่านๆ เลยสอบเข้าเอกชนใกล้ๆบ้าน ที่รังสิตค่ะ เรียนวิดวะคอมพิวเตอร์ค่ะ<br/><br/>2. ไม่ค่ะ เรียนโรงเรียนรัฐมาตลอดตั้งแต่อนุบาลยันมอ 5 ค่ะ เริ่มเรียนอังกิด ตอนปอ 5 พ่อแม่ย้ายบ่อยเพราะรับราชการเลยไม่ตั้งใจเรียนหนักไปเลยค่ะ มาเรียนมหาลัยก็ไม่ได้สนใจภาษาอังกิดค่ะ<br/><br/>3. ก่อนมาเรียนต่อ ปอ โท ที่เมกา เรียนเพิ่มแกรมม่าที่ สงวนค่ะ แต่ได้แต่แกรมม่าไว้สอบโทเฟลจริงๆ ที่เหลือพวกฟังเขียนเนี่ยมาตายเอาดาบหน้าค่ะ มาเรียนต่อโทที่นี่ตอนปี 2000 มาอยู่กับเพื่อนพี่สาว ตอนที่เขียนจดหมายเพื่อส่งใบสมัครปอโท เพื่อนพี่สาวหัวเราะขำกลิ้งเพราะแกรมม่าผิดเยอะมาก พูดก็ผิดๆค่ะ พอมาเจอสามีก็มาอยู่ที่นี่ปีกว่าแล้ว วันแรกที่คุยกันเค้าบอกว่าฟังเราพูดไม่รู้เรื่องเลย ถามว่าปรับปรุงภาษาตัวเองยังไงเหรอ โดยตัวเองทำตัวให้หน้าด้านค่ะ ยอมรับในการแก้ไขจากคนรอบข้าง คำไหนพูดผิด บอกคนรอบข้างให้ช่วยแก้ให้ ไม่ใช่แค่สามี แต่รวมไปถึงเพื่อนๆรอบข้างด้วย อาศัยฟังผ่านว่าคำไหนไม่เข้าใจถามเลยหรือหาเลยว่าแปลว่าอะไร ไม่ปล่อยเลยค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังเรียนรู้คำใหม่ๆอยู่ทุกวันค่ะ<br/><br/>4. ก่อนที่จะมีลูกเนี่ยใช้ภาษาอังกิดในชีวิตประจำวันตลอดมาแปดปีค่ะ ลูกสาวเกิดปี 2008 มาอยู่นี่ปี 2000 ค่ะ</div>
<div class="description">........................</div>
<div class="description"></div>
<div class="description">ตอบกลับโดย <a class="fn url" href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topic/listForContributor?user=2fr1dgc3njhxk"><font color="#000000">อรนัย รักในหลวง</font></a> เมื่อ <span class="timestamp">15/04/2010 เวลา 1:18am</span></div>
<div class="description"></div>
<div class="description">เจี๊ยก!!!! มิน่านอนไม่หลับกระสับกระส่ายที่แท้โดนพาดพิงนี่เอง....5555++<br/>ขอบคุณน้องอ้อมากเลยที่ให้เกียรติ....สารภาพความในใจว่าจริงๆแล้วรู้สึกเกรงใจที่เพื่อนๆเรียกว่าครูล่ะคะ เพราะว่าไม่ได้เก่งและแม่นถึงขั้นนั้นอ่ะค่ะ คิดว่าคนเราจะเป็นครูได้ต้องเก่งมากๆ หรือผิดให้น้อยที่สุด เพราะต้องเป็นแบบอย่างให้คนอื่นตาม...การ "ได้ตอบ" กระทู้ในนี้มาจากอยากฝึกหัดตัวเองมากกว่า เพราะคิดว่า practice makes perfect ยิ่งตอบมาก หัดมาก ยิ่งรู้มาก ได้ฝึกตัวเองล่วงหน้า บางข้อก็ได้เอาไปใช้จริงๆ...ชอบห้องอิงลิชสมัยก่อนที่พอเราลองตอบก็มีคนเก่งๆอย่างแพท รี ฯลฯ มาช่วยบอกว่าตรงไหนผิด ช่วยกันแก้ไข...แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย แต่มายุคหลัง ดูจะเกร็งกันไป...เพื่อนคนอื่นๆก็เลยไม่กล้ามาตอบแล้ว....ซึ่งเป็นการปิดทางฝึกฝนเป็นอย่างมาก อ่ะ..ตอบข้อสัมภาษณ์ของน้องอ้อนะค่ะ<br/><br/>1 จบจากมศว.ประสานมิตรค่ะ มนุษศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษค่ะ อ้างอิงสถาบันถ้าวันไหนตอบผิดอย่าว่าถึงสถาบันที่รักของเค้าน้า....อิอิ<br/><br/>2 ไม่เก่งค่ะแต่กล้ามากกว่า กล้าพูด กล้าถาม<br/><br/>3 ฝึกฝนอยู่เสมอ อ่านหนังสือออกเสียงเพื่อฝึกสำเนียง ศึกษาเพิ่มเติมตลอด เช็คการออกเสียงตลอด<br/><br/>4 ก่อนมาทำงานควบสองตำแหน่งเป็น Full time maid & Full time mom เช่นทุกวันนี้ เคยทำงานให้บ.สายการบิน Qantas เป็นพนักงานภาคพื้นค่ะ ก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอด แต่...ใช่ว่า..จะเอาประสบการณ์ตรงนั้นมาได้เลยนะค่ะ เรื่องศัพท์ไม่เกี่ยวกันเลย แต่อาจจะได้สำเนียงที่เฝ้าเพียร "เลียนแบบ" ผู้โดยสารเวลาได้ยินใครพูดคำไหนเพราะ โดนใจก็เลียนแบบมาใช้เลย</div>
<div class="description">..................................</div>
<div class="description"></div>
<div class="description">ตอบกลับโดย <a class="fn url" href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topic/listForContributor?user=1vpoe1n8g4ev9"><font color="#000000">Pat NZ</font></a> เมื่อ <span class="timestamp">15/04/2010 เวลา 3:45pm</span></div>
<div class="description"></div>
<div class="description">เอาจริงๆเหรอ แต่ความจริงก็บอกไปหลายรอบแล้วนะค่ะ<br/><br/>1. <b>Waikato Polytechnic, Hamilton ด้าน Information Technology ค่ะ (BIT)</b><br/>เสริมนิดนึง ระหว่างเรียนไปก็ไปทำงานเป็นเด็กเสริฟตามร้านอาหารค่ะ เคยทำทั้งร้านอาหารไทย และร้านอาหารอินเดีย<br/>จบมาได้งานที่ไม่ตรงกับวิชาเลย ไปทำงานร้านขายเครื่องประดับ ขายทั้งปลีกและส่งค่ะ ปัจจุบันไม่ได้ทำงานที่ร้านแล้วตั่งแต่มีลูก 2 คนก็ออกมาเลี้ยงลูกเอง แต่พอลูกเริ่มเข้าโรงเรียนก็ช่วยดูกิจการขายส่งตุ๊กตาให้เพื่อน พร้อมกับทำงานเป็นอาสาสมัครของ St. Vicent de Paul ค่ะ และก็ไปช่วยพี่ที่พึ่งเิปิดร้านขายของไทยทำเรื่องเอกสาร พวก Stock สินค้า<br/><br/>2. <b>ตกภาษาอังกฤษมาตลอดค่ะ ต้องสอบซ่อมทุกปี ตั้งแต่ประถมยันมัธยม</b><br/><br/>แม้กระทั่งตอน ม.4 เป็นนักเรียนเข้าใหม่ของโรงเรียนชายล้วนที่เปิดรับนักเรียนหญิงตอนม.ปลายเป็นปีแรก เป็น 1 ใน 4 นักเรียนหญิง ม.ปลายที่เข้าร่วม English Club ของโรงเรียน โดยที่สามคนเรียนสายศิลป์ แพทเรียนสายวิทย์ แต่ก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานชมรมภาษาอังกฤษในปีนั้น (คู่แข่งคนอื่นนอกเหนือจาก ม.ปลายสายศิลป์ทั้งสามแล้วก็คือเด็กนักเรียน ม.3 ที่เก่งภาษาอังกฤษมาก สอบได้เกรด 4 ประจำ แต่ที่เค้าเลือกแพท โดยที่ไม่ทราบคะแนนสอบตอนปลายปี (<i>ก็เลือกกันตอนต้นปีอะ และอาจารย์หัวหน้าแผนกก็ยังบอกเลยว่า "ขายหน้ามากเลยนะ ประธานชมรม สอบตกวิชาภาษาอังกฤษเองเนียะ"</i>)) เพราะตอนที่โดนบังคับให้ลงสมัคร เค้าให้พูดแนะนำตัวเอง และพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษต่อหน้าคนทั้งชมรม สรุปโดนหลอกกันทั้งชมรมเลยนะเนียะ<br/><br/>3. <b>กล้าพูด กล้าถาม กล้าแสดงออก<br/></b><br/>แพทยอมรับว่าแพทไม่ถนัดกับระบบการศึกษาของเมืองไทย ที่ให้นักเรียนท่องจำเฉยๆ จำว่าเทนส์นี้เป็นแบบนี้ แบบนั้นแล้วก็ให้ไปสอบ ถึงได้ตกทุกปี แต่ตั่งแต่ม.3 ทางโรงเรียนมีจัด Summer Course ที่สิงค์โปร คุณพ่อส่งแพทไป 1 เดือน ไปเรียนภาษาในห้องเรียนก็ช่วยอยู่จุดหนึ่งที่อาจารย์เป็นคนฝรั่ง พูดไทยได้นิดหน่อย แต่นอกเหนือจากนั้นคือสภาพแวดล้อมที่พักที่ Y.W.C.A ที่ต้องเจอต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง แพทได้เจอกับแขกที่ไปพักที่หอ ได้พูดคุยกับเค้า (เค้าชวนไปทานข้าวเย็นด้วยนะ แต่อาจารย์ไม่อนุมัติ กลัวลูกศิษย์โดนทำมิดีมิร้าย)<br/><br/>คิดดูว่าสมัยนั้น ฝรั่งยังไม่ชุกชุมเหมือนสมัยนี้ อายุ 15-16 ไปเดินตลาดจตุจักร ขึ้นสะพานลอย หูผึ่งเห็นฝรั่งนักท่องเที่ยวพยายามจะถามทาง หลายๆคนเดินหนีเพราะคุยไม่รู้เรื่อง ฟังไม่รู้เรื่อง แต่เราหูผึ่งแล้วปรี่เข้าไปหาเลย พูดผิดบ้างถูกบ้าง ถามเลยค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหม จะไปไหนเหรอ แล้วก็บอกทางให้เค้า ได้ทั้งภาษา อิ่มบุญอีกต่างหากนะค่ะ<br/><br/>หลังจากนั้นก็ขอข้ามมาตรงที่มาเรียนต่อที่นิวซีแลนด์เลยนะค่ะ ก็มาด้วยกันกับน้องชาย ขานี้ก็อังกฤษเกรด 4 เหมือนกัน แต่มาถึงใบ้รับประทาน ของเราตกแต่คุยกับฝรั่งรู้เรื่อง ฝรั่งก็งงเหมือนกันว่าทำไมน้องเราคะแนนก็ดีแต่พูดไม่ได้เลย<br/><br/>ก็มาถึงถิ่นแล้ว ภาษาไทยก็อดค่ะ พูดได้แต่กับคนไทยซึ่งในโรงเรียนไม่มีเลยซักคน ถ้านั่งเป็นใบ้คงแย่แน่ๆ แถมชีวิตหอพักก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแพทอยู่หอปีแรกค่ะ ตอนหลังถึงได้ไปพักกับครอบครัวฝรั่ง มาเรียนก็ Form 6 แล้วแต่โดนเด็กแกล้ง โดนหลอกให้ล้างจาน (เด็กโตไม่ต้องทำ) โดนขโมยยกทรง ดีกางเกงในไม่ใหาย เค้าเอาไปแกว่งเล่นกัน <u>นั่งทานข้าวก็โดนนินทาซึ่งหน้า เค้าคิดว่าเราฟังไม่ออก ตอนนั้นนะฟังออก แต่ตอบไม่ทัน คุยกับเพื่อนก็แปลไม่ทัน คือฟังแล้วก็แปลในหัวเป็นภาษาไทย นึกคำตอบแล้วก็แปลเป็นภาษาอังกฤษก่อนที่จะพูดออกมา สรุปเค้าเปลี่ยนเรื่องคุยกันไปแล้วค่ะ เลยคิดว่าไม่ได้การแล้วละ คุยไม่ทันเค้า ต้องหัดคิดเป็นภาษาอังกฤษให้ได้ คิดปุ๊ป พูดปั๊ป</u> หลายท่านอาจจะสงสัยว่า อ้าวก็ไหนว่าคุยกับฝรั่งรู้เรื่องงัย ก็แหมผู้ใหญ่ คนดูแลเค้ารู้ว่าเราพึ่งมา เค้าก็พูดช้าๆ ชัดๆ รอฟังคำตอบ แต่เด็กฝรั่งเค้าไม่รอเราหรอกค่ะ เค้าก็คุยของเค้าไป เธอเข้ากับกลุ่มฉันไม่ได้ เค้าก็ไม่สนใจ ถ้าเข้ากันไม่ได้มากๆ ตามเค้าไม่ทันก็ทานข้าวคนเดียวละค่ะ<br/><br/>สรุปก็ต้องพยายามฟังให้เยอะ คิดเรื่อยเปื่อยเป็นภาษาอังกฤษ นึกภาพนึกสถานการณ์ต่างๆว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เราจะต้องตอบว่ายังงัย ที่โดนเค้าแกล้ง เค้่านินทาซึ่งหน้า ก็จำมันไว้ว่าเค้าพูดว่ายังงัยบ้าง นึกว่าคราวหน้าฉันต้องตอบว่ายังงัย ฝึกไว้ให้คล่อง พอเค้าพูดมาอีกก็ตอบด้วยความมั่นใจและรวดเร็ว ได้ผลค่ะ หน้าหงายกันไปเลย เห็นปกติเราไม่พูดไม่โต้ตอบ ก็บอกไปเลยว่าที่ฉันไม่พูดไม่ใช่เพราะฉันฟังเธอไม่ออกหรอกนะ ที่โดนแกล้งเอายกทรงไปเหวี่ยงเล่นก็ตามไปทวงคืน พูดใหรู้กันไปเลยว่าเด็กใหม่ไม่ใช่ว่าแกล้งได้นะ แล้วถามจริงเหอะ เอาไปนะใส่ได้เหรอ(ยะ)<br/><br/>สถานการณ์ในห้องเรียนก็เหมือนกัน กล้าพูด กล้าแสดงออก กล้าท้วงคุณครู ตอนแรกก็หงิมๆ เห็นครูเขียน(เลข)ผิดก็ยกมือแบบกลัวๆ บอกแบบเบาๆว่าผิดค่ะ ครูบอกว่าเก่งมาก ขอบคุณมากที่บอก นักเรียนที่เหลือสงสัยหลับกันหมด ตั่งแต่นั้นอิฉันก็คอยจ้องเลยค่ะ สนุกมาก ชอบเลขอยู่แล้ว แข่งคณิตคิดไวกะฝรั่งมันส์ไปเลย วิชาที่ชอบบวกกะวิชาที่ตกมันก็เลยช่วยเหลือซึ่งกันและกันค่ะ<br/><br/>4. <b>ใช้ค่ะ เพราะมาอยู่ต่างประเทศและเด็กๆก็เกิดกันที่นี่</b> ตอนนี้ต้องบังคับให้ใช้ภาษาไทยกันที่บ้าน เพราะลูกสาวติดพูดภาษาอังกฤษไปแล้ว ต้องใช้ไม้ "แม่ไม่รู้เรื่อง" ซึ่งก็โกหกกันไม่ได้เหรอว่าไม่รู้เรื่อง แต่เค้าก็เข้าใจว่าแม่จะให้พูดภาษาไทยนะ แต่ความรู้ก็ไม่มีวันหมดจริงๆ เพราะถึงแม้ว่าจะเรียนที่นี่ อยู่ทั้งหอพักนักเรียน อยู่ทั้งบ้านHome Stay แตพอมีลูก ภาษาก็ต่างไป เวลาที่ใช้กับเด็กอ่อน อยู่บ้านอาจจะไม่ต้องใช้ก็จริง แต่เวลาหาหมอ หาพยาบาล (ที่นี่เค้าดูแลดีมากค่ะ มีพยาบาลมาหาที่บ้านบ่อยมากในช่วงเดือนแรกๆ และก็ต้องไปให้เค้าตรวจเช็คค่อนข้างบ่อย) เราต้องอธิบายทั้งเวลาให้นม เปลี่ยนผ้าอ้อม อึเด็ก อาหารการกิน ป่วยไม่สบาย ก็ต้องค่อยๆเรียนรู้ไปพร้อมกับเรียนรู้เรื่องการเลี้ยงลูก ตอนนี้ลูกเข้าโรงเรียนแล้ว ก็ยังต้องเรียนรู้เรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับการเรียน และกิจกรรมของเด็ก<br/><br/>แพทใช้ภาษาเวลาออกไปนอกบ้าน ติดต่องานเล็กน้อย และที่หาเรื่องใส่ตัวคือยอมรับเป็นเลขาของกลุ่ม St Vincent de Paul คอยบันทึกการประชุมของกลุ่ม (เค้าน่ารักมาก โยนงานมาให้เราทำ และเราก็กล้าๆกลัวๆ แต่ก็รับทำเพื่อฝึกภาษาของเราเอง ผิดถูกเค้าก็ช่วยเราแก้ไข) หรืองานเรื่องสินค้าของที่ร้าน ก็ต้องเรียนรู้ชื่อเรียกของสินค้าแต่ละชนิด ที่สำคัญก่อนที่ภาษาอังกฤษจะไม่ขยับ ภาษาไทยก็ถดถอย ก็ได้เวปหมู่บ้านสองภาษานี่แหละค่ะ พัฒนาทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยไปพร้อมๆกัน<br/><br/>ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเรียนรู้และปฏิบัติค่ะ หมั่นฝึกฝนและปฏิบัติ คอยหาความรู้เพิ่มเติม เพราะการเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น<br/>................</div>
<div class="description"></div>
<div class="description">ตอบกลับโดย <a class="fn url" href="http://go2pasa.ning.com/group/englishclub/forum/topic/listForContributor?user=2pft5u8yfn5zp"><font color="#000000">แหม่แม่ ♥</font></a> เมื่อ <span class="timestamp">16/04/2010 เวลา 6:25pm</span></div>
<div class="description"></div>
<div class="description"><dl>
<dd><div class="description" id="desc_2456660Comment238364"><p align="center"><strong><font size="2">555+ อายุยังน้อย เรียนยังไม่จบ ประสบการณ์ไม่มี</font></strong></p>
<p align="center">ขอใช้ภาษาบ้านๆเลยนะค่ะ</p>
<p align="center">แพรเรียนที่ รร.ประจำจังหวัดชัยภูมิ<br/>แพรเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มเพื่อนกระเทย 6 นาง<br/>ซึ่งถ้าเดินไปไหนใครๆก็ว่า "<strong>อินี่ แรงงงงงง</strong>" <br/>ได้โควต้าเรียนเป็นนางฟ้าที่หัวหิน...แต่ก็วาสนาไม่ถึง ชั่งเหอะ (ปลอบตัวเอง)<br/>แพรเรียนม 6 ได้เทอมเดียว เทอมสองดันมามีไมก้า (เข้าข่ายแรด 555) <br/>แพรก็เลยสอบเทียบ กศน.ชัยภูมิ อุ้มท้องแปดเดือนไปนั่งสอบข้างป้าแก่ๆวัยใกล้จะห้าสิบ<br/>ปัจจุบันเรียนครุศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ ปีสอง ที่ม.ราชภัฏชัยภูมิ ใกล้บ้าน ใกล้ลูก</p>
<p align="center"></p>
<p align="center">แพรโดดเรียนภาษาอังกฤษตลอด จนขึ้นป.5 ครูให้สะกดคำว่า ฟาร์มเมอร์ ชาวนา<br/>ช๊อกค่ะ สะกดไม่ถูก เพื่อนๆหัวเราะ ครูก็เลยบอกว่า หนิเธอ ไม่ต้องมาเรียนหรอก ไปเป็นฟาร์มเมอร์ไป๊<br/>ร้องไห้ ไม่ไปโรงเรียนอยู่หลายวันค่ะ แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตูและแรงจูงใจที่ทำให้แพรหันมาสนใจใน English</p>
<p align="center">ตอนม.2 ที่ รร มีครูฝรั่งชื่อคามิล ชาวโปแลนด์ หล่อโฮก เค้าชอบกินโออิชิมาก<br/>แม่ให้เงินไปโรงเรียนวันละ 40 บาท<br/>ทุกวันแพรจะแวะ 7-11 ซื้อโออิชิขวดละ 20 บาทแล้วไปตั้งไว้บนโต๊ะทำงานของคามิล<br/>เงินหลือ 20 บาททั้งข้าวกลางวัน ทั้งค่ารถก็ไม่พอ ไม่เป็นไร ชอบเลี้ยงผู้ชายค่ะ โฮะๆ<br/>แพรไม่เคยพูดกะคามิล ทุกวันจะไปถามเพื่อนว่า ขอถ่ายรูปหน่อยพูดว่าไง<br/>คุณกินข้าวหรือยังพูดว่าไง จดไว้ เผื่อได้ถามคามิล<br/>แต่แล้วก็ไม่ได้ถาม....จนกระทั่งวันวาเลนไทน์<br/>ดอกไม้ ตุ๊กตาและช๊อกโกแล๊ตที่แฟนคลับให้ แพรเอาไปให้คามิลหมด<br/>วันนั้นคามิลยิ้ม แล้วโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆ เราเกร็งมาก เขิลจนบอกไม่ถูก<br/>แล้วเค้าก็กระซิบเบาๆว่า <strong>I LIKE BOYS</strong></p>
<p align="center"><strong>เพล้งงงงง...งงงง หน้าแตก</strong> ตอนนั้นแปลอะไรไม่ถูกค่ะ<br/>ไอ้เวงงง เกย์นี่หว่า ตรูอุตส่าห์ทุ่มเท เด็กมอสอง ทำให้ใครได้มากขนาดนี้</p>
<p align="center">ช่วงนั้น give up ท้อแท้ หันหน้าเข้าหาเกมส์ออนไลน์ Ragnarok เกมส์ที่ฉุดเด็กไทยลงเหว<br/>ติดเกมส์มาก ที่บ้านไม่มีคอม ไปร้านเน็ต อยู่จนดึกดื่นค่ะ ตีหนึ่งตีสอง แม่ด่า แม่ว่า แม่ตีก็ไม่สน<br/>ช่วงนั้น เลวสุดๆ<br/>ทุกครั้งที่ไปเล่นเกมส์ก็จะมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งใกล้ๆแพรตลอด แชทกะกะฝรั่งทางเว็บหาคู่<br/>ทั้งเว็บแคม ทั้งไมค์ บางครั้งส่งจูบ บางครั้งหัวเราะคิกคัก บางครั้งร้องไห้ก็มี<br/>เราก็คิดไป อินังคนนี้มันบ้าไปแล้ว</p>
<p align="center">จนวันหนึ่งแพรเห็นผู้หญิงคนนั้นแหละ กับ ฝรั่งคนที่แพรเคยเห็นในจอคอม</p>
<p align="center">เค้าเดินควงแขนกันเข้ามาในร้านเน็ต<br/>เราก็งง อ้าว มาได้ไงว่ะ หรือว่าเค้ามาพบกันจริงๆ<br/>เรื่องแบบนี้มันมีจริงหรอ<br/>โอ้วววว มาย บุ๊ดดา</p>
<p align="center">เราก็เลยแอบแชทดูบ้าง เพราะความที่อกหักจากคามิล<br/>เนื่องด้วยหล่อนเป็นเกย์หน้าหล่อ<br/>เราก็เลยบอกตัวเองเสมอว่า I can do better than that<br/>ตรูหาได้หล่อกว่าคามิลแน่ๆ<br/>ตั้งหน้าตั้งตาแชท เพราะหนุ่มฝรั่งหล่อ ผมสีบลอน ตาสีฟ้า<br/>เป็นแรงจูงใจ ให้เราหัดพูด หัดอ่าน กล้าถาม กล้าแสดงออก</p>
<p align="center">แต่ฉะไหนเลย เราจึงได้มาเจอหนุ่มหัวโล้น ตาสีเขียว อย่างพ่อของไมก้า<br/>5555555555555555555555555555555555555555555555555555<br/>ไม่ใช่สเป็กเลยค่ะ</p>
<p align="center">แพรคิดว่าคนที่พูดภาษาอังกฤษได้เท่ห์มาก<br/>เหมือนคนมีความรู้ มีการศึกษา</p>
<p align="center">แพรไม่ศึกษาแกรมม่า ส่วนมากเรียนรู้จากชีวิตประจำวันค่ะ<br/>เพราะคุยกะแฟน มันเลยไหลลื่น ถูกบ้าง ผิดบ้าง แฟนก็ช่วยแก้ไข พ่อคุณทูนหัว ฮ่าๆ</p>
<p align="center">แพรคุยกะลูกเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่อยู่ในท้อง<br/>ไมก้าฟังเพลงสากลตั้งแต่อยู่ในท้องเลยค่ะ เพลง I'm yours ของ Jason Mraz<br/>เปิดให้ฟังตอนไหน ถีบท้องตลอด อิอิ</p>
<p align="center">แพรคิดว่าการที่เราจะทำอะไรได้ดี มันขึ้นอยู่กับตัวเรา<br/>ว่าเรารักหรือป่าว ถ้าใจมันรัก เราก็จะทำสิ่งนั้นได้ดีค่ะ<br/>แต่ถ้าไม่ พยายามแค่ไหน ก็ไม่ถึงเส้นชัย<br/>อันดับแรกของการเรียนรู้ภาษา คือ การเปิดใจ และ ทำใจให้รักกับมัน นะค่ะ</p>
<p align="center"></p>
<p align="center">ขอบคุณคุณแม่อ้อนะค่ะ</p>
</div>
</dd>
</dl>
</div>
<p class="description"></p>
<p align="center">............................</p>
<p align="center"></p>
<p align="center">ติดตามกระทู้เต็มๆ ได้ที่นี่นะคะ</p>
<p align="center"><a href="http://go2pasa.ning.com/forum/topics/2456660:Topic:237175?groupUrl=englishclub&id=2456660%3ATopic%3A237175&groupId=2456660%3AGroup%3A20240&page=1#comments">http://go2pasa.ning.com/forum/topics/2456660:Topic:237175?groupUrl=englishclub&id=2456660%3ATopic%3A237175&groupId=2456660%3AGroup%3A20240&page=1#comments</a></p>
<p></p>
<div class="description"></div>
5 เดือนผ่านไป ฟ้าใสเริ่มเถียงเป็นภาษาอังกฤษ
tag:go2pasa.ning.com,2010-07-16:2456660:BlogPost:336260
2010-07-16T06:00:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p>เดินทางกันมาไกลพอสมควรสำหรับครอบครัว 2 ภาษาของเรา</p>
<p>ที่บ้านประกอบไปด้วย 4 ชีวิต พ่อ แม่ ลูก และย่า</p>
<p>พ่อ แม่ ลูก คุยกันเป็นภาษาอังกฤษแล้วแต่สะดวก ย่าก็กำลังเรียนรู้ไปด้วย เพราะเดี๋ยวนี้หลานชอบพูดภาษาอังกฤษใส่ประจำ จนย่าเองก็ง้ง..งง</p>
<p></p>
<p>นี่เราเดินทางผ่านมา 5 เดือนกว่าแล้วนะ พัฒนาการด้านภาษายังดีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง</p>
<p>จากแค่พยักหน้างึ่กๆ เปลี่ยนมาเป็น Yes No</p>
<p>ตอนนี้แม่สนุกมากขึ้นแล้วค่ะ</p>
<p></p>
<p>เรากำลังอาบน้ำกันอยู่ ฟ้าใสไม่ยอมยืนดีๆ…</p>
<p>เดินทางกันมาไกลพอสมควรสำหรับครอบครัว 2 ภาษาของเรา</p>
<p>ที่บ้านประกอบไปด้วย 4 ชีวิต พ่อ แม่ ลูก และย่า</p>
<p>พ่อ แม่ ลูก คุยกันเป็นภาษาอังกฤษแล้วแต่สะดวก ย่าก็กำลังเรียนรู้ไปด้วย เพราะเดี๋ยวนี้หลานชอบพูดภาษาอังกฤษใส่ประจำ จนย่าเองก็ง้ง..งง</p>
<p></p>
<p>นี่เราเดินทางผ่านมา 5 เดือนกว่าแล้วนะ พัฒนาการด้านภาษายังดีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง</p>
<p>จากแค่พยักหน้างึ่กๆ เปลี่ยนมาเป็น Yes No</p>
<p>ตอนนี้แม่สนุกมากขึ้นแล้วค่ะ</p>
<p></p>
<p>เรากำลังอาบน้ำกันอยู่ ฟ้าใสไม่ยอมยืนดีๆ ให้แม่ถูสบู่</p>
<p>แม่ : ฟ้าใส Stand up.</p>
<p>ฟ้าใส : No</p>
<p>แม่ : Stand up please</p>
<p>ฟ้าใส : Sit down (ดื้อค่ะ จะนั่งอย่างเดียว)</p>
<p>เถียงกันเสียงดัง อยู่ในห้องน้ำกัน 2 คน ย่าตะโกนมาจากข้างนอก "อะไรกัน" พ่อเลยบอกว่าปล่อยเค้าไป ย่าไม่ต้องสนใจหรอก ย่าฟังไม่รู้เรื่อง แต่เข้าใจว่าต้องทะเลาะกันแน่ๆ</p>
<p>............</p>
<p></p>
<p>ต่อมาว่าด้วยเรื่องของคำที่ออกเสียงคล้ายหรือเหมือนกัน</p>
<p>แม่ : This is a tree</p>
<p>ฟ้าใส : No. One (แม่ หนูเห็นมันมีแค่ 1 ต้นนะ ทำไมแม่บอกว่า 3)</p>
<p>แม่ : (อึ้ง อธิบายต่อไม่ถูก ลูกยังไม่รู้จักคำว่า tree รู้จักแต่ three)</p>
<p></p>
<p>...................</p>
<p></p>
<p>ฟ้าใส : I'm cold.</p>
<p>แม่ : Me too</p>
<p>ฟ้าใส : No. One (ลูกสับสนคำว่า two กับ too ค่ะ หนูหนาวคนเดียว แม่ไม่เกี่ยว)</p>
<p></p>
<p>...........</p>
<p></p>
<p>สถานการณ์นอกบ้าน</p>
<p>ฟ้าใส : I'm hot</p>
<p>แม่ : ได้แต่ยิ้ม เขินจัง ลูกเราพูดภาษาอังกฤษต่อหน้าคนอื่น แม่ยังไม่ชิน</p>
<p></p>
<p>..........</p>
<p><br/></p>
<p>วันนึงเราไปเดินห้าง หาพ่อกับย่าไม่เจอ เลยบอกลูกว่า " Where is Daddy and grandma? (น่าจะใช้ where are...มากกว่าใช่มั้ยคะ เพิ่งนึกขึ้นได้)</p>
<p>พอได้ยินแม่พูดเท่านั้นแหละค่ะ ฟ้าใสตะโกนเสียงดังลั่นห้าง "Daddy, grandma, where are you?"</p>
<p>คนมองกันทั้งห้างเลยค่ะ แม่อย่างอ้อเขินเล็กๆ แต่ก็ภูมิใจ ลูกเราใช้ภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่เหมือนแม่เลย แม่ยังพูดเสียงเบา ไม่ใช่ไม่มั่นใจค่ะ มันรู้สึกเขินๆ ยังไงไม่รู้ ยังไม่เข้าเส้นเหมือนลูกเลยค่ะ</p>
<p></p>
วิบากกรรมของ 'หัวกะทิ' นักเรียนจากจิตรลดา
tag:go2pasa.ning.com,2010-07-02:2456660:BlogPost:319082
2010-07-02T07:38:13.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<b><font color="#C20000" face="Tms Rmn"><font color="#C20000" face="Tms Rmn"><br />
</font></font></b><p dir="ltr"><b><font color="#C20000" face="Tms Rmn"><font color="#C20000" face="Tms Rmn"><font size="5">ได้มาจาก forward mail ค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะ</font></font></font></b></p>
<p dir="ltr"><b><font color="#C20000" face="Tms Rmn"><font color="#C20000" face="Tms Rmn"><font size="5">คนเรา เก่งอย่างเดียวไม่พอค่ะ…</font></font></font></b></p>
<p dir="ltr"></p>
<b><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><br />
</font></font></b><p dir="ltr"><b><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font size="5">ได้มาจาก forward mail ค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะ</font></font></font></b></p>
<p dir="ltr"><b><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font size="5">คนเรา เก่งอย่างเดียวไม่พอค่ะ</font></font></font></b></p>
<p dir="ltr"><b><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font size="5">................</font></font></font></b></p>
<p dir="ltr"></p>
<p dir="ltr"><b><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font size="5">ประสพการณ์จากชีวิตจริงของอดีตเด็กเก่งระดับเหรียญทองแดงโอลิมปิค ๒ สมัย สอบเอ็นทรานซ์ได้ที่ ๑ ของประเทศ จบวิศวกรรมศาสตร์เกียรตินิยมอันดับ ๑ ได้ทุนเรียนดีไปเรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษ ออกมาทำงาน แล้วบวชเป็นพระมา ๔ ปีและยังไม่มีกำหนดสึก รู้จักกันในสมญา 'ครูบาป๋อง' แห่งสวนสันติธรรม อำเภอศรีราชา</font></font></font></b></p>
<p dir="ltr"></p>
<p dir="ltr"><b><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><font face="Tms Rmn" color="#C20000"><a href="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975953358?profile=original">วิบากกรรมของ 'หัวกะทิ'2.pdf</a></font></font></b></p>
พัฒนาการของฟ้าใสเมื่อผ่านไป 4 เดือน
tag:go2pasa.ning.com,2010-06-15:2456660:BlogPost:295705
2010-06-15T05:30:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p>ตอนนี้ก็ผ่านมา 4 เดือนแล้วนะที่เราใช้ภาษาที่ 2 ที่บ้าน</p>
<p>เห็นผลเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนมากขึ้น นั่นเป็นเพราะเราเพิ่มความถี่ให้ลูกมากขึ้น</p>
<p>ฟ้าใสมีทั้งพ่อ แม่ และครูที่โรงเรียนซึ่งพูดภาษาอังกฤษแบบไม่มีการแปล</p>
<p>สิ่งที่เห็นได้ชัดตอนนี้ได้แก่</p>
<p></p>
<p>1. ฟ้าใสสามารถแบ่งโหมด 2 ภาษาได้ชัดเจน ถ้าเราพูดไทย เค้าก็ไทยกลับมา แต่ถ้าเราเปลี่ยนเป็นโหมดภาษาอังกฤษ ฟ้าใสก็เริ่มฟุตฟิตฟอไฟตอบโต้ได้บ้าง โดยไม่มีการพูดไทยคำ อังกฤษคำ</p>
<p></p>
<p>2. ศัพท์ต่างๆ แม่นยำขึ้น…</p>
<p>ตอนนี้ก็ผ่านมา 4 เดือนแล้วนะที่เราใช้ภาษาที่ 2 ที่บ้าน</p>
<p>เห็นผลเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนมากขึ้น นั่นเป็นเพราะเราเพิ่มความถี่ให้ลูกมากขึ้น</p>
<p>ฟ้าใสมีทั้งพ่อ แม่ และครูที่โรงเรียนซึ่งพูดภาษาอังกฤษแบบไม่มีการแปล</p>
<p>สิ่งที่เห็นได้ชัดตอนนี้ได้แก่</p>
<p></p>
<p>1. ฟ้าใสสามารถแบ่งโหมด 2 ภาษาได้ชัดเจน ถ้าเราพูดไทย เค้าก็ไทยกลับมา แต่ถ้าเราเปลี่ยนเป็นโหมดภาษาอังกฤษ ฟ้าใสก็เริ่มฟุตฟิตฟอไฟตอบโต้ได้บ้าง โดยไม่มีการพูดไทยคำ อังกฤษคำ</p>
<p></p>
<p>2. ศัพท์ต่างๆ แม่นยำขึ้น ไม่มีอาการสับสนหรือลังเลเมื่อพูดถึงศัพท์นั้นๆ เช่น หมวดชื่อสัตว์ หมวดสี หมวดรูปทรง</p>
<p></p>
<p>3. การตอบโต้เป็นธรรมชาติ พ่อแม่ไม่ต้องพูดนำมากนัก เค้าสามารถตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษได้เองแล้ว</p>
<p>Yes/ No/ I don't know ออกมาอัตโนมัติ</p>
<p></p>
<p>4. เริ่มเล่านิทานภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่ยังเน้นเป็นคำๆ ยังไม่สามารถผูกประโยคได้</p>
<p></p>
<p>5. การออกเสียงท้ายคำ ออกได้แต่ต้องเน้นให้เค้าเยอะๆ</p>
<p></p>
<p>ตอนนี้เค้าไปโรงเรียน 2 ภาษาแล้ว คุณครูชาวต่างชาติชมว่าฟ้าใสเป็นเด็กที่จัดว่าเรียนรู้เร็ว ถามอะไรก็ตอบได้</p>
<p>มีความคิดโตกว่าอายุ อ้อคิดว่าคงจะเป็นเพราะเราเตรียมความพร้อมให้เค้าตั้งแต่ก่อนไปโรงเรียน</p>
<p>เมื่อถึงวันที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างๆ เจอครูที่พูดไทยไม่ได้แม้แต่คำเดียว เค้าจึงไม่รู้สึกแตกต่าง ไม่งอแง แต่กลับสนุกสนาน</p>
<p></p>
<p>สิ่งที่คิดว่าต้องเพิ่มให้เค้าก็คือคำศัพท์ต่างๆ บวกกับความถี่สะสม</p>
<p>ใครๆ ที่มักบอกว่าไม่มีเวลาให้ลูก</p>
<p>อ้อไม่เชื่อค่ะ ถ้าเราตั้งใจทำอะไรซักอย่าง เราต้องทำให้มันมีเวลาเพียงพอให้ได้</p>
<p>ทุกวันนี้อ้อมีเวลาให้ลูกวันละประมาณ 3 ชั่วโมง แต่เป็นเวลาคุณภาพ</p>
<p>2 ชั่วโมงเป็นภาคภาษาไทย พูดคุยเรื่องในชีวิตประจำวันของลูก ให้เค้าได้สื่อสาร บอกเล่าสิ่งที่เค้าเจอมาแต่ละวัน</p>
<p>เป็นการฝึกสมอง ให้ได้คิด ให้ได้ใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง</p>
<p>อีก 1 ชั่วโมงเป็นภาคภาษาอังกฤษ อาจจะสอนการบ้าน อ่านนิทาน หรือดูการ์ตูนด้วยกัน</p>
<p></p>
<p>แล้วจะมา update พัฒนาการขั้นต่อไปนะคะ</p>
<p></p>
สรุป WORKSHOP รุ่นที่ 17 @ BKK 2/5/10
tag:go2pasa.ning.com,2010-05-04:2456660:BlogPost:254760
2010-05-04T04:00:00.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt"><font color="#000000"><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">หลังจากเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้ลูกได้ 3 เดือน ประเมินผลได้ดังนี้…</span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt 36pt; TEXT-INDENT: -18pt; mso-list: l0 level1 lfo1; tab-stops: list 36.0pt"></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt"><font color="#000000"><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">หลังจากเริ่มสอนภาษาอังกฤษให้ลูกได้ 3 เดือน ประเมินผลได้ดังนี้</span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt 36pt; TEXT-INDENT: -18pt; mso-list: l0 level1 lfo1; tab-stops: list 36.0pt"><font color="#000000"><span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'; mso-fareast-font-family: 'Angsana New'"><span style="mso-list: Ignore">1.</span></span> <span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">ความพร้อมของลูกในการรับข้อมูล 80</span><span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'">% - <span lang="TH" xml:lang="TH">เข้าใจคำสั่งได้เกือบทุกอย่าง ไม่มีอาการต่อต้านภาษาที่ 2 และมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนมากๆ</span></span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt 36pt; TEXT-INDENT: -18pt; mso-list: l0 level1 lfo1; tab-stops: list 36.0pt"><font color="#000000"><span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'; mso-fareast-font-family: 'Angsana New'"><span style="mso-list: Ignore">2.</span></span> <span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">ความพร้อมของแม่</span> <span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'">75% - <span lang="TH" xml:lang="TH">พื้นฐานภาษาอังกฤษปานกลาง ขาดแต่คำศัพท์ในชีวิตประจำวัน จึงศึกษาเพิ่มในเว็บ</span></span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt 36pt; TEXT-INDENT: -18pt; mso-list: l0 level1 lfo1; tab-stops: list 36.0pt"><font color="#000000"><span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'; mso-fareast-font-family: 'Angsana New'"><span style="mso-list: Ignore">3.</span></span> <span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">ความพร้อมของพ่อ</span> <span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'">60% - <span lang="TH" xml:lang="TH">พื้นฐานภาษาอังกฤษปานกลาง ไม่มีการศึกษาเพิ่ม แต่มีความตั้งใจที่จะสอนลูก</span></span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt"></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt; TEXT-INDENT: 18pt"><font color="#000000"><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">ในวันที่คนระยองตัดสินใจไป</span> <span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'">WORKSHOP <span lang="TH" xml:lang="TH">ในกรุงเทพฯ ความประทับใจแรกก็คือ ตั้งแต่เราเดินเข้าโรงแรมเวโรนิก้าซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน มีคนรู้จักครอบครัวเรา เข้ามาทักทายเสมือนเราเป็นดาราคนนึง (คิดไปเองน่ะ) ทำให้รู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ หลายคนคุยกันเหมือนรู้จักกันมานาน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์โดยไม่มีการปิดกั้น</span></span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt; TEXT-INDENT: 18pt"><font color="#000000"><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">พี่บิ๊กเริ่ม</span> <span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'">WORKSHOP <span lang="TH" xml:lang="TH">ด้วยการสอนภาษาจีน เอ่อ...ภาษาจีนเหรอ อ้อโดนออกไปหน้าห้องคนแรกเลย ออกไปแบบเอ๋อๆ...พี่บิ๊กพูดอะไรหว่า ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ทำตามเพราะดูจากภาษาท่าทางของพี่บิ๊กประกอบ นี่แหละค่ะทำให้อ้อเริ่มเข้าใจลูก ในวันที่เราสอนภาษาที่ 2 ให้เค้า เค้าก็คงงงแบบนี้ ถ้าเราไม่ใช้ภาษามือช่วย ไม่พูดซ้ำๆ ลูกก็คงไม่เข้าใจ เกิดประกายขึ้นในหัวทันที อือ...เราต้องสอนลูกอย่างนี้นะ ลูกจะได้เข้าใจง่ายขึ้น</span></span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt; TEXT-INDENT: 18pt"></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt; TEXT-INDENT: 18pt"></p>
<p style="TEXT-ALIGN: left"><font color="#000000"><img alt="" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975953865?profile=original"/></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt; TEXT-INDENT: 18pt"><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH"><font color="#000000">ในภาคบ่าย มีรุ่นพี่ที่เรียกได้ว่าสร้างเด็ก 2 ภาษาตามทฤษฎีของพี่บิ๊กสำเร็จแล้วมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง 4 ครอบครัว คือ แม่น้องเนย พี่อ๊อบ(อรนัย) และอีก 2 ครอบครัวที่อ้อจำชื่อไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ</font></span></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt; TEXT-INDENT: 18pt"><span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'"><font color="#000000">WORKSHOP <span lang="TH" xml:lang="TH">ของพี่บิ๊กไม่ได้เน้นการนั่งฟังแล้วง่วงนอน แต่ทุกคนได้มีส่วนร่วม ถาม ตอบตลอดวัน จนเวลาผ่านไป เอ๊ะ...ทำไมเร็วจัง น่าจะมีต่ออีกซัก 2-3 ชั่วโมงนะ เวลาผ่านไปเร็วมากค่ะ สนุกมากๆ ยังไม่อยากกลับเลย ยังไม่ค่อยได้ทักทายพ่อๆ แม่ๆ อีกหลายครอบครัว</span></font></span></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt; TEXT-INDENT: 18pt"><font color="#000000"><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">พี่บิ๊กสรุปกฎสำคัญในการสอนลูกอยู่ 9 ข้อ แต่สำหรับครอบครัวเราขอเลือก 3 ข้อ คือ</span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt 36pt; TEXT-INDENT: -18pt; mso-list: l1 level1 lfo2; tab-stops: list 36.0pt"><font color="#000000"><span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'; mso-fareast-font-family: 'Angsana New'"><span style="mso-list: Ignore">1.</span></span> <b><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">ห้ามแปล</span></b> <span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">เพราะถ้าเราแปล โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกโตแล้ว ลูกก็จะรอฟังแต่คำแปล จะไม่สนใจภาษาอังกฤษที่เราพยายามป้อนให้</span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt 36pt; TEXT-INDENT: -18pt; mso-list: l1 level1 lfo2; tab-stops: list 36.0pt"><font color="#000000"><span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'; mso-fareast-font-family: 'Angsana New'"><span style="mso-list: Ignore">2.</span></span> <b><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">รักษาความถี่</span></b> <span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">ในเมื่อลูกเราพร้อมที่จะเรียนรู้แล้ว พ่อแม่ต้องขยันป้อนข้อมูลให้ลูกอย่างต่อเนื่อง ผลจึงจะออกมาดี</span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt 36pt; TEXT-INDENT: -18pt; mso-list: l1 level1 lfo2; tab-stops: list 36.0pt"><font color="#000000"><span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'; mso-fareast-font-family: 'Angsana New'"><span style="mso-list: Ignore">3.</span></span> <b><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">ทำอย่างมีความสุขทั้งพ่อแม่และตัวลูกเอง</span></b> <span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH">หลายครอบครัวพ่อแม่กดดัน ลูกไม่พร้อม หากเจอปัญหานี้ ควรถอยกลับมาก่อน เริ่มต้นใหม่อย่างช้าๆ ทุกอย่างถ้าทำแล้วไม่มีความสุข ยังไงผลก็ออกมาดีไม่ได้</span></font></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt"></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt"><span lang="TH" style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'" xml:lang="TH"><font color="#000000">ขอเสริมอีกข้อค่ะ ในขณะที่เราอยากให้ลูกเก่ง เป็นเด็ก 2 ภาษา อย่าลืมสอนมารยาทไทยๆ ให้เค้าเป็นเด็กดี เด็กน่ารักของสังคมด้วยนะคะ เพราะคนเราเก่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็นคนดีด้วยค่ะ</font></span></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt"></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt 18pt"></p>
<p style="TEXT-ALIGN: left"><span style="FONT-SIZE: 18pt; FONT-FAMILY: 'Angsana New'"><font color="#000000"><img alt="" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975953915?profile=original"/></font></span></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt"></p>
<p class="MsoNormal" style="MARGIN: 0cm 0cm 0pt"></p>
ก้าวเล็กๆ ของเด็ก 3 ขวบ
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-29:2456660:BlogPost:250180
2010-04-29T02:46:08.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p style="MARGIN-RIGHT: 0px">ก่อนแม่จะตัดสินใจมีหนู แม่ได้สูญเสียหลานสาวอายุ 1 ขวบไป</p>
<p>หลานคนนี้เป็นทาลัสซีเมียเพราะทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะแต่ไม่รู้ตัว จึงปล่อยให้มีเจ้าตัวเล็ก</p>
<p>พออายุได้ 3 เดือน เจ้าตัวเล็กก็ป่วย ตั้งแต่นั้นมาพัฒนาการก็ถดถอย ไม่ยิ้ม ไม่ขยับตัว</p>
<p>นอนนิ่งๆ จนอายุประมาณ 1 ขวบก็จากไป</p>
<p></p>
<p></p>
<p></p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">จากเหตุการณ์นี้ทำให้พ่อกับแม่รู้สึกกลัว…</p>
<p style="MARGIN-RIGHT: 0px">ก่อนแม่จะตัดสินใจมีหนู แม่ได้สูญเสียหลานสาวอายุ 1 ขวบไป</p>
<p>หลานคนนี้เป็นทาลัสซีเมียเพราะทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะแต่ไม่รู้ตัว จึงปล่อยให้มีเจ้าตัวเล็ก</p>
<p>พออายุได้ 3 เดือน เจ้าตัวเล็กก็ป่วย ตั้งแต่นั้นมาพัฒนาการก็ถดถอย ไม่ยิ้ม ไม่ขยับตัว</p>
<p>นอนนิ่งๆ จนอายุประมาณ 1 ขวบก็จากไป</p>
<p></p>
<p></p>
<p></p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">จากเหตุการณ์นี้ทำให้พ่อกับแม่รู้สึกกลัว จึงเตรียมตัวอย่างดีที่สุด</p>
<p>เราไปตรวจร่างกายก่อนมีหนู</p>
<p>แม่ออกกำลังกายด้วยการตื่นขึ้นมาปั่นจักรยานตอนเช้าๆ ในวันหยุดประมาณ 5 กิโลเมตรอยู่ 2-3 เดือน</p>
<p>จนคิดว่าร่างกายแม่แข็งแรงพอ แม่จึงตัดสินใจมีหนู</p>
<p></p>
<p>ตั้งแต่ท้อง แม่แข็งแรงดีมาก แม่เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ท้องใหญ่ไม่เบา</p>
<p>หมอบอกว่าหนูตัวโตกว่าอายุครรภ์ หมอสงสัยว่าแม่จำวันที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายผิดรึเปล่า</p>
<p>แต่แม่มั่นใจว่าแม่จำไม่ผิดแน่ๆ</p>
<p>แม่ทำงานบ้านทุกอย่างเหมือนคนปกติ ทำกับข้าว รีดผ้า ซักผ้า</p>
<p>แอบน้อยใจที่พ่อไม่ช่วยแม่เลย แต่พ่อบอกว่าอยากให้แม่และลูกแข็งแรง จึงปล่อยให้ใช้ชีวิตตามปกติ</p>
<p></p>
<p></p>
<p></p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">แม่อุ้มท้องหนูจน 9 เดือนเต็ม</p>
<p>ถึงแม่จะตัวเล็ก แต่แม่ก็อยากจะคลอดหนูเอง อยากรู้ว่าความเจ็บปวดที่ใครๆ เค้าว่ากันมันเป็นยังไง</p>
<p>และแล้วแม่ก็ได้รู้จังๆ แม่เจ็บท้องอยู่ 11 ชั่วโมง เจ็บที่สุดในชีวิต</p>
<p>แต่แม่รู้ว่าแม่ทำได้ แม่จะคลอดเอง จนสุดท้ายแม่ก็ได้เห็นหน้าหนูซะที</p>
<p>วินาทีแรกที่เราได้เจอกัน แม่ลืมความเจ็บปวดทุกสิ่งทุกอย่าง</p>
<p>สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือสิ่งที่แม่รักที่สุด รักเท่าชีวิต</p>
<p></p>
<p></p>
<p></p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px; TEXT-ALIGN: left">หนูได้กินนมแม่อยู่จนถึง 2 ขวบ 2 เดือน ถึงแม่จะเหนื่อยเพราะต้องตื่นกลางดึกมาให้นม</p>
<p>แม่ก็ยอม เพราะแม่อยากให้หนูแข็งแรง</p>
<p>ฟ้าใสเป็นเด็กที่แข็งแรงมาก ไม่เคยป่วยหนัก ไม่เคยต้องนอนโรงพยาบาล</p>
<p>นี่คืออาณุภาพของนมแม่อันแสนวิเศษ</p>
<p></p>
<p></p>
<p></p>
<p>3 เดือนที่แล้วแม่ได้รู้จักกับหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้"</p>
<p>นั่นคือก้าวแรกก้าวใหม่ของเรา แม่ตั้งใจว่าแม่จะสอนภาษาอังกฤษให้หนูเอง</p>
<p>แม่ใช้เวลาตอนพักเที่ยงในการเข้า web เพื่อสะสมคลังศัพท์ และนำไปพูดกับหนูที่บ้านในแต่ละวัน</p>
<p>สะสมคำศัพท์ได้วันละประมาณ 1 หน้ากระดาษ</p>
<p>แม่รู้ว่าแม่ไม่ใช่คนเก่ง บางวันแม่ก็นึกไม่ออกว่าจะพูดกับหนูว่าอะไร</p>
<p>บางวันแม่ก็ขี้เกียจ เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง</p>
<p></p>
<p></p>
<p></p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">และแล้ว...28 เมษา 2553 วันที่เราเดินทางมาครบ 3 เดือนเต็ม</p>
<p>แม่ก็ได้ยินประโยคที่วิเศษที่สุดจากปากของหนู เวลานั้นหนูคงหิวน้ำ เลยพูดออกมาว่า</p>
<p>"I want some water"</p>
<p>สำหรับคนทั่วไป มันก็คงเป็นแค่ประโยคหนึ่งที่ไม่สำคัญ</p>
<p>แต่สำหรับแม่ นี่คือรางวัลจากหนู รางวัลสำหรับความทุ่มเทที่แม่ได้พยายามมาตลอด 3 เดือนเต็ม</p>
<p>และแล้ว หนูก็พูดออกมาโดยที่แม่ไม่ได้ชี้นำ</p>
<p>เป็นความเต็มใจของหนูเอง</p>
<p>ต่อไปนี้แม่จะทุ่มเทให้มากขึ้น</p>
<p>แม่เชื่อแล้วจ้ะว่าเด็กโตอย่างหนูก็สอนกันได้</p>
<p></p>
<p></p>
<p></p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">ขอบคุณทุกๆ คนในเว็บที่มาแบ่งปันประสบการณ์</p>
<p>ขอบคุณสำหรับกำลังใจในวันที่ไฟอ่อน</p>
<p>ขอบคุณบรรดาครูทั้งหลายที่มาช่วยตอบคำถามที่ข้องใจ</p>
<p>ขอบคุณมากค่ะ</p>
<p></p>
<p><img width="721" alt="" src="http://storage.ning.com/topology/rest/1.0/file/get/1975953675?profile=RESIZE_1024x1024"/></p>
<p style="TEXT-ALIGN: left"></p>
แค่ 2 เดือน แม่ก็ไฟอ่อน
tag:go2pasa.ning.com,2010-04-14:2456660:BlogPost:236963
2010-04-14T10:47:38.000Z
พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น
http://go2pasa.ning.com/profile/14suivdzcnmza
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">28 มกราคม 2553 ฟ้าใสอายุ 3 ขวบ 9 วัน</p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px"></p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">หลังจากที่เพื่อนร่วมงานแนะนำหนังสือ เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ จากวันนั้นแม่ก็เริ่มต้นสอนหนูทันที</p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">แม้จะรู้สึกว่าการเริ่มต้นนี้ช้าเกินไป แม่น่าจะรู้จักหนังสือนี้ตั้งแต่หนูยังแบเบาะ แต่ไม่เป็นไร ทุกอย่างไม่มีอะไรสาย</p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">แม่ต้องขยันมากขึ้น…</p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">28 มกราคม 2553 ฟ้าใสอายุ 3 ขวบ 9 วัน</p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px"></p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">หลังจากที่เพื่อนร่วมงานแนะนำหนังสือ เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ จากวันนั้นแม่ก็เริ่มต้นสอนหนูทันที</p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">แม้จะรู้สึกว่าการเริ่มต้นนี้ช้าเกินไป แม่น่าจะรู้จักหนังสือนี้ตั้งแต่หนูยังแบเบาะ แต่ไม่เป็นไร ทุกอย่างไม่มีอะไรสาย</p>
<p dir="ltr" style="MARGIN-RIGHT: 0px">แม่ต้องขยันมากขึ้น หมั่นเข้ามาหาความรู้ในเว็บนี้เกือบทุกวัน แม้จะคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษพอสมควรเพราะใช้ในงาน</p>
<p>แต่แม่ก็ไม่มีคลังศัพท์ในชีวิตประจำวันเลย เหมือนทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่ แต่แม่ก็สู้เพื่อลูกของแม่</p>
<p></p>
<p>1 สัปดาห์ผ่านไป หนูให้ความร่วมมือดีมาก ไม่ว่าแม่จะพูดว่าอะไร หนูก็ตั้งใจฟังและพูดตาม</p>
<p>จนมาถึง 1 เดือน แม่สังเกตว่าหนูเข้าใจคำสั่งของแม่เกือบ 100% จากที่พยายามสอนซ้ำๆ ทุกวัน วันละไม่กี่ประโยค</p>
<p>แต่แล้วแม่ก็รูสึกว่าแม่เริ่มไฟอ่อนเป็นบางวัน ไม่ยอมพูดประโยคใหม่ๆ กับหนู พูดแต่คำซ้ำๆ เดิมๆ</p>
<p></p>
<p>ตอนนี้ก็ผ่านมา 2 เดือนกว่าๆ แล้ว แม่ก็ยังพยายามต่อไป คิดอยู่เสมอว่าต้องทำเพื่อลูก แม้บางวันจะขี้เกียจ</p>
<p>หรือบางวันต้องทำงานบ้าน งานเสริมหลังเลิกงานปกติแล้ว</p>
<p>แต่ก็พยายามหยิบหนังสือของลูกมาอ่านกันสองคน ภาษาอังกฤษบ้าง ภาษาไทยแล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษบ้าง แปลเท่าที่แปลได้ ถ้าเทียบกับป้าๆ น้าๆ ในเว็บนี้ แม่ก็คงแค่เด็ก ป.1 ในขณะที่บางคนเค้าเป็นเด็กมัธยมกันแล้ว</p>
<p></p>
<p>ทำยังไงน้า แม่ถึงจะพาหนูไปไกลกว่านี้ได้</p>
<p></p>
<p></p>