พัฒนาการเด็กสองภาษา

ท่านที่ได้เริ่มสอนลูกเป็นเด็กสองภาษาแล้ว อยากจะให้เพื่อนสมาชิกช่วยแชร์ประสบการณ์พัฒนาการที่น่าสนใจของเด็กสองภาษาครับ

สอนอ่านแบบโฟนิค พอเจอกระแสที่โรงเรียน เขาก็เปลี่ยนไป...??? ทำไงดีหล่ะคราวนี้

ลูกชาย อ.2 ค่ะ บีสอนตามแนวเด็กสองภาษามา ตั้งแต่ต้นค่ะ ไม่เคยแปล ผลที่ได้คือดีมากค่ะ เขาเรียนรู้เร็ว ตอนนี้เขาสามารถดูหนังกาตูนที่เป็นภาษาอังกฤษได้เข้าใจ และพอจับคำได้ ( แต่คงไม่หมดหลอกค่ะ )  เริ่มสอนสะกดแบบโฟนิค เอง โดยเราศึกษาจากในหนังสือเด็กสองภาษา /LR reader  /Jolly phonic ในยูทูปตามที่เพื่อนๆสมาชิกแนะนำกันมา ก็จากคนที่ไม่เคยรู้จัก เราก็พยายามจนได้มาประมาณหนึ่งพอที่สอนเขาได้หล่ะ  ก็สอนกันมาเรื่อยๆ ( ที่โรงเรียนยังไม่ได้สอน) เขาก็ตามเรามา โดย เรา ก็ออกเสียง ผสมคำแบบโฟนิค  เช่น  b-a-t  h-a-t ----b-at, h-at

ณ ขณะนี้ พอกลับมา อ่านตามที่ครูสอน บี-เอ -ที  = แบ็ท  ค้างคาว  เอ็ช- เอ-ที = แฮท  หมวก 

 และบอกแม่เวลาแม่ให้อ่านทบทวน " แม่จ๋า ครูบอกให้อ่านแบบนี้ นะแม่ ครูไม่ได้ให้อ่านแบบนี้ "...........**

แม่ **   แม่บอกไม่ให้แปล แม่รู้แล้ว 

โมโน**   ไม่ได้แม่ ครูบอกให้อ่านแบบนี้

ตอนนี้บีรุ้สึกเหมือนที่เราสอนเขามันเริ่มศูนย์เปล่าแล้วสิ เริ่มเหนื่อย      แต่กับลูกสาวคนเล็กที่ยังไม่เข้าโรงเรียนผลตอบรับดีมากๆ  และเห็นผลเร็วกว่า พี่ชายค่ะ  แต่ก็คิดว่าเดี่ยวเข้าโรงเรียน จะเป็นแบบเดี่ยวกันหรือเปล่า ....คิดเสร็จ เหนื่อยใจ...

**** บีไม่ได้ให้ลูกเรียน อินเตอร์ เรีอนโรงเรียนธรรมดา ค่ะ 

รบกวนเพื่อนสมาชิกแนะนำหน่อยคะ  

  • up

    แม่พี่เพชรน้องเหนือ

    สวัสดีค่ะ ขอปรับทุกข์ด้วยคนค่ะสอนสองภาษามาได้สี่เดือนลูกชายขวบครึ่งเรียนรู้ได้เร็วตรงข้ามกับพี่สาวที่เรียนป.3ค่ะไม่ต่อต้านแต่ร้องขอคำแปลตลอดเช้นศัพย์คำว่าwomanเราก็พยามสื่อกับเค้าเป็นภาษาอังกฤษว่าหนูกับแม่เป็นผู้หญิง ผู้หญิงส่วนใหญ่ผมยาวเค้าก็จะเดาโดยแปลตลอดว่าอันนี้เหรอแม่อันนั้นรึป่าวกลุ้มเหมือนกันค่ะตอนนี้เลยโฟกัสไปที่คนเล็กก่อนใครมีประสบการณ์แบบนี้ช่วยบอกช่องทางเดินต่อด้วยนะคะขอบคุณค่ะ
    • up

      แม่น้องเนย

      คุณไพลิน เจอเหมือนกันค่ะ ตอนอนุบาล

      ไปโรงเรียน ก็เรียนแบบโรงเรียน แนวนอน คือ ท่อง ซ้ายภาษาอังกฤษ-ขวาภาษาไทย  

      กลับมาบ้านเราก็เรียนกับแบบ แนวตั้ง ไม่แปล คืออังกฤษล้วนยาวลงมา (ไม่แปล)

      cat = แมว

      hat = หมวก

      bat = ค้างคาว

      เราก็ท่องกัน c-a-t เคอะ แอะ เทอะ cat  / h-a-t แฮะ แอะ เทอะ hat

      เรามีหน้าที่ประคองให้เค้าผ่าน ขั้นตอนนี้ไป

      อย่าไปขวาง และ ว่าครูเชียวค่ะ

      แต่ต้องยึดมั่นแนวทางไม่แปล ประคองให้เค้ากลับมาอยู่ในพื้นที่ของเรา

      เด็กจะปรับตัวได้ในที่สุดว่า ไปรร.ต้องเรียนแบบนี้ อยู่กับแม่ต้องแบบนี้

      (สามารถเอาตัวรอดได้นะเนี่ย 5555)

      ตอนนี้ลูกก็ค่อนข้างชำนาญในการรับมือที่โรงเรียนแล้ว (ป.3แล้วค่ะ) 5555

      ยังสามารถพูดสนทนากับแม่ได้ปกติ แต่ช่วงแรกก็มีการปรับตัวอยู่ด้วยค่ะ

      ขอแชร์คุณแม่เพชรน้องเหนือ ด้วยคนนะคะ

      สอนตั้งแต่เด็กเล็กดีกว่าสอนตอนโตค่ะ 

      เพราะเด็กเล็กพร้อมจะรับ และ เลียนแบบตลอดเวลา

      ส่วนคนโตเค้าก็คงได้รับอิทธิพลการแปลมาจาก รร.

      ก็ต้องค่อยๆพูดกลับเป็นภาษาอังกฤษให้เค้า เวลาเค้าถามเป็นไทยมาค่ะ

      แม่ : I am a woman.

      เพชร : อะไรหรอแม่ 

      แม่ : I am a woman. Women have long hair.

      เพชร : ผมยาวใช่ไหมแม่

      แม่ : Yes. I have long hair. I am a woman. 

      ประมาณนี้ค่ะ แต่คุณแม่ก็เน้นที่คนเล็กก็ถูกแล้วนะคะ 

      2
      • up

        Whalp

        คุณพ่อเราใช้วิธีชิงสอนก่อนโรงเรียนอ่ะค่ะ คือซื้อหนังสือที่จะเรียนมาก่อนเลย ตอนปิดเทอมก็ชิงสอนเราก่อน พอเปิดเรียนก็เรียนตามครูสอนไปด้วยแล้วก็กลับบ้านมาเรียนกับพ่อด้วย (พ่อเราจบจากฟิลิปปินส์พูดภาษาอังกฤษสำเนียงตากาล็อก เวลาสอนอ่านคืออ่านเลยอ่ะค่ะ ไม่สะกด ไม่โฟนิคอะไรทั้งนั้น ใช้ระบบชิน เห็นอันนี้ cat อ่านเลย แคท อาศัยอ่านการ์ตูน อ่านหนังสือ ภาษาอังกฤษเยอะๆ อ่านออกเอง) ตอนนี้ก็คิดว่าถ้าส่งลูกเรียนโรงเรียนไทยก็อาจจะสอนโฟนิค แต่ใช้วิธีชิงสอนก่อนครู แบบที่คุณพ่อทำค่ะ