เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ควรเลี้ยงลูกอย่างไร ให้มีความกล้าหาญ ไม่กลัวคน แต่ไม่ก้าวร้าว

สวัสดีคะคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน คืออยากจะขอคำแนะนำเกืยวกับการเลี้ยงลูกคะ ว่าควรจะเลี้ยงลูกอย่างไรดีให้เขามีความกล้าหาญ ไม่กลัวคน ให้เขาสามารถสู้กับโลกในปัจจุบันนี้ได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ให้เขาเป็นคนก้าวร้าวคะ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่นี่ที่ญี่ปุ่นคะ ดิฉันรู้สึกว่าเด็กที่นี่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเคารพพ่อแม่ บางครั้งรู้สึกออกแนวก้าวร้าวคะอันนี้ดิฉันคิดเองตามที่เห็นนะคะ อยากให้ลูกเป็นเด็กดี มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเหมือนคนไทยแต่ไม่ใช่อ่อนแอนะคะ และอยากให้เขาเข้มเเข็งอดทนกล้าหาญแต่ไม่ใช่แข็งกระด้างหรือก้าวร้าวอะคะ ฟังดูก็เหมือนจะสอนง่ายแต่วิธีการเนี่ยสิคะมันต้องทำยังไง เหมือนเส้นผมบังภูเขาอะคะคิดไม่ออก ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านใดมีคำแนะนำขอรบกวนด้วยนะคะ

Views: 3441

Replies to This Discussion

เด็กแต่ละคนมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน ที่สำคัญคือความรักความอบอุ่นที่ให้กับเค้าใช่ไหมค่ะ แพทก็ไม่ทราบว่าวิธีที่แพทเลี้ยงลูกจะทำให้ลูกออกมาเป็นคนแบบไหนซะทีเดียว มันก็เหมือนการทดลองอะเนอะ เพราะก็มีกันแค่นี่เท่านั้นไม่ได้เคยมีลูกมาก่อน แต่สิ่งที่แพทสอนเค้าตั้งแต่เด็กๆเลยคือ ลูกต้องช่วยตัวเองได้ แพทไม่ให้เค้าเป็นไข่ในหิน ตั่งแต่เค้าพอจะคลานได้ เดินได้ เค้าจะปีนขึ้นเตียง แพทจะไม่มีการอุ้ม ต้องปีนเอง ออกกำลังกายไปในตัว ถ้าไม่ไหวจริงๆก็จะต่อขาให้ ทำเก้าอี้ให้ปีนง่ายขึ้นหน่อยนึง พอเริ่มรู้เรื่องมากขึ้นก็จะให้ช่วยตัวเองมาขึ้น รู้จักแต่งตัวเอง หิวน้ำก็หยิบเอง จะทานอะไรให้มาขออนุญาตก่อน แต่ก็หยิบเองเป็นช่วยตัวเองได้ ถ้าทำอะไรผิด แพทจะดุแล้วก็ทำโทษโดย Time out แต่หลังจากทำโทษแล้วก็จะเรียกเค้ามาคุยว่าทำไมถึงโดนทำโทษ อธิบายถึงความผิดที่เค้าทำ ชี้ให้เห็นถึงความถูกผิด และสิ่งที่ควรทำ จากนั้นก็กอดเค้าแล้วบอกว่าแม่รักหนูนะ ทีหลังไม่ดื่อกับแม่นะ แพทไม่เคยบอกลูกว่าแม่ไม่รักแล้ว จะไม่เคยพูดออกมาเลยค่ะ แพทคิดว่าความรู้สึที่ถูกไม่รักมันฝังลึกนะค่ะ แม่ของแพทเวลามาเยี่ยมหลานมักจะขู่หลานว่าถ้าทำผิดหรือทำไม่ดีแม่จะไม่รักนะ แพทขอเลยว่าอย่าพูดแบบนั้น จะผิดหรือถูกแม่ก็รักเสมอ แต่ถ้าทำผิดมันไม่ดีไม่ควรทำก็พอ เรื่องความเคารพต่อผู้ใหญ่ อยู่ทีนี่แพทให้ลูกสวัสดีตลอดค่ะ ไม่ว่ากับใครที่โตกว่า แม่แต่คุณครูฝรั่ง แพทสอนเสมอว่าต้องทำความเคารพด้วยการสวัสดี จะไปจะมาต้องลาต้องไหว้ ถ้าเค้าทำกริยาไม่พอใจ ทำกระทืบเท้าก็โดนเอ็ดเลยค่ะ ที่สอนส่วนใหญ่คือให้นึกถึงใจเค้าใจเรา ใช้เหตุผลคุยด้วยตลอด

ตอนนี้น้องนิวน้องซีก็ช่วยตัวเองได้ในหลายๆเรื่อง เค้าไม่มีที่จะจู่ๆวิ่งหายไป ยังกลัวคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่คุ้นหน้าอยู่ หลายๆอย่างที่ไม่เคยทำก้ยังกลัวๆไม่กล้าที่จะทำ ต้องคอยให้ช่วยเริ่ม สนับสนุนที่จะทำอะไร เวลาให้สวัสดีใครเค้าก็รู้จักทำ รู้จักขอโทษ ขอบคุณ ทั้ง 2 คนไม่ใช่เด็กดื่อ ทุกครั้งที่แม่เรียกก็จะหยุด ยังมีที่อิดออดเล็กน้อย โดยส่วนรวมแล้วหลายๆคนว่าเค้าทั้งคู่ไม่ใช่เด็กซนอะไร แล้วก็ค่อนข้างจะเรียบร้อย แต่แพทไม่เห็นว่าจะเรียบร้อยตรงไหนเลย แค่ไม่ถึงกับซนมากมากเฉยๆ อิอิ ไม่ทราบว่าแนวทางนี้จะดีรึเปล่านะค่ะ แค่แบ่งปันเฉยๆนะ
ของอ๊อบก็คล้ายๆของคุณแพทนะค่ะ เลี้ยงให้เค้าช่วยเหลือตัวเองได้ และมีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่นในบางอย่างได้ด้วย

ส่วนเรื่องเลี้ยงยังไงให้กล้าหาญ ไม่กลัวคน ต้องเริ่มตั้งแต่เล็กๆ เช่น เวลามีคนมาที่บ้าน อ๊อบก็จะบอกเค้าว่าคนนี้เพื่อนเม่ เพื่อนพ่อ ไม่ต้องกลัว แล้วก็เปิดโอกาสให้เค้าได้คลุกคลีกับคนอื่นบ้าง(ถ้าทำได้) แต่อย่าลืมสอนเรื่องคนแปลกหน้า ถ้าไม่กลัวคนมากจนเกินไปก็ไม่ดีนะค่ะ จะบอกเสมอว่าคนไหนที่แม่คุยด้วยไม่ต้องกลัว อยู่กับแม่ไม่ต้องกลัวอะไรแม่ไม่ให้ใครมาทำอะไรลูกได้

เวลาหกล้มจะไม่เคยตีพื้น รู้สึกว่ามันเป็นการโยนความผิดให้พื้นทั้งๆที่ตัวเองไม่ระวังเอง จะสอนว่าให้ลุกขึ้นมาแล้วปัดความเจ็บออกไป แล้วก็ช่วยเป่าช่วยปลอบให้ซักหน่อย

เวลาจะออกไปข้างนอกไม่เคยหนีลูก จะอธิบาย ร้องก็ต้องให้ร้อง

เรื่องความก้าวร้าว จะบอกเลยว่าทำแบบนี้แม่ไม่ชอบ (เด็กจะกลัวพ่อ แม่ โดยเฉพาะแม่ไม่ยอมรับ) ไม่ใช่แม่คนเดียว ไม่มีใครชอบเลย ไม่มีใครรับได้กับพฤติกรรมแบบนี้ บางทีการพูดอะไรจริงจังก็ช่วยให้เค้าเข้าใจได้เร็วค่ะ เวลาเห็นเด็กเกเร ก้าวร้าวถือโอกาสสอนลูกไปเลยค่ะ(แต่อย่าให้แม่เค้าเห็นนะค่ะ 555) ว่าทำแบบนี้ไม่มีใครชอบ

อ๊อบว่าของอ๊อบคล้ายคุณแพท จะกินอะไรก็ให้ขอ เคยมีเพื่อนถามว่าทำไมต้องขอ ในเมื่อเป็นของในบ้าน เพราะอยากให้ติดเป็นนิสัยค่ะ เวลาไปบ้านคนอื่นจะได้ไม่ไปถือวิสาสะหยิบขนมใครเค้ากิน อายเค้าตายเลย หุหุหุ

ขอเสริมนิดนึงค่ะ ไม่รู้ว่าจะผิดถูกยังไงนะค่ะ อ๊อบจะเลี้ยงลูกให้เห็นว่าพ่อ แม่ดีที่สุด เก่งที่สุด เป็นคนที่เค้าควรยกย่องและเชื่อฟังมากที่สุด อ๊อบจะไม่เคยปฏิเสธเวลาที่ลูกขอให้ทำอะไรให้ (ที่มีเหตุผลนะค่ะ) เช่น ประดิษฐ์ของเล่น วาดรูป เล่นกับเค้าฯลฯ เค้าจะศรัทธามากๆว่าแม่ทำได้ทุกอย่าง พ่อเก่ง ที่ทำอย่างนี้เพราะหวังว่าโตขึ้นไป ด้วยความเชื่อของเค้าว่าเราช่างเริ่ด รู้ทุกอย่าง เค้าจะกล้าที่จะปรึกษาเรา(เพราะพื้นฐานเราไม่เคยปฏิเสธ สิ่งที่เราทำได้)ยอมรับคำแนะนำของเรา(เพราะเค้าเชื่อว่าเราเก่ง)
เอ๊..เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าชมตัวเอง น่าเกลียดจัง
ที่ว่าเก่งก็อย่างเช่น ทำของเล่น ทำอาหาร เก่งในสายตาเด็กน่ะคะ หุหุหุ

เห็นด้วยค่ะ ทั้งคุณแพท และคุณอ๊อบ เด็กเค้าไม่เล็กอย่างที่เราคิดนะคะ เค้าเข้าใจสิ่งที่เราสอนเลยหละ เพียงแต่บางทีขอมีลองของ ทดสอบความอดทนของพ่อแม่นิดนึง แล้วประสบการณ์ครั้งแรกของลูกสำคัญมากเพราะไม่ว่าจะดุ หรือชม หรือสอนให้ทำอะไร ลูกจะจำได้แม่นเลย คือไม่ห้ามลูกไปซะทุกอย่างให้เค้ามีความกล้าที่จะคิดจะทำ แต่ถ้าสิ่งไหนที่ไม่ควร ก็ต้องเด็ดขาดกับเค้าตั้งแต่ครั้งแรกเลยค่ะ อย่าใจอ่อนเด็ดขาด แล้วอะไรที่อยากให้ลูกทำก็ทำให้ลูกเห็นเลยค่ะ เด็กๆเค้าจะทำตามเรา พูดกรอกหูทุกครั้งที่ทำด้วย พอเค้าทำก็ให้คำชม เค้าบ้ายอค่ะ
อย่างน้องพั้นช์นี่ตอนนี้อายุ13เดือนแล้ว บอมสอนให้เค้าสวัสดี แรกๆไม่ยอมทำบอมก็ยกมือสวัสดีคนนั้นให้เค้าเห็นเลย เห็นแล้วไม่ทำก็ทำซ้ำอีก พอลูกทำเราก็ชมเค้าก็ดีใจ ทำบ่อยๆ เค้าก็จำทำตามที่เราพูดได้ เดี๋ยวนี้พูดให้ทำอะไรก็ทำทันที
แต่กว่าจะได้ก็สักพักใหญ่เลยหละค่ะ
เค้าทำอะไรแล้วเราเห็นว่าดีเค้าก็จะจำ แล้วก็กล้าที่จะทำอีก แต่อะไรที่ไม่ดีเราก็ไม่ดุแต่จะบอกเค้าว่าไม่ดีมาม้าไม่ชอบเค้าก็ดูเหมือนรู้เรื่องนะ พอทำอีกเราก็บอกอีกว่าเราไม่ชอบแต่จะมีการเน้นในน้ำเสียงเพิ่มเข้าไปอีก ให้รู้ไปเลยว่าเราเอาจริง
ที่สำคัญต้องไม่ตวาดลูกนะคะเพราะเค้าจะจำวิธีการของเราไปใช้บ้างแล้วก็จะเป็นเด็กก้าวร้าว
ทำเสียงดุ ไม่เหมือนกับการตวาดใส่อารมณ์นะคะ เราเป็นยังไงลูกก็จะก๊อปปี้เราไปเหมือนเดะเลยหละค่ะ
ส่วนเรื่องที่ไม่กลัวคน ก็ต้องให้เค้าเจอคนแปลกหน้าบ่อยๆ พาเค้าออกไปข้างนอกบ้าน ไปเที่ยว เค้าจะเคยชินกับการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่ได้ให้ไปเล่นกับทุกคนนะคะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเล่นกับใครไปทั่ว ก็ไม่น่าจะดี
คือที่บ้านขายรถจักรยานยนต์ค่ะ ลูกก็เลยเจอลูกค้าเข้ามาทั้งวัน ก็สอนให้เค้ายิ้มทักทายลูกค้า หรือบางครั้งก็ให้สวัสดีลูกค้าด้วย
เป็นอีกเคสคำแนะนำนะคะ ลองเอาไปปรับใช้ดู เพราะสภาพแวดล้อมแต่ละบ้าน เด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ในบางครั้งวิธีเหล่านี้น้องพั้นช์หงุดหงิดไม่ยอมทำอะไรเลยก็มีค่ะ เราก็ต้องยอมกันปายย นี่คนคนเดียวกันนะเนี่ยยย หลายอารมณ์เจงเจง
ขอขอบคุณคุณแพท คุณอรนัย และคุณมรกตมากนะคะสำหรับคำแนะนำอันมีค่า บางครั้งตัวเองทำอะไรไปก็ลืมตัวอย่างเช่นเคยบอกลูกว่าถ้าทำแบบนี้แม่จะไม่รักนะ พอได้ฟังคำเเนะนำของคุณแพทได้ก็เหมือนตื่นจากพะวัง ว่าเอ๊ะ เราทำอะไรลงไปนี่ ทำไม่ถึงพูดกับลูกอย่างนั้นไปได้ คิดว่าต่อไปนี้จะลองทำอย่างคุณแพทบ้างจะไม่พูดกับลูกอย่างนั้นอีกแล้ว บางทีเราก็คิดว่าทำถูกทำไปด้วยความหวังดีแต่พอมานั่งคิดก็รู้สึกว่าทำไมทำไปได้ พูดอย่างนั่นไปได้ยังไง แม่ผิดไปเเล้วววว
การทำให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่เก่งที่สุดดดดดนี่ก็ชอบมากคะ แต่รู้สึกทำยากกกก จัง แต่ก็จะพยายามคะ รู้สึกเครียดมากเลยคะกับการเลี้ยงลูกเนี่ย และเห็นด้วยกับคุณมรกตมากกกกเลยคะว่าเด็กเด็กนี่เขามีหลายอารมณ์จริงจริงตามไม่ทันเลย ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้สอนภาษาอังกษเขาเลยคะเพราะยากสอนโน่นสอนนี่เขา แล้วภาษาอังกษก็ไม่แข็งแรงเลยพูดภาษาไทยบ่อยขึ้นเพราะอธิบายง่ายกว่า ภาษาอังกษเลยลุ่มลุ่มดอนดอนคะช่วงนี้
ขอออกความเห็นด้วยคนนะคะ การกล้าเจอคนมากๆหน่อยว่ามันขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมด้วย บ้านน้องกัสอยู่ชุมชนค่ะ ทุกเช้าของทุกวันเด็กรุ่นเดียวกันจะมารวมตัวกันกลางชุมชน เด็กจะเจอคนเยอะแยะ แขอบอกนะคะว่าหน่อยเป็นผู้หญิงทำงานเรื่องนี้เลยเป็นหน้าที่ของคุณยายไปคุณยายเป็นคนชอบคุยกับทุกคนไม่ค่อยชอบดูโทรทัศน์เท่าไหร่เลยเป็นผลุญที่ว่าการที่คนเลี้ยงชอบดูทีวีมากๆจะทำให้เด็กติดทีวีแต่น้องกัสจะไม่เลย จะดูก็ต่อเมื่อก่อนนอนจะดูโฆษณา อันนี้ชอบมากแล้วก็ทำตาม พอทำตามเสร็จ ด้วยความที่เราเป็นชุมชนเราก็ชอบอวดความสามารถลูกๆกันทีนี้เด็กๆแข่งกันแสดงออกใหญ่เลย พอถูกใจผู้ใหญ่ก็ตบมือให้กำลังใจเด็กก็ไม่กลัวคะส่วนวันหยุดหน่อยก็จะพาลูกออกเที่ยวเกือบทุกอาทิตย์คะส่วนมากจะพาไปดูช้างที่สวนสามพราน ในตอนนี้แหละคะที่เค้าจะได้เจอคนอื่นที่ไม่ใช่คนในบ้าน ก่อนนอนหน่อยก็จะบอกเค้า น้องกัส แม่รักหนูนะ พ่อก็รักหนูนะ ตายายน้าปอก็รักหนูนะ พูดกับเค้าตั้งแต่อยู่ในท้องคะพอโตเค้าจะรู้สึกได้ แต่ก็มีบ้างครั้งที่ดื้อคะ หน่อยก็จะบอกว่าไม่มีคนรักแล้ว เค้าจะเค้ามาหอมแก้มเรา หน่อยคิดว่าถ้ามีโอกาสพาลูกไปเที่ยวนอกบ้านบ้างนะคะ อนาคตไม่รู้ว่าเค้าจะเชื่อเราหรือปล่าวแต่ปัจจุบันขอเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุดคะ
ขอขอบคุณอึกหนึ่งคำแนะนำจากคุณหน่อยคะ ตอนนี้จะพยายามพาลูกออกไปเจอคนให้มากขึ้นคะ เพราะโดยปกติที่บ้านอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูกเพื่อนฝูงไม่มีใครมาหาที่บ้านเลยคะจะมีบ่อยก็มีแต่คุณยายคะ เพราะคุณยายก็อยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยคะ นอกนั้นไม่เคยเจอใครเลยคะ
ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้เข้าโรงเรียนที่ไม่อนุรักษ์นิยมจนเกินไป แต่ก็ทีความสมัยใหม่ด้วย อย่างโรงเรียนสาธิตครับ
นึกไรได้ก็เข้ามาเพิ่มเติมค่ะ

พาต้นกล้าไปเที่ยวมาค่ะ (ดูไบ) มีวันนึงพาไปห้างแล้วที่นั่นมีกิจกรรมศิลปะ คนสอนเป็นฟิลิปปินส์โดยเราสามารถเอาลูกฝากเค้าไว้ได้เลย 1ชม. 50บาท ต้นกล้าเค้าไม่อยากเดินช้อปปิ้งกะแม่ก็เลยบอกให้เค้าอยู่ที่นั้นตอนแรกเค้าก็อิดออดจะให้แม่อยู่ด้วย อ๊อบก็บอกว่าต้นกล้าต้องกล้าหาญซิ ต้นกล้าอยู่นี่ แม่ไปเดินซื้อของ ต้นกล้าต้องเชื่อซิครับว่าเดี๋ยวแม่ก็มารับ ตอนแรกเค้าก็ไม่ยอมก้เลยไปเดินด้วย...ระหว่างเดินคงชั่งใจอยู่นานแล้ว ก็มาบอกว่าตกลงเค้าจะไปเล่นศิลปะให้แม่ไปเดินซื้อของได้ ก็เลยกลับไปที่นั่น..ก็ทิ้งต้นกล้าไว้กับเค้าเลยค่ะ ห่วงนะค่ะไม่ใช่ไม่ห่วง ห่วงว่าลูกจะอยู่กับคนแปลกหน้า ต่างภาษาอีก จะโอเคมั้ย

ผ่านไป 40นาที ก็กลับไปรับ ต้นกล้าก็กำลังเล่นสนุกสนานชนิดที่แม่เดินไปก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย

อ๊อบว่าที่ต้นกล้าไม่กลัวเพราะเค้ามั่นใจในคำพูดแม่ว่าจะกลับมารับ แล้วเราก็ต้องรักษาคำพูดนั้นด้วยโดยการไม่ไปช้าจนเค้าใจเสียอ่ะคะ

เอามาแชร์เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ :)
การรักษาคำพูดกับเด็กเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ รับปากอะไรไว้ต้องทำให้ได้ อย่ารับปากส่งเดช ถ้าไม่ได้หรือติดธุระจริงๆต้องอธิบายให้เด็กเข้าใจ และพยายามทำให้ได้ตามที่รับปากไว้ทีหลัง แพทบอกทั้งแฟนแพท และพ่อแม่ของแพทรวมถึงผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่รอบข้างตัวว่า ห้ามรับปากอะไรส่งเดชเด็ดขาด แม้แต่เรื่องเล็กน้อยก็ไม่ได้ ถ้าพูดแล้วต้องทำให้ได้ ไม่งั้นคุณจะเสียความไว้เนื้อเชื่อใจของเด็กไป และคำพูดของคุณจะไม่มีค่าสำหรับเด็กๆอีก สิ่งเหล่านี้มีคุณค่าและสำคัญต่อจิตใจของเด็ก ถ้าเราพูดและทำตามคำพูดของเรา แม้แต่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เด็กเค้าจะเชื่อฟังที่เราพูด เพราะเค้ารู้ว่าเราไว้ใจได้ พูดและทำจริงตามที่พูดค่ะ
ขอบคุณมากเลยคะคุณพ่อของน้องปันดี อยากให้ลูกเรียนโรงเรียนสาธิตเหมือนกันคะ ดูเขาให้อิสระเด็กในการแสดงความคิดเห็นดีนะคะ ฟังมาจากห้องโรงเรียนของลูกอะคะ แต่ไม่รู้ว่าที่ญี่ปุ่นจะมีโรงเรียนแบบนั้นหรือเปล่า ขอบคุณคุณอ๊อบและคุณแพทมากคะ และเห็นด้วยมากมากเลยคะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service