เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

10 เคล็ดลับเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ครบปี

ที่มา: http://www.breastfeedingthai.com/index.php?lay=show&ac=article&...


๑๐ เคล็ดลับในการให้ลูกกินนมจากอกแม่ได้ครบหนึ่งปี

โดย คริสทีน ฟอสเตอร์, เมาน์เทนวิว แคลิฟอร์เนีย

จาก NEW BEGINNINGS, เล่มที่ ๒๓ ฉบับที่ ๑, มกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๐๐๖, หน้า ๔-๘

ถึง แม้สมาคมกุมารเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกาและองค์กรทางการแพทย์อื่นๆ จะให้คำแนะนำไว้อย่างชัดเจนว่า ทารกควรจะได้กินนมจากอกแม่จนกระทั่งอายุครบ ๑
ขวบ แต่มีแม่และทารกจำนวนไม่มากที่สามารถทำได้สำเร็จ
แม้ว่าแม่ลูกอ่อนในสหรัฐอเมริกามากกว่า ๗๐%
จะให้ลูกกินนมจากอกแม่ตอนแรกคลอด แต่มีเพียง ๑๖%
เท่านั้นที่ยังคงให้ลูกกินนมจากอกแม่ตอนอายุ ๑ ขวบ
เหตุผลที่คุณแม่จำนวนมากไม่สามารถทำได้สำเร็จตามเป้าหมายเป็นเรื่องซับซ้อน
อาจเป็นเพราะสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบตัวไม่ได้ช่วยส่งเสริมการให้ลูกกินนม
จากอกแม่มากพอ

การ มีทางเลือกอื่นที่ง่ายกว่าเวลาเกิดปัญหาหรือความลำบากในการให้นม และการขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพของเด็กกินนมแม่ซึ่งจะ
แตกต่างจากเด็กกินนมขวดอย่างมหาศาล และเหตุผลอื่นๆ
แต่คุณแม่ที่ตั้งใจจริงส่วนใหญ่จะสามารถให้ลูกกินนมจากอกแม่ได้จนครบปีหรือ
นานกว่านั้น
บทความนี้จะให้คำแนะนำและเคล็ดลับที่จะทำให้คุณแม่ไปถึงเป้าหมายได้

๑. ขอความช่วยเหลือ

ถึง แม้คุณแม่ส่วนใหญ่จะได้เริ่มให้ลูกกินนมแม่จากอกแม่หลังคลอด แต่คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะไม่เคยมีประสบการณ์ตรงในการให้นมลูกมาก่อน
ความเปลี่ยนแปลงที่คุณแม่มือใหม่ต้องเผชิญหลังคลอดบุตรเป็นเรื่องที่ยากจะ
คาดเดา และบ่อยครั้งก็น่าประหลาดใจ
หลักการทางทฤษฎีในการวางแผนให้ลูกกินนมจากอกแม่อาจจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
กับการให้นมลูกในทางปฏิบัติ
ดังนั้นการได้รับความช่วยเหลือจากผู้มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการให้
ลูกกินนมจากอกแม่จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายใจและมั่นใจมากขึ้น

หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการขอความช่วยเหลือ คือการเข้าร่วมประชุม LLL* ในระหว่างตั้งครรภ์ ผู้นำที่มีประสบการณ์ตั้งข้อสังเกตว่าคุณแม่ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมของ LLL ก่อน ทารกคลอดมักจะประสบปัญหาเกี่ยวกับการให้นมลูกน้อยกว่า เพราะพวกเขามีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของการให้ลูกกินนมจากอกแม่มากกว่า
และถ้าพวกเขาเจอปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
คุณแม่ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมของ
LLL แล้ว ก็มักจะไม่ลังเลใจที่จะโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือผู้นำ LLL ที่พวกเขารู้จัก

การ ให้สมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆ ได้รับรู้เกี่ยวกับเป้าหมายของการให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของคุณก็อาจจะช่วย
ได้มาก ตอนที่ยูนิที ดีนส์เริ่มตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอเขียนรายการเหตุผลต่างๆ
อธิบายว่าทำไมลูกทั้งสองของเธอจำเป็นต้องได้กินนมแม่ เพื่อทำให้ คลี
สามีของเธอเข้าใจถึงเป้าหมายในการให้ลูกกินนมจากอกแม่ของเธอ
การเตรียมการล่วงหน้าของยูนิทีมีความหมายมาก
เพราะตอนที่พวกเขาประสบกับปัญหาในช่วงสัปดาห์แรกๆ
เธอได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสามี
เขารู้สึกประหลาดใจมากที่มีเหตุผลมากมายขนาดนั้น เธอกล่าว

๒. หัดให้ลูกกินนมจากอกนมแม่ในที่สาธารณะ

การ ฝึกหัดที่จะให้ลูกกินนมจากอกแม่ในที่สาธารณะอาจจะเป็นเรื่องลำบากมาก โดยเฉพาะในชุมชนที่การให้ลูกกินนมจากอกแม่ไม่ใช่เรื่องปกติ
ผู้หญิงที่รู้สึกไม่มั่นใจที่จะให้นมลูกในที่สาธารณะมักจะมีปัญหาในการให้
ลูกกินนมจากอกแม่จนถึงหนึ่งปีหรือนานกว่านั้น
ถ้าคุณแม่ไม่ต้องการให้นมลูกในที่สาธารณะ ก็ควรจะต้องลดกิจกรรมนอกบ้านลง
หรือจะต้องปั๊มนมออกมาเก็บไว้เพื่อให้ลูกกินนมจากขวด
ทั้งสองวิธีอาจจะเป็นเรื่องน่าอึดอัดและจำกัดสายสัมพันธ์ของการให้ลูกกินนม
จากอกแม่

คุณ แม่บางคนรู้สึกว่าเสื้อให้นมมีประโยชน์มากเวลาให้นมลูกในที่สาธารณะ ในขณะที่บางคนก็รู้สึกว่าการให้นมลูกโดยการเปิดเสื้อขึ้นจากด้านล่างและจับ
ให้ทารกบังผิวหนังที่เปิดเผยก็สะดวกพอๆ กัน
คุณแม่จำนวนมากเพิ่มความมั่นใจโดยการหัดให้นมในที่ที่ตนเองเคยชิน (เช่น
ในการประชุม
LLL) หรือ
ฝึกหัดหน้ากระจกเพื่อดูว่าสิ่งที่คนอื่นเห็นเป็นอย่างไร
บางครั้งการมีคนสนิทไปเป็นเพื่อนในการออกนอกบ้านช่วงแรกๆ
อาจะช่วยให้คุณแม่รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
ถึงแม้คนจะรู้ว่าเรากำลังให้นมลูก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยูนิทีกล่าว พยายามสร้างความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมา ว่าคุณกำลังให้นมลูก คุณกำลังทำให้ลูกสบายใจ นั่นคือหน้าที่ของเต้านมของคุณ

บ่อย ครั้งคุณแม่ก็อาจจะได้รับกำลังใจสำหรับความสัมพันธ์ของการให้ลูกกินนมจากอก แม่จากคนแปลกหน้าที่ได้เห็นเธอให้นมลูก ดอว์น เบิร์ค ผู้นำ LLL ในรัฐจอร์เจียเล่าว่า ฉันรู้สึกไม่มั่นใจกับการให้นมลูกในที่สาธารณะตอนมีลูกคนแรก ตอน
ที่ลูกของเธออายุประมาณ ๘ เดือน พวกเขาไปตลาดนัดที่ขายผักผลไม้ด้วยกัน
ลูกของเธออยากกินนมแม่เต็มที่ ดอว์นหาจุดที่ค่อนข้างปลอดคน
ตรงลังใส่นมใกล้ๆ กับที่พักพนักงานและคนทั่วไป เธอนั่งลงให้นมลูก
พนักงานชายสูงอายุคนหนึ่งเดินเข้ามาและกล่าวชมการให้นมลูกของเธอเสียงดัง
ดีจังที่เห็นคุณให้ลูกกินนมแม่ ดอว์นเล่าว่าเขาพูดว่า ผมมาจากประเทศอินเดีย เขาบอกต่อไปว่า และที่นั่นการให้ลูกกินนมจากอกแม่เป็นเรื่องสำคัญมาก คุณให้ลูกกินนมแม่ต่อไปนะ มันดีมากๆ ตอนนนี้ดอว์นกล่าวว่า ฉันบอกคุณแม่ทั้งหลายให้รับความช่วยเหลือและกำลังใจจากทุกที่ที่หาได้

๓. หลีกเลี่ยงการใช้ขวดนมและจุกนมเทียม

มีทารกบางคนสามารถใช้ขวดนมและจุกนมเทียมและยังสามารถกินนมจากอกแม่ต่อเนื่องได้จนถึง ๑ ขวบ แต่หนังสือ “THE BREASTFEEDING ANSWER BOOK” ระบุ ว่าการตอบสนองความต้องการในการดูดของทารกด้วยสิ่งอื่นนอกเหนือจากเต้านมมี โอกาสทำให้เกิดการหย่านมเร็วกว่าที่ควร การใช้จุกนมยางในช่วงสัปดาห์แรกๆ
สามารถรบกวนความสามารถของทารกในการดูดนมจากอกแม่

LLL แนะ นำให้หลีกเลี่ยงการใช้จุกนมยางในช่วงสัปดาห์แรกๆ ซึ่งอาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกสับสนกับคำแนะนำจากสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่ง
สหรัฐอเมริกา
ที่บอกว่าทารกควรจะนอนหลับไปพร้อมกับจุกนมเทียมเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรค
ไหลตายในเด็ก (
Sudden Infant Death Syndrome หรือ SIDS) LLL เชื่อ
ว่าคำแนะนำนี้ไม่ได้พิจารณาหลักการสำคัญเกี่ยวกับการกินนมจากอกแม่
และจะเกิดผลเสียต่อพัฒนาการของความสัมพันธ์ในการกินนมจากอกแม่ในระยะยาว
ประกาศที่ออกโดย
LLL ระบุว่า

จุก นมเทียมคือสารสังเคราะห์ที่นำมาทดแทนสิ่งที่เต้านมทำได้โดยธรรมชาติ ทารกที่กินนมจากอกแม่มักจะกินนมจนหลับไปทั้งตอนนอนกลางวันและตอนกลางคืน
การใช้จุกนมเทียมตามที่สถาบันกุมารเวชศาสตร์แนะนำอาจจะทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง
เนื่องจากเต้านมได้รับการกระตุ้นน้อยลง และอาจจะมีผลต่อระยะเวลาของการรให้ลูกกินนมจากอกแม่

อีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าจุกนมเทียมเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทารก ทำไมถึงไม่ใช้สิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือ เต้านม นั่นเอง

๔. หาวิธีให้คุณพ่อได้มีส่วนร่วม

หนึ่ง ในเหตุผลที่ทำให้คุณแม่มือใหม่ตัดสินใจปั๊มนมใส่ขวดให้ลูกกินแทนการให้กิน จากอกแม่ก็คือ พวกเขาอยากให้คุณพ่อได้มีส่วนร่วมในการให้นมลูกโดยใช้ขวดด้วย
แต่การให้นมโดยใช้ขวดบ่อยๆ อาจนำไปสู่การหย่านมเร็วกว่าที่ควร
ดังนั้นการหาวิธีอื่นที่คุณพ่อจะสามารถเชื่อมโยงกับทารกได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

หลายครอบครัวใช้การอาบน้ำหรือนวดตัวให้ทารกเป็นโอกาสพิเศษที่จะสร้างความ
ผูกพันระหว่างพ่อกับลูก
เพราะทารกมีโอกาสสัมผัสเนื้อแนบเนื้อกับพ่อและทำให้เขารู้สึกสบาย

ซินดี้ โฮเวิร์ด ผู้นำ LLL ใน รัฐแคลิฟอร์เนีย เล่าว่าสามีของเธอไม่ชอบให้ลูกสาวกินนมจากขวด เพราะลูกๆ จะทำท่าเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
ตอนที่เกว็นลูกสาวคนเล็กยังเป็นทารก
จอห์นสร้างความผูกพันโดยการนวดเท้าให้เธอในระหว่างที่ภรรยาของเขาเข้าชั้น
เรียนออกกำลังกายตอนเช้า

เจนนิเฟอร์ โมควิน ผู้นำ LLL ใน รัฐเพนซิลเวเนีย ให้แอนโทนีสามีของเธออยู่กะดึกกับลูกสาวที่ไม่ค่อยยอมนอนตอนกลางคืน
เธอจะให้นมลูกและนอนพักซักงีบ ในขณะที่คุณพ่ออุ้มลูกเดินไปเดินมา
เปิดเพลงพิเศษให้เธอฟังและชวนให้เธอดูรูปตัวเองที่ติดอยู่ที่ผนัง
เธอสงบและผ่อนคลาย แต่ก็ตาสว่างเต็มที่ เจนนิเฟอร์บอก มันเป็นเวลาที่ดีมากสำหรับทั้งคู่

๕. สร้างจังหวะประจำวัน

กำหนด การที่เคร่งครัดอาจทำให้คุณแม่ตอบสนองความต้องการของทารกได้ไม่ดีเท่าที่ควร กำหนดการเหล่านี้ยังอาจทำให้ปริมาณน้ำนมลดลงได้
เพราะเอาน้ำนมออกจากเต้านมได้น้อยครั้งลง
คุณแม่อาจรู้สึกสับสนเวลาได้ยินคำพูดว่า ทารก
ควรจะ ได้กินนมจากอกแม่ ๘๑๒ ครั้งใน ๒๔ ชั่วโมง หรือทารก ควร ได้กินนมจากอกแม่ ๑๐๑๕ นาที ในขณะที่ลูกของตนเองไม่ได้ทำตามนี้ หนังสือ THE BREASTFEEDING ANSWER BOOK เขียนไว้ว่า ระยะ
เวลาในการให้นมลูกจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับบุคลิกของทารกและอายุของพวกเขา
ลักษณะการกินนมจากอกแม่ของทารกอาจจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยเมื่อเขาโตขึ้น
คุณ
แม่หลายๆ
คนรู้สึกว่าสถานการณ์ดีขึ้นถ้าพวกเขาเลิกสนใจที่จะจ้องดูนาฬิกาและนับจำนวน
ครั้งที่ลูกกินนม ถ้าลูกของคุณมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม
คุณแม่ก็แค่คอยสังเกตดูความต้องการของลูก ก็เพียงพอแล้ว

แต่ สำหรับแม่ลูกบางคู่ ตารางเวลาที่ตายตัวก็เป็นเรื่องสำคัญ คุณแม่สามารถจะค่อยๆ กำหนดแบบแผนขึ้นได้โดยกำหนดตารางเป็นเวลาให้ทารก
การมีลำดับที่แน่นอนสำหรับกิจกรรมในแต่ละวัน เช่น การอาบน้ำ ไปเดินเล่น
อ่านหนังสือ จะช่วยให้ทารกและคุณแม่หาจังหวะที่เหมาะสมกับตัวเองได้
ทารกบางคนอาจจะไม่ยอมรับการให้กินนมจากอกแม่เป็นเวลาเมื่อเขาโตขึ้น
ในขณะที่เด็กบางคนจะยังคงต้องการกินนมจากอกแม่บ่อยๆ ตลอดทั้งวันอยู่ต่อไป

๖. ให้นมลูกเพื่อปลอบโยน

คุณ แม่บางคนกังวลว่าการให้ลูกกินนมจากอกแม่เพื่อช่วยปลอบลูกเวลาที่เขาหงุดหงิด ไม่สบายใจจะทำให้ทารกสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับอาหารไปในทางที่ไม่
เหมาะสม
พวกเขากังวลว่าลูกจะใช้อาหารเป็นเครื่องระบายอารมณ์มากว่าจะกินเพื่อตอบสนอง
ความหิวทางกาย
พวกเขาอาจจะเชื่อว่าการพยายามแยกอาหารออกจากอารมณ์เป็นเรื่องที่ดีกว่า
แต่ถ้าเราซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง เราจะพบได้ว่า
พวกเราทุกคนมีความเชื่อมโยงทางอารมณ์ด้านใดด้านหนึ่งกับอาหารชนิดใดชนิด
หนึ่ง ซินดี้ โฮเวิร์ด
ผู้ซึงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้นมที่มีใบอนุญาตระดับนานาชาติยกตัวอย่าง
ของเค้กวันเกิดว่า ขนมเค้กแทบจะไม่มีคุณค่าทางอาหารใดๆ ที่เป็นประโยชน์
แต่องค์ประกอบทางอารมณ์ที่ได้จากการฉลองร่วมกับคนอื่นต่างหาก
ที่เป็นคุณค่าของเค้กวันเกิด

เวลา ที่คุณให้ลูกกินนมจากอกเพื่อปลอบโยนลูก คุณกำลังกระตุ้นให้เขาหันมาหาคุณเวลาที่เขารู้สึกไม่สบายใจ
แทนที่จะหันไปหาสิ่งของที่ไม่ใช่มนุษย์
การได้ติดต่อกับมนุษย์มีความสำคัญมากกว่าน้ำนม
นอกจากนี้การให้ลูกกินนมจากอกแม่ยังช่วยให้ปริมาณน้ำนมไม่ลดลง
และช่วยกระตุ้นเตือนทารกว่า
เขาจะสามารถทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นได้โดยการกินนมจากอกแม่

๗. รับรู้สัญญาณของการอดนมประท้วง (Nursing Strike)

มี บางช่วงเวลาที่ทารกจะรู้สึกอยากกินนมจากอกแม่มากขึ้นหรือน้อยลง แต่ไม่ใช่เรื่องปกติที่ทารกจะอยากหย่านมก่อนอายุ ๑ ขวบ
มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณแม่บางคนจะคิดว่าลูกน้อยของเธอกำลังจะ
หย่านม แต่ความจริงทารกกำลัง อดนมประท้วง (Nursing Strike) หรือกำลังมีพัฒนาการด้านอื่นๆ อย่างมากจนทำให้พวกเขารู้สึกสนใจที่จะกินนมจากอกแม่น้อยลง หนังสือ THE BREASTFEEDING ANSWER BOOK กล่าวไว้ว่าการอดนมประท้วงมักจะพบได้บ่อยในทารกช่วงอายุ ๓-๘ เดือน

กุญแจสำคัญที่จะหลีกเลียงการหย่านมโดยไม่ตั้งใจคือการรับรู้และจัดการกับการอดนมประท้วงอย่างเหมาะสม มอลลี่ รีเมอร์ ผู้นำ LLL ใน รัฐมิสซูรี บอกว่าตอนที่แลนน์อายุ ๕ เดือน เขาไม่ยอมกินนมจากอกแม่ตอนที่เขาตื่นเป็นเวลา ๑ สัปดาห์ เพราะเขาเป็นหวัด
เขาหงุดหงิดและอึดอัดมากเพราะคัดจมูก เขาหายใจไม่สะดวกเวลากินนมจากอกแม่
เขาจึงปฏิเสธการกินนมจากอกแม่โดยสิ้นเชิง
มอลลีให้แลนน์กินนมจากอกแม่วลาที่เขานอน และทดลองวิธีต่างๆ
เพื่อทำให้เขากลับมายอมกินนมตอนกลางวัน
การให้กินนมในระหว่างที่มีการเคลื่อนไหวช่วยได้มาก
ดังนั้นมอลลี่จึงให้นมในระหว่างที่อุ้มเขาเดินไปมา
ตอนนี้แลนน์อายุสองขวบแล้วและยังกินนมจากอกแม่เป็นประจำ

อีก ช่วงเวลาหนึ่งที่จะดูคล้ายกับการหย่านมแต่ไม่ใช่ คือช่วงประมาณ ๖ เดือน ตอนที่ทารกเริ่มจะเคลื่อนไหวเองได้และเริ่มรู้จักสิ่งแวดล้อมรอบๆ
ตัวมากขึ้น บางสิ่งอาจจะดึงดูดความสนใจของพวกเขาไปจากการกินนมจากอกแม่
คุณแม่บางคนพบว่าการให้ลูกกินนมถี่ขึ้น พาเขาเข้าไปให้นมในห้องมืดๆ
หรืออาศัยช่วงเวลาตอนกลางคืนในการให้นมลูก
จะช่วยให้พวกเขาผ่านปัญหาช่วงนี้ไปได้
บ่อยครั้งที่ทารกปฏิเสธการกินนมจากอกแม่
เพราะมีสิ่งที่ทำให้เขาไม่สบายใจเกิดขึ้น เช่น การป่วย ฟันขึ้น
หรือการเปลี่ยนแปลงในครอบครัว เช่น การย้ายบ้าน
หรือบางครั้งทารกก็อาจจะอยากหย่านมก่อนอายุ ๑ ขวบ แต่มักจะเกิดขึ้นไม่บ่อย
ประโยชน์ของการให้ลูกกินนมจากอกแม่ต่อสุขภาพของทารกมีความสำคัญมาก
มันจึงคุ้มค่าที่จะพยายามทำให้ทารกไม่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่การ
หยุดกินนมจากอกแม่โดยสิ้นเชิง

๘. ค่อยๆ จัดการไปทีละวัน

คุณแม่บางคนเป็นนักวางแผน พวกเขาต้องการตัดสินใจว่าทารกควรจะกินนมจากอกแม่นานเท่าไรตั้งแต่ทารกยังไม่คลอด พวกเขาคิดว่า ฉันไม่ต้องการให้ลูกกินนมจากอกแม่จนถึง ๓ ขวบ ดังนั้นฉันจะต้องให้ลูกหย่านมตอนนี้ คุณ แม่คนอื่นอาจจะวางแผนให้ลูกกินนมจากอกแม่จน ๑ ขวบหรือนานกว่านั้น แต่อาจจะรู้สึกว่ารับมือกับสถานการณ์ไม่ได้ในช่วงแรกๆ
จนรู้สึกกลัวว่าจะไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้

แทน ที่จะตัดสินใจไปล่วงหน้าอย่างเด็ดขาด พยายามค่อยๆ จัดการไปทีละวัน ตอนที่ลูกของคุณเป็นทารกแรกคลอด ภาพของการต้องให้นมลูกวัย ๑๒
เดือนตัวใหญ่เบิ้มอาจจะน่าหวั่นใจ
แต่เมื่อคุณแม่ช่วยลูกเป่าเค้กวันเกิดฉลอง ๑ ขวบ
คุณจะเห็นว่าลูกของคุณก็ไม่ได้ตัวโตขนาดนั้น

เอเรียล วาเลนเซีย คุณแม่จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ใช้วิธี ทีละวัน เพื่อ ช่วยให้ตัวเองสามารถให้นมเอย์เรนลูกชายเธอต่อไปได้ เอเรียลทำงานนอกบ้าน และรู้สึกว่าการปั๊มนมให้พอกับที่ลูกต้องการในระหว่างที่เธอไม่อยู่บ้านเป็น
เรื่องยากลำบากมาก เธอตั้งเป้าหมายไว้ทีละ ๒ สัปดาห์
และสามารถทำได้สำเร็จนานถึง ๕ เดือน

๙. อย่าคิดว่าการให้ลูกกินนมจากอกแม่เป็น ต้องให้ตลอด-ต้องหยุดตลอด

บาง ครั้งคุณแม่อาจจะให้ลูกกินนมผสม เพื่อแก้ปัญหาปริมาณน้ำนมไม่พอในระหว่างที่คุณแม่ไปทำงาน
หรือกรณีที่คุณแม่เลือกจะไม่ปั๊มนมเก็บไว้ใช้ตอนไม่ได้อยู่กับลูก

จู ลี เนลสัน คุณแม่จากรัฐนิวยอร์กให้นิโคลัสกินนมผสมตอนเขาอายุ ๙ เดือน เพราะเธอไม่สามารถปั๊มนมได้พอกับความต้องการของเขาในระหว่างที่เธอไปทำงาน
แต่เธอก็ยังคงให้ลูกกินนมจากอกแม่ต่อไปในตอนเย็นและช่วงสุดสัปดาห์
และนิโคลัสได้กินนมจากอกแม่ต่อไปจนเขาอายุ ๑ ขวบ

๑๐. มีความสุขกับช่วงเวลาสำคัญ

จำไว้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะหลงรักการให้ลูกกินนมจากอกแม่ ยูนิที ดีนส์กล่าวว่า คุณจะต้องใช้หัวใจ, ไม่ใช่สมอง, ในการที่จะทำให้คุณสามารถทำต่อเนื่องต่อไปได้ การที่หัวใจคุณหลงรักการให้ลูกกินนมจากอกแม่เป็นเรื่องสำคัญ ยูนิทีแนะนำว่าคุณแม่ควรจะ

  • พยายามทำให้การให้ลูกกินนมจากอกแม่ไม่มีความเจ็บปวด คุณไม่สามารถจะหลงรักสิ่งที่สร้างความเจ็บปวด
  • หลีก เลี่ยงสิ่งขวางกั้นระหว่างคุณกับลูก ซึ่งรวมไปถึงแผ่นรองหัวนมหรือขวดที่ใส่นมที่ปั๊มออกมา
    เวลาที่มีอะไรขวางกั้นระหว่างคุณกับลูก มันจะทำให้สถานการณ์ยากขึ้น 
  • โอบกอดลูกของคุณไว้ ลูดกลิ่นหอมจากตัวลูก มองดูน้ำนมที่ร่างกายของคุณผลิตหยดไหลจากมุมปากของลูก การหลงรักต้องการทุกประสาทสัมผัส

ถ้าคุณแม่ซาบซึ้งกับการให้ลูกกินนมจากอกแม่ มันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะให้นมลูกตลอด ๑ ปีหรือนานกว่านั้น นั่นคือ เคล็ดลับ ที่ แท้จริงของการให้ลูกกินนมจากอกแม่ ถ้าคุณแม่มีความสุขกับการให้ลูกกินนมจากอกแม่หรือมุ่งมั่นกับมันมากๆ
คุณแม่จะรู้สึกสบายใจกับการให้นมลูกได้ง่ายกว่า
สามารถหาวิธีที่จะให้นมลูกต่อหน้าคนอื่นได้
และพยายามขอความช่วยเหลือเวลาที่จำเป็น

ช่วง เวลานี้เป็นช่วงเวลาทองที่จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่คุณแม่กำลังปรับตัวรับประสบการณ์ใหม่ พยายามยอมรับสิ่งต่างๆ
ที่จะเกิดขึ้นอย่างที่มันเป็นอยู่ และพยายามมีความสุขกับช่วงเวลาสำคัญนี้

 *LLL หรือ La Leche League คือหน่วยงานที่สนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีการจัดการประชุมอบรมเพื่อให้ความรู้และความ ช่วยเหลือกับคุณแม่เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับในประเทศไทย คุณแม่สามารถขอความช่วยเหลือหรือหาความรู้ได้จากศูนย์นมแม่ในโรงพยายาบาล
ต่างๆ

แปลโดย คุณนิจวรรณ ตั้งวิรุฬห์ 

Views: 148

Replies to This Discussion

คุณบิ๊กศึกษาข้อมูลเรื่องนมแม่เยอะมาก ๆ เป็นคุณพ่อท่านหนึ่งที่สนับสนุนนมแม่ดีมาก ๆ ไม่ทราบว่าน้องเพ่ยเพ่ย ได้กินนมแม่ถึงกี่ขวบคะ
ช่วยแชร์ประสบการณ์ให้ฟังบ้างซิคะ เพราะน้องได้กินนมแม่แน่ ๆ เลยถึงได้เป็นเด็กฉลาดแบบนี้
ขอบคุณค่ะคุณบิ๊ก ชอบข้อ 10 มากที่สุดเลยค่ะ แม่-ลูกมีความสุขร่วมกัน
ทุกครั้งที่ลูกกินนมรู้สึกมีความสุขที่สุดเลยค่ะ บางครั้งที่ได้พบเห็นคุณแม่ที่ให้นมลูก
ตามสถานที่ต่างๆ ยังรู้สึกมีความสุขร่วมด้วยเลยค่ะ เป็นภาพประทับใจ อ่อนโยน
ภูมิใจแทน คือไม่สามารถบรรยายความรู้สึกได้หมดค่ะ(เป็นจริงๆนะคะ ไม่ใช่ฉพาะ
กับตัวเองนะคะ แค่เห็นแม่ให้นมลูกก็สุขใจจังเลย)
ข้อ 2 เนี่ย โดนใจมากค่ะ
เรายึดคติว่า "แม่อาย ลูกอด" มาตลอด แต่คุณสามีเนี่ยซิ ทำให้เราเกร็งทุกครั้งที่ต้องให้นมนอกสถานที่
เราก็ไม่ได้ประเจิดประเจ้ออะไรนะ, ทุกครั้งที่ให้นมก็พยายามหาผ้ามาปิด ซึ่งก็มิดบ้างไม่มิดบ้าง
แต่ก็มีความสุขทุกครั้งที่เขาร้องขอจะกินนมค่ะ
ตอนนี้น้องอายุ 1 ขวบ จะ 2 เดือนแล้วค่ะ เป็นเด็กนมแม่ 100% ค่ะ
ขอบคุณและชื่นชมคุณบิ๊กมากๆค่ะ ได้ความรู้ ข้อคิดดีๆจากเรื่องเด็กสองภาษาแล้วยังมาประทับใจเรื่องการส่งเสริมนมแม่อีก ประทับใจค่ะ
ชอบทุกข้อค่ะ เพราะว่านมแม่ให้คุณค่าทั้งจิตใจและร่างกาย ^_^

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service